#ข่าววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี #TNN ช่อง16
สื่อดังจากต่างประเทศอย่าง บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่าแอปเปิล (Apple) บริษัทเทคชื่อดังผู้ผลิตไอโฟน (iPhone) ไอแพด (iPad) ฯลฯ อาจร่วมมือกับบริษัทปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างโอเพนเอไอ (OpenAI) ผู้พัฒนาแชตจีพีที (GPT) เพื่อนำ AI มาใช้ในอุปกรณ์ของบริษัท โดยคาดการณ์ว่าอาจใช้ความสามารถของ AI รวมเข้ากับระบบปฏิบัติการ iOS ใหม่ของแอปเปิล ซึ่งก็คือ iOS18 และ macOS15 ที่ใกล้จะเปิดตัวนอกจากหารือกับ OpenAI แล้ว บลูมเบิร์กยังรายงานว่าแอปเปิลได้หารือกับบริษัท AI อื่น ๆ ด้วย เช่นหารือกับกูเกิล (Google) เพื่อจะใช้ความสามารถของ AI ชื่อเจมิไน (Gemini) เพื่อรวมเข้ากับไอโฟนรุ่นใหม่มีสัญญาณว่าอาจจะเห็นการนำ AI เข้ามาใช้ในอุปกรณ์ของแอปเปิลในงาน WWDC ซึ่งเป็นงานประชุมนักพัฒนาประจำปีของแอปเปิลที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 - 14 มิถุนายน 2024 นี้ หากเป็นจริง นี่อาจหมายถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของแอปเปิลทั้งนี้เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เกร็ก โจสเวียก (Greg Joswiak) ผู้นำด้านการตลาดของ Apple ได้โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) ว่า “ในงาน WWDC 2024” จะเป็นงานที่ “Absolutely Incredible” หรือ “น่าเหลือเชื่อสุด ๆ” ทั้งนี้ เขาได้ทำให้ตัวอักษร A และ I เป็นตัวพิมพ์ใหญ่ หลายคนจึงตีความว่านั่นอาจเป็นสัญญาณบอกล่วงหน้าถึง AI แต่บางทีก็อาจจะเป็นเพียงความบังเอิญก็ได้ประเด็นนี้ทำให้ผู้ใช้งานและแฟน ๆ แอปเปิลทั่วโลกรู้สึกตื่นเต้น ที่ AI อาจจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในสมาร์ตโฟน นอกจากการนำไปใช้งานในฟีเจอร์ต่าง ๆ ของไอโฟนหรือแม็คบุ๊ก (Macbook) แล้ว แอปเปิลอาจจะนำ AI มาเพิ่มขีดความสามารถให้ระบบสั่งการด้วยเสียงอัจฉริยะอย่างสิริ (Siri) ด้วย เช่น อาจปรับแต่งหน้าจอหลักของสมาร์ตโฟนได้มากขึ้น ใช้การส่งข้อความ RCS (Rich Communication Services เป็นโปรโตคอลการส่งข้อความขั้นสูง) ฯลฯนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการรวม AI เข้ากับสมาร์ตโฟน เพราะซัมซุง (Samsung) ซึ่งนับว่าเป็นคู่แข่งหลักของ Apple ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนที่บูรณาการ AI เข้าไปในการทำงานด้วยแล้ว ในซีรีส์ Samsung S24 ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนมกราคม 2024 ที่ผ่านมา สำหรับความสามารถที่โดดเด่นในการนำ AI มาใช้งานในสมาร์ตโฟน เช่น ฟีเจอร์กูเกิล เซอร์เคิล (Google Circle) หรือการวงกลมเพื่อค้นหาสิ่งที่ปรากฏบนหน้าจอ ฟีเจอร์การแก้ไขรูปภาพด้วย AI หรือฟีเจอร์การแปลภาษาที่ทำได้แบบเรียลไทม์ ทั้งน
อ่านต่อ >11
#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
รัฐชาติจะดำเนินไปได้อย่างมั่นคง การมี “ผู้บริหารประเทศ” ที่เก่งกล้าสามารถ หรือการมี “ข้าราชการ” ที่ซื่อสัตย์ เป็นสิ่งที่สำคัญ แต่ที่สำคัญที่สุด หนีไม่พ้น “แรงงาน” ที่เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ “จากเบื้องล่าง” และเป็น “ผู้อยู่เบื้องหลัง” ให้ประเทศมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ต่อไปได้อย่างไรเสียแรงงานมักเป็น “ผู้ที่ถูกลืม” อยู่บ่อยครั้ง ดังนั้น การสร้างความตระหนักรู้หรือการเร้าอารมณ์แก่ผู้คนที่ดีที่สุดจึงต้องมาจาก “บทเพลง” โดยเฉพาะเพลงลูกทุ่งซึ่งได้รับความนิยมในวงกว้างท่ามกลางเพลงลูกทุ่งที่มักบรรยายถึงท้องไร่ท้องนา แต่ได้มีนักร้องท่านหนึ่งที่ได้ “เล่นฉีก” มาในแนวเพลง “สะท้อนความลำบากของแรงงานในเมืองหลวง” นั่นก็คือ “ไมค์ ภิรมย์พร”ยิ่งไปกว่านั้น การทำแนวเพลงเช่นนี้ยังเป็นการ “ปฏิวัติเพลงลูกทุ่ง” เมื่อเข้าสู่ยุคยุคมิลเลนเนียมอีกด้วยร่วมติดตามรอยทางการสร้างตำนานของ “นักร้องขวัญใจผู้ใช้แรงงาน” ท่านนี้ได้ ณ บัดนี้จากแดนอีสานบ้านเกิดเมืองนอน มาเล่นละครบทชีวิตหนักก่อนอื่น ต้องยอมรับว่า แนวเพลงลูกทุ่งในช่วงก่อนมิลเลนเนียม เป็นการต่อสู้ระหว่าง “ลูกทุ่งสตริง” และ “ลูกทุ่งหมอลำ” โดยเป็นช่วงขาขึ้นของลูกทุ่งหมอลำอย่างมาก ไล่มาตั้งแต่ พรศักดิ์ ส่องแสง, สาธิต ทองจันทร์, รุ่งโรจน์ เพชรธงชัย, จินตหรา พูนลาภ, ศิริพร อำไพพงศ์ หรือร็อคสะเดิดแน่นอนว่า สิ่งที่เน้นหนักคือ “แนวทำนอง” ส่วนเนื้อหายังคงเป็นเรื่องชนบท ท้องทุ่ง หรือความรัก เป็นที่ตั้งแต่ “พรภิรมย์ พินทะปะกัง” ชื่อจริงของไมค์ ภิรมย์พร ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะหลังจากที่เขาได้รับโอกาสจาก “แกรมมี่โกลด์” ค่ายเพลงลูกทุ่งในเครือ “จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่” เป็นศิลปิน “คนแรก” ของค่าย ในอัลบั้มชุดเปิดตัว กลับสร้างเซอรืไพร์สแก่วงการเป็นที่สุด“คันหลังก็ลาว” บทเพลงไตเติ้ล กล่าวถึงชาวอีสาน ที่มา “ขายแรงงาน” ในเมืองกรุงแบบชัดเจน รวมถึงเพลง “ผู้อยู่เบื้องหลัง” ที่กล่าวถึงความยากลำบากของแรงงานแบบตรง ๆ ว่าเป็นพวก “ทำดีไม่มีใครเห็น” โดยมีเนื้อเพลง ดังนี้“ตึกนี้สูงใหญ่มือไผเล่าสร้าง ทั่วทุกเส้นทาง ไผสร้างไผเฮ็ดถนน นั่งนอนซำบาย ฮู้บ่ไผหนอทุกข์ทน กรำแดด กรำฝน แบกขนนั่นแม่นผู้ใดข้าวนี้คำนี้ไผที่ปลูกข้าว ฮู้บ้างหรือเปล่า ว่าข้าวนั้นมาจากไหน เสื้อผ้าสดสวย แฟชั่นที่ทันสมัย สวยที่คนใส่ คนเฮ็ดบ่มีไผชมหมู่เฮา คือผู้อยู่เบื้องหลัง คือผู้สรรค์สร้าง เพื่อคนอื่นได้สุขสม หยา
อ่านต่อ >32
#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
การเล่นหวยเป็นกิจกรรมยอดนิยมของคนไทยมาอย่างยาวนาน ถึงแม้จะรู้ดีว่าโอกาสที่จะถูกรางวัลใหญ่นั้นมีน้อยมาก แต่ผู้คนจำนวนไม่น้อยยังคงหวังลมๆ แล้งๆ ว่าสักวันหนึ่งโชคดีจะเข้าข้างตน จนกลายเป็นความเคยชินที่เลิกได้ยาก บทความนี้จะมาวิเคราะห์ถึงโอกาสในการถูกรางวัลใหญ่ รวมถึงสาเหตุที่ทำให้ผู้คนติดหวยกันมากขึ้นหวย: ความหวัง ค่านิยม ความบันเทิง หรือความเคยชิน?คนไทยยังคงเล่นหวยอย่างต่อเนื่อง แม้จะรู้ดีว่าโอกาสในการถูกรางวัลใหญ่นั้นมีน้อยมาก เนื่องจากหลายสาเหตุดังต่อไปนี้1. ความหวัง - ผู้เล่นหวยมักจะมีความหวังลมๆ แล้งๆ ว่าสักวันหนึ่งจะถูกรางวัลใหญ่ จนทำให้ชีวิตดีขึ้นในพริบตา แม้จะรู้ว่าโอกาสน้อยนิดเพียงใด แต่ก็ยังเสี่ยงซื้อต่อไปทุกงวด2. ค่านิยม - การเล่นหวยถือเป็นค่านิยมอย่างหนึ่งของสังคมไทย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ที่มีความเชื่อว่าการซื้อหวยเป็นทางลัดสู่ความร่ำรวย 3. ความบันเทิง - สำหรับบางคน การซื้อหวยเป็นเหมือนการละเล่นหรือความบันเทิงอย่างหนึ่ง ที่ช่วยผ่อนคลายความเครียดจากการทำงานหรือปัญหาชีวิต แม้จะแพ้บ่อยแต่ยังสนุกกับมันได้4. ความเคยชิน - หลายคนเล่นหวยเป็นประจำจนเป็นความเคยชิน กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว บางคนถึงขั้นเสพติดและเลิกได้ยากปัญหาสื่อโฆษณากระตุ้นให้ซื้อสลากฯปัจจุบันมีสื่อโฆษณาต่างๆ ออกมากระตุ้นให้ผู้คนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลกันมากขึ้น เช่น การประกาศผลรางวัลผ่านหน้าจอทีวี หนังสือพิมพ์ หรือสื่อออนไลน์ การให้ข่าวเกี่ยวกับเลขเด็ด หรือการโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่างๆ ทำให้ผู้คนอยากลองเสี่ยงโชคกันมากขึ้น อาการ "ติดหวย"อาการ "ติดหวย" เป็นผลมาจากการ เล่นหวย จนกลายเป็นความเคยชิน และมีลักษณะคล้ายกับการติดการพนันประเภทอื่นๆ ผู้ที่ติดหวยมักจะหมกมุ่นกับการเสี่ยงโชค คอยวางแผนเรื่องเลขเด็ดอยู่ตลอดเวลา บางคนถึงขั้นเสียการงาน เพราะมัวแต่คิดเรื่องหวยจนขาดสมาธิในการทำงาน นอกจากนี้ยังมักจะใช้เงินจำนวนมากไปกับการซื้อหวยในแต่ละงวด บางรายอาจกระทบกับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น ค่าอาหาร ค่าเช่าบ้าน จนอาจเกิดหนี้สินตามมาผู้ที่ติดหวย หากไม่ได้เล่นเป็นประจำทุกงวด มักจะเกิดอาการหงุดหงิด รู้สึกไม่สบายใจ เหมือนขาดอะไรไป บางคนอาจมีอาการทางกายร่วมด้วย เช่น นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร เป็นต้น หากในงวดไหนที่ไม่มีเงินพอจะซื้อหวย ผู้ติดหวยมักจะพยายามกู้ยืมเงินจากทุกทาง เพื่อนำมาเล่นหวยต่อไป ด้วย
อ่านต่อ >251
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
จากกระแสไวรัลที่แชร์กันในโลก TikTok เมื่อผู้ใช้บริการสนามบินสุวรรณภูมิรายหนึ่ง ได้แชร์คลิปแมวส้มตัวตึง นั่งเล่นบนราวบันไดเลื่อน จนเป็นที่เอ็นดูของเหล่านักท่องเที่ยว สำหรับแมวตัวตึงสุวรรณภูมิรายนี้มีชื่อว่า ‘หนูหรั่ง’ เป็นแมวมีเจ้าของ ซึ่งเจ้าของคุณกนกพร บอกว่าแมวส้มตัวเป็นแมวหลงมาก่อน ตนเองต้องมาทำงานกับแฟนที่สนามบินสุวรรณภูมิ ไม่สามารถทิ้งหนูหรั่งไว้ที่บ้านตัวเดียว เพราะมันไม่ยอมอยู่ตัวเดียวชอบรื้อข้าวของจนพัง จึงต้องพามาทำงานด้วย ด้วยนิสัยไม่ดื้อไม่ซน ขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง แชอบเล่นทักทายกับนักท่องเที่ยวจึงกลายเป็นขวัญใจของบรรดาผู้ที่แวะผ่านมาในสนามบินสุวรรณภูมิในที่สุด ทางด้านชาวเน็ตต่างระบุว่าควรผลักดันให้หนูหรั่งเป็นซอฟท์พาวเวอร์ หรือ มอบบัตรเจ้าหน้าที่พิเศษให้เลยก็จะดีมาก ภาพจาก: TikTok au.yod, TikTok leefan.1999
อ่านต่อ >23
#ข่าววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี #TNN ช่อง16
สื่อดังจากต่างประเทศอย่าง บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่าแอปเปิล (Apple) บริษัทเทคชื่อดังผู้ผลิตไอโฟน (iPhone) ไอแพด (iPad) ฯลฯ อาจร่วมมือกับบริษัทปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างโอเพนเอไอ (OpenAI) ผู้พัฒนาแชตจีพีที (GPT) เพื่อนำ AI มาใช้ในอุปกรณ์ของบริษัท โดยคาดการณ์ว่าอาจใช้ความสามารถของ AI รวมเข้ากับระบบปฏิบัติการ iOS ใหม่ของแอปเปิล ซึ่งก็คือ iOS18 และ macOS15 ที่ใกล้จะเปิดตัวนอกจากหารือกับ OpenAI แล้ว บลูมเบิร์กยังรายงานว่าแอปเปิลได้หารือกับบริษัท AI อื่น ๆ ด้วย เช่นหารือกับกูเกิล (Google) เพื่อจะใช้ความสามารถของ AI ชื่อเจมิไน (Gemini) เพื่อรวมเข้ากับไอโฟนรุ่นใหม่มีสัญญาณว่าอาจจะเห็นการนำ AI เข้ามาใช้ในอุปกรณ์ของแอปเปิลในงาน WWDC ซึ่งเป็นงานประชุมนักพัฒนาประจำปีของแอปเปิลที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 - 14 มิถุนายน 2024 นี้ หากเป็นจริง นี่อาจหมายถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของแอปเปิลทั้งนี้เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เกร็ก โจสเวียก (Greg Joswiak) ผู้นำด้านการตลาดของ Apple ได้โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) ว่า “ในงาน WWDC 2024” จะเป็นงานที่ “Absolutely Incredible” หรือ “น่าเหลือเชื่อสุด ๆ” ทั้งนี้ เขาได้ทำให้ตัวอักษร A และ I เป็นตัวพิมพ์ใหญ่ หลายคนจึงตีความว่านั่นอาจเป็นสัญญาณบอกล่วงหน้าถึง AI แต่บางทีก็อาจจะเป็นเพียงความบังเอิญก็ได้ประเด็นนี้ทำให้ผู้ใช้งานและแฟน ๆ แอปเปิลทั่วโลกรู้สึกตื่นเต้น ที่ AI อาจจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในสมาร์ตโฟน นอกจากการนำไปใช้งานในฟีเจอร์ต่าง ๆ ของไอโฟนหรือแม็คบุ๊ก (Macbook) แล้ว แอปเปิลอาจจะนำ AI มาเพิ่มขีดความสามารถให้ระบบสั่งการด้วยเสียงอัจฉริยะอย่างสิริ (Siri) ด้วย เช่น อาจปรับแต่งหน้าจอหลักของสมาร์ตโฟนได้มากขึ้น ใช้การส่งข้อความ RCS (Rich Communication Services เป็นโปรโตคอลการส่งข้อความขั้นสูง) ฯลฯนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการรวม AI เข้ากับสมาร์ตโฟน เพราะซัมซุง (Samsung) ซึ่งนับว่าเป็นคู่แข่งหลักของ Apple ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนที่บูรณาการ AI เข้าไปในการทำงานด้วยแล้ว ในซีรีส์ Samsung S24 ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนมกราคม 2024 ที่ผ่านมา สำหรับความสามารถที่โดดเด่นในการนำ AI มาใช้งานในสมาร์ตโฟน เช่น ฟีเจอร์กูเกิล เซอร์เคิล (Google Circle) หรือการวงกลมเพื่อค้นหาสิ่งที่ปรากฏบนหน้าจอ ฟีเจอร์การแก้ไขรูปภาพด้วย AI หรือฟีเจอร์การแปลภาษาที่ทำได้แบบเรียลไทม์ ทั้งน
อ่านต่อ >11
#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
รัฐชาติจะดำเนินไปได้อย่างมั่นคง การมี “ผู้บริหารประเทศ” ที่เก่งกล้าสามารถ หรือการมี “ข้าราชการ” ที่ซื่อสัตย์ เป็นสิ่งที่สำคัญ แต่ที่สำคัญที่สุด หนีไม่พ้น “แรงงาน” ที่เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ “จากเบื้องล่าง” และเป็น “ผู้อยู่เบื้องหลัง” ให้ประเทศมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ต่อไปได้อย่างไรเสียแรงงานมักเป็น “ผู้ที่ถูกลืม” อยู่บ่อยครั้ง ดังนั้น การสร้างความตระหนักรู้หรือการเร้าอารมณ์แก่ผู้คนที่ดีที่สุดจึงต้องมาจาก “บทเพลง” โดยเฉพาะเพลงลูกทุ่งซึ่งได้รับความนิยมในวงกว้างท่ามกลางเพลงลูกทุ่งที่มักบรรยายถึงท้องไร่ท้องนา แต่ได้มีนักร้องท่านหนึ่งที่ได้ “เล่นฉีก” มาในแนวเพลง “สะท้อนความลำบากของแรงงานในเมืองหลวง” นั่นก็คือ “ไมค์ ภิรมย์พร”ยิ่งไปกว่านั้น การทำแนวเพลงเช่นนี้ยังเป็นการ “ปฏิวัติเพลงลูกทุ่ง” เมื่อเข้าสู่ยุคยุคมิลเลนเนียมอีกด้วยร่วมติดตามรอยทางการสร้างตำนานของ “นักร้องขวัญใจผู้ใช้แรงงาน” ท่านนี้ได้ ณ บัดนี้จากแดนอีสานบ้านเกิดเมืองนอน มาเล่นละครบทชีวิตหนักก่อนอื่น ต้องยอมรับว่า แนวเพลงลูกทุ่งในช่วงก่อนมิลเลนเนียม เป็นการต่อสู้ระหว่าง “ลูกทุ่งสตริง” และ “ลูกทุ่งหมอลำ” โดยเป็นช่วงขาขึ้นของลูกทุ่งหมอลำอย่างมาก ไล่มาตั้งแต่ พรศักดิ์ ส่องแสง, สาธิต ทองจันทร์, รุ่งโรจน์ เพชรธงชัย, จินตหรา พูนลาภ, ศิริพร อำไพพงศ์ หรือร็อคสะเดิดแน่นอนว่า สิ่งที่เน้นหนักคือ “แนวทำนอง” ส่วนเนื้อหายังคงเป็นเรื่องชนบท ท้องทุ่ง หรือความรัก เป็นที่ตั้งแต่ “พรภิรมย์ พินทะปะกัง” ชื่อจริงของไมค์ ภิรมย์พร ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะหลังจากที่เขาได้รับโอกาสจาก “แกรมมี่โกลด์” ค่ายเพลงลูกทุ่งในเครือ “จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่” เป็นศิลปิน “คนแรก” ของค่าย ในอัลบั้มชุดเปิดตัว กลับสร้างเซอรืไพร์สแก่วงการเป็นที่สุด“คันหลังก็ลาว” บทเพลงไตเติ้ล กล่าวถึงชาวอีสาน ที่มา “ขายแรงงาน” ในเมืองกรุงแบบชัดเจน รวมถึงเพลง “ผู้อยู่เบื้องหลัง” ที่กล่าวถึงความยากลำบากของแรงงานแบบตรง ๆ ว่าเป็นพวก “ทำดีไม่มีใครเห็น” โดยมีเนื้อเพลง ดังนี้“ตึกนี้สูงใหญ่มือไผเล่าสร้าง ทั่วทุกเส้นทาง ไผสร้างไผเฮ็ดถนน นั่งนอนซำบาย ฮู้บ่ไผหนอทุกข์ทน กรำแดด กรำฝน แบกขนนั่นแม่นผู้ใดข้าวนี้คำนี้ไผที่ปลูกข้าว ฮู้บ้างหรือเปล่า ว่าข้าวนั้นมาจากไหน เสื้อผ้าสดสวย แฟชั่นที่ทันสมัย สวยที่คนใส่ คนเฮ็ดบ่มีไผชมหมู่เฮา คือผู้อยู่เบื้องหลัง คือผู้สรรค์สร้าง เพื่อคนอื่นได้สุขสม หยา
อ่านต่อ >32
#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
การเล่นหวยเป็นกิจกรรมยอดนิยมของคนไทยมาอย่างยาวนาน ถึงแม้จะรู้ดีว่าโอกาสที่จะถูกรางวัลใหญ่นั้นมีน้อยมาก แต่ผู้คนจำนวนไม่น้อยยังคงหวังลมๆ แล้งๆ ว่าสักวันหนึ่งโชคดีจะเข้าข้างตน จนกลายเป็นความเคยชินที่เลิกได้ยาก บทความนี้จะมาวิเคราะห์ถึงโอกาสในการถูกรางวัลใหญ่ รวมถึงสาเหตุที่ทำให้ผู้คนติดหวยกันมากขึ้นหวย: ความหวัง ค่านิยม ความบันเทิง หรือความเคยชิน?คนไทยยังคงเล่นหวยอย่างต่อเนื่อง แม้จะรู้ดีว่าโอกาสในการถูกรางวัลใหญ่นั้นมีน้อยมาก เนื่องจากหลายสาเหตุดังต่อไปนี้1. ความหวัง - ผู้เล่นหวยมักจะมีความหวังลมๆ แล้งๆ ว่าสักวันหนึ่งจะถูกรางวัลใหญ่ จนทำให้ชีวิตดีขึ้นในพริบตา แม้จะรู้ว่าโอกาสน้อยนิดเพียงใด แต่ก็ยังเสี่ยงซื้อต่อไปทุกงวด2. ค่านิยม - การเล่นหวยถือเป็นค่านิยมอย่างหนึ่งของสังคมไทย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ที่มีความเชื่อว่าการซื้อหวยเป็นทางลัดสู่ความร่ำรวย 3. ความบันเทิง - สำหรับบางคน การซื้อหวยเป็นเหมือนการละเล่นหรือความบันเทิงอย่างหนึ่ง ที่ช่วยผ่อนคลายความเครียดจากการทำงานหรือปัญหาชีวิต แม้จะแพ้บ่อยแต่ยังสนุกกับมันได้4. ความเคยชิน - หลายคนเล่นหวยเป็นประจำจนเป็นความเคยชิน กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว บางคนถึงขั้นเสพติดและเลิกได้ยากปัญหาสื่อโฆษณากระตุ้นให้ซื้อสลากฯปัจจุบันมีสื่อโฆษณาต่างๆ ออกมากระตุ้นให้ผู้คนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลกันมากขึ้น เช่น การประกาศผลรางวัลผ่านหน้าจอทีวี หนังสือพิมพ์ หรือสื่อออนไลน์ การให้ข่าวเกี่ยวกับเลขเด็ด หรือการโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่างๆ ทำให้ผู้คนอยากลองเสี่ยงโชคกันมากขึ้น อาการ "ติดหวย"อาการ "ติดหวย" เป็นผลมาจากการ เล่นหวย จนกลายเป็นความเคยชิน และมีลักษณะคล้ายกับการติดการพนันประเภทอื่นๆ ผู้ที่ติดหวยมักจะหมกมุ่นกับการเสี่ยงโชค คอยวางแผนเรื่องเลขเด็ดอยู่ตลอดเวลา บางคนถึงขั้นเสียการงาน เพราะมัวแต่คิดเรื่องหวยจนขาดสมาธิในการทำงาน นอกจากนี้ยังมักจะใช้เงินจำนวนมากไปกับการซื้อหวยในแต่ละงวด บางรายอาจกระทบกับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น ค่าอาหาร ค่าเช่าบ้าน จนอาจเกิดหนี้สินตามมาผู้ที่ติดหวย หากไม่ได้เล่นเป็นประจำทุกงวด มักจะเกิดอาการหงุดหงิด รู้สึกไม่สบายใจ เหมือนขาดอะไรไป บางคนอาจมีอาการทางกายร่วมด้วย เช่น นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร เป็นต้น หากในงวดไหนที่ไม่มีเงินพอจะซื้อหวย ผู้ติดหวยมักจะพยายามกู้ยืมเงินจากทุกทาง เพื่อนำมาเล่นหวยต่อไป ด้วย
อ่านต่อ >251
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
จากกระแสไวรัลที่แชร์กันในโลก TikTok เมื่อผู้ใช้บริการสนามบินสุวรรณภูมิรายหนึ่ง ได้แชร์คลิปแมวส้มตัวตึง นั่งเล่นบนราวบันไดเลื่อน จนเป็นที่เอ็นดูของเหล่านักท่องเที่ยว สำหรับแมวตัวตึงสุวรรณภูมิรายนี้มีชื่อว่า ‘หนูหรั่ง’ เป็นแมวมีเจ้าของ ซึ่งเจ้าของคุณกนกพร บอกว่าแมวส้มตัวเป็นแมวหลงมาก่อน ตนเองต้องมาทำงานกับแฟนที่สนามบินสุวรรณภูมิ ไม่สามารถทิ้งหนูหรั่งไว้ที่บ้านตัวเดียว เพราะมันไม่ยอมอยู่ตัวเดียวชอบรื้อข้าวของจนพัง จึงต้องพามาทำงานด้วย ด้วยนิสัยไม่ดื้อไม่ซน ขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง แชอบเล่นทักทายกับนักท่องเที่ยวจึงกลายเป็นขวัญใจของบรรดาผู้ที่แวะผ่านมาในสนามบินสุวรรณภูมิในที่สุด ทางด้านชาวเน็ตต่างระบุว่าควรผลักดันให้หนูหรั่งเป็นซอฟท์พาวเวอร์ หรือ มอบบัตรเจ้าหน้าที่พิเศษให้เลยก็จะดีมาก ภาพจาก: TikTok au.yod, TikTok leefan.1999
อ่านต่อ >23
#ข่าววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี #TNN ช่อง16
สื่อดังจากต่างประเทศอย่าง บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่าแอปเปิล (Apple) บริษัทเทคชื่อดังผู้ผลิตไอโฟน (iPhone) ไอแพด (iPad) ฯลฯ อาจร่วมมือกับบริษัทปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างโอเพนเอไอ (OpenAI) ผู้พัฒนาแชตจีพีที (GPT) เพื่อนำ AI มาใช้ในอุปกรณ์ของบริษัท โดยคาดการณ์ว่าอาจใช้ความสามารถของ AI รวมเข้ากับระบบปฏิบัติการ iOS ใหม่ของแอปเปิล ซึ่งก็คือ iOS18 และ macOS15 ที่ใกล้จะเปิดตัวนอกจากหารือกับ OpenAI แล้ว บลูมเบิร์กยังรายงานว่าแอปเปิลได้หารือกับบริษัท AI อื่น ๆ ด้วย เช่นหารือกับกูเกิล (Google) เพื่อจะใช้ความสามารถของ AI ชื่อเจมิไน (Gemini) เพื่อรวมเข้ากับไอโฟนรุ่นใหม่มีสัญญาณว่าอาจจะเห็นการนำ AI เข้ามาใช้ในอุปกรณ์ของแอปเปิลในงาน WWDC ซึ่งเป็นงานประชุมนักพัฒนาประจำปีของแอปเปิลที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 - 14 มิถุนายน 2024 นี้ หากเป็นจริง นี่อาจหมายถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของแอปเปิลทั้งนี้เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เกร็ก โจสเวียก (Greg Joswiak) ผู้นำด้านการตลาดของ Apple ได้โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) ว่า “ในงาน WWDC 2024” จะเป็นงานที่ “Absolutely Incredible” หรือ “น่าเหลือเชื่อสุด ๆ” ทั้งนี้ เขาได้ทำให้ตัวอักษร A และ I เป็นตัวพิมพ์ใหญ่ หลายคนจึงตีความว่านั่นอาจเป็นสัญญาณบอกล่วงหน้าถึง AI แต่บางทีก็อาจจะเป็นเพียงความบังเอิญก็ได้ประเด็นนี้ทำให้ผู้ใช้งานและแฟน ๆ แอปเปิลทั่วโลกรู้สึกตื่นเต้น ที่ AI อาจจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในสมาร์ตโฟน นอกจากการนำไปใช้งานในฟีเจอร์ต่าง ๆ ของไอโฟนหรือแม็คบุ๊ก (Macbook) แล้ว แอปเปิลอาจจะนำ AI มาเพิ่มขีดความสามารถให้ระบบสั่งการด้วยเสียงอัจฉริยะอย่างสิริ (Siri) ด้วย เช่น อาจปรับแต่งหน้าจอหลักของสมาร์ตโฟนได้มากขึ้น ใช้การส่งข้อความ RCS (Rich Communication Services เป็นโปรโตคอลการส่งข้อความขั้นสูง) ฯลฯนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการรวม AI เข้ากับสมาร์ตโฟน เพราะซัมซุง (Samsung) ซึ่งนับว่าเป็นคู่แข่งหลักของ Apple ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนที่บูรณาการ AI เข้าไปในการทำงานด้วยแล้ว ในซีรีส์ Samsung S24 ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนมกราคม 2024 ที่ผ่านมา สำหรับความสามารถที่โดดเด่นในการนำ AI มาใช้งานในสมาร์ตโฟน เช่น ฟีเจอร์กูเกิล เซอร์เคิล (Google Circle) หรือการวงกลมเพื่อค้นหาสิ่งที่ปรากฏบนหน้าจอ ฟีเจอร์การแก้ไขรูปภาพด้วย AI หรือฟีเจอร์การแปลภาษาที่ทำได้แบบเรียลไทม์ ทั้งน
อ่านต่อ >11