
#ข่าวเศรษฐกิจ #TNN ช่อง16
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงผลกระทบต่อการค้าชายแดนของไทย จากเหตุปะทะชายแดนกัมพูชาว่า ปัจจุบันไทยมีการค้าผ่านแดนกับกัมพูชา ผ่านจุดผ่านแดนถาวรหลักรวม 5 ด่าน คือ ด่านอรัญประเทศ คลองใหญ่ ช่องจอม จันทบุรี และช่องสะงัมทั้งนี้ หากเหตุการณ์ปะทะรุนแรงจนต้องปิดด่านทั้ง 5 แห่ง คาดว่าจะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทย ประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาทต่อเดือน และหากเหตุการณ์ยืดเยื้อไปจนถึงสิ้นปีนี้ อาจจะสร้างความเสียหายรวม 5.5 หมื่นล้านบาทอย่างไรก็ดี การค้าขายผ่านทั้ง 5 ด่าน เป็นการค้าขายทางบก แต่หลังจากเกิดปัญหาความขัดแย้ง ผู้ค้าขายได้ปรับรูปแบบการค้าเป็นการค้าและส่งออกผ่านทางอากาศ และทางเรือนแทน ซึ่งอาจจะทำให้ความเสียหายด้านการค้าของ 2 ฝ่ายลดดลง และยังต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ว่าเหตุปะทะจะยืดเยื้อ รุนแรงเพิ่มขึ้นหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้ ไทยได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูต และลดระดับความสัมพันธ์กับกัมพูชาลงแล้วทั้งนี้ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ได้ประเมินผลกระทบจากการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้ง 5 ด่าน ใน 3 Scenario ดังนี้กรณีฐาน : ความตึงเครียดคลี่คลายได้เร็ว สามารถแก้ไขความขัดแย้งและฟื้นฟูสถานการณ์ค้าชายแดนได้ภายใน 1 เดือน จะมีผลกระทบต่อการส่งออกที่อาจลดลง 11,600 ล้านบาทกรณีความตึงเครียดยืดเยื้อปานกลาง : สามารถแก้ไขความขัดแย้งและฟื้นฟูสถานการณ์ค้าชายแดนได้ภายใน 3 เดือน จะมีผลกระทบต่อการส่งออกที่อาจลดลง 34,000 ล้านบาทกรณีเลวร้ายสุด : ปิดด่าน 100% ตลอดช่วงที่เหลือของปี 2568 จะมีผลกระทบต่อการส่งออกที่อาจลดลง 55,000 ล้านบาท นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งกำลังพลและประชาชน ตลอดจนส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ และเกิดการหยุดชะงักของกิจกรรมทางการค้าและการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ขอแสดงความห่วงใยอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ดังกล่าว พร้อมขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายดำเนินการอย่างรอบคอบ เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ เพื่อรักษาเสถียรภาพ ความมั่นคง และความร่วมมือในระดับภูมิภาค ซึ่งเป็นประโยชน์ร่วมกั
อ่านต่อ >13

#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
ไทยยื่นหนังสือแจงยูเอ็น ประณามกัมพูชาใช้กำลังโจมตีพลเรือนวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี แถลงถึงจุดยืนของไทยต่อเหตุปะทะชายแดน โดยยืนยันว่า ประเทศไทยถูกคุกคามจากการใช้กำลังทางทหารโดยฝ่ายกัมพูชา ทั้งที่พยายามดำเนินการด้วยสันติวิธีและยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่องอย่างไรก็ตาม การโจมตีเมื่อไม่นานมานี้กลับพุ่งเป้าไปยังโรงพยาบาลและพื้นที่ชุมชนในฝั่งไทย ห่างจากแนวชายแดนกว่า 20 กิโลเมตร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 13 ราย ซึ่งรวมถึงเด็ก ผู้หญิง และผู้สูงอายุ พร้อมทั้งสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชนอย่างรุนแรง แจงต่อยูเอ็น–ขอประชาคมโลกร่วมประณามรัฐบาลได้ส่งหนังสือถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมประณามการใช้กำลังที่ไร้ขอบเขต และเชิญชวนให้ประชาคมโลกแสดงจุดยืนร่วมกันในการต่อต้านการกระทำที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศการกระทำของฝ่ายกัมพูชาถูกจัดว่าเป็นอาชญากรรมสงครามระดับร้ายแรง ซึ่งไม่อาจเพิกเฉยได้อพยพประชาชน–เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบรัฐบาลได้ดำเนินการอพยพประชาชนจากพื้นที่ชายแดนออกมาแล้วกว่า 100,000 คน พร้อมประกาศมาตรการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอย่างเป็นทางการ ดังนี้ครอบครัวผู้เสียชีวิต 1,000,000 บาทผู้ทุพพลภาพ 700,000 บาทผู้บาดเจ็บสาหัส 200,000 บาทผู้บาดเจ็บทั่วไป 100,000 บาทนอกจากนี้ ยังประสานกับทุกสายการบินเพื่อจัดเที่ยวบินพิเศษอำนวยความสะดวกให้ผู้ที่ต้องเดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยง พร้อมทั้งดูแลกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มกำลัง ลงพื้นที่ 4 จังหวัดสร้างขวัญกำลังใจในวันถัดไป คณะรัฐมนตรีจะลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ เพื่อเยี่ยมเยียนผู้ได้รับผลกระทบ สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานแนวหน้านายภูมิธรรมย้ำว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ และไม่ใช่การประกาศสงคราม แต่เป็นการปกป้องอธิปไตยของไทยจากการรุกรานของกัมพูชาพระราชทานความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บรัฐบาลขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้สูญเสีย และขอบคุณทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมในการดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
อ่านต่อ >15

#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
ร่วมประดับธงชาติ แสดงสัญลักษณ์แห่งความเป็นไทย กองทัพบก ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กองทัพบก Royal Thai Army โดยกองทัพบกขอเชิญชวนคนไทย ร่วมประดับธงชาติในทุกที่ ที่เหมาะสมเพื่อแสดงสัญลักษณ์แห่งความเป็นไทย “ยืนหยัดเพื่อชาติ ศักดิ์ศรี และความเป็นไทย”ติด แฮชแท็ก ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด,ก่อนหน้านี้ กองทัพบกได้เชิญชวนชาวไทย ติด แฮชแท็ก กัมพูชายิงก่อน, ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด, และ CambodiaOpenedFire บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น X (Twitter) , Facebook และ Tiktok ทั้งนี้ สะท้อนความเป็นอันหนึ่งอันเดียวของไทย การโต้ตอบทางการทหารเกิดขึ้นเพราะต้องการปกป้องอธิปไตยจากการรุกรานของประเทศเพื่อนบ้าน ขอความร่วมมือ งดการเผยแพร่และนำเสนอข้อมูล ที่อาจจะส่งผลกระทบกับผู้ปฏิบัติหน้าที่หน้าแนวรบ กองทัพบก ยังระบุว่าท่ามกลางสถานการณ์ การสู้รบ และปะทะตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา กองทัพบก ขอความร่วมมือ งดการเผยแพร่และนำเสนอข้อมูล การเคลื่อนกำลังการปฏิบัติ ณ ฐานที่ตั้งเป้าหมายการโจมตี ความเคลื่อนไหวที่อาจจะส่งผลกระทบกับผู้ปฏิบัติหน้าที่หน้าแนวรบ เพื่อความปลอดภัย ของกำลังพลทุกนาย และประชาชนในพื้นที่งดการอ้างอิงเพจภายนอก โดยเฉพาะเพจที่นำเสนอข้อมูลด้านการปฏิบัติการทางทหารโดย ไม่มีการกลั่นกรองหรือรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากปัจจุบัน:ข้อมูลที่เผยแพร่ส่งผลกระทบต่อการวางแผนและการปฏิบัติภารกิจเสี่ยงต่อการถูกฝ่ายตรงข้ามใช้ประโยชน์ในการตั้งรับหรือโต้กลับขอความร่วมมือ ชะลอหรือควบคุมการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติการทางอากาศพร้อมกันนี้ ขอความร่วมมือ ชะลอหรือควบคุมการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติการทางอากาศห้วงเวลาการปฏิบัติพื้นที่เป้าหมาย และแนวทางการเข้าดำเนินการ- เพื่อความปลอดภัยของกำลังพลและยุทโธปกรณ์- ควรยึดข้อมูลจาก “หน่วยงานกองทัพ” เป็นแหล่งอ้างอิงหลัก- หยุดการเผยแพร่ข้อมูลจากแหล่งที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ- การเผยแพร่ข้อมูลเร็วเกินไป อาจทำให้ฝ่ายตรงข้ามเตรียมการตอบโต้ล่วงหน้าได้เพื่อความมั่นคงของชาติ และความสำเร็จของภารกิจ อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องกองทัพบกยืนยันไม่มีการโจมตีพื้นที่ปราสาทพระวิหาร ชี้ฝ่ายกัมพูชาบิดเบือนข้อเท็จจริงกสม. หวังสถานการณ์ความขัดแย้งจะคลี่คลายโดยเร็วบนหนทางแห่งสันติภาพธนาคารปิดบริการสาขาในพื้นที่เสี่ยงชายแดนไทย - กัมพูชา เป็นการชั่วคราว“แพทองธาร” ประณามกั
อ่านต่อ >24

#ข่าวประชาสัมพันธ์ #TNN ช่อง16
25 กรกฎาคม 2568 : เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ผนึกกำลังทุกกลุ่มธุรกิจให้ความช่วยเหลือพี่น้องใน 4 จังหวัดชายแดนภาคอีสาน ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยมอบอาหารสำเร็จรูป น้ำดื่ม และชุดอุปโภคบริโภคพื้นฐาน พร้อมสนับสนุนด้านการสื่อสารด้วยการจัดส่งซิมทรูมูฟ เอช และติดตั้งบริการ Wi-Fi ให้ประชาชนใช้งานฟรี แก่กระทรวงมหาดไทยและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อนำไปแจกจ่ายแก่พี่น้องในศูนย์อพยพต่างๆ อย่างทั่วถึง ด้วยความห่วงใยต่อทุกชีวิตและความเป็นอยู่ที่ปลอดภัยของชุมชนจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชาในปัจจุบัน เครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ และนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร มีความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว จึงสั่งการเร่งด่วนให้ทุกกลุ่มธุรกิจ อาทิ ซีพีเอฟ ซีพีออลล์ ซีพีแอ็กซ์ตร้า และ ทรู สนับสนุนเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ได้แก่ ข้าวสารตราฉัตร อาหารสำเร็จรูป ไข่ไก่ซีพี น้ำดื่ม ผ้าห่ม รวมถึงด้านการสื่อสาร มอบซิมทรูมูฟ เอช และติดตั้ง Wi-Fi ให้บริการอินเทอร์เน็ตฟรี โดยจะนำไปมอบให้แก่สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการประสานงานและกระจายความช่วยเหลือในครั้งนี้ เพื่อให้การช่วยเหลือถึงมือผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็วและทั่วถึง เครือเจริญโภคภัณฑ์ขอส่งกำลังใจและยืนหยัดเคียงข้างพี่น้องคนไทยในทุกสถานการณ์ สะท้อนคุณค่าจากปรัชญา “สามประโยชน์” ที่มุ่งสร้างประโยชน์ต่อประเทศ ประชาชน และองค์กร นี่คืออีกครั้งที่ซีพีผนึกกำลังร้อยเรียงความดี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างสังคมที่เข้มแข็งไปด้วยกัน
อ่านต่อ >18

#ข่าวเศรษฐกิจ #TNN ช่อง16
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงผลกระทบต่อการค้าชายแดนของไทย จากเหตุปะทะชายแดนกัมพูชาว่า ปัจจุบันไทยมีการค้าผ่านแดนกับกัมพูชา ผ่านจุดผ่านแดนถาวรหลักรวม 5 ด่าน คือ ด่านอรัญประเทศ คลองใหญ่ ช่องจอม จันทบุรี และช่องสะงัมทั้งนี้ หากเหตุการณ์ปะทะรุนแรงจนต้องปิดด่านทั้ง 5 แห่ง คาดว่าจะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทย ประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาทต่อเดือน และหากเหตุการณ์ยืดเยื้อไปจนถึงสิ้นปีนี้ อาจจะสร้างความเสียหายรวม 5.5 หมื่นล้านบาทอย่างไรก็ดี การค้าขายผ่านทั้ง 5 ด่าน เป็นการค้าขายทางบก แต่หลังจากเกิดปัญหาความขัดแย้ง ผู้ค้าขายได้ปรับรูปแบบการค้าเป็นการค้าและส่งออกผ่านทางอากาศ และทางเรือนแทน ซึ่งอาจจะทำให้ความเสียหายด้านการค้าของ 2 ฝ่ายลดดลง และยังต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ว่าเหตุปะทะจะยืดเยื้อ รุนแรงเพิ่มขึ้นหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้ ไทยได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูต และลดระดับความสัมพันธ์กับกัมพูชาลงแล้วทั้งนี้ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ได้ประเมินผลกระทบจากการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้ง 5 ด่าน ใน 3 Scenario ดังนี้กรณีฐาน : ความตึงเครียดคลี่คลายได้เร็ว สามารถแก้ไขความขัดแย้งและฟื้นฟูสถานการณ์ค้าชายแดนได้ภายใน 1 เดือน จะมีผลกระทบต่อการส่งออกที่อาจลดลง 11,600 ล้านบาทกรณีความตึงเครียดยืดเยื้อปานกลาง : สามารถแก้ไขความขัดแย้งและฟื้นฟูสถานการณ์ค้าชายแดนได้ภายใน 3 เดือน จะมีผลกระทบต่อการส่งออกที่อาจลดลง 34,000 ล้านบาทกรณีเลวร้ายสุด : ปิดด่าน 100% ตลอดช่วงที่เหลือของปี 2568 จะมีผลกระทบต่อการส่งออกที่อาจลดลง 55,000 ล้านบาท นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งกำลังพลและประชาชน ตลอดจนส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ และเกิดการหยุดชะงักของกิจกรรมทางการค้าและการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ขอแสดงความห่วงใยอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ดังกล่าว พร้อมขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายดำเนินการอย่างรอบคอบ เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ เพื่อรักษาเสถียรภาพ ความมั่นคง และความร่วมมือในระดับภูมิภาค ซึ่งเป็นประโยชน์ร่วมกั
อ่านต่อ >13

#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
ไทยยื่นหนังสือแจงยูเอ็น ประณามกัมพูชาใช้กำลังโจมตีพลเรือนวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี แถลงถึงจุดยืนของไทยต่อเหตุปะทะชายแดน โดยยืนยันว่า ประเทศไทยถูกคุกคามจากการใช้กำลังทางทหารโดยฝ่ายกัมพูชา ทั้งที่พยายามดำเนินการด้วยสันติวิธีและยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่องอย่างไรก็ตาม การโจมตีเมื่อไม่นานมานี้กลับพุ่งเป้าไปยังโรงพยาบาลและพื้นที่ชุมชนในฝั่งไทย ห่างจากแนวชายแดนกว่า 20 กิโลเมตร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 13 ราย ซึ่งรวมถึงเด็ก ผู้หญิง และผู้สูงอายุ พร้อมทั้งสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชนอย่างรุนแรง แจงต่อยูเอ็น–ขอประชาคมโลกร่วมประณามรัฐบาลได้ส่งหนังสือถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมประณามการใช้กำลังที่ไร้ขอบเขต และเชิญชวนให้ประชาคมโลกแสดงจุดยืนร่วมกันในการต่อต้านการกระทำที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศการกระทำของฝ่ายกัมพูชาถูกจัดว่าเป็นอาชญากรรมสงครามระดับร้ายแรง ซึ่งไม่อาจเพิกเฉยได้อพยพประชาชน–เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบรัฐบาลได้ดำเนินการอพยพประชาชนจากพื้นที่ชายแดนออกมาแล้วกว่า 100,000 คน พร้อมประกาศมาตรการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอย่างเป็นทางการ ดังนี้ครอบครัวผู้เสียชีวิต 1,000,000 บาทผู้ทุพพลภาพ 700,000 บาทผู้บาดเจ็บสาหัส 200,000 บาทผู้บาดเจ็บทั่วไป 100,000 บาทนอกจากนี้ ยังประสานกับทุกสายการบินเพื่อจัดเที่ยวบินพิเศษอำนวยความสะดวกให้ผู้ที่ต้องเดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยง พร้อมทั้งดูแลกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มกำลัง ลงพื้นที่ 4 จังหวัดสร้างขวัญกำลังใจในวันถัดไป คณะรัฐมนตรีจะลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ เพื่อเยี่ยมเยียนผู้ได้รับผลกระทบ สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานแนวหน้านายภูมิธรรมย้ำว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ และไม่ใช่การประกาศสงคราม แต่เป็นการปกป้องอธิปไตยของไทยจากการรุกรานของกัมพูชาพระราชทานความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บรัฐบาลขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้สูญเสีย และขอบคุณทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมในการดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
อ่านต่อ >15

#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
ร่วมประดับธงชาติ แสดงสัญลักษณ์แห่งความเป็นไทย กองทัพบก ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กองทัพบก Royal Thai Army โดยกองทัพบกขอเชิญชวนคนไทย ร่วมประดับธงชาติในทุกที่ ที่เหมาะสมเพื่อแสดงสัญลักษณ์แห่งความเป็นไทย “ยืนหยัดเพื่อชาติ ศักดิ์ศรี และความเป็นไทย”ติด แฮชแท็ก ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด,ก่อนหน้านี้ กองทัพบกได้เชิญชวนชาวไทย ติด แฮชแท็ก กัมพูชายิงก่อน, ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด, และ CambodiaOpenedFire บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น X (Twitter) , Facebook และ Tiktok ทั้งนี้ สะท้อนความเป็นอันหนึ่งอันเดียวของไทย การโต้ตอบทางการทหารเกิดขึ้นเพราะต้องการปกป้องอธิปไตยจากการรุกรานของประเทศเพื่อนบ้าน ขอความร่วมมือ งดการเผยแพร่และนำเสนอข้อมูล ที่อาจจะส่งผลกระทบกับผู้ปฏิบัติหน้าที่หน้าแนวรบ กองทัพบก ยังระบุว่าท่ามกลางสถานการณ์ การสู้รบ และปะทะตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา กองทัพบก ขอความร่วมมือ งดการเผยแพร่และนำเสนอข้อมูล การเคลื่อนกำลังการปฏิบัติ ณ ฐานที่ตั้งเป้าหมายการโจมตี ความเคลื่อนไหวที่อาจจะส่งผลกระทบกับผู้ปฏิบัติหน้าที่หน้าแนวรบ เพื่อความปลอดภัย ของกำลังพลทุกนาย และประชาชนในพื้นที่งดการอ้างอิงเพจภายนอก โดยเฉพาะเพจที่นำเสนอข้อมูลด้านการปฏิบัติการทางทหารโดย ไม่มีการกลั่นกรองหรือรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากปัจจุบัน:ข้อมูลที่เผยแพร่ส่งผลกระทบต่อการวางแผนและการปฏิบัติภารกิจเสี่ยงต่อการถูกฝ่ายตรงข้ามใช้ประโยชน์ในการตั้งรับหรือโต้กลับขอความร่วมมือ ชะลอหรือควบคุมการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติการทางอากาศพร้อมกันนี้ ขอความร่วมมือ ชะลอหรือควบคุมการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติการทางอากาศห้วงเวลาการปฏิบัติพื้นที่เป้าหมาย และแนวทางการเข้าดำเนินการ- เพื่อความปลอดภัยของกำลังพลและยุทโธปกรณ์- ควรยึดข้อมูลจาก “หน่วยงานกองทัพ” เป็นแหล่งอ้างอิงหลัก- หยุดการเผยแพร่ข้อมูลจากแหล่งที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ- การเผยแพร่ข้อมูลเร็วเกินไป อาจทำให้ฝ่ายตรงข้ามเตรียมการตอบโต้ล่วงหน้าได้เพื่อความมั่นคงของชาติ และความสำเร็จของภารกิจ อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องกองทัพบกยืนยันไม่มีการโจมตีพื้นที่ปราสาทพระวิหาร ชี้ฝ่ายกัมพูชาบิดเบือนข้อเท็จจริงกสม. หวังสถานการณ์ความขัดแย้งจะคลี่คลายโดยเร็วบนหนทางแห่งสันติภาพธนาคารปิดบริการสาขาในพื้นที่เสี่ยงชายแดนไทย - กัมพูชา เป็นการชั่วคราว“แพทองธาร” ประณามกั
อ่านต่อ >24

#ข่าวประชาสัมพันธ์ #TNN ช่อง16
25 กรกฎาคม 2568 : เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ผนึกกำลังทุกกลุ่มธุรกิจให้ความช่วยเหลือพี่น้องใน 4 จังหวัดชายแดนภาคอีสาน ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยมอบอาหารสำเร็จรูป น้ำดื่ม และชุดอุปโภคบริโภคพื้นฐาน พร้อมสนับสนุนด้านการสื่อสารด้วยการจัดส่งซิมทรูมูฟ เอช และติดตั้งบริการ Wi-Fi ให้ประชาชนใช้งานฟรี แก่กระทรวงมหาดไทยและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อนำไปแจกจ่ายแก่พี่น้องในศูนย์อพยพต่างๆ อย่างทั่วถึง ด้วยความห่วงใยต่อทุกชีวิตและความเป็นอยู่ที่ปลอดภัยของชุมชนจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชาในปัจจุบัน เครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ และนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร มีความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว จึงสั่งการเร่งด่วนให้ทุกกลุ่มธุรกิจ อาทิ ซีพีเอฟ ซีพีออลล์ ซีพีแอ็กซ์ตร้า และ ทรู สนับสนุนเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ได้แก่ ข้าวสารตราฉัตร อาหารสำเร็จรูป ไข่ไก่ซีพี น้ำดื่ม ผ้าห่ม รวมถึงด้านการสื่อสาร มอบซิมทรูมูฟ เอช และติดตั้ง Wi-Fi ให้บริการอินเทอร์เน็ตฟรี โดยจะนำไปมอบให้แก่สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการประสานงานและกระจายความช่วยเหลือในครั้งนี้ เพื่อให้การช่วยเหลือถึงมือผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็วและทั่วถึง เครือเจริญโภคภัณฑ์ขอส่งกำลังใจและยืนหยัดเคียงข้างพี่น้องคนไทยในทุกสถานการณ์ สะท้อนคุณค่าจากปรัชญา “สามประโยชน์” ที่มุ่งสร้างประโยชน์ต่อประเทศ ประชาชน และองค์กร นี่คืออีกครั้งที่ซีพีผนึกกำลังร้อยเรียงความดี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างสังคมที่เข้มแข็งไปด้วยกัน
อ่านต่อ >18

#ข่าวเศรษฐกิจ #TNN ช่อง16
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงผลกระทบต่อการค้าชายแดนของไทย จากเหตุปะทะชายแดนกัมพูชาว่า ปัจจุบันไทยมีการค้าผ่านแดนกับกัมพูชา ผ่านจุดผ่านแดนถาวรหลักรวม 5 ด่าน คือ ด่านอรัญประเทศ คลองใหญ่ ช่องจอม จันทบุรี และช่องสะงัมทั้งนี้ หากเหตุการณ์ปะทะรุนแรงจนต้องปิดด่านทั้ง 5 แห่ง คาดว่าจะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทย ประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาทต่อเดือน และหากเหตุการณ์ยืดเยื้อไปจนถึงสิ้นปีนี้ อาจจะสร้างความเสียหายรวม 5.5 หมื่นล้านบาทอย่างไรก็ดี การค้าขายผ่านทั้ง 5 ด่าน เป็นการค้าขายทางบก แต่หลังจากเกิดปัญหาความขัดแย้ง ผู้ค้าขายได้ปรับรูปแบบการค้าเป็นการค้าและส่งออกผ่านทางอากาศ และทางเรือนแทน ซึ่งอาจจะทำให้ความเสียหายด้านการค้าของ 2 ฝ่ายลดดลง และยังต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ว่าเหตุปะทะจะยืดเยื้อ รุนแรงเพิ่มขึ้นหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้ ไทยได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูต และลดระดับความสัมพันธ์กับกัมพูชาลงแล้วทั้งนี้ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ได้ประเมินผลกระทบจากการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้ง 5 ด่าน ใน 3 Scenario ดังนี้กรณีฐาน : ความตึงเครียดคลี่คลายได้เร็ว สามารถแก้ไขความขัดแย้งและฟื้นฟูสถานการณ์ค้าชายแดนได้ภายใน 1 เดือน จะมีผลกระทบต่อการส่งออกที่อาจลดลง 11,600 ล้านบาทกรณีความตึงเครียดยืดเยื้อปานกลาง : สามารถแก้ไขความขัดแย้งและฟื้นฟูสถานการณ์ค้าชายแดนได้ภายใน 3 เดือน จะมีผลกระทบต่อการส่งออกที่อาจลดลง 34,000 ล้านบาทกรณีเลวร้ายสุด : ปิดด่าน 100% ตลอดช่วงที่เหลือของปี 2568 จะมีผลกระทบต่อการส่งออกที่อาจลดลง 55,000 ล้านบาท นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งกำลังพลและประชาชน ตลอดจนส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ และเกิดการหยุดชะงักของกิจกรรมทางการค้าและการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ขอแสดงความห่วงใยอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ดังกล่าว พร้อมขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายดำเนินการอย่างรอบคอบ เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ เพื่อรักษาเสถียรภาพ ความมั่นคง และความร่วมมือในระดับภูมิภาค ซึ่งเป็นประโยชน์ร่วมกั
อ่านต่อ >13