
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) ออกประกาศใช้มาตรการห้ามบุคคลออกนอกเคหสถาน หรือเคอร์ฟิว ในพื้นที่จังหวัดตราด 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอคลองใหญ่ อำเภอบ่อไร่ อำเภอแหลมงอบ อำเภอเขาสมิง และอำเภอเมืองตราด กำหนดช่วงเวลา 19.00 น. ถึง 05.00 น. โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ประกาศดังกล่าวอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ.2457 มาตรา 11 (6) เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงป้องกันภัยคุกคามต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน โดยกำหนดให้ประชาชนที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ หรือฝ่ายปกครองในพื้นที่ก่อนออกนอกเคหสถาน นอกจากนี้ กปช.จต. ระบุว่าจะใช้มาตรการทางกฎหมายตามกฎอัยการศึกอย่างเคร่งครัด ครอบคลุมการควบคุมพื้นที่ การควบคุมบุคคล และการตรวจค้น เพื่อป้องกันการกระทำที่อาจก่อให้เกิดความไม่สงบหรือกระทบต่อความมั่นคงของประเทศผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประกาศเคอร์ฟิวครั้งนี้มีสาเหตุจากเหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 13 ธันวาคม 2568 เวลาประมาณ 21.00 น. เมื่อมีการใช้อาวุธยิงลูกระเบิด M79 จำนวน 3 นัด ใส่กองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด โดยการคำนวณวิถีกระสุนพบว่ายิงมาจากภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม กระสุนตกในพื้นที่โล่ง ทำให้กำลังพลปลอดภัยทั้งหมด
อ่านต่อ >26

#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ออกประกาศแจ้งประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้อพยพออกจากภูมิลำเนาเป็นการชั่วคราว หลังสถานการณ์ความตึงเครียดจากการปะทะระหว่างกองกำลังไทยและกัมพูชายังคงดำเนินอยู่ และมีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดน ประกาศระบุว่า จากสถานการณ์ปะทะที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2568 ทำให้พื้นที่หลายจุดมีความเสี่ยงต่ออันตราย ทั้งจากอาวุธหนักและการขยายวงของการสู้รบ ทางอำเภอจึงได้ประกาศพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตสาธารณภัย และสั่งการให้ประชาชนในตำบลเสาธงชัย ละลาย รุง ชำ ภูผาหมอก บึงมะลู และโนนสำราญ อพยพไปยังศูนย์อพยพ ศูนย์พักพิงชั่วคราว หรือสถานที่ปลอดภัยที่ทางราชการจัดเตรียมไว้ ทั้งนี้ การสั่งอพยพเป็นไปตามอำนาจตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 โดยยกเว้นเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงและผู้มีหน้าที่รักษาความปลอดภัยในพื้นที่ หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง จะมีความผิดตามกฎหมายที่กำหนดไว้ทางอำเภอย้ำว่า ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่ปลอดภัย และขอความร่วมมือประชาชนที่อพยพแล้ว งดเดินทางกลับเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด พร้อมขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยคำสั่งมีผลตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
อ่านต่อ >27

#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ภาคที่ 2 รายงานสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา วันที่ 14 ธันวาคม 2568 เวลา 09.00 น. ระบุว่า ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 13 ธันวาคม ต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้าวันนี้ สถานการณ์ในหลายพื้นที่ยังอยู่ในภาวะตึงเครียด และมีการปะทะกันอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืนฝ่ายกัมพูชาเพิ่มระดับการใช้กำลังอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งการสนับสนุนปืนใหญ่ การเคลื่อนกำลังยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 รวมถึงการตรวจพบอากาศยานไร้คนขับ (UAV) และโดรน FPV ในหลายพื้นที่ตามแนวชายแดน ส่งผลให้สถานการณ์ด้านความมั่นคงยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดฝ่ายไทยได้ดำเนินการตอบโต้เชิงรุกตามแผนปฏิบัติการทางทหาร โดยมุ่งเน้นการลดขีดความสามารถทางทหารของฝ่ายกัมพูชาในจุดสำคัญ เพื่อควบคุมสถานการณ์และรักษาความปลอดภัยของกำลังพลไทยเป็นหลัก ในพื้นที่ม้าเลื้อย วัดและตำบลมะเมเรีย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ตรวจพบการเคลื่อนไหวสนับสนุนกำลังของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งได้ใช้อาวุธปืน ปืนใหญ่ และ BM-21 ยิงเข้ามาในฝั่งไทย ฝ่ายไทยใช้อาวุธประจำกายยิงตอบโต้ และสามารถทำลายรถบรรทุกของฝ่ายกัมพูชาได้ขณะที่พื้นที่เขตสงขณา อำเภอกาบเชง จังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากโจมตีด้วยปืน ปืนใหญ่ และโดรน ทั้งแบบทิ้งระเบิดและ FPV รวมถึงการยิงสนับสนุนจาก BM-21 ฝ่ายไทยได้เสริมกำลังในพื้นที่และปฏิบัติการตามแผนที่กำหนดไว้ เพื่อรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยของกำลังพลส่วนพื้นที่ควาย อำเภอกาบเชง จังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธปืนโจมตีเข้ามา ฝ่ายไทยยิงตอบสนองสถานการณ์ และใช้อาวุธยิงลูกระเบิดอัตโนมัติ (AGL) โจมตีเป้าหมายทางทหารของฝ่ายกัมพูชา ส่งผลให้ฐานทัพฝ่ายตรงข้ามได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยฝ่ายไทยไม่พบความสูญเสีย และการรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ พื้นที่ปราสาทะเมร่อน อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายกัมพูชายังคงใช้อาวุธหนัก ทั้งปืนใหญ่และความพยายามยิง BM-21 เข้าสู่พื้นที่ฝ่ายไทย ฝ่ายไทยได้กระชับกำลังควบคุมพื้นที่ทั้งหมด และตอบสนองต่อสถานการณ์ตามความเหมาะสมกองทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่า จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และดำเนินการป้องกันความปลอดภัยของประชาชนอย่างเต็มขีดความสามารถ พร้อมขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานทางการ และเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง
อ่านต่อ >12

#ข่าวการเมือง #TNN ช่อง16
จากกรณีที่สังคมได้ให้ความสนใจและมีข้อสงสัยในประเด็นเรื่องการหยุดยิง หลังนายกรัฐมนตรีมาเลเซียโพสต์ข้อความระบุว่าไทยและกัมพูชาจะเริ่มกระบวนการหยุดยิงในวันที่ 13 ธ.ค.68 เวลา 22.00 น. นั้น พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยต่อกรณีดังกล่าวว่าในส่วนของกองทัพบก ไม่เคยกล่าวถึงหรือมีแนวการปฏิบัติในเรื่องนี้ เนื่องจากปัจจุบันกัมพูชายังคงใช้อาวุธหนัก จรวด BM-21, เครื่องยิงลูกระเบิด และโดรนพลีชีพ โจมตีต่อกำลังทหารไทยในพื้นที่ตลอดแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงของประเทศ ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนชาวไทยอย่างร้ายแรง โดย พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ติดตามสถานการณ์และมอบแนวทางการปฏิบัติเฉพาะส่วนอย่างใกล้ชิด ซึ่งปัจจุบันยืนยันว่ายังไม่ได้มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงในการปฏิบัติการของหน่วยในพื้นที่การรบแต่อย่างใด โดยยังคงสั่งการให้หน่วยทหารที่รับผิดชอบตลอดแนวชายแดน เดินหน้าปฏิบัติการตามแผนที่กำหนด พร้อมบูรณาการร่วมกับเหล่าทัพ และหน่วยงานอื่นๆ ในการปฏิบัติอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันผู้บัญชาการทหารบกได้กำชับให้กองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 เน้นย้ำกำลังพลเรื่องการปฏิบัติงานด้วยความปลอดภัย ดำเนินกลยุทธ์ด้วยความรอบคอบ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายหลักคือ การผลักดันและมุ่งทำลายขีดความสามารถทางการทหารของกัมพูชา ทั้งกำลังพลและยุทโธปกรณ์ รวมถึงองค์ประกอบสนับสนุนอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อฝ่ายไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม พร้อมยืนยันว่ากองทัพบกไทยโจมตีต่อเป้าหมายทางทหารที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยเพียงเท่านั้น และ การสถาปนาพื้นที่ เข้าควบคุมบริเวณที่เคยมีการรุกล้ำเขตอธิปไตยไทย และเสริมความมั่นคงให้มีความสมบูรณ์ เอื้อต่อการปฏิบัติการทางทหารต่อไปในอนาคต นอกจากนี้ผู้บัญชาการทหารบกได้สั่งการให้หน่วยขึ้นตรงกองทัพบก กำกับดูแลใส่ใจกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บและสูญเสียจากสถานการณ์การสู้รบ รวมถึงครอบครัวกำลังพลอย่างครอบคลุม ทั้งด้านการรักษาพยาบาล สิทธิและสวัสดิการ รวมทั้งการอำนวยความสะดวกครอบครัวในการเข้าเยี่ยมเยียนหรือประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอย่างเต็มที่และดีที่สุด ซึ่งในพิธีศพของกำลังพล ผู้บัญชาการทหารบกได้มอบหมายให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก ลงพื้นที่ร่วมประกอบพิธีสดุดีวีรชนอย่างสมเกียรติ พร้อมปลอบขวัญและเสริมสร้างกำลังใจให้กับครอบครัว ขอบคุณแนวหลังของทหารกล้าผู้เสียสละในการปฏิบัติ
อ่านต่อ >17

#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) ออกประกาศใช้มาตรการห้ามบุคคลออกนอกเคหสถาน หรือเคอร์ฟิว ในพื้นที่จังหวัดตราด 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอคลองใหญ่ อำเภอบ่อไร่ อำเภอแหลมงอบ อำเภอเขาสมิง และอำเภอเมืองตราด กำหนดช่วงเวลา 19.00 น. ถึง 05.00 น. โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ประกาศดังกล่าวอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ.2457 มาตรา 11 (6) เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงป้องกันภัยคุกคามต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน โดยกำหนดให้ประชาชนที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ หรือฝ่ายปกครองในพื้นที่ก่อนออกนอกเคหสถาน นอกจากนี้ กปช.จต. ระบุว่าจะใช้มาตรการทางกฎหมายตามกฎอัยการศึกอย่างเคร่งครัด ครอบคลุมการควบคุมพื้นที่ การควบคุมบุคคล และการตรวจค้น เพื่อป้องกันการกระทำที่อาจก่อให้เกิดความไม่สงบหรือกระทบต่อความมั่นคงของประเทศผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประกาศเคอร์ฟิวครั้งนี้มีสาเหตุจากเหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 13 ธันวาคม 2568 เวลาประมาณ 21.00 น. เมื่อมีการใช้อาวุธยิงลูกระเบิด M79 จำนวน 3 นัด ใส่กองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด โดยการคำนวณวิถีกระสุนพบว่ายิงมาจากภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม กระสุนตกในพื้นที่โล่ง ทำให้กำลังพลปลอดภัยทั้งหมด
อ่านต่อ >26

#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ออกประกาศแจ้งประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้อพยพออกจากภูมิลำเนาเป็นการชั่วคราว หลังสถานการณ์ความตึงเครียดจากการปะทะระหว่างกองกำลังไทยและกัมพูชายังคงดำเนินอยู่ และมีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดน ประกาศระบุว่า จากสถานการณ์ปะทะที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2568 ทำให้พื้นที่หลายจุดมีความเสี่ยงต่ออันตราย ทั้งจากอาวุธหนักและการขยายวงของการสู้รบ ทางอำเภอจึงได้ประกาศพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตสาธารณภัย และสั่งการให้ประชาชนในตำบลเสาธงชัย ละลาย รุง ชำ ภูผาหมอก บึงมะลู และโนนสำราญ อพยพไปยังศูนย์อพยพ ศูนย์พักพิงชั่วคราว หรือสถานที่ปลอดภัยที่ทางราชการจัดเตรียมไว้ ทั้งนี้ การสั่งอพยพเป็นไปตามอำนาจตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 โดยยกเว้นเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงและผู้มีหน้าที่รักษาความปลอดภัยในพื้นที่ หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง จะมีความผิดตามกฎหมายที่กำหนดไว้ทางอำเภอย้ำว่า ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่ปลอดภัย และขอความร่วมมือประชาชนที่อพยพแล้ว งดเดินทางกลับเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด พร้อมขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยคำสั่งมีผลตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
อ่านต่อ >27

#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ภาคที่ 2 รายงานสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา วันที่ 14 ธันวาคม 2568 เวลา 09.00 น. ระบุว่า ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 13 ธันวาคม ต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้าวันนี้ สถานการณ์ในหลายพื้นที่ยังอยู่ในภาวะตึงเครียด และมีการปะทะกันอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืนฝ่ายกัมพูชาเพิ่มระดับการใช้กำลังอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งการสนับสนุนปืนใหญ่ การเคลื่อนกำลังยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 รวมถึงการตรวจพบอากาศยานไร้คนขับ (UAV) และโดรน FPV ในหลายพื้นที่ตามแนวชายแดน ส่งผลให้สถานการณ์ด้านความมั่นคงยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดฝ่ายไทยได้ดำเนินการตอบโต้เชิงรุกตามแผนปฏิบัติการทางทหาร โดยมุ่งเน้นการลดขีดความสามารถทางทหารของฝ่ายกัมพูชาในจุดสำคัญ เพื่อควบคุมสถานการณ์และรักษาความปลอดภัยของกำลังพลไทยเป็นหลัก ในพื้นที่ม้าเลื้อย วัดและตำบลมะเมเรีย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ตรวจพบการเคลื่อนไหวสนับสนุนกำลังของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งได้ใช้อาวุธปืน ปืนใหญ่ และ BM-21 ยิงเข้ามาในฝั่งไทย ฝ่ายไทยใช้อาวุธประจำกายยิงตอบโต้ และสามารถทำลายรถบรรทุกของฝ่ายกัมพูชาได้ขณะที่พื้นที่เขตสงขณา อำเภอกาบเชง จังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากโจมตีด้วยปืน ปืนใหญ่ และโดรน ทั้งแบบทิ้งระเบิดและ FPV รวมถึงการยิงสนับสนุนจาก BM-21 ฝ่ายไทยได้เสริมกำลังในพื้นที่และปฏิบัติการตามแผนที่กำหนดไว้ เพื่อรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยของกำลังพลส่วนพื้นที่ควาย อำเภอกาบเชง จังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธปืนโจมตีเข้ามา ฝ่ายไทยยิงตอบสนองสถานการณ์ และใช้อาวุธยิงลูกระเบิดอัตโนมัติ (AGL) โจมตีเป้าหมายทางทหารของฝ่ายกัมพูชา ส่งผลให้ฐานทัพฝ่ายตรงข้ามได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยฝ่ายไทยไม่พบความสูญเสีย และการรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ พื้นที่ปราสาทะเมร่อน อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายกัมพูชายังคงใช้อาวุธหนัก ทั้งปืนใหญ่และความพยายามยิง BM-21 เข้าสู่พื้นที่ฝ่ายไทย ฝ่ายไทยได้กระชับกำลังควบคุมพื้นที่ทั้งหมด และตอบสนองต่อสถานการณ์ตามความเหมาะสมกองทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่า จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และดำเนินการป้องกันความปลอดภัยของประชาชนอย่างเต็มขีดความสามารถ พร้อมขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานทางการ และเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง
อ่านต่อ >12

#ข่าวการเมือง #TNN ช่อง16
จากกรณีที่สังคมได้ให้ความสนใจและมีข้อสงสัยในประเด็นเรื่องการหยุดยิง หลังนายกรัฐมนตรีมาเลเซียโพสต์ข้อความระบุว่าไทยและกัมพูชาจะเริ่มกระบวนการหยุดยิงในวันที่ 13 ธ.ค.68 เวลา 22.00 น. นั้น พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยต่อกรณีดังกล่าวว่าในส่วนของกองทัพบก ไม่เคยกล่าวถึงหรือมีแนวการปฏิบัติในเรื่องนี้ เนื่องจากปัจจุบันกัมพูชายังคงใช้อาวุธหนัก จรวด BM-21, เครื่องยิงลูกระเบิด และโดรนพลีชีพ โจมตีต่อกำลังทหารไทยในพื้นที่ตลอดแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงของประเทศ ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนชาวไทยอย่างร้ายแรง โดย พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ติดตามสถานการณ์และมอบแนวทางการปฏิบัติเฉพาะส่วนอย่างใกล้ชิด ซึ่งปัจจุบันยืนยันว่ายังไม่ได้มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงในการปฏิบัติการของหน่วยในพื้นที่การรบแต่อย่างใด โดยยังคงสั่งการให้หน่วยทหารที่รับผิดชอบตลอดแนวชายแดน เดินหน้าปฏิบัติการตามแผนที่กำหนด พร้อมบูรณาการร่วมกับเหล่าทัพ และหน่วยงานอื่นๆ ในการปฏิบัติอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันผู้บัญชาการทหารบกได้กำชับให้กองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 เน้นย้ำกำลังพลเรื่องการปฏิบัติงานด้วยความปลอดภัย ดำเนินกลยุทธ์ด้วยความรอบคอบ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายหลักคือ การผลักดันและมุ่งทำลายขีดความสามารถทางการทหารของกัมพูชา ทั้งกำลังพลและยุทโธปกรณ์ รวมถึงองค์ประกอบสนับสนุนอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อฝ่ายไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม พร้อมยืนยันว่ากองทัพบกไทยโจมตีต่อเป้าหมายทางทหารที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยเพียงเท่านั้น และ การสถาปนาพื้นที่ เข้าควบคุมบริเวณที่เคยมีการรุกล้ำเขตอธิปไตยไทย และเสริมความมั่นคงให้มีความสมบูรณ์ เอื้อต่อการปฏิบัติการทางทหารต่อไปในอนาคต นอกจากนี้ผู้บัญชาการทหารบกได้สั่งการให้หน่วยขึ้นตรงกองทัพบก กำกับดูแลใส่ใจกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บและสูญเสียจากสถานการณ์การสู้รบ รวมถึงครอบครัวกำลังพลอย่างครอบคลุม ทั้งด้านการรักษาพยาบาล สิทธิและสวัสดิการ รวมทั้งการอำนวยความสะดวกครอบครัวในการเข้าเยี่ยมเยียนหรือประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอย่างเต็มที่และดีที่สุด ซึ่งในพิธีศพของกำลังพล ผู้บัญชาการทหารบกได้มอบหมายให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก ลงพื้นที่ร่วมประกอบพิธีสดุดีวีรชนอย่างสมเกียรติ พร้อมปลอบขวัญและเสริมสร้างกำลังใจให้กับครอบครัว ขอบคุณแนวหลังของทหารกล้าผู้เสียสละในการปฏิบัติ
อ่านต่อ >17

#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) ออกประกาศใช้มาตรการห้ามบุคคลออกนอกเคหสถาน หรือเคอร์ฟิว ในพื้นที่จังหวัดตราด 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอคลองใหญ่ อำเภอบ่อไร่ อำเภอแหลมงอบ อำเภอเขาสมิง และอำเภอเมืองตราด กำหนดช่วงเวลา 19.00 น. ถึง 05.00 น. โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ประกาศดังกล่าวอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ.2457 มาตรา 11 (6) เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงป้องกันภัยคุกคามต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน โดยกำหนดให้ประชาชนที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ หรือฝ่ายปกครองในพื้นที่ก่อนออกนอกเคหสถาน นอกจากนี้ กปช.จต. ระบุว่าจะใช้มาตรการทางกฎหมายตามกฎอัยการศึกอย่างเคร่งครัด ครอบคลุมการควบคุมพื้นที่ การควบคุมบุคคล และการตรวจค้น เพื่อป้องกันการกระทำที่อาจก่อให้เกิดความไม่สงบหรือกระทบต่อความมั่นคงของประเทศผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประกาศเคอร์ฟิวครั้งนี้มีสาเหตุจากเหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 13 ธันวาคม 2568 เวลาประมาณ 21.00 น. เมื่อมีการใช้อาวุธยิงลูกระเบิด M79 จำนวน 3 นัด ใส่กองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด โดยการคำนวณวิถีกระสุนพบว่ายิงมาจากภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม กระสุนตกในพื้นที่โล่ง ทำให้กำลังพลปลอดภัยทั้งหมด
อ่านต่อ >26