
#ข่าวเศรษฐกิจ #TNN ช่อง16
นายสุนทร สุนทรชาติ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ร่วมเป็นเกียรติและกล่าวแสดงความยินดี ในพิธีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือเพิ่มช่องทางการเข้าถึงนวัตกรรมบริการสาธารณสุข ภายใต้นโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่ โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ณ ศูนย์นวัตกรรมด้านที่อยู่อาศัยและบริหารงานขาย (NHA INNOVATION CENTER) เคหะชุมชนห้วยขวาง ถนนประชาสงเคราะห์ เขตดินแดง รองปลัดฯ สุนทร กล่าวว่า ขอบคุณความร่วมมืออันดีที่เกิดขึ้นในวันนี้ ระหว่างสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และการเคหะแห่งชาติ ในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ภายใต้โครงการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงนวัตกรรมบริการสารณสุขสำหรับประชาชน ในโครงการที่พักอาศัยภายใต้การกำกับดูแลของการเคหะแห่งชาติ เพื่อสนับสนุนให้มีบริการสาธารณสุขเชิงรุกเพื่อดูแลประชาชนที่อยู่อาศัยในการเคหะแห่งชาติกรุงเทพมหานครได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ต่อการดูแลคุณภาพให้กับชาวกรุงเทพฯ และประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ ซึ่งมีประมาณ 10 ล้านคน รวมถึงในด้านสุขภาพ ที่ได้ขับเคลื่อนตาม “24 นโยบายสุขภาพดี” ครอบคลุมบริการสุขภาพทุก ๆ ด้าน ทั้งการรักษาพยาบาล การสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค และการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ ด้วยการจัดบริการที่ทำให้เกิดการเข้าถึงของประชาชน ในรูปแบบต่าง ๆ ผ่านเครือข่ายบริการทุกระดับ ตั้งแต่ระดับปฐมภูมิ ทุติยภูมิ และตติยภูมิ กระจายไปยังทุกพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะทำให้ชาว กทม. มีความสะดวกในการเข้าถึงบริการมากขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 30 บาทรักษาทุกที่ ในสถานพยาบาลระดับปฐมภูมิ ในการเข้ารับบริการสุขภาพตามสิทธิประโยชน์ สอดคล้องไปกับ 24 นโยบายสุขภาพดีของกรุงเทพมหานคร ท้ายนี้ ในฐานะหน่วยงานหลักในพื้นที่ กรุงเทพมหานครมีความยินดีอย่างยิ่งในการสนับสนุน และเชื่อมั่นว่าบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ที่เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อน 30 บาทรักษาทุกที่นี้ จะเป็นแบบอย่างการมีส่วนร่วมของภาครัฐ ให้เกิดการขยายความร่วมมือไปในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไปข่าวที่เกี่ยวข้อง- เจ็บป่วยเล็กน้อย 42 อาการ หาหมอออนไลน์ด้วยสิทธิ 30 บาทรักษาทุกที่- "ประกันสังคม" VS บัต
อ่านต่อ >39

#ข่าววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ยุคนี้เรียกได้ว่าเป็นยุคที่ "AI" กลายเป็นเรื่องใหม่ที่เราควรทำความรู้จักกันมากขึ้นครับ เพราะ AI เข้ามาอยู่ในชีวิตเราแทบทุกคน โดยเฉพาะคนทำงาน หรือนักเรียนนักศึกษา หากใช้ AI เป็นก็ถือว่าเป็นต่อเพื่อนๆ หลายคนพอสมควรเลยล่ะ และที่งาน Google Cloud Next 2025 เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา ทาง OPPO ก็ได้เปิดวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ที่สำคัญด้าน AI โดยร่วมมือกับ Google สำหรับการพัฒนา AI Agent หรือปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถดำเนินการหรือตัดสินใจแทนมนุษย์ได้โดยอัตโนมัติ
OPPO จับมือ Google พัฒนา Agentic AI
โดยทางผู้บริหาร OPPO กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายเป็นผู้นำด้าน AI และพัฒนาประสบการณ์การใช้งาน AI อย่างต่อเนื่องผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ เช่น Google Cloud เพื่อยกระดับการใช้งาน Agentic AI ให้กับลูกค้าของตนเอง
และในงาน Google Cloud Next 2025 ทางบริษัทได้มีการเปิดตัว AI Search ที่พัฒนาร่วมกับ Google Cloud ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาและใช้ข้อมูลเอกสารที่ซับซ้อนกว่าเดิมได้ง่ายๆ เพียงใช้ภาษาพูดทั่วไป รวมถึงเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่อย่าง AI Productivity ที่ใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน, AI Creativity ใช้ AI ในการสร้างสรรค์ผลงาน และ AI Imaging ที่ใช้ AI ยกระดับการถ่ายภาพให้สวยสมจริงยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ OPPO ยังเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ด้านความปลอดภัยที่มีชื่อว่า Private Computing Cloud (PCC) ที่ใช้เทคโนโลยี Confidential Computing จาก Google Cloud PCC ที่จะช่วยเข้ารหัสความปลอดภัยในทุกๆ การประมวลผลข้อมูล AI ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ช่วยให้การใช้งาน AI ของลูกค้าเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น พร้อมกับตั้งเป้าว่าภายในสิ้่นปี 2025 จะมีลูกค้าของบริษัททั่วโลกเกือบ 100 ล้านคนได้ใช้ AI ของ OPPO อีกด้วย
Photo Credit : OPPO
อ่านต่อ >21

#ข่าวยานยนต์
ด้วยราคาค่าเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้รถยนต์ไฟฟ้า EV 100% ได้รับความสนใจมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมาตราฐานส่งเสริมจากภาครัฐฯ และการแข่งขันด้านราคา ทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้า EV ในปัจจุบันปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ยิ่งกระตุ้นให้คนหันไปใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น ดังนั้นในบทความนี้เราขอแนะนำความรู้พื้นฐานสำหรับมือใหม่ที่กำลังสนใจรถยนต์ไฟฟ้า ว่าเราควรพิจารณาอะไรบ้าง รวมถึงสิ่งที่ควรรู้เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกใช้งานรถยนต์ EV คู่ใจสักคัน ดังนี้เลย
1. ทำความเข้าใจประเภทของรถยนต์ไฟฟ้า EV
ประเภทรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นที่นิยมในบ้านเราตอนนี้ มีอยู่ 3 ประเภทดังนี้
BEV (Battery Electric Vehicle): รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ 100% ไม่มีการปล่อยมลพิษโดยตรง ต้องชาร์จไฟฟ้าจากภายนอก
PHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicle): รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด มีทั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ สามารถชาร์จไฟฟ้าจากภายนอกได้ และวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ในระยะทางจำกัด
HEV (Hybrid Electric Vehicle): รถยนต์ไฮบริด มีทั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้า แต่แบตเตอรี่มีขนาดเล็กและชาร์จไฟจากการเบรกหรือเครื่องยนต์ ไม่สามารถชาร์จจากภายนอกได้
2. พิจารณาความต้องการและลักษณะการใช้งาน:
ระยะทางที่ใช้งานต่อวัน/สัปดาห์: เลือกรถที่มีระยะทางวิ่งต่อการชาร์จที่เพียงพอต่อการใช้งานของคุณ และอย่าลืมเผื่อระยะทางสำรองไว้ด้วย
เส้นทางการขับขี่ส่วนใหญ่: ถ้าอยู่ในเมือง ซึ่งมีสถานีชาร์จเยอะ ไม่ได้เดินทางไกลบ่อย ก็อาจใช้รถไฟฟ้า EV 100% ได้ หรือหากมีการเดินทางไกลบ่อย อาจมองเป็นรุ่นไฮบริดอาจจะสะดวกมากกว่า
จำนวนผู้โดยสารและสัมภาระ: เลือกรุ่นและขนาดรถที่ตอบโจทย์การใช้งาน
งบประมาณ: กำหนดงบประมาณทั้งในส่วนของการซื้อรถ และค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเครื่องชาร์จที่บ้าน (ถ้าจำเป็น)
3. ทำความเข้าใจเรื่องการชาร์จ:
ความเข้าใจในประเภทของเครื่องชาร์จ ก็เป็นสิ่งสำคัญครับ โดยหลักๆ แล้วจะมีระบบชาร์จ 2 ประเภท ดังนี้
AC Charger : เครื่องชาร์จแบบกระแสสลับ ความเร็วในการชาร์จขึ้นอยู่กับ On-board Charger ของรถและกำลังไฟของเครื่องชาร์จ มักใช้สำหรับชาร์จที่บ้านหรือที่ทำงาน ส่วนใหญ่จะช้ากว่าแบบ DC
DC Charger : เครื่องชาร์จแบบกระแสตรง มีความเร็วในการชาร์จสูงกว่า สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 80% ในเวลาไม่นาน มักพบตามสถานี
อ่านต่อ >19

#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
กทม. เผยคืบหน้าเหตุอาคาร สตง. ถล่ม พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยอดยืนยันล่าสุด 49 ราย เคลียร์ซากเหลือ 9 เมตรนายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (สปภ.) เปิดเผยความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่มหลังแผ่นดินไหว โดยระบุว่า ขณะนี้ซากอาคารในโซน A และ D มีความสูงเหลือ 9.78 เมตร ส่วนโซน B และ C สูงสุดอยู่ที่ 8.58 เมตรในวันที่ 21 เมษายน พบผู้เสียชีวิต 2 รายในโซน C และล่าสุดวันนี้พบเพิ่มอีก 2 รายในจุดเดียวกัน รวมยอดผู้เสียชีวิตที่สามารถยืนยันตัวตนได้แล้ว 49 ราย จากการพิสูจน์หลักฐานโดยสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ การขนย้ายซากอาคารยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวานนี้สามารถเคลื่อนย้ายได้ถึง 221 เที่ยว ช่วยให้พื้นที่ปฏิบัติงานเปิดกว้างมากขึ้น มีเครื่องจักรหนักปฏิบัติงานรวม 28 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานร่วมสนับสนุน คาดว่าจะสามารถเข้าถึงซากอาคารบริเวณชั้น 1 ได้ภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตที่สามารถพิสูจน์ตัวตนได้ 49 รายจากทั้งหมดที่กู้ร่างได้ 50 ราย โดยยืนยันตัวบุคคลได้ทั้งหมดแล้ว และยังมีการตรวจสอบชิ้นส่วนอวัยวะอีกกว่า 100 ชิ้นเพื่อยืนยันเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน คณะกรรมการที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งยังอยู่ระหว่างเก็บหลักฐานเพื่อหาสาเหตุของการถล่ม โดยมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงอุตสาหกรรม และกรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่งยังต้องรวบรวมข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนสรุปผล
อ่านต่อ >48

#ข่าวเศรษฐกิจ #TNN ช่อง16
นายสุนทร สุนทรชาติ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ร่วมเป็นเกียรติและกล่าวแสดงความยินดี ในพิธีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือเพิ่มช่องทางการเข้าถึงนวัตกรรมบริการสาธารณสุข ภายใต้นโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่ โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ณ ศูนย์นวัตกรรมด้านที่อยู่อาศัยและบริหารงานขาย (NHA INNOVATION CENTER) เคหะชุมชนห้วยขวาง ถนนประชาสงเคราะห์ เขตดินแดง รองปลัดฯ สุนทร กล่าวว่า ขอบคุณความร่วมมืออันดีที่เกิดขึ้นในวันนี้ ระหว่างสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และการเคหะแห่งชาติ ในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ภายใต้โครงการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงนวัตกรรมบริการสารณสุขสำหรับประชาชน ในโครงการที่พักอาศัยภายใต้การกำกับดูแลของการเคหะแห่งชาติ เพื่อสนับสนุนให้มีบริการสาธารณสุขเชิงรุกเพื่อดูแลประชาชนที่อยู่อาศัยในการเคหะแห่งชาติกรุงเทพมหานครได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ต่อการดูแลคุณภาพให้กับชาวกรุงเทพฯ และประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ ซึ่งมีประมาณ 10 ล้านคน รวมถึงในด้านสุขภาพ ที่ได้ขับเคลื่อนตาม “24 นโยบายสุขภาพดี” ครอบคลุมบริการสุขภาพทุก ๆ ด้าน ทั้งการรักษาพยาบาล การสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค และการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ ด้วยการจัดบริการที่ทำให้เกิดการเข้าถึงของประชาชน ในรูปแบบต่าง ๆ ผ่านเครือข่ายบริการทุกระดับ ตั้งแต่ระดับปฐมภูมิ ทุติยภูมิ และตติยภูมิ กระจายไปยังทุกพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะทำให้ชาว กทม. มีความสะดวกในการเข้าถึงบริการมากขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 30 บาทรักษาทุกที่ ในสถานพยาบาลระดับปฐมภูมิ ในการเข้ารับบริการสุขภาพตามสิทธิประโยชน์ สอดคล้องไปกับ 24 นโยบายสุขภาพดีของกรุงเทพมหานคร ท้ายนี้ ในฐานะหน่วยงานหลักในพื้นที่ กรุงเทพมหานครมีความยินดีอย่างยิ่งในการสนับสนุน และเชื่อมั่นว่าบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ที่เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อน 30 บาทรักษาทุกที่นี้ จะเป็นแบบอย่างการมีส่วนร่วมของภาครัฐ ให้เกิดการขยายความร่วมมือไปในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไปข่าวที่เกี่ยวข้อง- เจ็บป่วยเล็กน้อย 42 อาการ หาหมอออนไลน์ด้วยสิทธิ 30 บาทรักษาทุกที่- "ประกันสังคม" VS บัต
อ่านต่อ >39

#ข่าววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ยุคนี้เรียกได้ว่าเป็นยุคที่ "AI" กลายเป็นเรื่องใหม่ที่เราควรทำความรู้จักกันมากขึ้นครับ เพราะ AI เข้ามาอยู่ในชีวิตเราแทบทุกคน โดยเฉพาะคนทำงาน หรือนักเรียนนักศึกษา หากใช้ AI เป็นก็ถือว่าเป็นต่อเพื่อนๆ หลายคนพอสมควรเลยล่ะ และที่งาน Google Cloud Next 2025 เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา ทาง OPPO ก็ได้เปิดวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ที่สำคัญด้าน AI โดยร่วมมือกับ Google สำหรับการพัฒนา AI Agent หรือปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถดำเนินการหรือตัดสินใจแทนมนุษย์ได้โดยอัตโนมัติ
OPPO จับมือ Google พัฒนา Agentic AI
โดยทางผู้บริหาร OPPO กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายเป็นผู้นำด้าน AI และพัฒนาประสบการณ์การใช้งาน AI อย่างต่อเนื่องผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ เช่น Google Cloud เพื่อยกระดับการใช้งาน Agentic AI ให้กับลูกค้าของตนเอง
และในงาน Google Cloud Next 2025 ทางบริษัทได้มีการเปิดตัว AI Search ที่พัฒนาร่วมกับ Google Cloud ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาและใช้ข้อมูลเอกสารที่ซับซ้อนกว่าเดิมได้ง่ายๆ เพียงใช้ภาษาพูดทั่วไป รวมถึงเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่อย่าง AI Productivity ที่ใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน, AI Creativity ใช้ AI ในการสร้างสรรค์ผลงาน และ AI Imaging ที่ใช้ AI ยกระดับการถ่ายภาพให้สวยสมจริงยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ OPPO ยังเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ด้านความปลอดภัยที่มีชื่อว่า Private Computing Cloud (PCC) ที่ใช้เทคโนโลยี Confidential Computing จาก Google Cloud PCC ที่จะช่วยเข้ารหัสความปลอดภัยในทุกๆ การประมวลผลข้อมูล AI ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ช่วยให้การใช้งาน AI ของลูกค้าเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น พร้อมกับตั้งเป้าว่าภายในสิ้่นปี 2025 จะมีลูกค้าของบริษัททั่วโลกเกือบ 100 ล้านคนได้ใช้ AI ของ OPPO อีกด้วย
Photo Credit : OPPO
อ่านต่อ >21

#ข่าวยานยนต์
ด้วยราคาค่าเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้รถยนต์ไฟฟ้า EV 100% ได้รับความสนใจมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมาตราฐานส่งเสริมจากภาครัฐฯ และการแข่งขันด้านราคา ทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้า EV ในปัจจุบันปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ยิ่งกระตุ้นให้คนหันไปใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น ดังนั้นในบทความนี้เราขอแนะนำความรู้พื้นฐานสำหรับมือใหม่ที่กำลังสนใจรถยนต์ไฟฟ้า ว่าเราควรพิจารณาอะไรบ้าง รวมถึงสิ่งที่ควรรู้เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกใช้งานรถยนต์ EV คู่ใจสักคัน ดังนี้เลย
1. ทำความเข้าใจประเภทของรถยนต์ไฟฟ้า EV
ประเภทรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นที่นิยมในบ้านเราตอนนี้ มีอยู่ 3 ประเภทดังนี้
BEV (Battery Electric Vehicle): รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ 100% ไม่มีการปล่อยมลพิษโดยตรง ต้องชาร์จไฟฟ้าจากภายนอก
PHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicle): รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด มีทั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ สามารถชาร์จไฟฟ้าจากภายนอกได้ และวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ในระยะทางจำกัด
HEV (Hybrid Electric Vehicle): รถยนต์ไฮบริด มีทั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้า แต่แบตเตอรี่มีขนาดเล็กและชาร์จไฟจากการเบรกหรือเครื่องยนต์ ไม่สามารถชาร์จจากภายนอกได้
2. พิจารณาความต้องการและลักษณะการใช้งาน:
ระยะทางที่ใช้งานต่อวัน/สัปดาห์: เลือกรถที่มีระยะทางวิ่งต่อการชาร์จที่เพียงพอต่อการใช้งานของคุณ และอย่าลืมเผื่อระยะทางสำรองไว้ด้วย
เส้นทางการขับขี่ส่วนใหญ่: ถ้าอยู่ในเมือง ซึ่งมีสถานีชาร์จเยอะ ไม่ได้เดินทางไกลบ่อย ก็อาจใช้รถไฟฟ้า EV 100% ได้ หรือหากมีการเดินทางไกลบ่อย อาจมองเป็นรุ่นไฮบริดอาจจะสะดวกมากกว่า
จำนวนผู้โดยสารและสัมภาระ: เลือกรุ่นและขนาดรถที่ตอบโจทย์การใช้งาน
งบประมาณ: กำหนดงบประมาณทั้งในส่วนของการซื้อรถ และค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเครื่องชาร์จที่บ้าน (ถ้าจำเป็น)
3. ทำความเข้าใจเรื่องการชาร์จ:
ความเข้าใจในประเภทของเครื่องชาร์จ ก็เป็นสิ่งสำคัญครับ โดยหลักๆ แล้วจะมีระบบชาร์จ 2 ประเภท ดังนี้
AC Charger : เครื่องชาร์จแบบกระแสสลับ ความเร็วในการชาร์จขึ้นอยู่กับ On-board Charger ของรถและกำลังไฟของเครื่องชาร์จ มักใช้สำหรับชาร์จที่บ้านหรือที่ทำงาน ส่วนใหญ่จะช้ากว่าแบบ DC
DC Charger : เครื่องชาร์จแบบกระแสตรง มีความเร็วในการชาร์จสูงกว่า สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 80% ในเวลาไม่นาน มักพบตามสถานี
อ่านต่อ >19

#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
กทม. เผยคืบหน้าเหตุอาคาร สตง. ถล่ม พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยอดยืนยันล่าสุด 49 ราย เคลียร์ซากเหลือ 9 เมตรนายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (สปภ.) เปิดเผยความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่มหลังแผ่นดินไหว โดยระบุว่า ขณะนี้ซากอาคารในโซน A และ D มีความสูงเหลือ 9.78 เมตร ส่วนโซน B และ C สูงสุดอยู่ที่ 8.58 เมตรในวันที่ 21 เมษายน พบผู้เสียชีวิต 2 รายในโซน C และล่าสุดวันนี้พบเพิ่มอีก 2 รายในจุดเดียวกัน รวมยอดผู้เสียชีวิตที่สามารถยืนยันตัวตนได้แล้ว 49 ราย จากการพิสูจน์หลักฐานโดยสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ การขนย้ายซากอาคารยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวานนี้สามารถเคลื่อนย้ายได้ถึง 221 เที่ยว ช่วยให้พื้นที่ปฏิบัติงานเปิดกว้างมากขึ้น มีเครื่องจักรหนักปฏิบัติงานรวม 28 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานร่วมสนับสนุน คาดว่าจะสามารถเข้าถึงซากอาคารบริเวณชั้น 1 ได้ภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตที่สามารถพิสูจน์ตัวตนได้ 49 รายจากทั้งหมดที่กู้ร่างได้ 50 ราย โดยยืนยันตัวบุคคลได้ทั้งหมดแล้ว และยังมีการตรวจสอบชิ้นส่วนอวัยวะอีกกว่า 100 ชิ้นเพื่อยืนยันเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน คณะกรรมการที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งยังอยู่ระหว่างเก็บหลักฐานเพื่อหาสาเหตุของการถล่ม โดยมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงอุตสาหกรรม และกรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่งยังต้องรวบรวมข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนสรุปผล
อ่านต่อ >48

#ข่าวเศรษฐกิจ #TNN ช่อง16
นายสุนทร สุนทรชาติ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ร่วมเป็นเกียรติและกล่าวแสดงความยินดี ในพิธีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือเพิ่มช่องทางการเข้าถึงนวัตกรรมบริการสาธารณสุข ภายใต้นโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่ โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ณ ศูนย์นวัตกรรมด้านที่อยู่อาศัยและบริหารงานขาย (NHA INNOVATION CENTER) เคหะชุมชนห้วยขวาง ถนนประชาสงเคราะห์ เขตดินแดง รองปลัดฯ สุนทร กล่าวว่า ขอบคุณความร่วมมืออันดีที่เกิดขึ้นในวันนี้ ระหว่างสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และการเคหะแห่งชาติ ในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ภายใต้โครงการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงนวัตกรรมบริการสารณสุขสำหรับประชาชน ในโครงการที่พักอาศัยภายใต้การกำกับดูแลของการเคหะแห่งชาติ เพื่อสนับสนุนให้มีบริการสาธารณสุขเชิงรุกเพื่อดูแลประชาชนที่อยู่อาศัยในการเคหะแห่งชาติกรุงเทพมหานครได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ต่อการดูแลคุณภาพให้กับชาวกรุงเทพฯ และประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ ซึ่งมีประมาณ 10 ล้านคน รวมถึงในด้านสุขภาพ ที่ได้ขับเคลื่อนตาม “24 นโยบายสุขภาพดี” ครอบคลุมบริการสุขภาพทุก ๆ ด้าน ทั้งการรักษาพยาบาล การสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค และการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ ด้วยการจัดบริการที่ทำให้เกิดการเข้าถึงของประชาชน ในรูปแบบต่าง ๆ ผ่านเครือข่ายบริการทุกระดับ ตั้งแต่ระดับปฐมภูมิ ทุติยภูมิ และตติยภูมิ กระจายไปยังทุกพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะทำให้ชาว กทม. มีความสะดวกในการเข้าถึงบริการมากขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 30 บาทรักษาทุกที่ ในสถานพยาบาลระดับปฐมภูมิ ในการเข้ารับบริการสุขภาพตามสิทธิประโยชน์ สอดคล้องไปกับ 24 นโยบายสุขภาพดีของกรุงเทพมหานคร ท้ายนี้ ในฐานะหน่วยงานหลักในพื้นที่ กรุงเทพมหานครมีความยินดีอย่างยิ่งในการสนับสนุน และเชื่อมั่นว่าบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ที่เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อน 30 บาทรักษาทุกที่นี้ จะเป็นแบบอย่างการมีส่วนร่วมของภาครัฐ ให้เกิดการขยายความร่วมมือไปในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไปข่าวที่เกี่ยวข้อง- เจ็บป่วยเล็กน้อย 42 อาการ หาหมอออนไลน์ด้วยสิทธิ 30 บาทรักษาทุกที่- "ประกันสังคม" VS บัต
อ่านต่อ >39