
#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ภาคที่ 2 รายงานสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา วันที่ 14 ธันวาคม 2568 เวลา 09.00 น. ระบุว่า ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 13 ธันวาคม ต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้าวันนี้ สถานการณ์ในหลายพื้นที่ยังอยู่ในภาวะตึงเครียด และมีการปะทะกันอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืนฝ่ายกัมพูชาเพิ่มระดับการใช้กำลังอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งการสนับสนุนปืนใหญ่ การเคลื่อนกำลังยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 รวมถึงการตรวจพบอากาศยานไร้คนขับ (UAV) และโดรน FPV ในหลายพื้นที่ตามแนวชายแดน ส่งผลให้สถานการณ์ด้านความมั่นคงยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดฝ่ายไทยได้ดำเนินการตอบโต้เชิงรุกตามแผนปฏิบัติการทางทหาร โดยมุ่งเน้นการลดขีดความสามารถทางทหารของฝ่ายกัมพูชาในจุดสำคัญ เพื่อควบคุมสถานการณ์และรักษาความปลอดภัยของกำลังพลไทยเป็นหลัก ในพื้นที่ม้าเลื้อย วัดและตำบลมะเมเรีย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ตรวจพบการเคลื่อนไหวสนับสนุนกำลังของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งได้ใช้อาวุธปืน ปืนใหญ่ และ BM-21 ยิงเข้ามาในฝั่งไทย ฝ่ายไทยใช้อาวุธประจำกายยิงตอบโต้ และสามารถทำลายรถบรรทุกของฝ่ายกัมพูชาได้ขณะที่พื้นที่เขตสงขณา อำเภอกาบเชง จังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากโจมตีด้วยปืน ปืนใหญ่ และโดรน ทั้งแบบทิ้งระเบิดและ FPV รวมถึงการยิงสนับสนุนจาก BM-21 ฝ่ายไทยได้เสริมกำลังในพื้นที่และปฏิบัติการตามแผนที่กำหนดไว้ เพื่อรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยของกำลังพลส่วนพื้นที่ควาย อำเภอกาบเชง จังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธปืนโจมตีเข้ามา ฝ่ายไทยยิงตอบสนองสถานการณ์ และใช้อาวุธยิงลูกระเบิดอัตโนมัติ (AGL) โจมตีเป้าหมายทางทหารของฝ่ายกัมพูชา ส่งผลให้ฐานทัพฝ่ายตรงข้ามได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยฝ่ายไทยไม่พบความสูญเสีย และการรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ พื้นที่ปราสาทะเมร่อน อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายกัมพูชายังคงใช้อาวุธหนัก ทั้งปืนใหญ่และความพยายามยิง BM-21 เข้าสู่พื้นที่ฝ่ายไทย ฝ่ายไทยได้กระชับกำลังควบคุมพื้นที่ทั้งหมด และตอบสนองต่อสถานการณ์ตามความเหมาะสมกองทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่า จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และดำเนินการป้องกันความปลอดภัยของประชาชนอย่างเต็มขีดความสามารถ พร้อมขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานทางการ และเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง
อ่านต่อ >20

#ข่าวประชาสัมพันธ์ #TNN ช่อง16
วันนี้ เวลา 12.30 น. พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยว่า ได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 เกี่ยวกับสถานการณ์การสู้รบว่า ปัจจุบันสามารถผลักดันทหารกัมพูชาออกจากบริเวณพื้นที่ “ตัวปราสาทตาควาย” และเข้าควบคุมพื้นที่ได้แล้ว ขณะที่ที่หมายสำคัญโดยรอบ โดยเฉพาะเนิน 350 และพื้นที่สูงข่มในบริเวณใกล้เคียง ยังคงอยู่ระหว่างการปฏิบัติการเข้าควบคุมพื้นที่ตามแผนดำเนินกลยุทธ์ โฆษกกองทัพบกยังกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ฝ่ายกัมพูชาได้ตอบโต้ด้วยการใช้อาวุธทุกชนิดระดมโจมตีพื้นที่ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งทำลายกำลังฝ่ายไทยและพยายามช่วงชิงพื้นที่คืน ทำให้สถานการณ์ยังไม่อาจวางใจได้ และยังต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูงในการปฏิบัติการ ทั้งนี้ พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบกได้ติดตามการปฏิบัติการสำคัญในครั้งนี้อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้หน่วยที่เกี่ยวข้องปฏิบัติการด้วยความรอบคอบ เพื่อป้องกันลดการบาดเจ็บและความสูญเสียของกำลังพลให้ได้อย่างดีที่สุด
อ่านต่อ >16

#ข่าวการเมือง #TNN ช่อง16
กกต. เคาะวันเลือกตั้ง 8 ก.พ.2569ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเห็นชอบร่างแผนการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ตามที่สำนักงาน กกต. เสนอ โดยกำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 เป็นวันเลือกตั้งทั่วไป ภายหลังพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2568 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2568ส่วนไทม์ไลน์อื่นๆ ได้แก่กำหนดวันเลือกตั้งใน-นอกเขตเลือกตั้งกกต. กำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2569 เป็นวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า ทั้งในและนอกเขตเลือกตั้ง รวมถึงการลงคะแนน ณ ที่เลือกตั้งสำหรับผู้พิการ ผู้ทุพพลภาพ และผู้สูงอายุ กำหนดวันรับสมัคร สส.แบบแบ่งเขต-บัญชีรายชื่อ/แจ้งรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ- วันที่ 27-31 ธันวาคม 2568 เป็นวันรับสมัคร สส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง- วันที่ 28-31 ธันวาคม 2568 เป็นวันรับสมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อ (เฉพาะพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัคร สส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งแล้วเท่านั้น) และพรรคการเมือง แจ้งรายชื่อบุคคลที่จะแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี กำหนดขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า (ในเขตเลือกตั้ง นอกเขตเลือกตั้ง และนอกราชอาณาจักร)- ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2568 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2569- กำหนดระยะเวลาแจ้งเหตุไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ระหว่างวันที่ 1-7 กุมภาพันธ์ 2569 และ 9-15 กุมภาพันธ์ 2569
อ่านต่อ >15

#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ออกประกาศแจ้งประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้อพยพออกจากภูมิลำเนาเป็นการชั่วคราว หลังสถานการณ์ความตึงเครียดจากการปะทะระหว่างกองกำลังไทยและกัมพูชายังคงดำเนินอยู่ และมีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดน ประกาศระบุว่า จากสถานการณ์ปะทะที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2568 ทำให้พื้นที่หลายจุดมีความเสี่ยงต่ออันตราย ทั้งจากอาวุธหนักและการขยายวงของการสู้รบ ทางอำเภอจึงได้ประกาศพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตสาธารณภัย และสั่งการให้ประชาชนในตำบลเสาธงชัย ละลาย รุง ชำ ภูผาหมอก บึงมะลู และโนนสำราญ อพยพไปยังศูนย์อพยพ ศูนย์พักพิงชั่วคราว หรือสถานที่ปลอดภัยที่ทางราชการจัดเตรียมไว้ ทั้งนี้ การสั่งอพยพเป็นไปตามอำนาจตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 โดยยกเว้นเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงและผู้มีหน้าที่รักษาความปลอดภัยในพื้นที่ หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง จะมีความผิดตามกฎหมายที่กำหนดไว้ทางอำเภอย้ำว่า ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่ปลอดภัย และขอความร่วมมือประชาชนที่อพยพแล้ว งดเดินทางกลับเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด พร้อมขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยคำสั่งมีผลตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
อ่านต่อ >50

#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ภาคที่ 2 รายงานสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา วันที่ 14 ธันวาคม 2568 เวลา 09.00 น. ระบุว่า ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 13 ธันวาคม ต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้าวันนี้ สถานการณ์ในหลายพื้นที่ยังอยู่ในภาวะตึงเครียด และมีการปะทะกันอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืนฝ่ายกัมพูชาเพิ่มระดับการใช้กำลังอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งการสนับสนุนปืนใหญ่ การเคลื่อนกำลังยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 รวมถึงการตรวจพบอากาศยานไร้คนขับ (UAV) และโดรน FPV ในหลายพื้นที่ตามแนวชายแดน ส่งผลให้สถานการณ์ด้านความมั่นคงยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดฝ่ายไทยได้ดำเนินการตอบโต้เชิงรุกตามแผนปฏิบัติการทางทหาร โดยมุ่งเน้นการลดขีดความสามารถทางทหารของฝ่ายกัมพูชาในจุดสำคัญ เพื่อควบคุมสถานการณ์และรักษาความปลอดภัยของกำลังพลไทยเป็นหลัก ในพื้นที่ม้าเลื้อย วัดและตำบลมะเมเรีย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ตรวจพบการเคลื่อนไหวสนับสนุนกำลังของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งได้ใช้อาวุธปืน ปืนใหญ่ และ BM-21 ยิงเข้ามาในฝั่งไทย ฝ่ายไทยใช้อาวุธประจำกายยิงตอบโต้ และสามารถทำลายรถบรรทุกของฝ่ายกัมพูชาได้ขณะที่พื้นที่เขตสงขณา อำเภอกาบเชง จังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากโจมตีด้วยปืน ปืนใหญ่ และโดรน ทั้งแบบทิ้งระเบิดและ FPV รวมถึงการยิงสนับสนุนจาก BM-21 ฝ่ายไทยได้เสริมกำลังในพื้นที่และปฏิบัติการตามแผนที่กำหนดไว้ เพื่อรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยของกำลังพลส่วนพื้นที่ควาย อำเภอกาบเชง จังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธปืนโจมตีเข้ามา ฝ่ายไทยยิงตอบสนองสถานการณ์ และใช้อาวุธยิงลูกระเบิดอัตโนมัติ (AGL) โจมตีเป้าหมายทางทหารของฝ่ายกัมพูชา ส่งผลให้ฐานทัพฝ่ายตรงข้ามได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยฝ่ายไทยไม่พบความสูญเสีย และการรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ พื้นที่ปราสาทะเมร่อน อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายกัมพูชายังคงใช้อาวุธหนัก ทั้งปืนใหญ่และความพยายามยิง BM-21 เข้าสู่พื้นที่ฝ่ายไทย ฝ่ายไทยได้กระชับกำลังควบคุมพื้นที่ทั้งหมด และตอบสนองต่อสถานการณ์ตามความเหมาะสมกองทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่า จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และดำเนินการป้องกันความปลอดภัยของประชาชนอย่างเต็มขีดความสามารถ พร้อมขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานทางการ และเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง
อ่านต่อ >20

#ข่าวประชาสัมพันธ์ #TNN ช่อง16
วันนี้ เวลา 12.30 น. พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยว่า ได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 เกี่ยวกับสถานการณ์การสู้รบว่า ปัจจุบันสามารถผลักดันทหารกัมพูชาออกจากบริเวณพื้นที่ “ตัวปราสาทตาควาย” และเข้าควบคุมพื้นที่ได้แล้ว ขณะที่ที่หมายสำคัญโดยรอบ โดยเฉพาะเนิน 350 และพื้นที่สูงข่มในบริเวณใกล้เคียง ยังคงอยู่ระหว่างการปฏิบัติการเข้าควบคุมพื้นที่ตามแผนดำเนินกลยุทธ์ โฆษกกองทัพบกยังกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ฝ่ายกัมพูชาได้ตอบโต้ด้วยการใช้อาวุธทุกชนิดระดมโจมตีพื้นที่ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งทำลายกำลังฝ่ายไทยและพยายามช่วงชิงพื้นที่คืน ทำให้สถานการณ์ยังไม่อาจวางใจได้ และยังต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูงในการปฏิบัติการ ทั้งนี้ พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบกได้ติดตามการปฏิบัติการสำคัญในครั้งนี้อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้หน่วยที่เกี่ยวข้องปฏิบัติการด้วยความรอบคอบ เพื่อป้องกันลดการบาดเจ็บและความสูญเสียของกำลังพลให้ได้อย่างดีที่สุด
อ่านต่อ >16

#ข่าวการเมือง #TNN ช่อง16
กกต. เคาะวันเลือกตั้ง 8 ก.พ.2569ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเห็นชอบร่างแผนการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ตามที่สำนักงาน กกต. เสนอ โดยกำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 เป็นวันเลือกตั้งทั่วไป ภายหลังพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2568 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2568ส่วนไทม์ไลน์อื่นๆ ได้แก่กำหนดวันเลือกตั้งใน-นอกเขตเลือกตั้งกกต. กำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2569 เป็นวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า ทั้งในและนอกเขตเลือกตั้ง รวมถึงการลงคะแนน ณ ที่เลือกตั้งสำหรับผู้พิการ ผู้ทุพพลภาพ และผู้สูงอายุ กำหนดวันรับสมัคร สส.แบบแบ่งเขต-บัญชีรายชื่อ/แจ้งรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ- วันที่ 27-31 ธันวาคม 2568 เป็นวันรับสมัคร สส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง- วันที่ 28-31 ธันวาคม 2568 เป็นวันรับสมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อ (เฉพาะพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัคร สส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งแล้วเท่านั้น) และพรรคการเมือง แจ้งรายชื่อบุคคลที่จะแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี กำหนดขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า (ในเขตเลือกตั้ง นอกเขตเลือกตั้ง และนอกราชอาณาจักร)- ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2568 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2569- กำหนดระยะเวลาแจ้งเหตุไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ระหว่างวันที่ 1-7 กุมภาพันธ์ 2569 และ 9-15 กุมภาพันธ์ 2569
อ่านต่อ >15

#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ออกประกาศแจ้งประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้อพยพออกจากภูมิลำเนาเป็นการชั่วคราว หลังสถานการณ์ความตึงเครียดจากการปะทะระหว่างกองกำลังไทยและกัมพูชายังคงดำเนินอยู่ และมีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดน ประกาศระบุว่า จากสถานการณ์ปะทะที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2568 ทำให้พื้นที่หลายจุดมีความเสี่ยงต่ออันตราย ทั้งจากอาวุธหนักและการขยายวงของการสู้รบ ทางอำเภอจึงได้ประกาศพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตสาธารณภัย และสั่งการให้ประชาชนในตำบลเสาธงชัย ละลาย รุง ชำ ภูผาหมอก บึงมะลู และโนนสำราญ อพยพไปยังศูนย์อพยพ ศูนย์พักพิงชั่วคราว หรือสถานที่ปลอดภัยที่ทางราชการจัดเตรียมไว้ ทั้งนี้ การสั่งอพยพเป็นไปตามอำนาจตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 โดยยกเว้นเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงและผู้มีหน้าที่รักษาความปลอดภัยในพื้นที่ หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง จะมีความผิดตามกฎหมายที่กำหนดไว้ทางอำเภอย้ำว่า ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่ปลอดภัย และขอความร่วมมือประชาชนที่อพยพแล้ว งดเดินทางกลับเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด พร้อมขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยคำสั่งมีผลตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
อ่านต่อ >50

#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ภาคที่ 2 รายงานสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา วันที่ 14 ธันวาคม 2568 เวลา 09.00 น. ระบุว่า ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 13 ธันวาคม ต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้าวันนี้ สถานการณ์ในหลายพื้นที่ยังอยู่ในภาวะตึงเครียด และมีการปะทะกันอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืนฝ่ายกัมพูชาเพิ่มระดับการใช้กำลังอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งการสนับสนุนปืนใหญ่ การเคลื่อนกำลังยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 รวมถึงการตรวจพบอากาศยานไร้คนขับ (UAV) และโดรน FPV ในหลายพื้นที่ตามแนวชายแดน ส่งผลให้สถานการณ์ด้านความมั่นคงยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดฝ่ายไทยได้ดำเนินการตอบโต้เชิงรุกตามแผนปฏิบัติการทางทหาร โดยมุ่งเน้นการลดขีดความสามารถทางทหารของฝ่ายกัมพูชาในจุดสำคัญ เพื่อควบคุมสถานการณ์และรักษาความปลอดภัยของกำลังพลไทยเป็นหลัก ในพื้นที่ม้าเลื้อย วัดและตำบลมะเมเรีย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ตรวจพบการเคลื่อนไหวสนับสนุนกำลังของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งได้ใช้อาวุธปืน ปืนใหญ่ และ BM-21 ยิงเข้ามาในฝั่งไทย ฝ่ายไทยใช้อาวุธประจำกายยิงตอบโต้ และสามารถทำลายรถบรรทุกของฝ่ายกัมพูชาได้ขณะที่พื้นที่เขตสงขณา อำเภอกาบเชง จังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากโจมตีด้วยปืน ปืนใหญ่ และโดรน ทั้งแบบทิ้งระเบิดและ FPV รวมถึงการยิงสนับสนุนจาก BM-21 ฝ่ายไทยได้เสริมกำลังในพื้นที่และปฏิบัติการตามแผนที่กำหนดไว้ เพื่อรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยของกำลังพลส่วนพื้นที่ควาย อำเภอกาบเชง จังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธปืนโจมตีเข้ามา ฝ่ายไทยยิงตอบสนองสถานการณ์ และใช้อาวุธยิงลูกระเบิดอัตโนมัติ (AGL) โจมตีเป้าหมายทางทหารของฝ่ายกัมพูชา ส่งผลให้ฐานทัพฝ่ายตรงข้ามได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยฝ่ายไทยไม่พบความสูญเสีย และการรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ พื้นที่ปราสาทะเมร่อน อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายกัมพูชายังคงใช้อาวุธหนัก ทั้งปืนใหญ่และความพยายามยิง BM-21 เข้าสู่พื้นที่ฝ่ายไทย ฝ่ายไทยได้กระชับกำลังควบคุมพื้นที่ทั้งหมด และตอบสนองต่อสถานการณ์ตามความเหมาะสมกองทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่า จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และดำเนินการป้องกันความปลอดภัยของประชาชนอย่างเต็มขีดความสามารถ พร้อมขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานทางการ และเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง
อ่านต่อ >20