รีเซต

ส่องรถใหม่ Thailand International Motor Expo 2025

ส่องรถใหม่ Thailand International Motor Expo 2025
FanaticWriter
22 พฤศจิกายน 2568 ( 13:40 )
1

อีกไม่กี่วันก็จะถึงงาน The 42nd Thailand International Motor Expo 2025 หรือ มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 ซึ่งจะเตรียมจัดงานใหญ่ปิดท้ายปลายปีอีกครั้งที่ IMPACT เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2568 งานนี้แน่นอนว่าจะมีรถยนต์มากมาายหลายประเภทเปิดตัวกันในงานนี้ วันนี้เราจะมาส่องรถใหม่ที่น่าสนใจซึ่งจะมาเปิดตัวกันที่งานนี้กันครับ

 

 

Avatr 07

Avatr 07 เป็นรถยนต์ Urban Luxury SUV ที่โดดเด่นด้วยการผสมผสานดีไซน์แห่งอนาคตและความหรูหราล้ำสมัย เน้นเทคโนโลยีและสมรรถนะขั้นสูง โดยมาพร้อมกับทางเลือกของระบบขับเคลื่อน Kunlun REEV Powertrain (Extended-Range Electric Vehicle) และแพลตฟอร์ม 800V SiC EV ที่รองรับการชาร์จเร็ว 4.5C (ชาร์จ 10 นาทีวิ่งได้ 350 กม.) ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบให้เป็น "Urban Luxury First-Class Cabin" ด้วยเบาะหนัง NAPPA และการตกแต่งที่นุ่มนวล พร้อมระบบความบันเทิงล้ำสมัยแบบ Five-Screen Integration รวมถึงหน้าจอพาโนรามา 35.4 นิ้ว และระบบเสียงระดับพรีเมียม Meridian™ High-end Sound System 25 ลำโพง (7.1.4 แชนเนล) นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ HUAWEI ADS 4 ที่ใช้เซนเซอร์ 27 ตัว (รวม 1 Lidar) ทำให้ Avatr 07 เป็น SUV ที่เน้นทั้งความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และเทคโนโลยีอัจฉริยะสำหรับการขับขี่ในเมือง

 

 

Chery Tiggo 8 CSH PHEV

Chery Tiggo 8 CSH PHEV เป็นรถยนต์ Plug-in Hybrid SUV ขนาด 7 ที่นั่ง ที่เน้นสมรรถนะที่ทรงพลังควบคู่ไปกับประสิทธิภาพการประหยัดพลังงาน ด้วยขุมพลังที่ผสานระหว่างเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ กับมอเตอร์ไฟฟ้า (มีทั้งรุ่น 2WD และ 4WD) ทำให้มีกำลังสูงสุดรวมถึง 501 แรงม้า และแรงบิด 735 นิวตันเมตร ในรุ่นท็อป สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ใน 6.8 วินาที พร้อมแบตเตอรี่ 18.3kWh ที่วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ไกลถึง 95 กม. และมีระยะทางวิ่งรวมน้ำมันกับไฟฟ้าสูงสุด 1,200 กม. ขณะที่ภายในห้องโดยสารเน้นความหรูหราด้วยเบาะ 3 แถว และติดตั้งเทคโนโลยีล้ำสมัย อาทิ ชิป Snapdragon 8155, หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่, ลำโพง 12 ตำแหน่ง, และระบบความปลอดภัย ADAS ครบครัน พร้อมถุงลมนิรภัย 10 ตำแหน่ง

 

 

Geely EX2

Geely EX2 คือรถยนต์ไฟฟ้า 100% ในกลุ่ม City Car ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในเมืองโดยเฉพาะ ด้วยมิติตัวถังที่คล่องตัว แต่มีระยะฐานล้อที่ยาวถึง 2,650 มม. ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 116 แรงม้า และแรงบิด 150 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหลัง (Rear-Wheel Drive) มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion (LFP) ความจุ 39.4kWh ที่ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 395 กม. (มาตรฐาน NEDC) รองรับการชาร์จเร็ว DC 30-80% ภายใน 25 นาที ขณะที่ภายในมาพร้อมมาตรวัด Full Digital LCD 8 นิ้ว, เบาะนั่งหุ้มหนัง, และมีรุ่นย่อย MAX ที่เสริมด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่ ADAS เช่น Adaptive Cruise Control (ACC) และกล้องมองภาพรอบคัน 540องศา ทำให้เป็นรถ EV ที่เน้นความประหยัด คล่องตัว และเทคโนโลยีที่คุ้มค่าในระดับราคาที่เข้าถึงง่าย

 

 

GWM WEY G9

GWM WEY G9 คือรถยนต์ MPV (Multi-Purpose Vehicle) พลังงานใหม่ระดับลักชัวรีรุ่นแรกของแบรนด์ GWM Wey ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับไฮเอนด์ที่ Great Wall Motor (GWM) สร้างขึ้นเพื่อท้าทายตลาดรถยนต์ SUV หรูหรา โดย G9 ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางทางธุรกิจหรือการใช้ชีวิตครอบครัว ตัวรถขับเคลื่อนด้วยระบบ Hi4 Technology ซึ่งเป็นเทคโนโลยีไฮบริดที่ได้รับรางวัลระดับนานาชาติ ทำให้มั่นใจได้ถึงสมรรถนะที่มั่นคง นุ่มนวล และประหยัดพลังงานโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จไฟระหว่างทาง ภายในห้องโดยสารเน้นความสะดวกสบายระดับสูงด้วยเก้าอี้แบบ Zero Gravity และระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ Coffee OS 3.3 ซึ่งผสานเทคโนโลยี ความหรูหรา และความปลอดภัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์ เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางระดับพรีเมียมที่เข้าถึงได้

 

 

Honda Step WGN e:HEV

Honda Step WGN e:HEV ใหม่ เป็นรถยนต์อเนกประสงค์สำหรับครอบครัว (MUV) ขนาด 7 ที่นั่ง ที่ฮอนด้าตัดสินใจนำเข้าและจำหน่ายจากประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ โดยชูจุดเด่นด้าน 'Japanese Quality' และการรับประกันบริการหลังการขายจากเครือข่ายฮอนด้าทั่วประเทศ ตัวรถยังคงเอกลักษณ์ดีไซน์แบบ Life Expander BOX ที่ให้ห้องโดยสารโปร่งโล่งและพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV ที่ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ซึ่งมอบทั้งความสนุกในการขับขี่ สมรรถนะที่ทรงพลัง และประหยัดน้ำมัน โดยในรุ่น e:HEV SPADA ยังมาพร้อมความสะดวกสบายสูงสุด เช่น ประตูข้างสไลด์ไฟฟ้า, เบาะแถว 2 แบบปรับแยกอิสระพร้อมที่รองน่อง Ottoman, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Tri-Zone, และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ครบชุด

 

 

Hyundai Santa fe XRT Concept

Hyundai Santa Fe XRT Concept คือรถยนต์แนวคิด (Concept Car) สไตล์ออฟโรดที่ถูกพัฒนาบนพื้นฐานของ Hyundai Santa Fe รุ่นมาตรฐาน โดยมีเป้าหมายเพื่อตอบสนองผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยและกิจกรรมกลางแจ้งที่ท้าทาย ตัวรถได้รับการตกแต่งให้มีความสมบุกสมบันและแกร่งขึ้นอย่างชัดเจน ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์สายลุยครบชุด เช่น การเพิ่มความสูงของตัวรถให้มากขึ้น, การใช้ยาง All-Terrain BF-Goodrich, การเพิ่มมุมไต่และมุมจากเพื่อรองรับเส้นทางทุรกันดาร, การติดตั้งกล่องเก็บของด้านข้าง, รูฟแร็กบนหลังคาพร้อมยางอะไหล่, บันไดด้านท้าย, และกล้อง Action Cam ที่ซุ้มล้อหน้าเพื่อบันทึกการเดินทาง ถึงแม้ว่า XRT Concept จะยังไม่มีแผนการผลิตจริงอย่างเป็นทางการ แต่การออกแบบดังกล่าวได้จุดประกายจิตวิญญาณการผจญภัย และมีความเป็นไปได้ที่แรงบันดาลใจจากรถแนวคิดนี้จะถูกนำไปใช้ในรถรุ่นผลิตจริงในอนาคต

 

 

New Isuzu D-Max

Isuzu ได้เปิดตัวรถปิกอัพ Isuzu D-Max "THE ONE & ONLY" ใหม่ล่าสุดสำหรับปี 2568 โดยมีไฮไลต์ที่ Isuzu V-Cross 4x4 "THE ONE & ONLY" ซึ่งเป็นรถปิกอัพสปอร์ตออฟโรดที่มาพร้อมดีไซน์ใหม่ทั้งภายนอกและภายใน พร้อมสีใหม่ อินนิชมอร์ เกรย์ โอเพค เสริมฟังก์ชันการขับขี่ที่เหนือกว่าด้วย EPS พวงมาลัยไฟฟ้า ใหม่ และเพิ่มความปลอดภัยด้วย กล้องรอบคัน 360องศา Surround View Camera ที่มีมุมมองใต้ท้องรถ รวมถึงระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS เวอร์ชันล่าสุด ที่มาพร้อมกล้องหน้าคู่และเซนเซอร์รอบคัน นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัว Isuzu X-Series "2 HOT…2 HANDLE" ซึ่งติดตั้งเครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE เป็นครั้งแรก พร้อมชุดแต่ง The X Package และเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดใหม่ เพื่อมอบสมรรถนะที่ร้อนแรงในสไตล์สปอร์ต

 

 

Leapmotor B10

Leapmotor B10 ถูกวางตำแหน่งให้เป็นรถ SUV รุ่นใหม่ที่โดดเด่นด้วยการออกแบบที่เน้นความหรูหราแบบเรียบง่าย (Minimalist) และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย โดยมีให้เลือกทั้งรุ่นระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า 100% (BEV) และรุ่นขยายระยะทางวิ่ง (EREV) ภายในรถถูกออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางเป็นพิเศษ เพื่อตอบโจทย์ความสะดวกสบายสำหรับครอบครัวยุคใหม่ ตัวรถได้รับการพัฒนาบนแพลตฟอร์มที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีจาก Leapmotor และ Stellantis ซึ่งเน้นทั้งความประหยัดพลังงานและความปลอดภัยขั้นสูง รวมถึงการติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ (ADAS) และฟีเจอร์ดิจิทัลภายในห้องโดยสารที่ครบครัน เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้และยกระดับการเดินทางในชีวิตประจำวัน.

 

 

Lexus LX

Lexus LX คือรถยนต์ SUV ระดับเรือธง (Flagship Luxury SUV) ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นด้วยมาตรฐานที่เหนือกว่า เน้นการผสมผสานความหรูหราเข้ากับความสามารถในการลุยแบบออฟโรดอย่างแท้จริง โดยมีให้เลือกทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน Twin-turbo V6 กำลัง 409 แรงม้า และรุ่น Performance Hybrid (LX 700h) ที่มาพร้อมกำลังรวม 457 แรงม้า พร้อมแรงบิด 583 lb-ft ตัวรถติดตั้งระบบขับเคลื่อน Full-Time 4WD และเทคโนโลยีออฟโรดเต็มรูปแบบ เช่น Multi-Terrain Select และ Crawl Control ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบอย่างประณีตด้วยวัสดุคุณภาพสูง เช่น หนัง Semi-aniline และงานตกแต่งด้วยไม้ Open-Pore พร้อมตัวเลือกเบาะ 7 ที่นั่ง หรือรุ่น Ultra Luxury แบบ 4 ที่นั่งที่มีเบาะหลังแบบ Captain's Chair พร้อมฟังก์ชันนวด รวมถึงเทคโนโลยีความปลอดภัย Lexus Safety System+ 3.0 ที่เป็นมาตรฐานในทุกรุ่น ทำให้ LX เป็นยานยนต์ที่มอบประสบการณ์การขับขี่ที่หรูหราและมั่นใจในทุกสภาพถนน.

 

 

Mazda 6e

Mazda 6e คือรถยนต์ไฟฟ้า 100% ในรูปแบบ Sedan/Fastback 5 ประตู ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง Mazda และ ChangAn โดยใช้แพลตฟอร์มของ Deepal L07 มาพัฒนาและปรับจูนใหม่ให้มีเอกลักษณ์ตามสไตล์ Mazda โดยเฉพาะเรื่องช่วงล่าง การกระจายน้ำหนักแบบ 50:50 และยาง เพื่อให้ผู้ขับขี่สัมผัสถึง DNA ของ Mazda อย่างแท้จริง ตัวรถมีมิติกว้างขวาง (ยาว 4,921 มม.) และมาพร้อมรุ่น Long Range ที่ใช้แบตเตอรี่ความจุ 80kWh ให้กำลัง 244 แรงม้า สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 600 กม. (NEDC) และรองรับการชาร์จเร็ว DC 200kW รวมถึงภายในติดตั้งอุปกรณ์ระดับพรีเมียม เช่น หลังคากระจก Panoramic Roof, ประตูไร้ขอบ, หน้าจอสัมผัส 14.6 นิ้ว, และระบบเสียง SONY 14 ตำแหน่ง 

 

 

Mercedes-Benz CLA EV

Mercedes-Benz CLA EV รุ่นใหม่ (Third Generation) ที่มาในรูปแบบไฟฟ้า 100% โดยเฉพาะรุ่น CLA 250+ with EQ Technology มีกำหนดเปิดตัวและประกอบในประเทศไทยภายในปลายปี 2025 นี้ โดดเด่นด้วยการใช้สถาปัตยกรรม 800V Architecture Technology และแบตเตอรี่ 85kWh ที่ให้ระยะทางวิ่งสูงสุดถึง 792 กม. (WLTP) พร้อมรองรับการชาร์จเร็ว DC 320kW ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 272 แรงม้า 335 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) และมีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 6.7 วินาที ขณะที่การออกแบบภายในล้ำสมัยด้วยหน้าจอ MBUX Superscreen 3 จอ พร้อมระบบปฏิบัติการ MBUX 4th Generation, ระบบเสียง Burmester® 3D Surround, และฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูง รวมถึงถุงลมนิรภัยกลางระหว่างเบาะคู่หน้า

 

 

MG IM5

MG IM5 คือรถยนต์ซีดานไฟฟ้า 4 ประตู (ในจีนคือ IM L6) ที่เตรียมเผยโฉมรุ่นพวงมาลัยขวาเป็นครั้งแรกในเอเชียที่งาน Motor Expo 2025 โดยถือเป็นรุ่นที่สองของแบรนด์ IM Motor ที่เข้ามาทำตลาดในไทย จุดเด่นของรถคือการใช้สถาปัตยกรรมเทคโนโลยี 800V และรุ่น Long Range RWD สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 755 กม. (NEDC) ด้วยแบตเตอรี่ 100kWh มอเตอร์ 402 แรงม้า ภายในออกแบบล้ำสมัยคล้ายรถสไตล์คูเป้ Fastback ติดตั้งหน้าจอ Super Screen 26.3 นิ้ว พร้อมระบบปฏิบัติการ IM OS2.0 ที่ขับเคลื่อนด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 8295P และมีชุดเครื่องเสียง 20 ตำแหน่ง รวมถึงช่วงล่างด้านหน้าแบบ Double Wishbone และด้านหลัง Multi-Link พร้อมระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้อ และช่วงล่างถุงลมปรับอัตโนมัติ (Intelligent Air Suspension) ในบางรุ่น เพื่อมอบความหรูหรา สมรรถนะ และเทคโนโลยีที่ครบครัน

 

 

Nissan X-Trail e-POWER e-4ORCE 4WD (T33)

Nissan X-Trail e-POWER e-4ORCE 4WD (T33) คือรถยนต์ SUV 7 ที่นั่ง ที่ Nissan ประเทศไทย เตรียมนำเข้าทั้งคันจากญี่ปุ่นเพื่อเปิดตัวในงาน Motor Expo 2025 นี้ โดยโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีขับเคลื่อนไฟฟ้าขั้นสูง e-POWER ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.5 ลิตร VC Turbo กำลัง 142 แรงม้า ทำหน้าที่ปั่นไฟเท่านั้น และขับเคลื่อนล้อด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ทั้งหน้าและหลัง (Front Motor 203 hp และ Rear Motor 135 hp) ภายใต้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ e-4ORCE นอกจากนี้ ภายในยังมาพร้อมความหรูหราและเทคโนโลยีครบครัน เช่น เบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง, หน้าจอมาตรวัด Full Digital 12.3 นิ้ว, หน้าจอ Head-up Display 10.8 นิ้ว, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ Tri-Zone, และชุดความปลอดภัย Nissan Safety Shield 360 พร้อมระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติ ProPILOT Assist เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทรงพลังและปลอดภัย

 

 

Omoda 4

Omoda 4 เป็นรถยนต์ครอสโอเวอร์ที่เปิดตัวพรีวิวในประเทศจีน โดยใช้แนวคิดการออกแบบ "ยานอวกาศ" ที่เน้นเส้นสายที่คมชัดและล้ำยุค ให้ความรู้สึกสปอร์ตคล้าย Lamborghini ตัวรถมีขนาดใกล้เคียงกับ MG4 และเตี้ยกว่า Omoda C5 เล็กน้อย ภายในมาพร้อมคอนเซ็ปต์ห้องนักบินที่ทันสมัย โดยมีปุ่มสตาร์ทสีแดงเหมือนเครื่องบิน และมีหลังคากระจก Fix Glass ขนาดใหญ่ที่ไม่มีม่านบังแดดในสเปคจีน ส่วนด้านหลังมีพื้นที่ Head Room กว้างกว่า C5 และมีช่องชาร์จ USB Type-C ให้กับผู้โดยสารตอนหลัง อย่างไรก็ตาม สเปคอย่างละเอียดของมอเตอร์, แบตเตอรี่, และระยะทางวิ่ง ยังไม่ถูกเปิดเผยอย่างเป็นทางการ

 

 

Jaecoo 6T EV 

Jaecoo 6T EV คือรถยนต์ SUV พลังงานไฟฟ้า 100% ที่เน้นการถ่ายทอดจิตวิญญาณของสายลุยยุคใหม่ ด้วยดีไซน์แบบ One Box Style-Wide Body ที่สะท้อนความแกร่งและหรูหราอย่างลงตัว ตัวรถมีมิติกว้าง 4,433 x 1,916 x 1,741 มม. พร้อมระยะความสูงใต้ท้องรถ $225$ มม. และใช้ระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ iWD ที่มาพร้อมโหมดการขับขี่ 9 รูปแบบ เพื่อรองรับทุกสภาพถนน รวมถึงความสามารถในการลุยน้ำลึกได้ถึง 625 มม. และปีนทางชันได้มากกว่า 55% สำหรับห้องโดยสารภายในเน้นความสะดวกสบายสำหรับการผจญภัย ด้วยจอแสดงผลแบบสัมผัสขนาด 15.6 นิ้ว, เครื่องเสียง INFINITY 12 ตำแหน่ง, เบาะระบายอากาศ 4 ตำแหน่ง, และฟังก์ชันนวดผ่อนคลายสำหรับผู้โดยสารคู่หน้า เสริมความมั่นใจด้วยโครงสร้างตัวถังอะลูมิเนียมที่แข็งแกร่ง และระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ ADAS ที่ครอบคลุม เช่น ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW) และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (ACC).

 

 

Porsche Macan GTS

Porsche Macan GTS รุ่นพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบปี 2025 เป็นรถยนต์ SUV สมรรถนะสูงที่มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่ให้กำลังสูงสุด 420 kW (571 PS) และแรงบิด 955 Nm เมื่อใช้โหมด Launch Control ทำให้เร่งจาก 0-100 km/h ได้ภายใน 3.8 วินาที ตัวรถติดตั้งแบตเตอรี่แรงดันสูง 100 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 586 กม. ตามมาตรฐาน WLTP และรองรับการชาร์จเร็ว DC สูงสุด 270 kW ภายใน 21 นาที ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ePTM และระบบ PTV Plus ทำงานร่วมกับช่วงล่างถุงลมแบบสปอร์ตที่ลดความสูงลง 10 mm และมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ เพื่อการยึดเกาะและการเข้าโค้งที่แม่นยำ พร้อมติดตั้งแพ็คเกจ Sport Chrono ที่มาพร้อมโหมด Track และดีไซน์ภายนอกแบบ GTS ที่เน้นการตกแต่งด้วยโทนสีดำเป็นเอกลักษณ์

 

 

Toyota Hilux TRAVO-e

Toyota Hilux TRAVO (Generation 9) คือรถกระบะรุ่นปรับโฉมใหม่ (Minor Change) ที่มีการเปิดตัวครั้งแรกในโลก พร้อมกับการนำเสนอรถกระบะไฟฟ้า 100% รุ่น HILUX TRAVO-e ออกสู่ตลาดอย่างเป็นทางการ โดยในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลจะมาเฉพาะรุ่นยกสูงและใช้เครื่องยนต์ GD SUPER POWER 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (เกียร์ AT แรงบิด 500 Nm) ที่ปรับปรุงให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีหัวฉีด i-Art และระบบ Stop & Start ตัวรถยังมาพร้อมการยกระดับในด้านเทคโนโลยีและความสะดวกสบาย เช่น พวงมาลัยไฟฟ้า EPS, เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อม Auto Brake Hold, ระบบเลือกโหมดขับขี่ Multi-Terrain Select (MTS), จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว, เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส, และระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense เวอร์ชั่นใหม่ โดยแบ่งเป็น 4 Segments หลัก คือ Overland, Prerunner, 4TREX, และ Standard Cab 4TREX ที่มาพร้อมการปรับปรุงบอดี้และช่วงล่างด้วยเทคโนโลยี Dynamic Cloud เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัวและความนุ่มนวลในการขับขี่

 

 

Volvo ES90

Volvo ES90 คือรถซีดานไฟฟ้าเต็มรูปแบบขนาดใหญ่ระดับพรีเมียม ที่มีราคาเริ่มต้น 2,990,000 บาท ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่สมดุลและหรูหรา ตัวรถมาพร้อมระบบส่งกำลังแบบไฟฟ้าขั้นสูงพร้อมเทคโนโลยี 800 โวลต์ เป็นมาตรฐาน เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดและรองรับการชาร์จที่รวดเร็ว ในรุ่นเริ่มต้น Single Motor Extended Range ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ประหยัดพลังงานที่สุด มีระยะการเดินทางด้วยไฟฟ้าสูงสุดประมาณ 755 กม. (ตามมาตรฐาน WLTP) และสามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 10 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ได้ในเวลาเพียงประมาณ 22 นาที ที่สถานีชาร์จเร็วแบบ DC 350 kW โดยมีฟังก์ชันอำนวยความสะดวกอย่างระบบ One Pedal Drive เพื่อให้การขับขี่ราบรื่นยิ่งขึ้น และมีระบบ ผู้ช่วยเรื่องระยะทาง คอยแนะนำเพื่อเพิ่มระยะทางในการขับขี่

 

 

Wuling Starlight

Wuling Starlight คือรถยนต์ MPV-Van ไฟฟ้า 100% ขนาด 7 ที่นั่ง ที่มาพร้อมประตูสไลด์ ซึ่งถูกนำมาเผยโฉมเป็นครั้งแรกในประเทศไทยโดยบริษัท อีวี ไพรมัส ในงาน Motor Expo 2025 เพื่อตอบโจทย์ตลาดรถตู้ไฟฟ้าระดับหรู รถรุ่นนี้โดดเด่นด้วยระยะทางวิ่งที่ยาวไกลถึง 540 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐานที่ระบุ) ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบให้มีความกว้างขวางและสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยมีที่นั่งแถวกลางแบบ Captain Seat เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการรถสำหรับครอบครัวขนาดกลางที่มีเด็กและผู้สูงวัย รวมถึงตลาดรถลีมูซีน, VIP Taxi และบริการ Ride Hailing ที่ต้องการภาพลักษณ์ที่หรูหราและใช้งานได้หลากหลาย

 

 

Zeekr 009 Grand

Zeekr 009 Grand คือรถยนต์ MPV ไฟฟ้า 100% ระดับอัลตรา-ลักซ์ชัวรี 4 ที่นั่ง ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อปฏิวัติประสบการณ์การเดินทางที่หรูหรา โดยใช้ระบบส่งกำลังไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง 800V พร้อมแบตเตอรี่ 108 kWh ให้กำลังสูงสุด 580 kW และสามารถเร่งจาก 0-100 km/h ได้ใน 3.9 วินาที พร้อมพิสัยการวิ่งสูงสุด 702 km (CTLC) ภายในห้องโดยสารเน้นความส่วนตัวสูงสุดด้วย Private Intelligent Curtain Wall ซึ่งรวมหน้าจอสมาร์ทคลาวด์ขนาด 43 นิ้ว, ตู้เย็นอัจฉริยะ, ระบบปรับอากาศ และฟังก์ชันอื่น ๆ เข้าไว้ด้วยกัน เบาะนั่งแบบอิสระ (Independent seats) ผสานวัสดุพรีเมียมอย่างหินหิมาลายันและพรมขนสัตว์นุ่มพิเศษ เสริมด้วยระบบเสียงรอบทิศทาง YAMAHA 31 ลำโพง กำลัง 3,000W รองรับ Dolby Atmos และแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์อัจฉริยะ Dual 8295 ด้านความปลอดภัยใช้โครงสร้าง One-piece Die-casting (C-ring seats) และฮาร์ดแวร์ตรวจจับขั้นสูง เช่น Lidar เพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่อัจฉริยะ

ก็ประมาณนี้นะครับสำหรับรถยนต์ที่จะเปิดตัวใหม่ที่งาน Motor Expo 2025 อย่างไรก็ตาม แจ้งไว้ก่อนว่ารถหลายคันยังไม่เปิดสเปกไทยอย่างเป็นทางการ ดังนั้นข้อมูลจะมีพื้นฐานมาจากรถสเปกนอกก่อนนะครับ ดังนั้นที่เปิดตัวในไทยอาจมีการเปลี่ยนแปลงบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะใช้พื้นฐานเดียวกันครับ ขอให้เที่ยวงานให้สนุก

 

Credit : motorexpo.co.th

ข่าวที่เกี่ยวข้อง