รีเซต

"ครม.เศรษฐกิจ" ไฟเขียว คลังเสนอมาตรการ "TISA" กระตุ้นการออม ได้ลดหย่อนภาษี หนุนคนไทยมั่นคงทางการเงิน

"ครม.เศรษฐกิจ" ไฟเขียว คลังเสนอมาตรการ "TISA" กระตุ้นการออม ได้ลดหย่อนภาษี  หนุนคนไทยมั่นคงทางการเงิน
TNN ช่อง16
8 ธันวาคม 2568 ( 15:21 )

"เอกนิติ" เผย ครม.เศรษฐกิจ ผ่านโครงการ TISA เพิ่มโอกาสการออมลดหย่อนภาษี  ลดความเหลื่อมล้ำ หนุนความมั่นคงทางการเงินให้คนไทย 


ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ครั้งที่ 7/2568 ในวันนี้ ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบหมายนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง เป็นประธาน โดยมีคณะรัฐมนตรี และปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม  

          

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการและรับทราบการดำเนินมาตรการ "Quick Big Win" การเพิ่มโอกาสการออมและความมั่นคงทางการเงินของประชาชน โดยกระทรวงการคลัง โดยจะมีการนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาต่อไป

          

ทั้งนี้ มาตรการเพื่อเพิ่มโอกาสการออมและความมั่นคงทางการเงินของประชาชนดังกล่าว จะช่วยให้ประชาชนมีช่องทางในการออมที่หลากหลายและสะดวกมากขึ้น ประชาชนมีแรงจูงใจในการออม กระตุ้นให้ผู้ที่มีรายได้ปานกลางและมีรายได้น้อยมีการออมเพิ่มขึ้น มีภาวะทางการเงินที่ดี (Financial Well-being) มีรายได้ที่เพียงพอในการดำรงชีพยามเกษียณอายุ และภาครัฐสามารถบรรเทาภาระงบประมาณด้านสวัสดิการกรณีชราภาพในการดูแลผู้ที่ไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้


นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง ได้เปิดเผยก่อนเข้าประชุมระบุถึงนโยบายที่กระทรวงคลังเสนอในวันนี้ เพื่อส่งเสริมการออมของประชาชน และสร้างความมั่นคงให้กับคนไทย โดยเฉพาะมาตรการในการสนับสนุนการออมรายบุคคล (IndividualSaving Account : ISA)


นายเอกนิติ กล่าวว่า มาตรการนี้ ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือการออมที่สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยให้ใหญ่ขึ้นด้วย อย่างไรก็ดี ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเร่งพิจารณารายละเอียดของมาตรการดังกล่าว


โดยข้อมูลจากกระทรวงการคลังระบุว่า ลักษณะการออมและการลงทุนภายใต้ Individual Saving Account (ISA) ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อเสนอของภาคตลาดทุน คือ การเปิดทางให้ประชาชนเลือกวิธีออม หรือการลงทุนได้เองตามระดับความเสี่ยงที่เหมาะสม ไม่ว่าจะลงทุนในหุ้น พันธบัตร หรือสินทรัพย์เสี่ยงต่ำอื่น ๆ ก็ทำได้อย่างยืดหยุ่นภายใต้เพดานที่รัฐกำหนด แทนระบบเดิมที่จำกัดให้ใช้ผลิตภัณฑ์เฉพาะอย่าง เช่น กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือกองทุนรวมหุ้นระยะยาว


แนวทางนี้ คาดว่าจะตอบโจทย์ผู้ลงทุนที่หลากหลายกว่า ลดความซ้ำซ้อนของผลิตภัณฑ์ที่ออกเพื่อสิทธิลดหย่อนภาษี และช่วยลดการบิดเบือนตลาดทุนจากมาตรการภาษีในอดีต มาตรการดังกล่าว ยังช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านภาษี เพราะที่ผ่านมา ผู้มีรายได้สูงเป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากสิทธิ LTF มากที่สุด ขณะที่รัฐสูญเสียรายได้ราวปีละ 2 หมื่นล้านบาท โดยกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท ตกอยู่กับผู้เสียภาษีในฐาน 30-35%


พร้อมกันนี้กระทรวงการคลัง ยังศึกษาการเปิดให้ประชาชนออมผ่านพันธบัตรรัฐบาลรายเดือน เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ต้องการความมั่นคง โดยมีโอกาสให้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์ที่ปัจจุบันอยู่เพียงราว 0.25%




          

นอกจากนี้นายเอกนิติกล่าวภายหลังการประชุม ระบุว่า ที่ประชุมวันนี้ได้รับทราบความก้าวหน้าการขับเคลื่อนนโยบาย Quick Big Win ของรัฐบาล ซึ่งนโยบายดังกล่าวได้ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจทั้ง 3 ตัว ได้แก่ 


1) ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจภูมิภาค 

2) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค 

3) ดัชนีความเชื่อมั่น SMEs มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา

          

โดยดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจภูมิภาค ปรับเพิ่มขึ้นจาก 65.9 ในเดือนกันยายน 2568 เป็น 71.1 ในเดือนตุลาคม 2568 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค มีการฟื้นตัวจาก 50.7 ในเดือนกันนายน 2568 มาอยู่ที่ 53.2 ในเดือนพฤศจิกายน 2568 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่น SMEs ปรับเพิ่มจาก 48.0 ในเดือนกันยายน 2568 เป็น 53.2 ในเดือนพฤศจิกายน 2568

          

รัฐมนตรีคลัง กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ฝากข้อสั่งการว่า ได้ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่จังหวัดสงขลา ประกาศ ข้อกำหนด และคำสั่งที่เกี่ยวข้องตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (5 ธันวาคม 2568) เนื่องจากเหตุภัยพิบัติได้คลี่คลายลง และเข้าสู่ช่วงการฟื้นฟูเมือง

          

โดยช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีได้ลงไปพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อติดตามเร่งรัดการฟื้นฟูเมือง รวมทั้งได้ไปที่จังหวัดสตูล เพื่อให้กำลังใจและรับฟังปัญหาจากประชาชน และคนทำงานในพื้นที่ ซึ่งที่นั่นก็มีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมเช่นกัน และนายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายกระทรวงมหาดไทย เพื่อปรับปรุงเกณฑ์การจ่ายเงินผู้เสียชีวิตรายละ 2 ล้านบาท ขยายให้ครอบคลุมผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมทั้งหมด 9 จังหวัดภาคใต้ ด้วยแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างนำเสนอ ครม. ตามขั้นตอนต่อไป

ข้อมูลจาก KRUNGSRI PRIME ระบุว่า TISA (Thailand Individual Savings Account) เป็นบัญชีเงินออมเพื่อการลงทุนในหุ้น ที่เปิดให้นักลงทุนที่ซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้สิทธิลดหย่อนภาษี TISA เป็นเครื่องมือที่ถูกออกแบบมา เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนลงทุนในหุ้นไทยมากขึ้น โดยมีข้อกำหนดและสิทธิประโยชน์เฉพาะ


TISA นับเป็นอีกหนึ่งมาตรการ ที่ช่วยสร้างวัฒนธรรมการออมในระยะยาว คล้ายกับมาตรการของญี่ปุ่น NISA (Nippon Individual Savings Account) ที่ปัจจุบันกำหนดให้เป็นสิทธิลดหย่อนภาษีส่วนบุคคลประจำปีแบบถาวร คล้ายกับค่าลดหย่อนภาษีการมีบุตรของไทย


สำหรับเงื่อนไขในรายละเอียดเบื้องต้นของ TISA

- ผู้มีสิทธิเปิดบัญชี TISA ต้องเป็นบุคคลธรรมดาที่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย

- สามารถเปิดบัญชี TISA ได้เพียง 1 บัญชีต่อคนเท่านั้น

- ต้องลงทุนในหุ้นไทยตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนด

- เงินที่นำมาลงทุนผ่าน TISA ต้องถือครองตามระยะเวลาที่กำหนดเพื่อคงสิทธิลดหย่อนภาษี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง