เจาะ “อาวุธหนักกัมพูชา” ประจำการจู่โจมไทย มีอะไรบ้างนอกจาก BM-21 อันตรายแค่ไหน?

จากเหตุปะทะระหว่างทหารไทยแลกัมพูชา ที่ปะทุขึ้นนับแต่วันที่ 7 ธันวาคม ตอนนี้ กองทัพกัมพูชาได้ใช้จรวดหลายลำกล้อง BM-21 โจมตีประชาชนในฝั่งไทยแล้ว ที่อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์

หากจำกันได้ BM-21 นี้เองที่ทหารกัมพูชาใช้ยิงโจมตีพลเรือนไทยแบบไม่เลือก ในช่วงเหตุปะทะเดือนกรกฎาคม ทำลายทรัพย์สินและสถานีน้ำมันในจังหวัดศรีสะเกษของไทย 

มันคือ ระบบยิงจรวดหลายลำกล้องขนาด 122 มิลลิเมตร พัฒนาโดยสหภาพโซเวียตเพื่อใช้ในสงครามเย็น และยังแพร่หลายมาถึงปัจจุบัน 

จรวดชนิดนี้ มี 40 ท่อ ยิงครบจบใน 20 วินาที และพุ่งโจมตีได้ไกล 20-30 กิโลเมตร 

ในเหตุปะทะนาน 5 วัน ช่วงเดือนกรกฎาคม ปี 2568 กองทัพบกให้ข้อมูลถึงการใช้อาวุธหนักของกัมพูชาอีกหลายชนิด

ไม่ว่าจะระบบจรวดหลายลำกล้อง PHL-81 ที่กัมพูชามีมากถึง 100 ชุด และยิงไกล 40 กิโลเมตร

ระบบจรวดหลายลำกล้อง RM-70 ท่อยิง 40 ท่อ และพิสัยยิงไกล 40 กิโลเมตร โดยกัมพูชามีอาวุธชนิดนี้ถึง 50 ชุด

และระบบจรวดหลายลำกล้อง Type-90B  ขนาด 125 มิลลิเมตร กับพิสัยยิงไกล 40 กิโลเมตร 

นี่ยังไม่นับอาวุธหนักอีกหลายชนิด ที่มีการประจำการ แต่ไม่ได้ใช้จริงในครั้งนั้น

แม้รายงานจากฝ่ายความมั่นคงจะยืนยันการใช้จรวด BM-21 ของกัมพูชาแล้ว แต่จริง ๆ มีข้อมูลถึงการเคลื่อนอาวุธหนักเข้ามาประชิดชายแดน และเตรียมความพร้อมใช้โจมตีไทยด้วย ไม่ว่าจะ RM-70 และ Type-90B

หรือกล่าวได้ว่า อาวุธหนักที่ฝ่ายกัมพูชาถอนกำลังออกไป ภายหลังข้อตกลงสันติภาพที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นตัวกลาง ถูกเคลื่อนกลับเข้ามาในพื้นที่อีกครั้ง และต้องจับตาว่า อาวุธที่เราพูดถึงมา จะถูกนำมาใช้กับไทยอีกครั้งหรือไม่