เวิล์ดแบงก์ชี้ "เศรษฐกิจเมียนมา" ยังอ่อนแอ คาด GDP หดตัว 2%

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ธนาคารโลก (เวิล์ดแบงก์) เปิดเผยในรายงานประเทศฉบับล่าสุดว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของเมียนมาร์ยังคงถูกจำกัดอย่างมาก จากอุปสงค์ภายในประเทศที่อ่อนแอ การขาดแคลนแรงงาน และปัญหาไฟฟ้าดับบ่อยครั้ง ส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมเห็นเพียงสัญญาณฟื้นตัวในระดับปานกลางในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณปัจจุบัน
ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเมียนมาจะหดตัว 2% ในปีงบประมาณที่จะสิ้นสุดเดือนมีนาคม ดีขึ้นเล็กน้อยจากคาดการณ์เดิมที่คาดว่าจะหดตัว 2.5% ซึ่งสวนทางกับการประเมินของรัฐบาลทหารที่คาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโต 3%
แม้อัตราเงินเฟ้อจะปรับลดลง แต่ธนาคารโลกคาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับสูงกว่า 20% ในระยะใกล้ กระทบต่อค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง รายงานระบุว่าเงินจ๊าดมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากอ่อนค่ารุนแรงเมื่อปีที่แล้ว ขณะเดียวกันธุรกิจต่าง ๆ ได้เพิ่มกำลังการผลิตและปริมาณการขนส่งสินค้าทางบกเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
เมลินดา กู๊ด ผู้อำนวยการฝ่ายไทยและเมียนมาร์ของธนาคารโลก กล่าวว่า "สัญญาณฟื้นตัวช่วงแรกเหล่านี้ถือว่าน่ามีความหวัง แต่เศรษฐกิจเมียนมาร์ยังคงเผชิญอุปสรรคอย่างหนัก ทั้งการขาดแคลนงบฟื้นฟูประเทศ ความขัดแย้งและความไม่มั่นคงที่ยังดำเนินต่อเนื่อง รวมถึงปัญหาไฟฟ้าที่ไม่เสถียร"
ทั้งนี้ เมียนมาเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจรุนแรงและสงครามกลางเมืองนับตั้งแต่กองทัพโค่นล้มรัฐบาลพลเรือนของออง ซาน ซูจี ในปี 2564 ผู้นำรัฐบาลทหาร มิน อ่อง หล่าย ให้คำมั่นว่าจะจัดการเลือกตั้งทั่วไปตามที่ให้สัญญาไว้ โดยเริ่มขั้นแรกในวันที่ 28 ธันวาคม เพื่อพยายามสร้างเสถียรภาพและฟื้นฟูการยอมรับจากนานาชาติ
ธนาคารโลกยังคาดว่าเมียนมาจะฟื้นตัวในระดับปานกลางในปีงบประมาณหน้า โดยการเติบโตจะถูกขับเคลื่อนหลักจากการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหว และการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ แต่ก็เตือนว่าความท้าทายทางการคลังยังคงรุนแรง โดยคาดว่าฐานะการคลังจะขาดดุลถึง 5% ของจีดีพี
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
