ยุคใหม่ของการเดินทาง! "แท็กซี่บินได้" กำลังจะมาถึงจีน เผยค่าโดยสารสุดเซอร์ไพรส์
แนวคิดเรื่องรถยนต์บินได้ที่เคยมีแต่ในภาพยนตร์กำลังจะกลายเป็นจริงแล้ว โดยเฉพาะในประเทศจีนที่กำลังก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการพัฒนาระบบขนส่งทางอากาศในเมือง (Urban Air Mobility - UAM) อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "แท็กซี่บินได้" (Future Flying Taxi) หรืออากาศยานไฟฟ้าขึ้นลงแนวดิ่ง (Electric Vertical Take-Off and Landing - eVTOL) ข้อมูลล่าสุดจากงาน China International Import Expo (CIIE 2025) เผยให้เห็นว่า ท้องฟ้ากำลังจะกลายเป็นทางด่วนสายใหม่ และค่าโดยสารอาจไม่แพงอย่างที่คิด
จีนกำลังสร้าง "ทางด่วนลอยฟ้า"
รัฐบาลจีนได้กำหนดให้การพัฒนาระบบ UAM เป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญระดับประเทศ และกำลังเร่งผลักดันให้เกิดการใช้งานจริงภายในปี 2035 บริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งในจีนกำลังเข้าร่วมการแข่งขันนี้ โดยเฉพาะ บริษัท EHang และ AutoFlight ซึ่งเป็นผู้นำในการผลิต eVTOL
- EHang AAV: เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกและได้รับใบรับรองจากหน่วยงานการบินพลเรือนของจีน (CAAC) ให้สามารถทำการบินเชิงพาณิชย์ได้แล้ว
- AutoFlight Prosperity I: eVTOL รุ่นนี้มีศักยภาพในการบรรทุกผู้โดยสาร 5 คน และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 200 กม./ชม. มีพิสัยการบินประมาณ 250 กม. ซึ่งเพียงพอสำหรับการเดินทางระหว่างเมืองใกล้เคียงได้อย่างรวดเร็ว
เป้าหมายคือการสร้าง "ทางด่วนลอยฟ้า" เชื่อมโยงเมืองใหญ่และภูมิภาคต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เพื่อลดความแออัดของการจราจรบนพื้นดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดเวลาในการเดินทางลงอย่างมหาศาล
เปิดค่าโดยสารสุดเซอร์ไพรส์: ถูกกว่าที่คาดไว้มาก!
Credit : ithome
สิ่งที่ทำให้แท็กซี่บินได้น่าตื่นเต้นที่สุดคือ "ค่าโดยสาร" ซึ่งถูกเปิดเผยในงาน CIIE 2025 ว่าจะไม่ใช่บริการสำหรับเศรษฐีเท่านั้น แต่จะมีราคาที่เข้าถึงได้ โดยเปรียบเทียบกับบริการแท็กซี่ปกติและรถไฟความเร็วสูง:
ค่าโดยสารที่คาดการณ์ไว้ (ต่อคน):
- ระยะทางสั้น (ในเมือง): คาดการณ์ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 100 - 200 หยวน (ประมาณ 500 - 1,000 บาท) ซึ่งเทียบเท่ากับค่าโดยสารแท็กซี่พรีเมียมในเมืองใหญ่ของจีน
- ระยะทางไกล (ระหว่างเมือง): สำหรับการเดินทางระหว่างเมืองใหญ่ เช่น เส้นทางเซี่ยงไฮ้-หางโจว (ระยะทางประมาณ 170 กม.) คาดว่าจะมีค่าโดยสารประมาณ 300 - 400 หยวน (ประมาณ 1,500 - 2,000 บาท)
แท็กซี่บินได้จึงเสนอ "ความเร็ว" ที่เหนือกว่ารถไฟความเร็วสูง ในราคาที่สามารถแข่งขันได้ ซึ่งทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับนักธุรกิจหรือผู้ที่ต้องการประหยัดเวลาเดินทางอย่างมาก
เทคโนโลยีที่ขับเคลื่อน: ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
การพัฒนาแท็กซี่บินได้ไม่ใช่แค่เรื่องของการบิน แต่คือการสร้างระบบขนส่งใหม่ที่ยั่งยืน:
1. การควบคุมอัตโนมัติและความปลอดภัยสูงสุด
- การบินอัตโนมัติ (Autonomous Flight): eVTOL ส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาให้ทำการบินได้เองโดยใช้ระบบ Autopilot และ AI-Powered Flight Management System ซึ่งช่วยลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ และทำให้การบินมีความแม่นยำและปลอดภัยสูง
- ระบบตรวจสอบหลายชั้น: ตัวเครื่องมีระบบการทำงานสำรอง (Redundancy) ที่ซ้ำซ้อนกันหลายชั้น รวมถึงการใช้ร่มชูชีพขนาดใหญ่ในกรณีฉุกเฉิน
2. พลังงานไฟฟ้าสะอาด
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: อากาศยานเหล่านี้ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ทำให้ไม่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Zero Emission) และมีเสียงรบกวนที่ต่ำกว่าเฮลิคอปเตอร์ทั่วไปอย่างมาก
- การชาร์จที่รวดเร็ว: สถานีจอดและชาร์จ (Vertiport) จะถูกสร้างขึ้นในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อรองรับการชาร์จพลังงานที่รวดเร็ว เพื่อให้แท็กซี่บินได้สามารถหมุนเวียนให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง
3. การใช้งานที่หลากหลาย
eVTOL ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การขนส่งผู้โดยสารเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปใช้ในภารกิจสำคัญอื่น ๆ ได้แก่:
- การขนส่งสินค้า: ใช้สำหรับการขนส่งด่วน (Logistics) โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลหรือพื้นที่ที่มีความแออัด
- การแพทย์ฉุกเฉิน: ใช้ในการส่งทีมแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปยังจุดเกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว
แท็กซี่บินได้จึงไม่เพียงแต่เป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แต่ยังเป็นโซลูชันที่จะมาปฏิวัติรูปแบบการใช้ชีวิตและการทำงานของผู้คนในอนาคตอันใกล้นี้ โดยเฉพาะในประเทศจีนที่กำลังจะทำให้ท้องฟ้ากลายเป็นทางด่วนสายใหม่สำหรับการเดินทางที่รวดเร็ว ปลอดภัย และมีค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผลอีกด้วยครับ
Photo Credit : AI Generated