มอเตอร์ไซค์ที่น่าสนใจใน Motor Expo 2025
ที่งาน The 42nd Thailand International Motor Expo 2025 หรือ มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 นอกจากจะมีรถยนต์ กระบะ หรือรถไฟฟ้า EV เป็นไฮไลท์ในงานแล้ว อีกมุมนึงยังมีรถมอเตอร์ไซค์เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่น่าสนใจมาเปิดตัวกันที่งานด้วยครับ โดยในวันนี้เราจะมาดูกันว่ามีรุ่นไหนที่น่าสนใจกันบ้าง
BMW R 1250 RT
BMW R 1250 RT คือรถมอเตอร์ไซค์ทัวริ่งที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเดินทางที่ต้องการทั้งพลังและความผ่อนคลาย ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์บอกเซอร์ BMW ShiftCam ในตำนาน ที่มอบแรงฉุดอันทรงพลังในทุกช่วงความเร็วรอบ ไม่ว่าจะบนทางหลวงหรือเส้นทางภูเขาคดเคี้ยว รูปลักษณ์ด้านหน้าใหม่มีความไดนามิกและเพรียวบางยิ่งขึ้น พร้อมไฟหน้า LED แต่ยังคงคุณสมบัติที่เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางอย่างเหนือระดับ ด้วยการติดตั้งจอภาพ TFT ขนาดใหญ่ 10.25 นิ้ว ซึ่งรวมทั้งแผงหน้าปัด ระบบนำทางด้วยแผนที่ และระบบสาระบันเทิงไว้ในที่เดียว นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีช่วยขับขี่ที่สำคัญ เช่น ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบแอ็คทีฟ (ACC), ช่องเก็บสมาร์ทโฟนพร้อมระบบชาร์จแบบไร้สาย (Induction) และช่อง USB รวมถึงปุ่มกดรายการโปรด 4 ปุ่ม ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงฟังก์ชันต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วโดยยังคงมีสมาธิอยู่บนเส้นทาง
Ducati Multistrada V2
Ducati Multistrada V2 ใหม่ คือรถจักรยานยนต์ที่ถูกออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมดภายใต้แนวคิด "Unlock Everyday Adventure" เพื่อมอบการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างสมรรถนะ, ความสามารถในการทัวริ่ง, และความง่ายในการใช้งาน โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์ V2 Twin-Cylinder ที่เบาที่สุดเท่าที่ Ducati เคยผลิต (น้ำหนักเพียง 54.4 kg) ให้กำลัง 115 hp และมีระบบวาล์วแปรผัน (Variable Timing) ที่มอบทั้งพละกำลังในช่วงรอบสูงและความนุ่มนวลในช่วงรอบต่ำ โครงสร้างตัวถังใช้เฟรม Aluminum Monocoque ใหม่ทั้งหมด ทำให้น้ำหนักรถลดลง 18 kg เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน เสริมด้วยหลักสรีรศาสตร์ที่ปรับปรุงใหม่ทั้งหมด เช่น เบาะนั่งที่สามารถปรับความสูงได้ และล้อหน้าขนาด 19 นิ้ว เพื่อเพิ่มการควบคุมและความคล่องตัว
Honda CBR500R
Honda CBR500R มาพร้อมกับคอนเซปต์ "Ignite The Race" และการปรับโฉมใหม่ทั้งคัน เพื่อยกระดับความสปอร์ตยิ่งกว่าเดิม ด้วยชุดแฟริ่งและไฟหน้า-ไฟท้ายดีไซน์ใหม่ที่โฉบเฉี่ยว รวมถึงการเพิ่มออพชันระดับท็อป ช่วงล่างและระบบความปลอดภัย ได้รับการอัปเกรดด้วยโช้กหน้าแบบหัวกลับ Showa SFF-BP และระบบเบรกหน้าแบบ ดิสก์เบรกคู่ พร้อมคาลิปเปอร์แบบ Radial Mount 2 ลูกสูบ และระบบ ABS หน้า-หลัง ทำให้เป็นรถบิ๊กไบค์สปอร์ตยอดนิยมที่มอบความคุ้มค่าและสมรรถนะที่น่าประทับใจ
Harley-Davidson Low Rider S
Harley-Davidson Low Rider ST (MY2025) คือรถมอเตอร์ไซค์สไตล์ Cruiser ที่ผสมผสานดีไซน์แบบ FXRT ยุคคลาสสิกของ West Coast เข้ากับสมรรถนะที่ทันสมัยอย่างลงตัว หัวใจสำคัญคือเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight® 117 High Output V-Twin ใหม่ ที่ให้กำลัง 114 แรงม้า และแรงบิด 128 ft-lb พร้อมท่อไอเสีย Two-Into-One และชุดดูดอากาศ Heavy Breather Intake ที่ให้พลังที่ดุดันยิ่งขึ้น ตัวรถมาพร้อมกับแฟริ่งติดเฟรมที่ออกแบบตามหลักพลศาสตร์ CFD ช่วยลดความล้าจากลม และมีระบบกันสะเทือนหลังแบบ Monoshock ที่ปรับจูนใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าโค้ง นอกจากนี้ ยังติดตั้งเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เช่น ไฟส่องสว่าง All-LED ทั้งคัน, หน้าจอแสดงผลขนาด 4 นิ้ว ที่แสดงผลมาตรวัดอนาล็อกรวมกับจอแสดงผลดิจิทัลแบบมัลติฟังก์ชัน และ Selectable Ride Modes 3 โหมด (Road, Rain, Sport) ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับแต่งการขับขี่ได้อย่างละเอียด
Lambretta J200
Lambretta J200 2025 รุ่น Starwave คือสกู๊ตเตอร์สไตล์อิตาลีคลาสสิกที่ถูกเปิดตัวเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีของ J-series ในอดีต ซึ่งยังคงรักษา DNA ความเป็น Low&Long และรูปลักษณ์ที่เรียบง่ายแต่สง่างามของ Lambretta ไว้ ตัวรถมาพร้อมดีไซน์ใหม่ที่ทันสมัย โดดเด่นด้วยไฟ LED แบบเต็มระบบรอบคัน รวมถึงไฟหน้าทรงหกเหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ ขุมพลังคือเครื่องยนต์ 1 สูบ 4 จังหวะ 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยของเหลว ความจุ 174.5 ซีซี ให้กำลัง 17 แรงม้า พร้อมระบบกันสะเทือนหลังแบบคู่ที่ปรับพรีโหลดได้ 5 ระดับ และยกระดับความล้ำสมัยด้วยหน้าจอแสดงผล TFT ทำให้ J200 เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างจิตวิญญาณคลาสสิกในยุค 60s กับเทคโนโลยีและดีไซน์ที่ตอบโจทย์การขับขี่ในยุคปัจจุบัน
Royal Enfield Classic 650
Royal Enfield Classic 650 Twin คือที่สุดแห่งรถคลาสสิกที่ผสานเอกลักษณ์ดั้งเดิมเข้ากับขุมพลังสมัยใหม่ โดยขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 648 ซีซี แบบ 2 สูบเรียง (Parallel Twin) ที่ได้รับการปรับแต่งให้มีบุคลิกที่นุ่มนวลและสง่างาม แต่ยังคงพร้อมตอบสนองด้วยสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม (กำลัง 46.4 Hp, แรงบิด 52.3 Nm) พร้อมระบบเกียร์ 6 สปีด ดีไซน์ยังคงเอกลักษณ์เหนือกาลเวลาด้วย Teardrop Tank (ถังน้ำมันทรงหยดน้ำ), ท่อไอเสียคู่แบบปลายแตร peashooter ที่เป็นโครเมียมเงางาม และไฟหน้าทรงปีกหมวก (Nacelle Headlamp) ที่ผสานไฟ LED เข้ากับไฟคู่ “Tiger Eyes” อันเป็นสัญลักษณ์ เพื่อความมั่นคงและความสบายในการขับขี่ ตัวรถติดตั้งระบบกันสะเทือนจาก Showa ทั้งด้านหน้าและโช้คอัพหลังคู่ ส่วนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาพร้อมแผงหน้าปัด Retro-Analogue ที่มีหน้าจอ LCD ดิจิทัลแสดงข้อมูลครบครัน และชุดควบคุมพร้อมสวิตช์แบบเรโทรและพอร์ตชาร์จ USB
Suzuki DR-Z4S
Suzuki DR-Z4S คือที่สุดของรถจักรยานยนต์สไตล์ Dual-Sport ที่ผสานความแข็งแกร่งของรถ Enduro เข้ากับความสามารถในการใช้งานบนถนนได้อย่างลงตัว โดยขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1 สูบ DOHC 398 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ที่มอบพละกำลังและความทนทานสูง พร้อมระบบ Suzuki Clutch Assist System (SCAS) (Slipper Clutch) ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลและควบคุมรถได้อย่างมั่นใจในทุกสภาพพื้นผิว หัวใจของการลุยคือระบบกันสะเทือนหน้าแบบหัวกลับ KYB ที่ปรับได้ทั้ง Compression และ Rebound พร้อมระยะยุบที่ยาวพิเศษ (หน้า 280 มม. / หลัง 296 มม.) เสริมด้วยอุปกรณ์มาตรฐานที่พร้อมลุย เช่น ล้อซี่ลวดอลูมิเนียมขนาด (21/18 นิ้ว) และ การ์ดเครื่องยนต์อะลูมิเนียม รวมถึงแผงหน้าปัด Full LCD Meter และไฟหน้า LED ที่ทันสมัย ทำให้ DR-Z4S เป็นรถที่ครบเครื่องสำหรับการผจญภัยในทุกเส้นทาง
Tromox M05
Tromox M05 คือมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นนิยามใหม่ของ Café Racer สำหรับการเดินทางในเมือง ด้วยดีไซน์สไตล์ Retro-Café Racer ที่โฉบเฉี่ยวผสานความทันสมัย ตัวรถมีน้ำหนักเบาเพียง 88 กก. ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ 3 kW Brushless Motor ที่ติดตั้งที่ล้อหลัง ให้ความเร็วสูงสุด 70 กม./ชม. และมีแบตเตอรี่แบบ LFP 2.3 kWh ที่สามารถถอดออกมาชาร์จได้สะดวก ให้ระยะทางวิ่งประมาณ 80-85 กม. ต่อการชาร์จเต็ม โครงสร้างตัวถังมีความแข็งแกร่งด้วยเฟรมน้ำหนักเบาและ Dual Swingarm พร้อมโช้คหน้าแบบหัวกลับ และระบบเบรกดิสก์ไฮดรอลิก นอกจากนี้ รุ่น Pro ยังมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง เช่น ABS และ Blind Spot Detection BSD ทำให้ Tromox M05 เป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่รวมเอาสไตล์ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัยไว้ในแพ็คเกจเดียว
Triumph Trident 800
Triumph Trident 800 คือรถมอเตอร์ไซค์ Naked Roadster พิกัดกลางที่ผสมผสานประสิทธิภาพอันทรงพลังเข้ากับความคล่องตัวสำหรับการขับขี่ในเมืองได้อย่างลงตัว โดยมีหัวใจสำคัญคือเครื่องยนต์ 3 สูบเรียง (Triple Engine) ขนาด 798 ซีซี ที่ให้กำลังสูงสุด 113 แรงม้า และแรงบิด 84 Nm พร้อมระบบ Triumph Shift Assist (Quickshifter Up/Down) และคันเร่งไฟฟ้าที่มาพร้อม 3 โหมดการขับขี่ (Rain, Road, Sport) ตัวรถมีน้ำหนักเปียกเพียง 198 กก. ติดตั้งช่วงล่างปรับได้จาก Showa และระบบเบรกดิสก์คู่หน้า 310 มม. พร้อมคาลิปเปอร์ 4 ลูกสูบ และระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ เช่น Cornering ABS และ Traction Control หน้าจอแสดงผลเป็นแบบ LCD Multifunction ผสานจอ TFT สี ที่ให้ข้อมูลครบถ้วนพร้อมการเชื่อมต่อ Bluetooth ทำให้ Trident 800 เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นสำหรับผู้ที่ต้องการรถที่มีสไตล์ Naked สุดดุดัน พร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่า
All New Yamaha Aerox 2025
All New Yamaha Aerox 2025 คือสุดยอด SuperSport Automatic ที่ได้รับการออกแบบใหม่หมดรอบคัน โดยได้ DNA รถ R-Series มาอย่างเข้มข้น ทั้งในเรื่องของดีไซน์ Full Fairing ที่สปอร์ตดุดัน และการอัปเกรดโครงสร้างด้วย New Frame แบบ Center Tunnel ที่เสริมความแข็งแกร่งและลดการบิดตัว เพื่อการควบคุมที่มั่นคงและนิ่งขึ้นแม้ในความเร็วสูง หัวใจคือเครื่องยนต์ Blue Core 155 ซีซี พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVA และลูกสูบ Forged ที่ให้แรงบิดและกำลังต่อเนื่องในทุกย่านความเร็ว นอกจากนี้ ยังมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่จัดเต็ม เช่น ไฟหน้า Dual Projector LED, เรือนไมล์ Negative LCD ที่รองรับ Y-Connect และแสดงผลได้ 3 โหมด, โช้คหน้าขนาดแกน 30 มม. ที่ปรับเซ็ตอัพใหม่, ดิสก์เบรกหลัง (ในรุ่นท็อป), และระบบความปลอดภัย ABS (เฉพาะด้านหน้า) ทำให้ Aerox 2025 เป็น Automatic ที่เร็ว แรง และควบคุมง่ายกว่าเดิมอย่างชัดเจน
ZONTES 368D
ZONTES 368D คือรถบิ๊กสกู๊ตเตอร์ที่ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด "Folding The City" เน้นความคล่องตัวและประสิทธิภาพระดับสูง ด้วยเครื่องยนต์ High-Compression Engine ขนาด 368 ซีซี ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 38.7 แรงม้า และแรงบิด 40 Nm ซึ่งถือว่าแรงที่สุดในคลาส Scooter ไม่เกิน 400 ซีซี พร้อมด้วยการลดน้ำหนักรถลงกว่า 20 กก. ทำให้มีน้ำหนักรวมของเหลวเพียง 175 กก. ส่งผลให้การควบคุมคล่องแคล่วใกล้เคียงรถเล็ก จุดเด่นด้านเทคโนโลยีคือระบบเบรก J.Juan พร้อม Cornering ABS และ Traction Control รวมถึงโช้คอัพหน้าแบบ Upside-Down ที่ปรับจูนใหม่เพื่อสมรรถนะการขับขี่ที่มั่นคง นอกจากนี้ยังอัดแน่นด้วยฟีเจอร์สมัยใหม่ เช่น หน้าจอ TFT Full Color LCD ขนาด 6.75 นิ้ว ที่สามารถ Mirror Screen เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้, ระบบ Keyless Control 3.0, ระบบตรวจสอบแรงดันลมยางอัจฉริยะ TPMS และโหมดขับขี่ 2 โหมด (Sport / Eco) ทำให้ ZONTES 368D เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา Big Scooter ที่มีทั้งความแรง เทคโนโลยีล้ำสมัย และความคุ้มค่า
นี้ก็เป็นรถมอเตอร์ไซค์บางส่วนที่น่าสนใจซึ่งจะไปจัดแสดงกันที่งานนะครับ ยังมีรถที่น่าสนใจอีกมากมายกันที่งาน สำหรับใครที่อยากไปงาน Motor Expo 2025 ซึ่งงานนี้จะจัดที่ IMPACT เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2568 ใครสนใจก็แวะไปติดตามกันได้ครับ
Credit : motorexpo