
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคใต้ ส่งผลให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในพื้นที่ภาคใต้ ทั้งนี้ สทนช. ได้ประเมินวิเคราะห์สภาพอากาศ สถานการณ์น้ำ และคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม ร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรธรณี กรมชลประทาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ เนื่องจากระบายน้ำไม่ทัน ในช่วงวันที่ 17 – 22 พฤศจิกายน 2568 ดังนี้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ภาคใต้1. พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำเนื่องจากระบายไม่ทัน บริเวณ จังหวัดชุมพร (อำเภอสวี ทุ่งตะโก พะโต๊ะ ละแม และหลังสวน) จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ชัยบุรี พระแสง เวียงสระ กาญจนดิษฐ์ ดอนสัก บ้านนาสาร ท่าฉาง และเกาะสมุย และเกาะพงัน) จังหวัดภูเก็ต (อำเภอเมืองภูเก็ต กะทู้ และถลาง) จังหวัดนครศรีธรรมราช (อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เชียรใหญ่ ชะอวด หัวไทร เฉลิมพระเกียรติ ปากพนัง พระพรหม สิชล นบพิตำ ท่าศาลา ขนอม และช้างกลาง) จังหวัดตรัง (อำเภอเมืองตรัง ห้วยยอด นาโยง ปะเหลียน และย่านตาขาว) จังหวัดพัทลุง (อำเภอกงหรา ตะโหมด ป่าบอน ศรีนครินทร์ ศรีบรรพต และป่าพะยอม) จังหวัดสตูล (อำเภอเมืองสตูล ควนโดน ควนกาหลง และท่าแพ) จังหวัดสงขลา (อำเภอเมืองสงขลา ระโนด กระแสสินธุ์ สทิงพระ สิงหนคร รัตภูมิ บางกล่ำ ควนเนียง หาดใหญ่ คลองหอยโข่ง สะเดา นาหม่อม จะนะ นาทวี เทพา และสะบ้าย้อย) จังหวัดปัตตานี (อำเภอเมืองปัตตานี หนองจิก โคกโพธิ์ แม่ลาน ยะรัง ยะหริ่ง มายอ ทุ่งยางแดง ปะนาเระ กะพ้อ สายบุรี และไม้แก่น) จังหวัดยะลา (อำเภอเมืองยะลา กาบัง ยะหา กรงปินัง รามัน บันนังสตา และธารโต) จังหวัดนราธิวาส (อำเภอเมืองนราธิวาส บาเจาะ รือเสาะ ยี่งอ ศรีสาคร ระแงะ ตากใบ เจาะไอร้อง จะแนะ สุคิริน สุไหงปาดี สุไหงโก-ลก และแว้ง)2. เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่ม
อ่านต่อ >57

#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
ภาพรวมสถานการณ์น้ำทั่วประเทศ 15 พฤศจิกายน 2568 อากาศเย็นปกคลุมภาคบน อ่างเก็บน้ำมีน้ำ 90% พร้อมเร่งแก้ปัญหาน้ำท่วม–แล้งซ้ำซากกรมทรัพยากรน้ำและหน่วยงานด้านน้ำรายงานภาพรวมสถานการณ์น้ำทั่วประเทศ ณ เวลา 07.00 น. วันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 พบว่าประเทศไทยกำลังอยู่ภายใต้มวลอากาศเย็นจากจีน ส่งผลให้หลายจังหวัดตอนบนมีอากาศเย็นในช่วงเช้า ขณะที่ภาคใต้ยังมีฝนจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงวันที่ 16–20 พฤศจิกายน จากการเสริมตัวของความกดอากาศสูงลูกใหม่ อากาศเย็นกลับมาปกคลุมภาคเหนือ–อีสาน–กลาง–ตะวันออก ใต้ยังมีฝนหนักบางพื้นที่มวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากจีนปกคลุมภาคบน ส่งผลให้หลายพื้นที่มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนภาคใต้ยังมีฝนฟ้าคะนองจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและทะเลอันดามันช่วงวันที่ 16–20 พฤศจิกายน มวลอากาศเย็นกำลังแรงจะแผ่ลงมาทำให้ภาคบนมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในระยะแรก ก่อนที่อุณหภูมิจะลดลงอีก ขณะที่ภาคใต้ตอนบนและตอนล่างจะมีฝนเพิ่มขึ้น และอาจมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่งอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศมีน้ำรวม 90% ของความจุสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำหลักทั่วประเทศมีปริมาณน้ำรวม 72,112 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 90% ของความจุเก็บกัก และมีปริมาณน้ำใช้การ 47,989 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 83% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่สามารถสนับสนุนการใช้น้ำในช่วงฤดูแล้งที่จะมาถึงได้ แต่ยังต้องวางแผนใช้น้ำอย่างรอบคอบในพื้นที่ฝนตกน้อย คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลักยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานการตรวจคุณภาพน้ำในแม่น้ำสำคัญพบว่าน้ำเพื่ออุปโภค–บริโภคที่สถานีสูบน้ำสำแล (แม่น้ำเจ้าพระยา จ.ปทุมธานี) อยู่ในเกณฑ์ปกติน้ำเพื่อการเกษตรในแม่น้ำท่าจีน แม่กลอง และบางปะกงอยู่ในระดับมาตรฐาน สามารถใช้ทำการเกษตรได้ตามปกติรองนายกฯ ลงพื้นที่ร้อยเอ็ด ตรวจความคืบหน้าโครงการแก้น้ำท่วม–แล้งเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำชี ทั้งปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากและความเสี่ยงภัยแล้ง พร้อมประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจความก้าวหน้าโครงการระบบระบายน้ำหลักระยะที่ 1รองนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและแล้งเป็นวาระสำคัญของรัฐบาล โดยมอบหมายให้ทุกหน่วยงานด้านน้ำจัดทำ “แผนแม่บทน้ำจังหวัดร้อยเอ็ด” เพื่อบูรณาการแก้ปัญหาระยะยาว ลด
อ่านต่อ >12

#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
ประกันสังคมเผยสิทธิเงินว่างงานเหตุสุดวิสัย ช่วยผู้ประกันตนจากภัยธรรมชาตินางสาวกาญจนา พูลแก้ว ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ภัยธรรมชาติโดยเฉพาะสถานการณ์อุทกภัย ที่ส่งผลกระทบต่อหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ทำให้มีผู้ประกันตนไม่สามารถปฏิบัติงานได้ตามปกติ ขณะที่สถานประกอบการบางแห่งได้รับความเสียหายจนไม่สามารถดำเนินกิจการได้ สำนักงานประกันสังคมพร้อมคุ้มครองสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัย เพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับการคุ้มครองและบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเหมาะสม ขั้นตอนรับเงินทดแทนว่างงานจากเหตุน้ำท่วมโดยผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติจะมีสิทธิได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงาน ตั้งแต่วันที่ไม่สามารถปฏิบัติงานได้ หรือวันที่นายจ้างไม่อาจประกอบกิจการได้ และจะได้รับเงินทดแทนในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างรายวัน ครอบคลุมระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 180 วัน ต่อครั้ง ทั้งนี้ การยื่นขอรับประโยชน์จำเป็นต้องใช้แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน (สปส. 2-01/7) พร้อมหนังสือรับรองการว่างงานจากนายจ้างเป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาสำหรับนายจ้าง สำนักงานประกันสังคมได้กำหนดขั้นตอนที่ชัดเจน โดยนายจ้างต้องจัดทำหนังสือรับรองการว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัย ซึ่งสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้จากเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th จากนั้นจึงส่งแบบคำขอและเอกสารประกอบทั้งหมดไปยังสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ จังหวัด หรือสาขาที่สถานประกอบการตั้งอยู่ นางสาวกาญจนา พูลแก้ว เน้นย้ำว่า สำนักงานประกันสังคมพร้อมเคียงข้างผู้ประกันตนในยามเกิดเหตุไม่คาดฝัน พร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มความสามารถ จึงขอให้ผู้ประกันตนและนายจ้างตรวจสอบสิทธิของตนเองและจัดเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน เพื่อให้การรับบริการเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อสายด่วนประกันสังคม โทร. 1506 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
อ่านต่อ >17

#ข่าวเศรษฐกิจ #TNN ช่อง16
สถานการณ์น้ำท่วมยังคงกระทบในหลายพื้นที่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะในพื้นที่ ที่ท่วมอยู่นานมาก และอาจจะลดลงกลับเข้าสู่สภาวะปกติทีหลังสุด เช่นที่ ชุมชน วัดบ้านแดง พบว่าวัด บ้านเรือน ประชาชนที่ปลูกติดกับแม่น้ำน้อย ตอนนี้ถูกน้ำท่วมสูง ในพื้นที่บางจุด 4–5 เมตร ทำให้การเข้าออกบ้านเรือน ต้องใช้เรือเป็นยานพาหนะในการเข้าออก ถูกน้ำท่วมตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม มาจนถึงปัจจุบันนานจะครึ่งปี โดยขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้ในชุมชนท่วมแล้วทั้งหมด แต่เมื่อเทียบรุนแรงแล้ว น้อยกว่าปี 54 แต่ท่วมนานกว่า ส่วนที่อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงมากขึ้น ล้นแนวคันกันน้ำ ซึ่งเป็นถนนทางหลวงหมายเลข 3454 สาย เสนา – ผักไห่ น้ำไหลข้ามถนนช่วงตั้งแต่ หลักกิโลเมตรที่ 105 ช่วงทางแยกก่อนข้ามสะพานวัดโบสถ์(ล่าง) และช่วงลงสะพานแยกทางเข้าเทศบาลตำบลหัวเวียง ตลอดเส้นทางจะมีน้ำท่วมหลายจุด ระดับน้ำท่วมบนถนนประมาณ 20 – 40 ซม. รถยนต์เก๋ง รถยนต์ยนต์กระบะ ต้องใช้ความระมัดระวัง รถจักรยานยนต์หลายคันดับกลางทางไม่สามารถเดินทางต่อไปได้
อ่านต่อ >18

#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคใต้ ส่งผลให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในพื้นที่ภาคใต้ ทั้งนี้ สทนช. ได้ประเมินวิเคราะห์สภาพอากาศ สถานการณ์น้ำ และคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม ร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรธรณี กรมชลประทาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ เนื่องจากระบายน้ำไม่ทัน ในช่วงวันที่ 17 – 22 พฤศจิกายน 2568 ดังนี้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ภาคใต้1. พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำเนื่องจากระบายไม่ทัน บริเวณ จังหวัดชุมพร (อำเภอสวี ทุ่งตะโก พะโต๊ะ ละแม และหลังสวน) จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ชัยบุรี พระแสง เวียงสระ กาญจนดิษฐ์ ดอนสัก บ้านนาสาร ท่าฉาง และเกาะสมุย และเกาะพงัน) จังหวัดภูเก็ต (อำเภอเมืองภูเก็ต กะทู้ และถลาง) จังหวัดนครศรีธรรมราช (อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เชียรใหญ่ ชะอวด หัวไทร เฉลิมพระเกียรติ ปากพนัง พระพรหม สิชล นบพิตำ ท่าศาลา ขนอม และช้างกลาง) จังหวัดตรัง (อำเภอเมืองตรัง ห้วยยอด นาโยง ปะเหลียน และย่านตาขาว) จังหวัดพัทลุง (อำเภอกงหรา ตะโหมด ป่าบอน ศรีนครินทร์ ศรีบรรพต และป่าพะยอม) จังหวัดสตูล (อำเภอเมืองสตูล ควนโดน ควนกาหลง และท่าแพ) จังหวัดสงขลา (อำเภอเมืองสงขลา ระโนด กระแสสินธุ์ สทิงพระ สิงหนคร รัตภูมิ บางกล่ำ ควนเนียง หาดใหญ่ คลองหอยโข่ง สะเดา นาหม่อม จะนะ นาทวี เทพา และสะบ้าย้อย) จังหวัดปัตตานี (อำเภอเมืองปัตตานี หนองจิก โคกโพธิ์ แม่ลาน ยะรัง ยะหริ่ง มายอ ทุ่งยางแดง ปะนาเระ กะพ้อ สายบุรี และไม้แก่น) จังหวัดยะลา (อำเภอเมืองยะลา กาบัง ยะหา กรงปินัง รามัน บันนังสตา และธารโต) จังหวัดนราธิวาส (อำเภอเมืองนราธิวาส บาเจาะ รือเสาะ ยี่งอ ศรีสาคร ระแงะ ตากใบ เจาะไอร้อง จะแนะ สุคิริน สุไหงปาดี สุไหงโก-ลก และแว้ง)2. เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่ม
อ่านต่อ >57

#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
ภาพรวมสถานการณ์น้ำทั่วประเทศ 15 พฤศจิกายน 2568 อากาศเย็นปกคลุมภาคบน อ่างเก็บน้ำมีน้ำ 90% พร้อมเร่งแก้ปัญหาน้ำท่วม–แล้งซ้ำซากกรมทรัพยากรน้ำและหน่วยงานด้านน้ำรายงานภาพรวมสถานการณ์น้ำทั่วประเทศ ณ เวลา 07.00 น. วันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 พบว่าประเทศไทยกำลังอยู่ภายใต้มวลอากาศเย็นจากจีน ส่งผลให้หลายจังหวัดตอนบนมีอากาศเย็นในช่วงเช้า ขณะที่ภาคใต้ยังมีฝนจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงวันที่ 16–20 พฤศจิกายน จากการเสริมตัวของความกดอากาศสูงลูกใหม่ อากาศเย็นกลับมาปกคลุมภาคเหนือ–อีสาน–กลาง–ตะวันออก ใต้ยังมีฝนหนักบางพื้นที่มวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากจีนปกคลุมภาคบน ส่งผลให้หลายพื้นที่มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนภาคใต้ยังมีฝนฟ้าคะนองจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและทะเลอันดามันช่วงวันที่ 16–20 พฤศจิกายน มวลอากาศเย็นกำลังแรงจะแผ่ลงมาทำให้ภาคบนมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในระยะแรก ก่อนที่อุณหภูมิจะลดลงอีก ขณะที่ภาคใต้ตอนบนและตอนล่างจะมีฝนเพิ่มขึ้น และอาจมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่งอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศมีน้ำรวม 90% ของความจุสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำหลักทั่วประเทศมีปริมาณน้ำรวม 72,112 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 90% ของความจุเก็บกัก และมีปริมาณน้ำใช้การ 47,989 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 83% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่สามารถสนับสนุนการใช้น้ำในช่วงฤดูแล้งที่จะมาถึงได้ แต่ยังต้องวางแผนใช้น้ำอย่างรอบคอบในพื้นที่ฝนตกน้อย คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลักยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานการตรวจคุณภาพน้ำในแม่น้ำสำคัญพบว่าน้ำเพื่ออุปโภค–บริโภคที่สถานีสูบน้ำสำแล (แม่น้ำเจ้าพระยา จ.ปทุมธานี) อยู่ในเกณฑ์ปกติน้ำเพื่อการเกษตรในแม่น้ำท่าจีน แม่กลอง และบางปะกงอยู่ในระดับมาตรฐาน สามารถใช้ทำการเกษตรได้ตามปกติรองนายกฯ ลงพื้นที่ร้อยเอ็ด ตรวจความคืบหน้าโครงการแก้น้ำท่วม–แล้งเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำชี ทั้งปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากและความเสี่ยงภัยแล้ง พร้อมประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจความก้าวหน้าโครงการระบบระบายน้ำหลักระยะที่ 1รองนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและแล้งเป็นวาระสำคัญของรัฐบาล โดยมอบหมายให้ทุกหน่วยงานด้านน้ำจัดทำ “แผนแม่บทน้ำจังหวัดร้อยเอ็ด” เพื่อบูรณาการแก้ปัญหาระยะยาว ลด
อ่านต่อ >12

#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
ประกันสังคมเผยสิทธิเงินว่างงานเหตุสุดวิสัย ช่วยผู้ประกันตนจากภัยธรรมชาตินางสาวกาญจนา พูลแก้ว ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ภัยธรรมชาติโดยเฉพาะสถานการณ์อุทกภัย ที่ส่งผลกระทบต่อหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ทำให้มีผู้ประกันตนไม่สามารถปฏิบัติงานได้ตามปกติ ขณะที่สถานประกอบการบางแห่งได้รับความเสียหายจนไม่สามารถดำเนินกิจการได้ สำนักงานประกันสังคมพร้อมคุ้มครองสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัย เพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับการคุ้มครองและบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเหมาะสม ขั้นตอนรับเงินทดแทนว่างงานจากเหตุน้ำท่วมโดยผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติจะมีสิทธิได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงาน ตั้งแต่วันที่ไม่สามารถปฏิบัติงานได้ หรือวันที่นายจ้างไม่อาจประกอบกิจการได้ และจะได้รับเงินทดแทนในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างรายวัน ครอบคลุมระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 180 วัน ต่อครั้ง ทั้งนี้ การยื่นขอรับประโยชน์จำเป็นต้องใช้แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน (สปส. 2-01/7) พร้อมหนังสือรับรองการว่างงานจากนายจ้างเป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาสำหรับนายจ้าง สำนักงานประกันสังคมได้กำหนดขั้นตอนที่ชัดเจน โดยนายจ้างต้องจัดทำหนังสือรับรองการว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัย ซึ่งสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้จากเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th จากนั้นจึงส่งแบบคำขอและเอกสารประกอบทั้งหมดไปยังสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ จังหวัด หรือสาขาที่สถานประกอบการตั้งอยู่ นางสาวกาญจนา พูลแก้ว เน้นย้ำว่า สำนักงานประกันสังคมพร้อมเคียงข้างผู้ประกันตนในยามเกิดเหตุไม่คาดฝัน พร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มความสามารถ จึงขอให้ผู้ประกันตนและนายจ้างตรวจสอบสิทธิของตนเองและจัดเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน เพื่อให้การรับบริการเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อสายด่วนประกันสังคม โทร. 1506 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
อ่านต่อ >17

#ข่าวเศรษฐกิจ #TNN ช่อง16
สถานการณ์น้ำท่วมยังคงกระทบในหลายพื้นที่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะในพื้นที่ ที่ท่วมอยู่นานมาก และอาจจะลดลงกลับเข้าสู่สภาวะปกติทีหลังสุด เช่นที่ ชุมชน วัดบ้านแดง พบว่าวัด บ้านเรือน ประชาชนที่ปลูกติดกับแม่น้ำน้อย ตอนนี้ถูกน้ำท่วมสูง ในพื้นที่บางจุด 4–5 เมตร ทำให้การเข้าออกบ้านเรือน ต้องใช้เรือเป็นยานพาหนะในการเข้าออก ถูกน้ำท่วมตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม มาจนถึงปัจจุบันนานจะครึ่งปี โดยขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้ในชุมชนท่วมแล้วทั้งหมด แต่เมื่อเทียบรุนแรงแล้ว น้อยกว่าปี 54 แต่ท่วมนานกว่า ส่วนที่อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงมากขึ้น ล้นแนวคันกันน้ำ ซึ่งเป็นถนนทางหลวงหมายเลข 3454 สาย เสนา – ผักไห่ น้ำไหลข้ามถนนช่วงตั้งแต่ หลักกิโลเมตรที่ 105 ช่วงทางแยกก่อนข้ามสะพานวัดโบสถ์(ล่าง) และช่วงลงสะพานแยกทางเข้าเทศบาลตำบลหัวเวียง ตลอดเส้นทางจะมีน้ำท่วมหลายจุด ระดับน้ำท่วมบนถนนประมาณ 20 – 40 ซม. รถยนต์เก๋ง รถยนต์ยนต์กระบะ ต้องใช้ความระมัดระวัง รถจักรยานยนต์หลายคันดับกลางทางไม่สามารถเดินทางต่อไปได้
อ่านต่อ >18

#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคใต้ ส่งผลให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในพื้นที่ภาคใต้ ทั้งนี้ สทนช. ได้ประเมินวิเคราะห์สภาพอากาศ สถานการณ์น้ำ และคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม ร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรธรณี กรมชลประทาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ เนื่องจากระบายน้ำไม่ทัน ในช่วงวันที่ 17 – 22 พฤศจิกายน 2568 ดังนี้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ภาคใต้1. พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำเนื่องจากระบายไม่ทัน บริเวณ จังหวัดชุมพร (อำเภอสวี ทุ่งตะโก พะโต๊ะ ละแม และหลังสวน) จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ชัยบุรี พระแสง เวียงสระ กาญจนดิษฐ์ ดอนสัก บ้านนาสาร ท่าฉาง และเกาะสมุย และเกาะพงัน) จังหวัดภูเก็ต (อำเภอเมืองภูเก็ต กะทู้ และถลาง) จังหวัดนครศรีธรรมราช (อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เชียรใหญ่ ชะอวด หัวไทร เฉลิมพระเกียรติ ปากพนัง พระพรหม สิชล นบพิตำ ท่าศาลา ขนอม และช้างกลาง) จังหวัดตรัง (อำเภอเมืองตรัง ห้วยยอด นาโยง ปะเหลียน และย่านตาขาว) จังหวัดพัทลุง (อำเภอกงหรา ตะโหมด ป่าบอน ศรีนครินทร์ ศรีบรรพต และป่าพะยอม) จังหวัดสตูล (อำเภอเมืองสตูล ควนโดน ควนกาหลง และท่าแพ) จังหวัดสงขลา (อำเภอเมืองสงขลา ระโนด กระแสสินธุ์ สทิงพระ สิงหนคร รัตภูมิ บางกล่ำ ควนเนียง หาดใหญ่ คลองหอยโข่ง สะเดา นาหม่อม จะนะ นาทวี เทพา และสะบ้าย้อย) จังหวัดปัตตานี (อำเภอเมืองปัตตานี หนองจิก โคกโพธิ์ แม่ลาน ยะรัง ยะหริ่ง มายอ ทุ่งยางแดง ปะนาเระ กะพ้อ สายบุรี และไม้แก่น) จังหวัดยะลา (อำเภอเมืองยะลา กาบัง ยะหา กรงปินัง รามัน บันนังสตา และธารโต) จังหวัดนราธิวาส (อำเภอเมืองนราธิวาส บาเจาะ รือเสาะ ยี่งอ ศรีสาคร ระแงะ ตากใบ เจาะไอร้อง จะแนะ สุคิริน สุไหงปาดี สุไหงโก-ลก และแว้ง)2. เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่ม
อ่านต่อ >57