#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
วันนี้ (7 ธันวาคม 2567) นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ผลจากความร่วมมือบูรณาการหน่วยงานภาครัฐในการแก้ไขปัญหาสินค้าจากต่างประเทศที่ไม่มีคุณภาพ โดยกำหนดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้ระเบียบกฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อยกระดับ SMEs ไทยและแก้ไขปัญหาการนำเข้าสินค้าไม่มีคุณภาพ ซึ่งโฟกัส 3 กลุ่มสินค้า ได้แก่ เกษตร อุปโภคบริโภค และอุตสาหกรรม พร้อมการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มข้น ตรวจสอบคุณภาพอย่างละเอียดยิบ ทำยอดนำเข้าลด ยอดจับกุมเพิ่ม พร้อมปรับกฎระเบียบธุรกิจออนไลน์ต่างประเทศต้องจดนิติบุคคลในไทย จด VAT ด้วยจากนโยบายดังกล่าว ทำให้การนำเข้าสินค้าลดลง โดยก่อนมีมาตรการ ตั้งแต่ ม.ค.-มิ.ย.2567 มูลค่านำเข้าเฉลี่ย 3,200 ล้านบาทต่อเดือน แต่หลังจากมีมาตรการ ก.ค.-พ.ย.2567 มูลค่าการนำเข้าลดลงเหลือเฉลี่ย 2,000 ล้านบาทต่อเดือน หรือลดลง 20% ส่วนการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มกับสินค้านำเข้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 ล้าน ตั้งแต่ 5 ก.ค.-21 พ.ย.2567 มีมูลค่า 707 ล้านบาท จับกุมสินค้านำเข้าที่ไม่มีมาตรฐาน มูลค่า 506 ล้านบาท เช่น สินค้าปลอมแปลงเครื่องหมายการค้า เสื้อ รองเท้า วิตามิน สินค้าเบ็ดเตล็ด รวมถึงสินค้าต้องห้ามบุหรี่ไฟฟ้า เป็นต้น นางสาวศศิกานต์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลเดินหน้าปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบให้สอดคล้องกับการค้าในอนาคต โดยกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ประกอบการออนไลน์จากต่างประเทศจะต้องจดทะเบียนนิติบุคคลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และมีสำนักงานในไทย เพื่อให้ภาครัฐสามารถกำกับดูแลได้ รวมทั้งผลักดันให้แพลตฟอร์มออนไลน์ต้องจด VAT โดยการปรับปรุงประมวลรัษฎากรกำหนดให้แพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ที่จำหน่ายสินค้าในไทยต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพากรด้วย “การปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบ รวมถึงมาตรการต่าง ๆ จะช่วยแก้ไขปัญหาสินค้าที่ไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม ช่วยเหลือ SMEs ให้แข่งขันได้ และดูแลคุ้มครองผู้บริโภค ไม่ต้องเสี่ยงกับการใช้สินค้าที่ไม่มีคุณภาพ ขณะเดียวกันจะผลักดันให้สินค้าไทยมีมาตรฐานสากล เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าไทยเป็นที่ยอมรับและได้รับความนิยมจากคนไทยและชาวต่างชาติมากขึ้น” นางสาวศศิกานต์ ระบุภาพจาก รัฐบาลไทย
อ่านต่อ >59
#ข่าวการเมือง #TNN ช่อง16
วันนี้ ( 8 ธ.ค. 67 )นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัว เชิญชวนประชาชนติดตามการแถลงผลงานรัฐบาล ในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ ภายใต้ชื่อ 2568 โอกาสไทยทำได้จริง จากผลงานที่เป็นรูปธรรม สู่อนาคตที่ทำได้จริงนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้นำแถลงในเวลา 10.00 น. ซึ่งจะมีการชี้แจงให้ทราบถึงผลการทำงานในช่วงเวลา 90 วันรัฐบาลทำอะไรบ้าง และปัจจุบันทำอะไรอยู่ และในอนาคตประเทศไทยจะเดินไปทิศทางไหน ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดตั้งแต่เวลา 10.00 น. ทางช่อง NBT2HD และ Facebook Live : Live NBT2HDทั้งนี้ต้องติดตามแผนการทำงานของรัฐบาลในปีถัดไป ซึ่งรัฐบาลภายใต้การนำของ นางสาวแพทองธาร ได้ดำเนินการ และจะเดินหน้าเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามที่ได้แถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาไว้เมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา ด้วยคำกล่าวนายกรัฐมนตรี ที่ว่า "การสร้างโอกาสอย่างเท่าเทียม ทำให้คนไทย มีกิน มีใช้มีเกียรติมีศักดิ์ศรี เพื่อนำพาความภาคภูมิใจกลับมาสู่คนไทย โดยเฉพาะ 10 นโยบายเร่งด่วน ทั้งเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ การเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ บรรเทาภาระค่าใช้จ่าย ให้ความสำคัญกลุ่มเปราะบางเป็นลำดับแรก และเร่งผลักดันการแจกเงินหมื่นกระตุ้นเศรษฐกิจ ,การเร่งส่งเสริมการท่องเที่ยว, การแก้ปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาด, การเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ เป็นต้นส่วนอีกหนึ่งประเด็นสำคัญ ที่ นายกรัฐมนตรี แสดงความห่วงใยปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว หรือ นอมินี ในประเทศไทย โดยส่วนหนึ่งเป็นขบวนการที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายธุรกิจผิดกฎหมายและอาชญากรรมทางออนไลน์ หลอกลวงภาคธุรกิจและประชาชน ขณะที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้( 9 ธ.ค) ได้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างชาติที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ครั้งที่ 2/2567 เพื่อเร่งออกมาตรการที่จะส่งผลให้การแก้ไขปัญหาเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ทั้งในระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาวทั้งนี้ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมายเพื่อกำหนดนโยบายและมาตรการที่จำเป็นเร่งด่วนในการป้องกันและปราบปรามสินค้าและธุรกิจจากต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เปิดปฏิบัติการตรวจค้น
อ่านต่อ >18
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง "ประชามติและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ" ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 2-3 ธันวาคม 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านกระบวนการประชามติ จากการสำรวจเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับเกณฑ์การผ่านประชามติโดยต้องมีผู้ออกมาใช้สิทธิเกินกึ่งหนึ่ง (เกินกว่า 50%) ของผู้มีสิทธิ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 51.37 ระบุว่า เห็นด้วยมาก รองลงมา ร้อยละ 21.83 ระบุว่าค่อนข้างเห็นด้วย ร้อยละ 15.50 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย ร้อยละ 10.46 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย และร้อยละ 0.84 ระบุว่าไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจสำหรับความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการกำหนดเกณฑ์การผ่านประชามติ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 59.54 ระบุว่า เสียงเห็นชอบต้องเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิ (ต้องได้มากกว่า 50%) รองลงมา ร้อยละ 26.57 ระบุว่าเสียงเห็นชอบต้องเป็นเสียงส่วนใหญ่ (แต่ไม่จำเป็นต้องถึง 50%) ร้อยละ 12.52 ระบุว่าเสียงเห็นชอบต้องเป็นเสียงส่วนใหญ่ (ไม่จำเป็นต้องถึง 50%) แต่ต้องมากกว่าผู้ลงคะแนนช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน และร้อยละ 1.37 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจด้านความต้องการของประชาชนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 27.63 ระบุว่าต้องการมาก รองลงมา ร้อยละ 27.02 ระบุว่า ไม่ต้องการเลย ร้อยละ 25.34 ระบุว่า ค่อนข้างต้องการ ร้อยละ 19.08 ระบุว่าไม่ค่อยต้องการ และร้อยละ 0.93 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจท้ายที่สุดเมื่อสอบความคิดเห็นของผู้ที่ระบุว่าต้องการมากและค่อนข้างต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ (จำนวน 694 หน่วยตัวอย่าง) เกี่ยวกับรูปแบบการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ประชาชนต้องการ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 78.97 ระบุว่า ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา รองลงมา ร้อยละ 19.16 ระบุว่า ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับและร้อยละ 1.87 ระบุว่า ไม่ตอบภาพจาก: AFP
อ่านต่อ >131
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เมื่อเวลา 07.00 น. พบค่าฝุ่นในพื้นที่ต่างๆ ของกรุงเทพฯ อยู่ในช่วง 23.1 - 50.3 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ซึ่งแม้จะลดลงจากเมื่อวานในเวลาเดียวกัน แต่ยังพบค่าฝุ่นเกินมาตรฐานในระดับสีส้ม (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 10 พื้นที่ โดยมีเขตหนองแขมที่บริเวณสามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 มีค่าฝุ่นสูงสุดที่ 50.3 มคก./ลบ.ม. ทั้งนี้ได้แนะนำประชาชน ในพื้นที่มีคุณภาพอากาศระดับสีส้ม ให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร รวมทั้งจำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก และควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตาขณะที่ สำนักสิ่งแวดล้อมได้ประสานแจ้งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เพิ่มความเข้มงวดการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง เพื่อเป็นการบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสุขภาพอนามัยของประชาชน และขอเชิญชวนส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนและทุกภาคส่วน โดยช่วยกันปรับเปลี่ยน พฤติกรรมและลดกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดฝุ่นละออง เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพ 5 วิธี ได้แก่ หมั่นทําความสะอาดบ้าน งดเผาขยะ งดจุดธูป ปลูกต้นไม้ช่วยดูดซับมลพิษดักจับฝุ่นละออง เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ และ ดับเครื่องยนต์ขณะจอดรถ ตรวจสภาพเครื่องยนต์ไม่ให้มีค่าควันดํา เกินมาตรฐานภาพจาก: TNN
อ่านต่อ >25
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
วันนี้ (7 ธันวาคม 2567) นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ผลจากความร่วมมือบูรณาการหน่วยงานภาครัฐในการแก้ไขปัญหาสินค้าจากต่างประเทศที่ไม่มีคุณภาพ โดยกำหนดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้ระเบียบกฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อยกระดับ SMEs ไทยและแก้ไขปัญหาการนำเข้าสินค้าไม่มีคุณภาพ ซึ่งโฟกัส 3 กลุ่มสินค้า ได้แก่ เกษตร อุปโภคบริโภค และอุตสาหกรรม พร้อมการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มข้น ตรวจสอบคุณภาพอย่างละเอียดยิบ ทำยอดนำเข้าลด ยอดจับกุมเพิ่ม พร้อมปรับกฎระเบียบธุรกิจออนไลน์ต่างประเทศต้องจดนิติบุคคลในไทย จด VAT ด้วยจากนโยบายดังกล่าว ทำให้การนำเข้าสินค้าลดลง โดยก่อนมีมาตรการ ตั้งแต่ ม.ค.-มิ.ย.2567 มูลค่านำเข้าเฉลี่ย 3,200 ล้านบาทต่อเดือน แต่หลังจากมีมาตรการ ก.ค.-พ.ย.2567 มูลค่าการนำเข้าลดลงเหลือเฉลี่ย 2,000 ล้านบาทต่อเดือน หรือลดลง 20% ส่วนการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มกับสินค้านำเข้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 ล้าน ตั้งแต่ 5 ก.ค.-21 พ.ย.2567 มีมูลค่า 707 ล้านบาท จับกุมสินค้านำเข้าที่ไม่มีมาตรฐาน มูลค่า 506 ล้านบาท เช่น สินค้าปลอมแปลงเครื่องหมายการค้า เสื้อ รองเท้า วิตามิน สินค้าเบ็ดเตล็ด รวมถึงสินค้าต้องห้ามบุหรี่ไฟฟ้า เป็นต้น นางสาวศศิกานต์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลเดินหน้าปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบให้สอดคล้องกับการค้าในอนาคต โดยกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ประกอบการออนไลน์จากต่างประเทศจะต้องจดทะเบียนนิติบุคคลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และมีสำนักงานในไทย เพื่อให้ภาครัฐสามารถกำกับดูแลได้ รวมทั้งผลักดันให้แพลตฟอร์มออนไลน์ต้องจด VAT โดยการปรับปรุงประมวลรัษฎากรกำหนดให้แพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ที่จำหน่ายสินค้าในไทยต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพากรด้วย “การปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบ รวมถึงมาตรการต่าง ๆ จะช่วยแก้ไขปัญหาสินค้าที่ไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม ช่วยเหลือ SMEs ให้แข่งขันได้ และดูแลคุ้มครองผู้บริโภค ไม่ต้องเสี่ยงกับการใช้สินค้าที่ไม่มีคุณภาพ ขณะเดียวกันจะผลักดันให้สินค้าไทยมีมาตรฐานสากล เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าไทยเป็นที่ยอมรับและได้รับความนิยมจากคนไทยและชาวต่างชาติมากขึ้น” นางสาวศศิกานต์ ระบุภาพจาก รัฐบาลไทย
อ่านต่อ >59
#ข่าวการเมือง #TNN ช่อง16
วันนี้ ( 8 ธ.ค. 67 )นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัว เชิญชวนประชาชนติดตามการแถลงผลงานรัฐบาล ในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ ภายใต้ชื่อ 2568 โอกาสไทยทำได้จริง จากผลงานที่เป็นรูปธรรม สู่อนาคตที่ทำได้จริงนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้นำแถลงในเวลา 10.00 น. ซึ่งจะมีการชี้แจงให้ทราบถึงผลการทำงานในช่วงเวลา 90 วันรัฐบาลทำอะไรบ้าง และปัจจุบันทำอะไรอยู่ และในอนาคตประเทศไทยจะเดินไปทิศทางไหน ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดตั้งแต่เวลา 10.00 น. ทางช่อง NBT2HD และ Facebook Live : Live NBT2HDทั้งนี้ต้องติดตามแผนการทำงานของรัฐบาลในปีถัดไป ซึ่งรัฐบาลภายใต้การนำของ นางสาวแพทองธาร ได้ดำเนินการ และจะเดินหน้าเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามที่ได้แถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาไว้เมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา ด้วยคำกล่าวนายกรัฐมนตรี ที่ว่า "การสร้างโอกาสอย่างเท่าเทียม ทำให้คนไทย มีกิน มีใช้มีเกียรติมีศักดิ์ศรี เพื่อนำพาความภาคภูมิใจกลับมาสู่คนไทย โดยเฉพาะ 10 นโยบายเร่งด่วน ทั้งเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ การเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ บรรเทาภาระค่าใช้จ่าย ให้ความสำคัญกลุ่มเปราะบางเป็นลำดับแรก และเร่งผลักดันการแจกเงินหมื่นกระตุ้นเศรษฐกิจ ,การเร่งส่งเสริมการท่องเที่ยว, การแก้ปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาด, การเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ เป็นต้นส่วนอีกหนึ่งประเด็นสำคัญ ที่ นายกรัฐมนตรี แสดงความห่วงใยปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว หรือ นอมินี ในประเทศไทย โดยส่วนหนึ่งเป็นขบวนการที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายธุรกิจผิดกฎหมายและอาชญากรรมทางออนไลน์ หลอกลวงภาคธุรกิจและประชาชน ขณะที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้( 9 ธ.ค) ได้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างชาติที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ครั้งที่ 2/2567 เพื่อเร่งออกมาตรการที่จะส่งผลให้การแก้ไขปัญหาเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ทั้งในระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาวทั้งนี้ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมายเพื่อกำหนดนโยบายและมาตรการที่จำเป็นเร่งด่วนในการป้องกันและปราบปรามสินค้าและธุรกิจจากต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เปิดปฏิบัติการตรวจค้น
อ่านต่อ >18
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง "ประชามติและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ" ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 2-3 ธันวาคม 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านกระบวนการประชามติ จากการสำรวจเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับเกณฑ์การผ่านประชามติโดยต้องมีผู้ออกมาใช้สิทธิเกินกึ่งหนึ่ง (เกินกว่า 50%) ของผู้มีสิทธิ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 51.37 ระบุว่า เห็นด้วยมาก รองลงมา ร้อยละ 21.83 ระบุว่าค่อนข้างเห็นด้วย ร้อยละ 15.50 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย ร้อยละ 10.46 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย และร้อยละ 0.84 ระบุว่าไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจสำหรับความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการกำหนดเกณฑ์การผ่านประชามติ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 59.54 ระบุว่า เสียงเห็นชอบต้องเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิ (ต้องได้มากกว่า 50%) รองลงมา ร้อยละ 26.57 ระบุว่าเสียงเห็นชอบต้องเป็นเสียงส่วนใหญ่ (แต่ไม่จำเป็นต้องถึง 50%) ร้อยละ 12.52 ระบุว่าเสียงเห็นชอบต้องเป็นเสียงส่วนใหญ่ (ไม่จำเป็นต้องถึง 50%) แต่ต้องมากกว่าผู้ลงคะแนนช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน และร้อยละ 1.37 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจด้านความต้องการของประชาชนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 27.63 ระบุว่าต้องการมาก รองลงมา ร้อยละ 27.02 ระบุว่า ไม่ต้องการเลย ร้อยละ 25.34 ระบุว่า ค่อนข้างต้องการ ร้อยละ 19.08 ระบุว่าไม่ค่อยต้องการ และร้อยละ 0.93 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจท้ายที่สุดเมื่อสอบความคิดเห็นของผู้ที่ระบุว่าต้องการมากและค่อนข้างต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ (จำนวน 694 หน่วยตัวอย่าง) เกี่ยวกับรูปแบบการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ประชาชนต้องการ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 78.97 ระบุว่า ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา รองลงมา ร้อยละ 19.16 ระบุว่า ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับและร้อยละ 1.87 ระบุว่า ไม่ตอบภาพจาก: AFP
อ่านต่อ >131
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เมื่อเวลา 07.00 น. พบค่าฝุ่นในพื้นที่ต่างๆ ของกรุงเทพฯ อยู่ในช่วง 23.1 - 50.3 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ซึ่งแม้จะลดลงจากเมื่อวานในเวลาเดียวกัน แต่ยังพบค่าฝุ่นเกินมาตรฐานในระดับสีส้ม (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 10 พื้นที่ โดยมีเขตหนองแขมที่บริเวณสามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 มีค่าฝุ่นสูงสุดที่ 50.3 มคก./ลบ.ม. ทั้งนี้ได้แนะนำประชาชน ในพื้นที่มีคุณภาพอากาศระดับสีส้ม ให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร รวมทั้งจำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก และควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตาขณะที่ สำนักสิ่งแวดล้อมได้ประสานแจ้งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เพิ่มความเข้มงวดการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง เพื่อเป็นการบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสุขภาพอนามัยของประชาชน และขอเชิญชวนส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนและทุกภาคส่วน โดยช่วยกันปรับเปลี่ยน พฤติกรรมและลดกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดฝุ่นละออง เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพ 5 วิธี ได้แก่ หมั่นทําความสะอาดบ้าน งดเผาขยะ งดจุดธูป ปลูกต้นไม้ช่วยดูดซับมลพิษดักจับฝุ่นละออง เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ และ ดับเครื่องยนต์ขณะจอดรถ ตรวจสภาพเครื่องยนต์ไม่ให้มีค่าควันดํา เกินมาตรฐานภาพจาก: TNN
อ่านต่อ >25
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
วันนี้ (7 ธันวาคม 2567) นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ผลจากความร่วมมือบูรณาการหน่วยงานภาครัฐในการแก้ไขปัญหาสินค้าจากต่างประเทศที่ไม่มีคุณภาพ โดยกำหนดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้ระเบียบกฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อยกระดับ SMEs ไทยและแก้ไขปัญหาการนำเข้าสินค้าไม่มีคุณภาพ ซึ่งโฟกัส 3 กลุ่มสินค้า ได้แก่ เกษตร อุปโภคบริโภค และอุตสาหกรรม พร้อมการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มข้น ตรวจสอบคุณภาพอย่างละเอียดยิบ ทำยอดนำเข้าลด ยอดจับกุมเพิ่ม พร้อมปรับกฎระเบียบธุรกิจออนไลน์ต่างประเทศต้องจดนิติบุคคลในไทย จด VAT ด้วยจากนโยบายดังกล่าว ทำให้การนำเข้าสินค้าลดลง โดยก่อนมีมาตรการ ตั้งแต่ ม.ค.-มิ.ย.2567 มูลค่านำเข้าเฉลี่ย 3,200 ล้านบาทต่อเดือน แต่หลังจากมีมาตรการ ก.ค.-พ.ย.2567 มูลค่าการนำเข้าลดลงเหลือเฉลี่ย 2,000 ล้านบาทต่อเดือน หรือลดลง 20% ส่วนการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มกับสินค้านำเข้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 ล้าน ตั้งแต่ 5 ก.ค.-21 พ.ย.2567 มีมูลค่า 707 ล้านบาท จับกุมสินค้านำเข้าที่ไม่มีมาตรฐาน มูลค่า 506 ล้านบาท เช่น สินค้าปลอมแปลงเครื่องหมายการค้า เสื้อ รองเท้า วิตามิน สินค้าเบ็ดเตล็ด รวมถึงสินค้าต้องห้ามบุหรี่ไฟฟ้า เป็นต้น นางสาวศศิกานต์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลเดินหน้าปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบให้สอดคล้องกับการค้าในอนาคต โดยกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ประกอบการออนไลน์จากต่างประเทศจะต้องจดทะเบียนนิติบุคคลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และมีสำนักงานในไทย เพื่อให้ภาครัฐสามารถกำกับดูแลได้ รวมทั้งผลักดันให้แพลตฟอร์มออนไลน์ต้องจด VAT โดยการปรับปรุงประมวลรัษฎากรกำหนดให้แพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ที่จำหน่ายสินค้าในไทยต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพากรด้วย “การปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบ รวมถึงมาตรการต่าง ๆ จะช่วยแก้ไขปัญหาสินค้าที่ไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม ช่วยเหลือ SMEs ให้แข่งขันได้ และดูแลคุ้มครองผู้บริโภค ไม่ต้องเสี่ยงกับการใช้สินค้าที่ไม่มีคุณภาพ ขณะเดียวกันจะผลักดันให้สินค้าไทยมีมาตรฐานสากล เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าไทยเป็นที่ยอมรับและได้รับความนิยมจากคนไทยและชาวต่างชาติมากขึ้น” นางสาวศศิกานต์ ระบุภาพจาก รัฐบาลไทย
อ่านต่อ >59