
#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
รศ. ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่าทิชชู่ที่ผลิตจากประเทศจีน บนซองระบุเลขท้ายด้วยรหัส 810 ไม่อันตรายถึงขั้นห้ามใช้กับผิว โดยตัวเลขที่ระบุบนซองกระดาษทิชชู่เป็นการบ่งบอกมาตรฐานการผลิตในอุตสาหกรรมของประเทศจีน ซึ่งทิชชู่ที่ลงท้ายด้วยรหัส 810 เป็นมาตรฐานกระดาษชำระที่ใช้ในห้องน้ำ สามารถนำมาเช็ดถูผิวได้ แต่กระบวนการผลิตของทิชชู่รหัสดังกล่าวจะอนุญาตให้โรงงานผลิตใช้เยื่อกระดาษใหม่หรือบางโรงงานจะใช้เยื่อกระดาษรีไซเคิลมาผลิตได้ ซึ่งหากเป็นการนำกระดาษรีไซเคิลมาผลิต อาจจะทำให้มีคุณภาพต่ำและมีสารปนเปื้อนเกิดขึ้น โดยกระบวนการผลิตทิชชู่ด้วยกระดาษรีไซเคิลเป็นเรื่องปกติเช่นเดียวกับอุตสาหกรรมในประเทศไทยรศ. ดร.เจษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่าทิชชู่รหัส 810 ไม่ใช่การนำกระดาษชำระที่ใช้แล้ว นำมาผลิตเพื่อใช้งานใหม่อย่างที่หลายคนเข้าใจผิด แต่เป็นการนำเยื่อกระดาษทั่ว ๆ ไป เช่น กระดาษลัง, กระดาษหนังสือพิมพ์, เยื่อกระดาษธรรมดามาผลิต และนำไปฟอกสีให้เป็นสีขาว ซึ่งหากฟอกสีตรงตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ ก็ไม่อันตรายจนนำไปสู่โรคมะเร็ง แต่หากค่าการฟอกสีเกินกำหนด จะทำให้ผู้ใช้เกิดความระคายเคืองผิวส่วนทิชชู่จีนที่บนซองระบุรหัสลงท้ายด้วยเลข 808 เป็นการบ่งบอกว่ากระบวนการผลิตจะใช้เยื่อกระดาษใหม่มาผลิต และสามารถนำไปใช้เช็ดถูทั่วไปทั้งนี้การระบุ GB หรือ GB/T บนซองกระดาษทิชชู่ คือการระบุมาตรฐานอุตสาหกรรมของประเทศจีน คล้ายกับ มอก. หรือมาตรฐานอุตสาหกรรมของประเทศไทย รศ. ดร.เจษฎา กล่าวทิ้งท้ายว่าถ้าผู้ซื้ออยากจะมั่นใจในกระดาษทิชชู่มากขึ้น ก็แนะนำให้ซื้อทิชชู่ที่มียี่ห้อ หากทิชชู่ที่สั่งออนไลน์มาแล้วดูไม่ได้มาตรฐานก็ไม่ควรใช้งาน เพราะอาจจะมีกลุ่มมิจฉาชีพ หลอกสวมฉลากปลอมขายให้กับลูกค้าได้ผู้เขียนข่าวเรียบเรียงโดย : ธัญญาพร สุวรรณรัตน์ผู้สื่อข่าว คอลัมน์ ข่าวนี้จริงไหม ?ที่มาภาพนิ่งTNN
อ่านต่อ >52

#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
เรียกว่าเข้าหน้าฝนสิ่งที่หลายคนนึกถึงคงเป็นพายุที่จะพัดเข้ามา ซึ่งในแต่ละครั้งพายุที่เข้ามาในเขตประเทศไทยนั้นก็จะมีมวลความรุนแรงที่ต่างกันออกไป ไม่เพียงเท่านั้นยังมีชื่อเรียกที่ไม่ธรรมดาอีกด้วย วันนี้ทาง TNN ONLINE ไม่พลาดที่จะขอรวบรวมเอาชื่อพายุสุดแปลก แต่มีจริงตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปีปัจจุบันมาให้ได้ติดตามกัน จะแปลกขนาดไหน และมีที่มาที่ไปยังไร ต้องติดตามภาพประกอบจาก : Freepik"พายุโซนร้อนพระพิรุณ" (Prapiroon) ปี 2561 โดยชื่อมาจากเทพเจ้าแห่งฝนของประเทศไทย พายุลูกนี้ขึ้นฝั่งญี่ปุ่น ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศญี่ปุ่น โดยจะอยู่ในบริเวณทางตอนเหนือในเกาะฮอกไกโด ความเร็วลมอยู่ที่ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง "พายุไต้ฝุ่นมังคุด" (Mangkhut) ปี 2561 โดยพายุซูเปอร์ไต้ฝุ่นมังคุดเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 15 กันยายน มีความเร็วลม 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 900 กิโลเมตร ถือว่าในปีนั้นเป็นพายุที่มีความรุนแรงมากที่สุดของปี ความเร็วลมของพายุลูกนี้ขึ้นถล่มจังหวัดคากายัน บนเกาะลูซอนทางภาคเหนือของฟิลิปปินส์"พายุปาบึก" (Pabuk) ปี 2562 พายุโซนร้อนนอกฤดูกาลที่พัดเข้าในช่วงวันที่ 3 มกราคม พัดขึ้นฝั่งทางตะวันออกของทะเลไทย โดยครั้งนั้นมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางขณะนี้ 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นความรุนแรงที่ไม่ธรรมดา ส่งผลให้ในช่วงเวลานั้น มีประกาศให้ 6 อำเภอติดชายทะเล ประกอบด้วย อำเภอเมือง ท่าศาลา สิชล ขนอม ปากพนัง และ หัวไทร ต้องย้ายยังศูนย์พักพิงชั่วคราวของแต่ละอำเภอเพื่อความปลอดภัย "พายุไต้ฝุ่นฟ้าใส" (Faxai) ปี 2562 พายุลูกนี้มีความแรงลมสูงถึง 216 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พัดถล่มประเทศญี่ปุ่นทำให้การเดินทางในประเทศต้องหยุด ทางรัฐบาลญี่ปุ่นสั่งตัดไฟในบางพื้นที่ของกรุงโตเกียวเพื่อความปลอดภัย พายุไต้ฝุ่นลูกนี้สร้างความเสียหาย พร้อมทั้งยังทำให้มีประชาชนชาวญี่ปุ่นยาดเจ็บกว่า 40 คน "พายุไต้ฝุ่นไมสัก" (Maysak) ปี 2563 เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 4 กันยายน 63 พัดถล่มพื้นที่ชายฝั่งตอนใต้และตะวันออกของเกาหลีใต้ ส่งผลให้เกิดกระแสลมแรง ทำให้บ้านเรือนของประชาชนเกาหลีได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยพายุลูกนี้ทำให้เมืองปูซานและเกาะเชจูไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้กว่า 270,000 หลังคาเรือน เรียกว่าความรุนแรงของ "พายุไต้ฝุ่นไมสัก" ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ในครั้งนั้น นอกจากนั้นยังต้องงดเที่ยวบินเพื่อความปลอดภัยอีกด้ว
อ่านต่อ >27

#ข่าวการเงิน การลงทุน #ทันหุ้น
#ทันหุ้น-PTT Station ปรับราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดลดลง 0.30 บาทต่อลิตร เว้นพรีเมี่ยม GSH95 และกลุ่มดีเซลทุกชนิดคงเดิม มีผล 3 ต.ค. 2566 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป โดยราคาขายปลีกจะเป็นดังนี้
ULG = 46.94, GSH95 = 39.15, E20 = 36.84, GSH91 = 38.88, E85 = 36.49, พรีเมี่ยม GSH95 = 44.94, HSD-B7 = 29.94, HSD-B10 = 29.94, พรีเมี่ยมดีเซล B7 = 40.24 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร
ด้านบางจากฯ ลดราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดลง 30 สตางค์ ยกเว้น Hi Premium 97 (GSH95++) และกลุ่มดีเซลราคาคงเดิม
BCP Retail Price : GSH95S EVO 39.15/ GSH91S EVO 38.88/ GSH E20S EVO 36.84 / GSH E85S EVO 36.49 / Hi Premium 97 (GSH95++) 49.34 / Hi Diesel B20S 29.94/ Hi Diesel S 29.94 / Hi Diesel S B7 29.94 / Hi Premium Diesel S B7 42.34 (ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องที่กทม.)
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
อ่านต่อ >9

#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
"เขื่อนเจ้าพระยา" จังหวัดชัยนาท เร่งระบายน้ำอย่างเร่งด่วนรับมวลน้ำเหนือ เตือนพื้นที่ท้ายเขื่อนเฝ้าระวังจากสถานการณ์น้ำทางภาคเหนือหลายจังหวัด กำลังเจอกับปัญหาน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ ซึ่งแน่นอนว่ามวลน้ำเหล่านี้บางส่วนจะไหลลงเข้าสู่ภาคกลาง ซึ่งเขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท กุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลุ่มภาคกลางเอง ล่าสุดมีการปรับเพิ่มการระบายน้ำอย่างเร่งด่วน เพื่อสร้างพื้นที่ว่างรองรับมวลน้ำเหนือที่กำลังไหลเข้ามาสมทบในต่อไป โดยปัจจุบันน้ำเหนือไหลผ่านจุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ ลงมายังเขื่อนเจ้าพระยามีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวัดได้ 1,301ลบ.ม./วิ(ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) ทำให้กรมชลประทานต้องเพิ่มการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนจากอัตรา 841ลบ.ม./วิ ขึ้นไปอยู่ที่ 926ลบ.ม./วิ เพื่อสร้างสมดุลเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน รวมถึงสร้างพื้นที่ว่างในลำน้ำรองรับมวลน้ำเหนือที่จะลงมาสมทบ ซึ่งจากการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้น ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนลดลง จาก 16.60ม.รทก.(เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง) ลงไปอยู่ที่ 16.46ม.รทก. ขณะที่ระดับน้ำท้ายเขื่อนเองได้ยกตัวขึ้นจาก 10.28ม.รทก. ล่าสุดวัดได้ 10.65ม.รทก. ซึ่งจะทำให้พื้นที่ในจังหวัดท้ายเขื่อนมีระดับน้ำสูงขึ้น 30-35 ในช่วง 24 ชม.ข้างหน้า ชลประทานชัยนาทจึงแจ้งเตือน ผู้ที่ประกอบกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยาเช่น กระชังปลา ร้านอาหาร เรือ แพ โป๊ะ ตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาทลงไป ใน จ.สิงห์บุรี อ่างทอง โดยเฉพาะริมคลองโผงเผง และพระนครศรีอยุธยา พื้นที่ คลองบางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา แม่น้ำน้อยใน ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ ควรเฝ้าสังเกตการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ เพื่อให้สามารถขนย้ายสิ่งของให้พ้นน้ำ และรับมือกับระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นได้ทันท่วงที อีกทั้งขอให้ติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไปด้วยภาพจาก ผู้สื่อข่าวชัยนาท
อ่านต่อ >59

#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
รศ. ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่าทิชชู่ที่ผลิตจากประเทศจีน บนซองระบุเลขท้ายด้วยรหัส 810 ไม่อันตรายถึงขั้นห้ามใช้กับผิว โดยตัวเลขที่ระบุบนซองกระดาษทิชชู่เป็นการบ่งบอกมาตรฐานการผลิตในอุตสาหกรรมของประเทศจีน ซึ่งทิชชู่ที่ลงท้ายด้วยรหัส 810 เป็นมาตรฐานกระดาษชำระที่ใช้ในห้องน้ำ สามารถนำมาเช็ดถูผิวได้ แต่กระบวนการผลิตของทิชชู่รหัสดังกล่าวจะอนุญาตให้โรงงานผลิตใช้เยื่อกระดาษใหม่หรือบางโรงงานจะใช้เยื่อกระดาษรีไซเคิลมาผลิตได้ ซึ่งหากเป็นการนำกระดาษรีไซเคิลมาผลิต อาจจะทำให้มีคุณภาพต่ำและมีสารปนเปื้อนเกิดขึ้น โดยกระบวนการผลิตทิชชู่ด้วยกระดาษรีไซเคิลเป็นเรื่องปกติเช่นเดียวกับอุตสาหกรรมในประเทศไทยรศ. ดร.เจษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่าทิชชู่รหัส 810 ไม่ใช่การนำกระดาษชำระที่ใช้แล้ว นำมาผลิตเพื่อใช้งานใหม่อย่างที่หลายคนเข้าใจผิด แต่เป็นการนำเยื่อกระดาษทั่ว ๆ ไป เช่น กระดาษลัง, กระดาษหนังสือพิมพ์, เยื่อกระดาษธรรมดามาผลิต และนำไปฟอกสีให้เป็นสีขาว ซึ่งหากฟอกสีตรงตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ ก็ไม่อันตรายจนนำไปสู่โรคมะเร็ง แต่หากค่าการฟอกสีเกินกำหนด จะทำให้ผู้ใช้เกิดความระคายเคืองผิวส่วนทิชชู่จีนที่บนซองระบุรหัสลงท้ายด้วยเลข 808 เป็นการบ่งบอกว่ากระบวนการผลิตจะใช้เยื่อกระดาษใหม่มาผลิต และสามารถนำไปใช้เช็ดถูทั่วไปทั้งนี้การระบุ GB หรือ GB/T บนซองกระดาษทิชชู่ คือการระบุมาตรฐานอุตสาหกรรมของประเทศจีน คล้ายกับ มอก. หรือมาตรฐานอุตสาหกรรมของประเทศไทย รศ. ดร.เจษฎา กล่าวทิ้งท้ายว่าถ้าผู้ซื้ออยากจะมั่นใจในกระดาษทิชชู่มากขึ้น ก็แนะนำให้ซื้อทิชชู่ที่มียี่ห้อ หากทิชชู่ที่สั่งออนไลน์มาแล้วดูไม่ได้มาตรฐานก็ไม่ควรใช้งาน เพราะอาจจะมีกลุ่มมิจฉาชีพ หลอกสวมฉลากปลอมขายให้กับลูกค้าได้ผู้เขียนข่าวเรียบเรียงโดย : ธัญญาพร สุวรรณรัตน์ผู้สื่อข่าว คอลัมน์ ข่าวนี้จริงไหม ?ที่มาภาพนิ่งTNN
อ่านต่อ >52

#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
เรียกว่าเข้าหน้าฝนสิ่งที่หลายคนนึกถึงคงเป็นพายุที่จะพัดเข้ามา ซึ่งในแต่ละครั้งพายุที่เข้ามาในเขตประเทศไทยนั้นก็จะมีมวลความรุนแรงที่ต่างกันออกไป ไม่เพียงเท่านั้นยังมีชื่อเรียกที่ไม่ธรรมดาอีกด้วย วันนี้ทาง TNN ONLINE ไม่พลาดที่จะขอรวบรวมเอาชื่อพายุสุดแปลก แต่มีจริงตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปีปัจจุบันมาให้ได้ติดตามกัน จะแปลกขนาดไหน และมีที่มาที่ไปยังไร ต้องติดตามภาพประกอบจาก : Freepik"พายุโซนร้อนพระพิรุณ" (Prapiroon) ปี 2561 โดยชื่อมาจากเทพเจ้าแห่งฝนของประเทศไทย พายุลูกนี้ขึ้นฝั่งญี่ปุ่น ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศญี่ปุ่น โดยจะอยู่ในบริเวณทางตอนเหนือในเกาะฮอกไกโด ความเร็วลมอยู่ที่ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง "พายุไต้ฝุ่นมังคุด" (Mangkhut) ปี 2561 โดยพายุซูเปอร์ไต้ฝุ่นมังคุดเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 15 กันยายน มีความเร็วลม 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 900 กิโลเมตร ถือว่าในปีนั้นเป็นพายุที่มีความรุนแรงมากที่สุดของปี ความเร็วลมของพายุลูกนี้ขึ้นถล่มจังหวัดคากายัน บนเกาะลูซอนทางภาคเหนือของฟิลิปปินส์"พายุปาบึก" (Pabuk) ปี 2562 พายุโซนร้อนนอกฤดูกาลที่พัดเข้าในช่วงวันที่ 3 มกราคม พัดขึ้นฝั่งทางตะวันออกของทะเลไทย โดยครั้งนั้นมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางขณะนี้ 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นความรุนแรงที่ไม่ธรรมดา ส่งผลให้ในช่วงเวลานั้น มีประกาศให้ 6 อำเภอติดชายทะเล ประกอบด้วย อำเภอเมือง ท่าศาลา สิชล ขนอม ปากพนัง และ หัวไทร ต้องย้ายยังศูนย์พักพิงชั่วคราวของแต่ละอำเภอเพื่อความปลอดภัย "พายุไต้ฝุ่นฟ้าใส" (Faxai) ปี 2562 พายุลูกนี้มีความแรงลมสูงถึง 216 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พัดถล่มประเทศญี่ปุ่นทำให้การเดินทางในประเทศต้องหยุด ทางรัฐบาลญี่ปุ่นสั่งตัดไฟในบางพื้นที่ของกรุงโตเกียวเพื่อความปลอดภัย พายุไต้ฝุ่นลูกนี้สร้างความเสียหาย พร้อมทั้งยังทำให้มีประชาชนชาวญี่ปุ่นยาดเจ็บกว่า 40 คน "พายุไต้ฝุ่นไมสัก" (Maysak) ปี 2563 เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 4 กันยายน 63 พัดถล่มพื้นที่ชายฝั่งตอนใต้และตะวันออกของเกาหลีใต้ ส่งผลให้เกิดกระแสลมแรง ทำให้บ้านเรือนของประชาชนเกาหลีได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยพายุลูกนี้ทำให้เมืองปูซานและเกาะเชจูไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้กว่า 270,000 หลังคาเรือน เรียกว่าความรุนแรงของ "พายุไต้ฝุ่นไมสัก" ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ในครั้งนั้น นอกจากนั้นยังต้องงดเที่ยวบินเพื่อความปลอดภัยอีกด้ว
อ่านต่อ >27

#ข่าวการเงิน การลงทุน #ทันหุ้น
#ทันหุ้น-PTT Station ปรับราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดลดลง 0.30 บาทต่อลิตร เว้นพรีเมี่ยม GSH95 และกลุ่มดีเซลทุกชนิดคงเดิม มีผล 3 ต.ค. 2566 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป โดยราคาขายปลีกจะเป็นดังนี้
ULG = 46.94, GSH95 = 39.15, E20 = 36.84, GSH91 = 38.88, E85 = 36.49, พรีเมี่ยม GSH95 = 44.94, HSD-B7 = 29.94, HSD-B10 = 29.94, พรีเมี่ยมดีเซล B7 = 40.24 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร
ด้านบางจากฯ ลดราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดลง 30 สตางค์ ยกเว้น Hi Premium 97 (GSH95++) และกลุ่มดีเซลราคาคงเดิม
BCP Retail Price : GSH95S EVO 39.15/ GSH91S EVO 38.88/ GSH E20S EVO 36.84 / GSH E85S EVO 36.49 / Hi Premium 97 (GSH95++) 49.34 / Hi Diesel B20S 29.94/ Hi Diesel S 29.94 / Hi Diesel S B7 29.94 / Hi Premium Diesel S B7 42.34 (ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องที่กทม.)
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
อ่านต่อ >9

#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
"เขื่อนเจ้าพระยา" จังหวัดชัยนาท เร่งระบายน้ำอย่างเร่งด่วนรับมวลน้ำเหนือ เตือนพื้นที่ท้ายเขื่อนเฝ้าระวังจากสถานการณ์น้ำทางภาคเหนือหลายจังหวัด กำลังเจอกับปัญหาน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ ซึ่งแน่นอนว่ามวลน้ำเหล่านี้บางส่วนจะไหลลงเข้าสู่ภาคกลาง ซึ่งเขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท กุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลุ่มภาคกลางเอง ล่าสุดมีการปรับเพิ่มการระบายน้ำอย่างเร่งด่วน เพื่อสร้างพื้นที่ว่างรองรับมวลน้ำเหนือที่กำลังไหลเข้ามาสมทบในต่อไป โดยปัจจุบันน้ำเหนือไหลผ่านจุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ ลงมายังเขื่อนเจ้าพระยามีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวัดได้ 1,301ลบ.ม./วิ(ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) ทำให้กรมชลประทานต้องเพิ่มการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนจากอัตรา 841ลบ.ม./วิ ขึ้นไปอยู่ที่ 926ลบ.ม./วิ เพื่อสร้างสมดุลเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน รวมถึงสร้างพื้นที่ว่างในลำน้ำรองรับมวลน้ำเหนือที่จะลงมาสมทบ ซึ่งจากการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้น ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนลดลง จาก 16.60ม.รทก.(เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง) ลงไปอยู่ที่ 16.46ม.รทก. ขณะที่ระดับน้ำท้ายเขื่อนเองได้ยกตัวขึ้นจาก 10.28ม.รทก. ล่าสุดวัดได้ 10.65ม.รทก. ซึ่งจะทำให้พื้นที่ในจังหวัดท้ายเขื่อนมีระดับน้ำสูงขึ้น 30-35 ในช่วง 24 ชม.ข้างหน้า ชลประทานชัยนาทจึงแจ้งเตือน ผู้ที่ประกอบกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยาเช่น กระชังปลา ร้านอาหาร เรือ แพ โป๊ะ ตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาทลงไป ใน จ.สิงห์บุรี อ่างทอง โดยเฉพาะริมคลองโผงเผง และพระนครศรีอยุธยา พื้นที่ คลองบางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา แม่น้ำน้อยใน ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ ควรเฝ้าสังเกตการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ เพื่อให้สามารถขนย้ายสิ่งของให้พ้นน้ำ และรับมือกับระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นได้ทันท่วงที อีกทั้งขอให้ติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไปด้วยภาพจาก ผู้สื่อข่าวชัยนาท
อ่านต่อ >59

#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
รศ. ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่าทิชชู่ที่ผลิตจากประเทศจีน บนซองระบุเลขท้ายด้วยรหัส 810 ไม่อันตรายถึงขั้นห้ามใช้กับผิว โดยตัวเลขที่ระบุบนซองกระดาษทิชชู่เป็นการบ่งบอกมาตรฐานการผลิตในอุตสาหกรรมของประเทศจีน ซึ่งทิชชู่ที่ลงท้ายด้วยรหัส 810 เป็นมาตรฐานกระดาษชำระที่ใช้ในห้องน้ำ สามารถนำมาเช็ดถูผิวได้ แต่กระบวนการผลิตของทิชชู่รหัสดังกล่าวจะอนุญาตให้โรงงานผลิตใช้เยื่อกระดาษใหม่หรือบางโรงงานจะใช้เยื่อกระดาษรีไซเคิลมาผลิตได้ ซึ่งหากเป็นการนำกระดาษรีไซเคิลมาผลิต อาจจะทำให้มีคุณภาพต่ำและมีสารปนเปื้อนเกิดขึ้น โดยกระบวนการผลิตทิชชู่ด้วยกระดาษรีไซเคิลเป็นเรื่องปกติเช่นเดียวกับอุตสาหกรรมในประเทศไทยรศ. ดร.เจษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่าทิชชู่รหัส 810 ไม่ใช่การนำกระดาษชำระที่ใช้แล้ว นำมาผลิตเพื่อใช้งานใหม่อย่างที่หลายคนเข้าใจผิด แต่เป็นการนำเยื่อกระดาษทั่ว ๆ ไป เช่น กระดาษลัง, กระดาษหนังสือพิมพ์, เยื่อกระดาษธรรมดามาผลิต และนำไปฟอกสีให้เป็นสีขาว ซึ่งหากฟอกสีตรงตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ ก็ไม่อันตรายจนนำไปสู่โรคมะเร็ง แต่หากค่าการฟอกสีเกินกำหนด จะทำให้ผู้ใช้เกิดความระคายเคืองผิวส่วนทิชชู่จีนที่บนซองระบุรหัสลงท้ายด้วยเลข 808 เป็นการบ่งบอกว่ากระบวนการผลิตจะใช้เยื่อกระดาษใหม่มาผลิต และสามารถนำไปใช้เช็ดถูทั่วไปทั้งนี้การระบุ GB หรือ GB/T บนซองกระดาษทิชชู่ คือการระบุมาตรฐานอุตสาหกรรมของประเทศจีน คล้ายกับ มอก. หรือมาตรฐานอุตสาหกรรมของประเทศไทย รศ. ดร.เจษฎา กล่าวทิ้งท้ายว่าถ้าผู้ซื้ออยากจะมั่นใจในกระดาษทิชชู่มากขึ้น ก็แนะนำให้ซื้อทิชชู่ที่มียี่ห้อ หากทิชชู่ที่สั่งออนไลน์มาแล้วดูไม่ได้มาตรฐานก็ไม่ควรใช้งาน เพราะอาจจะมีกลุ่มมิจฉาชีพ หลอกสวมฉลากปลอมขายให้กับลูกค้าได้ผู้เขียนข่าวเรียบเรียงโดย : ธัญญาพร สุวรรณรัตน์ผู้สื่อข่าว คอลัมน์ ข่าวนี้จริงไหม ?ที่มาภาพนิ่งTNN
อ่านต่อ >52