#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
วันนี้ ( 8 ต.ค. 67 ) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุม ครม. ถึงสถานการณ์น้ำ ล่าสุดที่จังหวัดสุพรรณบุรี ว่า น้ำจากทางทิศตะวันตกเข้ามาสุพรรณบุรี และเจอน้ำที่ฝนตกลงมา บวกกับน้ำเหนือที่ลงมาอีก จึงอาจส่งผลให้น้ำขึ้นสูงและระบายไม่ทัน น้ำเหนือที่หลากลงมากับน้ำที่ทางชลประทานผันลงมา นอกจากในส่วนของแม่น้ำท่าจีนแล้ว แม่น้ำเจ้าพระยามีผลกระทบกับสุพรรณบุรีเช่นกัน ในลักษณะที่ว่าเจ้าพระยาจะไปกระทบที่อ่างทอง ซึ่งอ่างทองมีแม่น้ำน้อยประกบอยู่ แต่เมื่อล้นจากแม่น้ำน้อยที่อ่างทอง จะเข้ามาทางทิศตะวันออกของสุพรรณบุรี ฉะนั้นสุพรรณบุรีจะถูกรับน้ำทั้งตะวันออกและตะวันตกในกรณีที่น้ำเยอะจริงๆ และหากว่ามีน้ำเหนือจากข้างบนลงมาอีก จะยิ่งระบายยาก บวกกับตอนนี้เป็นเดือนตุลาคม ถ้ามีน้ำทะเลหนุนสูงจะถูกรับน้ำทั้งทิศเหนือ ใต้ ตะวันออก และตะวันตก ซึ่งจะมารวมกันอยู่ที่สุพรรณบุรี ทั้งนี้ น้ำในจังหวัดสุพรรณบุรี อาจจะไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายแบบปัจจุบันทันด่วนเหมือนทางภาคเหนือ ซึ่งทางภาคเหนือน้ำมาแบบตูมเดียวพัง แล้วไหลไปเลย แต่ทิ้งร่องรอยความเสียหายไว้ แต่น้ำที่สุพรรณบุรีจะเป็นลักษณะว่าน้ำปล่อยเข้าทุ่ง แล้วเอ่อขึ้นเรื่อยๆ และอยู่เป็นเดือนๆ ประมาณ 2 เดือน บางครั้งอยู่นานถึง 3 เดือน ดังนั้น การเร่งระบายน้ำลงไปในอ่าวไทย จึงเป็นปัจจัยที่จะทำให้น้ำลงเร็ว เพราะน้ำข้างบนจะลงมาเรื่อยๆ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เมื่อวันที่ 7 ต.ต. 67 ที่ผ่านมา ตนจึงต้องลงพื้นที่ไปดูที่จังหวัดสุพรรณบุรี ว่าสถานการณ์การบริหารจัดการน้ำอยู่ในเซฟโซนระดับไหนและยังห่างจากขอบสันเขื่อนอีกเท่าไหร่นายวราวุธ กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดสุพรรณบุรีน้ำเริ่มท่วมแล้ว ซึ่งสุพรรณบุรีเคยท่วมหนักที่สุดคือปี 2554 และหลังจากนั้นมีน้ำท่วมมาอยู่เรื่อยๆ และเราได้มีมาตรการป้องกัน แต่ที่น่าเป็นห่วงคือทุกปีระดับน้ำจะสูงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนในตัวเทศบาลเมืองนั้นต้องขอขอบคุณพ่อบรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 21 พอสุพรรณบุรีเคยเจอน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2549 จากนั้นได้มีการประชุมร่วมกับทางจังหวัด และได้มีการของบประมาณจากกรมโยธาธิการ เพื่อทำสันเขื่อนกั้นริมตลิ่งในเขตเทศบาลเมือง ซึ่งถือว่าเป็นเขตเศรษฐกิจที่สำคัญของสุพรรณบุรี เหมือนกรุงเทพฯ ที่เป็นเขตเศรษฐกิจสำคัญของประเทศไทย ซึ่งเราไม่สามารถใ
อ่านต่อ >17
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
วันนี้ (8 ต.ค. 67) กรุงเทพมหานคร (กทม.) ระบุว่า ในช่วงวันที่ 13 - 23 ต.ค. 67 แม่น้ำเจ้าพระยาจะมีสภาวะน้ำทะเลหนุนสูง ประกอบกับการเร่งระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ขอให้ประชาชนนอกคันกั้นน้ำ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใน 7 เขต 16 จุด 731 หลังคาเรือน ยกของขึ้นที่สูง ตรวจสอบปลั๊กไฟ และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดเขตดุสิต1.ซอยสีคาม (ซอยสามเสน 19 ช่วงปลาย) จำนวน 3 ครัวเรือน2.ราชผาทับทิมร่วมใจ (เชิงสะพานกรุงธน) จำนวน 30 ครัวเรือน3.ปลายซอยมิตตาคาม (สามเสน 13 ช่วงปลาย) จำนวน 83 ครัวเรือน4.เทวราชกุญชร จำนวน 78 ครัวเรือนเขตพระนคร5.ท่าวัง จำนวน 16 ครัวเรือน6.ท่าเตียน จำนวน 12 ครัวเรือนเขตสัมพันธวงศ์7.วัดปทุมคงคา (ท่าน้ำสวัสดี) จำนวน 12 ครัวเรือน8.ตลาดน้อย จำนวน 1 ครัวเรือนเขตบางคอแหลม9.มาตานุสรณ์ จำนวน 13 ครัวเรือน10.หลัง ร.พ.เจริญกรุงฯ จำนวน 22 ครัวเรือน11.วัดอินทร์บรรจง จำนวน 20 ครัวเรือน12.วัดบางโคล่นอก จำนวน 56 ครัวเรือนเขตยานนาวา13.โรงสี ถนนพระราม 3 จำนวน 330 ครัวเรือนเขตบางกอกน้อย14.ดุสิต นิมิตรใหม่ จำนวน 16 ครัวเรือนเขตคลองสาน15.เจริญนคร ซอย 29/2 จำนวน 37 ครัวเรือน16.ช่างนาค-สะพานยาว จำนวน 2 ครัวเรือนกทม.มีแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ระยะทางรวม 88 กิโลเมตร สูง 2.8 -3.5 เมตรภาพจาก: TNN
อ่านต่อ >28
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
วันนี้ (8 ต.ค. 67) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานประชุมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ครั้งที่ 3/2567 โดยระบุว่าสถานการณ์น้ำท่วมอำเภอเมืองเชียงใหม่ว่าเป็นสิ่งปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในรอบ 500 ปี ซึ่งเกิดจากน้ำท่วมใหญ่ ไม่ใช่ความผิดพลาดของราชการหรือการบริหารจัดการของราชการเป็นที่ต้องเผชิญสิ่งที่เกิดขึ้นชี้ให้เห็นว่าจำเป็นต้องมีระบบป้องเมืองด้วยเขื่อนขนาดเล็ก จึงขอให้กรมชลประทาน กระทรวงมหาดไทยศึกษาเรื่องนี้ พร้อมกับให้ร่วมกับมือกับส่วนท้องถิ่นศึกษาแนวทางเส้นทางน้ำให้เกิดการระบายน้ำให้มากที่สุดทั้งนี้ ขอให้ศึกษาอย่างจริงจังในการฟื้นฟูสภาพป่าไม้ เพิ่มพื้นที่ต้นน้ำ เพื่อสร้างความสมบูรณ์และป้องกันการพังทลายของดิน โดยให้จัดตั้งคณะทำงาน นำผู้มีประสบการณ์มีความรู้มาร่วมกันศึกษาและวางแผนในระยะสั้นและระยะกลางระยะยาวต่อไป ซึ่งต้องการเห็นคำแนะนำที่จะสามารถเกิดเกิดขึ้นภายใน 3 เดือนนี้ เพื่อที่จะได้ดำเนินการออกแบบรับมือกับสถานการณ์ต่อไปนายภูมิธรรม ยังได้กำชับให้คณะทำงานภายใต้ ศปช. ประชุมและแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่จังหวัดอยุธยาและใกล้เคียง ที่ได้รับผลกระทบการระบายน้ำ โดยได้สั่งการให้คณะทำงานภายใต้ศูนย์ฯ พิจารณาให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด จากการประเมินเบื้องต้นเขื่อนเจ้าพระยาจะระบายสูงสุดประมาณ 2,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยพยายามระบายน้ำในระดับคงที่ ที่ 2,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะเกิดผลกระทบในพื้นที่นอกคั้นกันน้ำในจังหวัดชัยนาท อยุธยา อ่างทอง และสิงห์บุรี แต่ไม่มีผลกระทบกับกรุงเทพมหานครเหมือนปี 2554 แน่นอนสำหรับการหนุนของน้ำทะเลจะขึ้นสูงอีกครั้งในช่วงวันที่ 20-21 ตุลาคม 2567 ในช่วงเวลาดังกล่าวสถานการณ์ในภาคเหนือและภาคกลางตามคาดการณ์ฝนจะลดน้อยลงและฝนจะตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ โดยได้สั่งการให้มีการประชุมติดตามสถานการณ์เป็นประจำทุกวันเพื่อเตรียมการแก้ไขปัญหาได้ทันที หากมีฝนตกหนักเกิดขึ้น ขอให้ติดตามสถานการณ์เป็นประจำทุกวันเพื่อเตรียมการแก้ไขปัญหาได้ทันทีหากมีฝนตกหนักเกิดขึ้น ซึ่งลักษณะเป็นน้ำไหลแรงและฉับพลัน ขอให้แก้ไขสิ่งกีดขวางทางน้ำ กำจัดขยะต่าง ๆ ที่มีโอกาสทำให้เป็นปัญหาอุปสรรคต่อการระบายน้ำภาพจาก: AFP
อ่านต่อ >7
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำของกรุงเทพมหานคร ว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง และกรมชลประทานได้มีหนังสือแจ้งว่าประเทศไทยตอนบนมีลักษณะอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จึงมีความจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราไม่เกิน 2,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ประกอบกับช่วงเดือนตุลาคมในแม่น้ำเจ้าพระยาจะมีสภาวะน้ำทะเลหนุนสูงโดยเฉพาะช่วงวันที่ 13-23 ตุลาคม 2567 ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 0.60 – 0.70 เมตร ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป โดยให้ติดตามสถานการณ์น้ำจากสถานีวัดน้ำ C29 บางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งข้อมูล ณ ปัจจุบัน (วันที่ 6 ตุลาคม 2567) มีปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 1,865 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการรองรับสถานการณ์ดังกล่าวและเป็นการดูแลประชาชน กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการระบายน้ำและสำนักงานเขตที่อยู่ติดแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ ได้เตรียมความพร้อมและแจ้งเตือนชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่อาจได้รับผลกระทบจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับสูงขึ้น ให้ยกของขึ้นที่สูง รวมถึงเตรียมความพร้อมด้านวัสดุ อุปกรณ์ในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยให้สำนักงานเขตส่งกระสอบทรายให้ชุมชนชนตามแนวฟันหลอหรือจุดที่อาจจะมีแนวรั่วซึม พร้อมทั้งทำสะพานไม้ และแจกจ่ายยาสามัญที่จำเป็น นอกจากนี้ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามการขึ้นลงของน้ำของกรมอุทกศาสตร์ และหากสำนักงานเขตต้องการการสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ เครื่องสูบน้ำ ให้แจ้งมายังศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมสำนักการระบายน้ำ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2248 5115 สำหรับประชาชนที่พบปัญหาน้ำท่วมขังสามารถโทรแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2248 5115 ศูนย์ป้องกันน้ำท่วม กรุงเทพมหานคร หรือ 1555 สายด่วนกรุงเทพมหานคร ตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้งปัญหามาที่ Traffy Fondue กทม.
อ่านต่อ >32
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
วันนี้ ( 8 ต.ค. 67 ) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุม ครม. ถึงสถานการณ์น้ำ ล่าสุดที่จังหวัดสุพรรณบุรี ว่า น้ำจากทางทิศตะวันตกเข้ามาสุพรรณบุรี และเจอน้ำที่ฝนตกลงมา บวกกับน้ำเหนือที่ลงมาอีก จึงอาจส่งผลให้น้ำขึ้นสูงและระบายไม่ทัน น้ำเหนือที่หลากลงมากับน้ำที่ทางชลประทานผันลงมา นอกจากในส่วนของแม่น้ำท่าจีนแล้ว แม่น้ำเจ้าพระยามีผลกระทบกับสุพรรณบุรีเช่นกัน ในลักษณะที่ว่าเจ้าพระยาจะไปกระทบที่อ่างทอง ซึ่งอ่างทองมีแม่น้ำน้อยประกบอยู่ แต่เมื่อล้นจากแม่น้ำน้อยที่อ่างทอง จะเข้ามาทางทิศตะวันออกของสุพรรณบุรี ฉะนั้นสุพรรณบุรีจะถูกรับน้ำทั้งตะวันออกและตะวันตกในกรณีที่น้ำเยอะจริงๆ และหากว่ามีน้ำเหนือจากข้างบนลงมาอีก จะยิ่งระบายยาก บวกกับตอนนี้เป็นเดือนตุลาคม ถ้ามีน้ำทะเลหนุนสูงจะถูกรับน้ำทั้งทิศเหนือ ใต้ ตะวันออก และตะวันตก ซึ่งจะมารวมกันอยู่ที่สุพรรณบุรี ทั้งนี้ น้ำในจังหวัดสุพรรณบุรี อาจจะไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายแบบปัจจุบันทันด่วนเหมือนทางภาคเหนือ ซึ่งทางภาคเหนือน้ำมาแบบตูมเดียวพัง แล้วไหลไปเลย แต่ทิ้งร่องรอยความเสียหายไว้ แต่น้ำที่สุพรรณบุรีจะเป็นลักษณะว่าน้ำปล่อยเข้าทุ่ง แล้วเอ่อขึ้นเรื่อยๆ และอยู่เป็นเดือนๆ ประมาณ 2 เดือน บางครั้งอยู่นานถึง 3 เดือน ดังนั้น การเร่งระบายน้ำลงไปในอ่าวไทย จึงเป็นปัจจัยที่จะทำให้น้ำลงเร็ว เพราะน้ำข้างบนจะลงมาเรื่อยๆ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เมื่อวันที่ 7 ต.ต. 67 ที่ผ่านมา ตนจึงต้องลงพื้นที่ไปดูที่จังหวัดสุพรรณบุรี ว่าสถานการณ์การบริหารจัดการน้ำอยู่ในเซฟโซนระดับไหนและยังห่างจากขอบสันเขื่อนอีกเท่าไหร่นายวราวุธ กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดสุพรรณบุรีน้ำเริ่มท่วมแล้ว ซึ่งสุพรรณบุรีเคยท่วมหนักที่สุดคือปี 2554 และหลังจากนั้นมีน้ำท่วมมาอยู่เรื่อยๆ และเราได้มีมาตรการป้องกัน แต่ที่น่าเป็นห่วงคือทุกปีระดับน้ำจะสูงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนในตัวเทศบาลเมืองนั้นต้องขอขอบคุณพ่อบรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 21 พอสุพรรณบุรีเคยเจอน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2549 จากนั้นได้มีการประชุมร่วมกับทางจังหวัด และได้มีการของบประมาณจากกรมโยธาธิการ เพื่อทำสันเขื่อนกั้นริมตลิ่งในเขตเทศบาลเมือง ซึ่งถือว่าเป็นเขตเศรษฐกิจที่สำคัญของสุพรรณบุรี เหมือนกรุงเทพฯ ที่เป็นเขตเศรษฐกิจสำคัญของประเทศไทย ซึ่งเราไม่สามารถใ
อ่านต่อ >17
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
วันนี้ (8 ต.ค. 67) กรุงเทพมหานคร (กทม.) ระบุว่า ในช่วงวันที่ 13 - 23 ต.ค. 67 แม่น้ำเจ้าพระยาจะมีสภาวะน้ำทะเลหนุนสูง ประกอบกับการเร่งระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ขอให้ประชาชนนอกคันกั้นน้ำ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใน 7 เขต 16 จุด 731 หลังคาเรือน ยกของขึ้นที่สูง ตรวจสอบปลั๊กไฟ และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดเขตดุสิต1.ซอยสีคาม (ซอยสามเสน 19 ช่วงปลาย) จำนวน 3 ครัวเรือน2.ราชผาทับทิมร่วมใจ (เชิงสะพานกรุงธน) จำนวน 30 ครัวเรือน3.ปลายซอยมิตตาคาม (สามเสน 13 ช่วงปลาย) จำนวน 83 ครัวเรือน4.เทวราชกุญชร จำนวน 78 ครัวเรือนเขตพระนคร5.ท่าวัง จำนวน 16 ครัวเรือน6.ท่าเตียน จำนวน 12 ครัวเรือนเขตสัมพันธวงศ์7.วัดปทุมคงคา (ท่าน้ำสวัสดี) จำนวน 12 ครัวเรือน8.ตลาดน้อย จำนวน 1 ครัวเรือนเขตบางคอแหลม9.มาตานุสรณ์ จำนวน 13 ครัวเรือน10.หลัง ร.พ.เจริญกรุงฯ จำนวน 22 ครัวเรือน11.วัดอินทร์บรรจง จำนวน 20 ครัวเรือน12.วัดบางโคล่นอก จำนวน 56 ครัวเรือนเขตยานนาวา13.โรงสี ถนนพระราม 3 จำนวน 330 ครัวเรือนเขตบางกอกน้อย14.ดุสิต นิมิตรใหม่ จำนวน 16 ครัวเรือนเขตคลองสาน15.เจริญนคร ซอย 29/2 จำนวน 37 ครัวเรือน16.ช่างนาค-สะพานยาว จำนวน 2 ครัวเรือนกทม.มีแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ระยะทางรวม 88 กิโลเมตร สูง 2.8 -3.5 เมตรภาพจาก: TNN
อ่านต่อ >28
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
วันนี้ (8 ต.ค. 67) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานประชุมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ครั้งที่ 3/2567 โดยระบุว่าสถานการณ์น้ำท่วมอำเภอเมืองเชียงใหม่ว่าเป็นสิ่งปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในรอบ 500 ปี ซึ่งเกิดจากน้ำท่วมใหญ่ ไม่ใช่ความผิดพลาดของราชการหรือการบริหารจัดการของราชการเป็นที่ต้องเผชิญสิ่งที่เกิดขึ้นชี้ให้เห็นว่าจำเป็นต้องมีระบบป้องเมืองด้วยเขื่อนขนาดเล็ก จึงขอให้กรมชลประทาน กระทรวงมหาดไทยศึกษาเรื่องนี้ พร้อมกับให้ร่วมกับมือกับส่วนท้องถิ่นศึกษาแนวทางเส้นทางน้ำให้เกิดการระบายน้ำให้มากที่สุดทั้งนี้ ขอให้ศึกษาอย่างจริงจังในการฟื้นฟูสภาพป่าไม้ เพิ่มพื้นที่ต้นน้ำ เพื่อสร้างความสมบูรณ์และป้องกันการพังทลายของดิน โดยให้จัดตั้งคณะทำงาน นำผู้มีประสบการณ์มีความรู้มาร่วมกันศึกษาและวางแผนในระยะสั้นและระยะกลางระยะยาวต่อไป ซึ่งต้องการเห็นคำแนะนำที่จะสามารถเกิดเกิดขึ้นภายใน 3 เดือนนี้ เพื่อที่จะได้ดำเนินการออกแบบรับมือกับสถานการณ์ต่อไปนายภูมิธรรม ยังได้กำชับให้คณะทำงานภายใต้ ศปช. ประชุมและแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่จังหวัดอยุธยาและใกล้เคียง ที่ได้รับผลกระทบการระบายน้ำ โดยได้สั่งการให้คณะทำงานภายใต้ศูนย์ฯ พิจารณาให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด จากการประเมินเบื้องต้นเขื่อนเจ้าพระยาจะระบายสูงสุดประมาณ 2,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยพยายามระบายน้ำในระดับคงที่ ที่ 2,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะเกิดผลกระทบในพื้นที่นอกคั้นกันน้ำในจังหวัดชัยนาท อยุธยา อ่างทอง และสิงห์บุรี แต่ไม่มีผลกระทบกับกรุงเทพมหานครเหมือนปี 2554 แน่นอนสำหรับการหนุนของน้ำทะเลจะขึ้นสูงอีกครั้งในช่วงวันที่ 20-21 ตุลาคม 2567 ในช่วงเวลาดังกล่าวสถานการณ์ในภาคเหนือและภาคกลางตามคาดการณ์ฝนจะลดน้อยลงและฝนจะตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ โดยได้สั่งการให้มีการประชุมติดตามสถานการณ์เป็นประจำทุกวันเพื่อเตรียมการแก้ไขปัญหาได้ทันที หากมีฝนตกหนักเกิดขึ้น ขอให้ติดตามสถานการณ์เป็นประจำทุกวันเพื่อเตรียมการแก้ไขปัญหาได้ทันทีหากมีฝนตกหนักเกิดขึ้น ซึ่งลักษณะเป็นน้ำไหลแรงและฉับพลัน ขอให้แก้ไขสิ่งกีดขวางทางน้ำ กำจัดขยะต่าง ๆ ที่มีโอกาสทำให้เป็นปัญหาอุปสรรคต่อการระบายน้ำภาพจาก: AFP
อ่านต่อ >7
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำของกรุงเทพมหานคร ว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง และกรมชลประทานได้มีหนังสือแจ้งว่าประเทศไทยตอนบนมีลักษณะอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จึงมีความจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราไม่เกิน 2,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ประกอบกับช่วงเดือนตุลาคมในแม่น้ำเจ้าพระยาจะมีสภาวะน้ำทะเลหนุนสูงโดยเฉพาะช่วงวันที่ 13-23 ตุลาคม 2567 ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 0.60 – 0.70 เมตร ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป โดยให้ติดตามสถานการณ์น้ำจากสถานีวัดน้ำ C29 บางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งข้อมูล ณ ปัจจุบัน (วันที่ 6 ตุลาคม 2567) มีปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 1,865 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการรองรับสถานการณ์ดังกล่าวและเป็นการดูแลประชาชน กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการระบายน้ำและสำนักงานเขตที่อยู่ติดแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ ได้เตรียมความพร้อมและแจ้งเตือนชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่อาจได้รับผลกระทบจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับสูงขึ้น ให้ยกของขึ้นที่สูง รวมถึงเตรียมความพร้อมด้านวัสดุ อุปกรณ์ในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยให้สำนักงานเขตส่งกระสอบทรายให้ชุมชนชนตามแนวฟันหลอหรือจุดที่อาจจะมีแนวรั่วซึม พร้อมทั้งทำสะพานไม้ และแจกจ่ายยาสามัญที่จำเป็น นอกจากนี้ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามการขึ้นลงของน้ำของกรมอุทกศาสตร์ และหากสำนักงานเขตต้องการการสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ เครื่องสูบน้ำ ให้แจ้งมายังศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมสำนักการระบายน้ำ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2248 5115 สำหรับประชาชนที่พบปัญหาน้ำท่วมขังสามารถโทรแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2248 5115 ศูนย์ป้องกันน้ำท่วม กรุงเทพมหานคร หรือ 1555 สายด่วนกรุงเทพมหานคร ตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้งปัญหามาที่ Traffy Fondue กทม.
อ่านต่อ >32
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
วันนี้ ( 8 ต.ค. 67 ) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุม ครม. ถึงสถานการณ์น้ำ ล่าสุดที่จังหวัดสุพรรณบุรี ว่า น้ำจากทางทิศตะวันตกเข้ามาสุพรรณบุรี และเจอน้ำที่ฝนตกลงมา บวกกับน้ำเหนือที่ลงมาอีก จึงอาจส่งผลให้น้ำขึ้นสูงและระบายไม่ทัน น้ำเหนือที่หลากลงมากับน้ำที่ทางชลประทานผันลงมา นอกจากในส่วนของแม่น้ำท่าจีนแล้ว แม่น้ำเจ้าพระยามีผลกระทบกับสุพรรณบุรีเช่นกัน ในลักษณะที่ว่าเจ้าพระยาจะไปกระทบที่อ่างทอง ซึ่งอ่างทองมีแม่น้ำน้อยประกบอยู่ แต่เมื่อล้นจากแม่น้ำน้อยที่อ่างทอง จะเข้ามาทางทิศตะวันออกของสุพรรณบุรี ฉะนั้นสุพรรณบุรีจะถูกรับน้ำทั้งตะวันออกและตะวันตกในกรณีที่น้ำเยอะจริงๆ และหากว่ามีน้ำเหนือจากข้างบนลงมาอีก จะยิ่งระบายยาก บวกกับตอนนี้เป็นเดือนตุลาคม ถ้ามีน้ำทะเลหนุนสูงจะถูกรับน้ำทั้งทิศเหนือ ใต้ ตะวันออก และตะวันตก ซึ่งจะมารวมกันอยู่ที่สุพรรณบุรี ทั้งนี้ น้ำในจังหวัดสุพรรณบุรี อาจจะไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายแบบปัจจุบันทันด่วนเหมือนทางภาคเหนือ ซึ่งทางภาคเหนือน้ำมาแบบตูมเดียวพัง แล้วไหลไปเลย แต่ทิ้งร่องรอยความเสียหายไว้ แต่น้ำที่สุพรรณบุรีจะเป็นลักษณะว่าน้ำปล่อยเข้าทุ่ง แล้วเอ่อขึ้นเรื่อยๆ และอยู่เป็นเดือนๆ ประมาณ 2 เดือน บางครั้งอยู่นานถึง 3 เดือน ดังนั้น การเร่งระบายน้ำลงไปในอ่าวไทย จึงเป็นปัจจัยที่จะทำให้น้ำลงเร็ว เพราะน้ำข้างบนจะลงมาเรื่อยๆ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เมื่อวันที่ 7 ต.ต. 67 ที่ผ่านมา ตนจึงต้องลงพื้นที่ไปดูที่จังหวัดสุพรรณบุรี ว่าสถานการณ์การบริหารจัดการน้ำอยู่ในเซฟโซนระดับไหนและยังห่างจากขอบสันเขื่อนอีกเท่าไหร่นายวราวุธ กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดสุพรรณบุรีน้ำเริ่มท่วมแล้ว ซึ่งสุพรรณบุรีเคยท่วมหนักที่สุดคือปี 2554 และหลังจากนั้นมีน้ำท่วมมาอยู่เรื่อยๆ และเราได้มีมาตรการป้องกัน แต่ที่น่าเป็นห่วงคือทุกปีระดับน้ำจะสูงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนในตัวเทศบาลเมืองนั้นต้องขอขอบคุณพ่อบรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 21 พอสุพรรณบุรีเคยเจอน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2549 จากนั้นได้มีการประชุมร่วมกับทางจังหวัด และได้มีการของบประมาณจากกรมโยธาธิการ เพื่อทำสันเขื่อนกั้นริมตลิ่งในเขตเทศบาลเมือง ซึ่งถือว่าเป็นเขตเศรษฐกิจที่สำคัญของสุพรรณบุรี เหมือนกรุงเทพฯ ที่เป็นเขตเศรษฐกิจสำคัญของประเทศไทย ซึ่งเราไม่สามารถใ
อ่านต่อ >17