
#ข่าวเศรษฐกิจ #TNN ช่อง16
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การดำเนินโครงการคนละครึ่ง พลัส ระยะที 2 หรือ เฟส 2 จะเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ส่วนวงเงินที่จะให้สามารถกำหนดเท่าใดก็ได้ ขึ้นอยู่กับงบประมาณที่จัดสรร ซึ่งกระทรวงการคลังมีหน้าที่เสนอแผนขึ้นไปเท่านั้น สุดท้ายแล้วการตัดสินใจก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล ซึ่งหากต้องการให้เดินหน้าต่อเนื่องในมกราคม 2569 กระทรวงการคลังจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติในเดือนธันวาคม 2568 นี้สำหรับงบประมาณที่จะนำมาใช้ในโครงการคนละครึ่ง พลัส เฟส 2 นั้น ตามหลักการงบประมาณ ส่วนใดที่ไม่ได้ระบุในรายการพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2569 งบประมาณที่จะนำมาใช้ก็ต้องมาจากงบกลาง ที่ไม่มีรายการกำหนดเฉพาะเจาะจง สามารถนำมาใช้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ ซึ่งมีกรอบวงเงินประมาณ 100,000 ล้านบาท โดยในรายละเอียดนั้น จะต้องหารือกับสำนักงบประมาณ ขณะที่หลักการเดินหน้าโครงการคนละครึ่ง พลัส เฟส 2 นั้น ผู้เข้าร่วม เฟส 2 ที่ไม่เคยเข้าร่วม เฟส 1 มาก่อน ควรจะได้รับวงเงินมากกว่า ส่วนผู้ที่เคยเข้าร่วม เฟส 1 มาแล้ว ก็มีสิทธิ์เข้าร่วมเฟส 2 เช่นกัน แต่จะได้รับวงเงินน้อยกว่าผู้เข้าร่วมใหม่ ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้ มีการพูดถึงตัวเลขวงเงิน 4,000 บาท นั้น เป็นเพียงการยกตัวอย่าง สำหรับการออกแบบโครงการคนละครึ่ง พลัส เฟส 2 รอบเก็บตกในกลุ่มเปราะบาง หรือผู้มีรายได้น้อยนั้น หากพบว่าประชาชนกลุ่มดังกล่าวเข้าเกณฑ์บัตรสวัสดิการฯ ก็จะจัดสรรให้รับบัตรสวัสดิการฯ ไปเลย ซึ่งในปี 2569 จะมีการเปิดลงทะเบียนควบคู่กันไปด้วย โดยโครงการคนละครึ่ง พลัส เฟส 2 ยังคงยึดหลักการที่ไม่ซ้ำซ้อนกับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการฯ จะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งได้ เนื่องจากเป็นคนละแนวคิดกัน เพราะโครงการคนละครึ่งพลัสนี้ กำหนดให้ประชาชนต้องมีเงินร่วมจ่าย (Co-pay) ซึ่งผู้ยากจนที่เหมาะสมกับบัตรสวัสดิการฯ อาจไม่มีเงินในส่วนนี้
อ่านต่อ >6

#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
เปิดแนวทางรับมือ “วิกฤตลุ่มเจ้าพระยา”ท่ามกลางสถานการณ์น้ำในลุ่มเจ้าพระยาที่ทะลักเข้าเต็มพื้นที่ภาคกลางทั้งสิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพฯ ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยายังยกประตูเขื่อน เพิ่มการระบายอยู่ที่ 2,900 ลบ.ม.ต่อวินาที เพื่อเร่งระบายมวลน้ำทางตอนเหนือ หน่วยงานด้านน้ำต้องเร่งประสานทุกระบบชลประทาน เพื่อบริหารจัดการมวลน้ำมหาศาลให้ผ่านพ้นพื้นที่วิกฤตโดยไม่สร้างความเสียหายเพิ่มเติมขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำต่างชี้ว่าการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในช่วงเวลาทองในการระบายน้ำก่อนน้ำทะเลหนุน คือปัจจัยชี้ชะตาว่าลุ่มเจ้าพระยาจะรอดพ้นวิกฤตครั้งนี้ได้หรือไม่ ดร.ธเนศร์ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา กรมชลประทาน เปิดเผยว่าสถานการณ์ขณะนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ควบคุมได้ โดยกรมชลประทานกำลังบริหารจัดการน้ำจากภาคเหนือ ปิง วัง ยม น่าน ที่ไหลมาบรรจบกันที่นครสวรรค์ ก่อนลงสู่เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท“ตอนนี้เราคงการระบายน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาไว้ที่ 2,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ประมาณ 5–7 วัน เพื่อรักษาสมดุลระหว่างน้ำเหนือกับน้ำในพื้นที่ตอนล่าง หากประเมินแล้วว่าปริมาณน้ำเหนือเริ่มลดลง ก็จะทยอยปรับลดการระบายลงตามลำดับ” ดร.ธเนศร์ กล่าวปัจจุบันมีการระบายน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานรวม 55 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 48 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยเน้นการผันน้ำเข้าสู่ระบบทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตก ส่วนฝั่งตะวันออกใช้คลองชัยนาท–ป่าสัก และคลองชัยนาท–อยุธยา ส่วนฝั่งตะวันตกผันผ่านปากคลองมะขามเฒ่า–อู่ทอง แม่น้ำน้อย และแม่น้ำท่าจีน ซึ่งขณะนี้เดินเต็มศักยภาพแล้วอย่างไรก็ตาม หากจำเป็นต้องผันน้ำเข้าทุ่งเกษตรกรรม กรมชลประทานจะต้องเจรจาและขออนุญาต จากเจ้าของพื้นที่ก่อน เพราะหลายจุดไม่ใช่ทุ่งรับน้ำตามแผน โดยอาจนำน้ำเข้าเพียงระดับ 20–30 เซนติเมตร เพื่อไม่ให้เสียหาย และยังสามารถเก็บน้ำไว้ใช้ทำนาปรังในฤดูแล้งได้ด้วยดร.ธเนศร์ ย้ำว่าสถานการณ์น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเริ่มมีแนวโน้มลดลงแล้ว การบริหารจัดการน่าจะเป็นไปตามแผน แต่ยังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ของแม่น้ำปิงที่รับการระบายจากเขื่อนภูมิพล เพราะจะเป็นตัวแปรสำคัญของสถานการณ์น้ำที่บริเวน จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นต้นน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา ด้าน นายชวลิต จันทรรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีม คอนซ
อ่านต่อ >10

#ข่าวเศรษฐกิจ #TNN ช่อง16
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวว่า ปัจจุบันยอดขายของบริษัทมาจากต่างประเทศเป็นหลัก โดยมีสัดส่วนยอดขายจากกิจการในต่างประเทศประมาณ 62% และมีการส่งออกไปต่างประเทศอีกจำนวน 5% นับรวมประมาณ 2 ใน 3 ของยอดขายที่มาจากต่างประเทศที่บริษัทมีการลงทุนและร่วมลงทุนรวม 16 ประเทศ มีการค้าระหว่างประเทศที่จำหน่ายในร้านค้าปลีกค้าส่งชั้นนำในอีกมากกว่า 50 ประเทศ ทั้งนี้ ยอดขาย 9 เดือนแรกปีนี้ อยู่ที่ 430,335 ล้านบาท ซึ่งหากไม่รวมผลจากการแปลงค่าของงบการเงินของกิจการต่างประเทศจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น บริษัทฯ จะมียอดขายเติบโตประมาณ 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกปีนี้ที่ 24,112 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 57% จากการบริหารด้านประสิทธิภาพการดำเนินการตลอดห่วงโซ่อุปทาน และการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิผล รวมถึง ต้นทุนที่ลดลงจากราคากากถั่วเหลืองในหลายประเทศทั่วโลกที่อยู่ในระดับต่ำกว่าปีที่ผ่านมา นายประสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้เป็นอีกปีหนึ่งที่มีปัจจัยหลากหลายประการกระทบการดำเนินงาน ทั้งเรื่องโรคระบาดในการเลี้ยงสัตว์ที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ มาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา กำลังซื้อที่ยังไม่ดีขึ้นในหลายประเทศ บริษัทฯจึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ระมัดระวังการลงทุน พยายามปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปีนี้ บริษัทมีรายได้จากการขาย 138,565 ล้านบาท หากไม่นับรวมผลกระทบจากการแปลงค่าเงิน รายได้จากการขายจะเพิ่มขึ้น 2 % จากงวดเดียวกันของปีก่อน มีอัตรากำไรขั้นต้น 16.5% ดีขึ้นจากปีก่อนที่ระดับ 15.4% จากการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และราคากากถั่วเหลืองโลกที่ลดลง อย่างไรก็ตามด้วยมาตรฐานการบันทึกบัญชีเรื่องการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ของสุกรมีผลขาดทุนที่ 1,115 ล้านบาท และส่วนได้ในกำไรของบริษัทร่วมและการร่วมค้าจำนวน 2,463 ล้านบาท ที่ลดลง 33% ทำให้กำไรสุทธิในไตรมาส 3 อยู่ที่ 5,186 ล้านบาท ลดลง 29% จากปีก่อน นายประสิทธิ์ ยังได้กล่าวถึง แนวโน้มของธุรกิจว่าด้วยสถานการณ์โลกที่มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างรวดเร็ว ประกอบกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต รวมถึงสถานการณ์โลกร้อนที่เ
อ่านต่อ >11

#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
สถานการณ์น้ำทั่วประเทศ 13 พฤศจิกายน 2568 เวลา 07.00 น.รายงานภาพรวมล่าสุดจากหน่วยงานด้านน้ำ ระบุว่าประเทศไทยยังต้องเฝ้าระวังฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคกลางตอนล่าง กรุงเทพฯ–ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ขณะเดียวกันปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำใหญ่ยังคงเต็มเกือบทั้งหมด ส่งผลต่อการบริหารจัดการน้ำลงสู่ลุ่มเจ้าพระยาอย่างใกล้ชิด1. ภาพรวมสภาพอากาศมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และคาดว่าจะขยายตัวลงสู่ภาคอีสานตอนล่างและทะเลจีนใต้ ทำให้ช่วง 14–15 พฤศจิกายน 2568 ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง จากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่เริ่มแรงขึ้นและร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคใต้ตอนกลางช่วงวันที่ 16–18 พฤศจิกายน มวลอากาศเย็นระลอกใหม่จะเสริมกำลังลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น ส่วนภาคใต้จะมีฝนมากขึ้นและอาจมีฝนหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ ขณะที่คลื่นลมอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรงต่อเนื่อง2. อ่างเก็บน้ำทั่วประเทศปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำรวมอยู่ที่ 89% ของความจุ หรือ 71,988 ล้าน ลบ.ม.น้ำใช้การได้อยู่ที่ 83% หรือ 47,865 ล้าน ลบ.ม. ถือว่าอยู่ในระดับสูง ต้องบริหารจัดการน้ำลงสู่ลุ่มน้ำสำคัญอย่างระมัดระวัง 3. สถานการณ์ลุ่มน้ำเจ้าพระยา (ข้อมูล 13 พ.ย. 68 เวลา 06.00 น.)เขื่อนหลักทั้ง 4 แห่งมีปริมาณน้ำเก็บกักใกล้เต็มทุกแห่ง และยังคงมีน้ำไหลเข้าต่อเนื่องเขื่อนภูมิพล 13,406 ล้าน ลบ.ม. (100%)น้ำไหลเข้า 65.28 ล้าน ลบ.ม. / ระบาย 55.05 ล้าน ลบ.ม.ต่อวันเขื่อนสิริกิติ์ 9,309 ล้าน ลบ.ม. (98%)น้ำไหลเข้า 13.59 ล้าน ลบ.ม. / ระบาย 5.01 ล้าน ลบ.ม.ต่อวันเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน 953 ล้าน ลบ.ม. (101%)น้ำไหลเข้า 5.35 ล้าน ลบ.ม. / ระบาย 5.18 ล้าน ลบ.ม.ต่อวันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 920 ล้าน ลบ.ม. (96%)น้ำไหลเข้า 11.76 ล้าน ลบ.ม. / ระบาย 15.11 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน สถานีสำคัญในลุ่มเจ้าพระยาสถานี C.2 นครสวรรค์ อัตราการไหล 2,976 ลบ.ม./วินาที ต่ำกว่าตลิ่ง 0.89 ม.เขื่อนเจ้าพระยา ชัยนาท ระบาย 2,900 ลบ.ม./วินาทีระดับน้ำเหนือเขื่อน +17.540 ม.รทก.ระดับน้ำท้ายเขื่อน +16.670 ม.รทก.สถานี C.29B สามโคก ปทุมธานี ไหลผ่าน 2,427 ลบ.ม./วินาที ต่ำกว่าตลิ่ง 0.28 ม.4. ความคืบหน้าการบริหารจัดการน้ำลุ่มโขงเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 สทนช.จัดประชุมสรุปการทำงานของ “ศูนย์บริ
อ่านต่อ >8

#ข่าวเศรษฐกิจ #TNN ช่อง16
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การดำเนินโครงการคนละครึ่ง พลัส ระยะที 2 หรือ เฟส 2 จะเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ส่วนวงเงินที่จะให้สามารถกำหนดเท่าใดก็ได้ ขึ้นอยู่กับงบประมาณที่จัดสรร ซึ่งกระทรวงการคลังมีหน้าที่เสนอแผนขึ้นไปเท่านั้น สุดท้ายแล้วการตัดสินใจก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล ซึ่งหากต้องการให้เดินหน้าต่อเนื่องในมกราคม 2569 กระทรวงการคลังจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติในเดือนธันวาคม 2568 นี้สำหรับงบประมาณที่จะนำมาใช้ในโครงการคนละครึ่ง พลัส เฟส 2 นั้น ตามหลักการงบประมาณ ส่วนใดที่ไม่ได้ระบุในรายการพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2569 งบประมาณที่จะนำมาใช้ก็ต้องมาจากงบกลาง ที่ไม่มีรายการกำหนดเฉพาะเจาะจง สามารถนำมาใช้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ ซึ่งมีกรอบวงเงินประมาณ 100,000 ล้านบาท โดยในรายละเอียดนั้น จะต้องหารือกับสำนักงบประมาณ ขณะที่หลักการเดินหน้าโครงการคนละครึ่ง พลัส เฟส 2 นั้น ผู้เข้าร่วม เฟส 2 ที่ไม่เคยเข้าร่วม เฟส 1 มาก่อน ควรจะได้รับวงเงินมากกว่า ส่วนผู้ที่เคยเข้าร่วม เฟส 1 มาแล้ว ก็มีสิทธิ์เข้าร่วมเฟส 2 เช่นกัน แต่จะได้รับวงเงินน้อยกว่าผู้เข้าร่วมใหม่ ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้ มีการพูดถึงตัวเลขวงเงิน 4,000 บาท นั้น เป็นเพียงการยกตัวอย่าง สำหรับการออกแบบโครงการคนละครึ่ง พลัส เฟส 2 รอบเก็บตกในกลุ่มเปราะบาง หรือผู้มีรายได้น้อยนั้น หากพบว่าประชาชนกลุ่มดังกล่าวเข้าเกณฑ์บัตรสวัสดิการฯ ก็จะจัดสรรให้รับบัตรสวัสดิการฯ ไปเลย ซึ่งในปี 2569 จะมีการเปิดลงทะเบียนควบคู่กันไปด้วย โดยโครงการคนละครึ่ง พลัส เฟส 2 ยังคงยึดหลักการที่ไม่ซ้ำซ้อนกับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการฯ จะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งได้ เนื่องจากเป็นคนละแนวคิดกัน เพราะโครงการคนละครึ่งพลัสนี้ กำหนดให้ประชาชนต้องมีเงินร่วมจ่าย (Co-pay) ซึ่งผู้ยากจนที่เหมาะสมกับบัตรสวัสดิการฯ อาจไม่มีเงินในส่วนนี้
อ่านต่อ >6

#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
เปิดแนวทางรับมือ “วิกฤตลุ่มเจ้าพระยา”ท่ามกลางสถานการณ์น้ำในลุ่มเจ้าพระยาที่ทะลักเข้าเต็มพื้นที่ภาคกลางทั้งสิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพฯ ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยายังยกประตูเขื่อน เพิ่มการระบายอยู่ที่ 2,900 ลบ.ม.ต่อวินาที เพื่อเร่งระบายมวลน้ำทางตอนเหนือ หน่วยงานด้านน้ำต้องเร่งประสานทุกระบบชลประทาน เพื่อบริหารจัดการมวลน้ำมหาศาลให้ผ่านพ้นพื้นที่วิกฤตโดยไม่สร้างความเสียหายเพิ่มเติมขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำต่างชี้ว่าการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในช่วงเวลาทองในการระบายน้ำก่อนน้ำทะเลหนุน คือปัจจัยชี้ชะตาว่าลุ่มเจ้าพระยาจะรอดพ้นวิกฤตครั้งนี้ได้หรือไม่ ดร.ธเนศร์ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา กรมชลประทาน เปิดเผยว่าสถานการณ์ขณะนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ควบคุมได้ โดยกรมชลประทานกำลังบริหารจัดการน้ำจากภาคเหนือ ปิง วัง ยม น่าน ที่ไหลมาบรรจบกันที่นครสวรรค์ ก่อนลงสู่เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท“ตอนนี้เราคงการระบายน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาไว้ที่ 2,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ประมาณ 5–7 วัน เพื่อรักษาสมดุลระหว่างน้ำเหนือกับน้ำในพื้นที่ตอนล่าง หากประเมินแล้วว่าปริมาณน้ำเหนือเริ่มลดลง ก็จะทยอยปรับลดการระบายลงตามลำดับ” ดร.ธเนศร์ กล่าวปัจจุบันมีการระบายน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานรวม 55 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 48 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยเน้นการผันน้ำเข้าสู่ระบบทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตก ส่วนฝั่งตะวันออกใช้คลองชัยนาท–ป่าสัก และคลองชัยนาท–อยุธยา ส่วนฝั่งตะวันตกผันผ่านปากคลองมะขามเฒ่า–อู่ทอง แม่น้ำน้อย และแม่น้ำท่าจีน ซึ่งขณะนี้เดินเต็มศักยภาพแล้วอย่างไรก็ตาม หากจำเป็นต้องผันน้ำเข้าทุ่งเกษตรกรรม กรมชลประทานจะต้องเจรจาและขออนุญาต จากเจ้าของพื้นที่ก่อน เพราะหลายจุดไม่ใช่ทุ่งรับน้ำตามแผน โดยอาจนำน้ำเข้าเพียงระดับ 20–30 เซนติเมตร เพื่อไม่ให้เสียหาย และยังสามารถเก็บน้ำไว้ใช้ทำนาปรังในฤดูแล้งได้ด้วยดร.ธเนศร์ ย้ำว่าสถานการณ์น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเริ่มมีแนวโน้มลดลงแล้ว การบริหารจัดการน่าจะเป็นไปตามแผน แต่ยังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ของแม่น้ำปิงที่รับการระบายจากเขื่อนภูมิพล เพราะจะเป็นตัวแปรสำคัญของสถานการณ์น้ำที่บริเวน จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นต้นน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา ด้าน นายชวลิต จันทรรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีม คอนซ
อ่านต่อ >10

#ข่าวเศรษฐกิจ #TNN ช่อง16
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวว่า ปัจจุบันยอดขายของบริษัทมาจากต่างประเทศเป็นหลัก โดยมีสัดส่วนยอดขายจากกิจการในต่างประเทศประมาณ 62% และมีการส่งออกไปต่างประเทศอีกจำนวน 5% นับรวมประมาณ 2 ใน 3 ของยอดขายที่มาจากต่างประเทศที่บริษัทมีการลงทุนและร่วมลงทุนรวม 16 ประเทศ มีการค้าระหว่างประเทศที่จำหน่ายในร้านค้าปลีกค้าส่งชั้นนำในอีกมากกว่า 50 ประเทศ ทั้งนี้ ยอดขาย 9 เดือนแรกปีนี้ อยู่ที่ 430,335 ล้านบาท ซึ่งหากไม่รวมผลจากการแปลงค่าของงบการเงินของกิจการต่างประเทศจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น บริษัทฯ จะมียอดขายเติบโตประมาณ 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกปีนี้ที่ 24,112 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 57% จากการบริหารด้านประสิทธิภาพการดำเนินการตลอดห่วงโซ่อุปทาน และการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิผล รวมถึง ต้นทุนที่ลดลงจากราคากากถั่วเหลืองในหลายประเทศทั่วโลกที่อยู่ในระดับต่ำกว่าปีที่ผ่านมา นายประสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้เป็นอีกปีหนึ่งที่มีปัจจัยหลากหลายประการกระทบการดำเนินงาน ทั้งเรื่องโรคระบาดในการเลี้ยงสัตว์ที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ มาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา กำลังซื้อที่ยังไม่ดีขึ้นในหลายประเทศ บริษัทฯจึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ระมัดระวังการลงทุน พยายามปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปีนี้ บริษัทมีรายได้จากการขาย 138,565 ล้านบาท หากไม่นับรวมผลกระทบจากการแปลงค่าเงิน รายได้จากการขายจะเพิ่มขึ้น 2 % จากงวดเดียวกันของปีก่อน มีอัตรากำไรขั้นต้น 16.5% ดีขึ้นจากปีก่อนที่ระดับ 15.4% จากการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และราคากากถั่วเหลืองโลกที่ลดลง อย่างไรก็ตามด้วยมาตรฐานการบันทึกบัญชีเรื่องการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ของสุกรมีผลขาดทุนที่ 1,115 ล้านบาท และส่วนได้ในกำไรของบริษัทร่วมและการร่วมค้าจำนวน 2,463 ล้านบาท ที่ลดลง 33% ทำให้กำไรสุทธิในไตรมาส 3 อยู่ที่ 5,186 ล้านบาท ลดลง 29% จากปีก่อน นายประสิทธิ์ ยังได้กล่าวถึง แนวโน้มของธุรกิจว่าด้วยสถานการณ์โลกที่มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างรวดเร็ว ประกอบกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต รวมถึงสถานการณ์โลกร้อนที่เ
อ่านต่อ >11

#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
สถานการณ์น้ำทั่วประเทศ 13 พฤศจิกายน 2568 เวลา 07.00 น.รายงานภาพรวมล่าสุดจากหน่วยงานด้านน้ำ ระบุว่าประเทศไทยยังต้องเฝ้าระวังฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคกลางตอนล่าง กรุงเทพฯ–ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ขณะเดียวกันปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำใหญ่ยังคงเต็มเกือบทั้งหมด ส่งผลต่อการบริหารจัดการน้ำลงสู่ลุ่มเจ้าพระยาอย่างใกล้ชิด1. ภาพรวมสภาพอากาศมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และคาดว่าจะขยายตัวลงสู่ภาคอีสานตอนล่างและทะเลจีนใต้ ทำให้ช่วง 14–15 พฤศจิกายน 2568 ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง จากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่เริ่มแรงขึ้นและร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคใต้ตอนกลางช่วงวันที่ 16–18 พฤศจิกายน มวลอากาศเย็นระลอกใหม่จะเสริมกำลังลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น ส่วนภาคใต้จะมีฝนมากขึ้นและอาจมีฝนหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ ขณะที่คลื่นลมอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรงต่อเนื่อง2. อ่างเก็บน้ำทั่วประเทศปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำรวมอยู่ที่ 89% ของความจุ หรือ 71,988 ล้าน ลบ.ม.น้ำใช้การได้อยู่ที่ 83% หรือ 47,865 ล้าน ลบ.ม. ถือว่าอยู่ในระดับสูง ต้องบริหารจัดการน้ำลงสู่ลุ่มน้ำสำคัญอย่างระมัดระวัง 3. สถานการณ์ลุ่มน้ำเจ้าพระยา (ข้อมูล 13 พ.ย. 68 เวลา 06.00 น.)เขื่อนหลักทั้ง 4 แห่งมีปริมาณน้ำเก็บกักใกล้เต็มทุกแห่ง และยังคงมีน้ำไหลเข้าต่อเนื่องเขื่อนภูมิพล 13,406 ล้าน ลบ.ม. (100%)น้ำไหลเข้า 65.28 ล้าน ลบ.ม. / ระบาย 55.05 ล้าน ลบ.ม.ต่อวันเขื่อนสิริกิติ์ 9,309 ล้าน ลบ.ม. (98%)น้ำไหลเข้า 13.59 ล้าน ลบ.ม. / ระบาย 5.01 ล้าน ลบ.ม.ต่อวันเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน 953 ล้าน ลบ.ม. (101%)น้ำไหลเข้า 5.35 ล้าน ลบ.ม. / ระบาย 5.18 ล้าน ลบ.ม.ต่อวันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 920 ล้าน ลบ.ม. (96%)น้ำไหลเข้า 11.76 ล้าน ลบ.ม. / ระบาย 15.11 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน สถานีสำคัญในลุ่มเจ้าพระยาสถานี C.2 นครสวรรค์ อัตราการไหล 2,976 ลบ.ม./วินาที ต่ำกว่าตลิ่ง 0.89 ม.เขื่อนเจ้าพระยา ชัยนาท ระบาย 2,900 ลบ.ม./วินาทีระดับน้ำเหนือเขื่อน +17.540 ม.รทก.ระดับน้ำท้ายเขื่อน +16.670 ม.รทก.สถานี C.29B สามโคก ปทุมธานี ไหลผ่าน 2,427 ลบ.ม./วินาที ต่ำกว่าตลิ่ง 0.28 ม.4. ความคืบหน้าการบริหารจัดการน้ำลุ่มโขงเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 สทนช.จัดประชุมสรุปการทำงานของ “ศูนย์บริ
อ่านต่อ >8

#ข่าวเศรษฐกิจ #TNN ช่อง16
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การดำเนินโครงการคนละครึ่ง พลัส ระยะที 2 หรือ เฟส 2 จะเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ส่วนวงเงินที่จะให้สามารถกำหนดเท่าใดก็ได้ ขึ้นอยู่กับงบประมาณที่จัดสรร ซึ่งกระทรวงการคลังมีหน้าที่เสนอแผนขึ้นไปเท่านั้น สุดท้ายแล้วการตัดสินใจก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล ซึ่งหากต้องการให้เดินหน้าต่อเนื่องในมกราคม 2569 กระทรวงการคลังจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติในเดือนธันวาคม 2568 นี้สำหรับงบประมาณที่จะนำมาใช้ในโครงการคนละครึ่ง พลัส เฟส 2 นั้น ตามหลักการงบประมาณ ส่วนใดที่ไม่ได้ระบุในรายการพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2569 งบประมาณที่จะนำมาใช้ก็ต้องมาจากงบกลาง ที่ไม่มีรายการกำหนดเฉพาะเจาะจง สามารถนำมาใช้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ ซึ่งมีกรอบวงเงินประมาณ 100,000 ล้านบาท โดยในรายละเอียดนั้น จะต้องหารือกับสำนักงบประมาณ ขณะที่หลักการเดินหน้าโครงการคนละครึ่ง พลัส เฟส 2 นั้น ผู้เข้าร่วม เฟส 2 ที่ไม่เคยเข้าร่วม เฟส 1 มาก่อน ควรจะได้รับวงเงินมากกว่า ส่วนผู้ที่เคยเข้าร่วม เฟส 1 มาแล้ว ก็มีสิทธิ์เข้าร่วมเฟส 2 เช่นกัน แต่จะได้รับวงเงินน้อยกว่าผู้เข้าร่วมใหม่ ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้ มีการพูดถึงตัวเลขวงเงิน 4,000 บาท นั้น เป็นเพียงการยกตัวอย่าง สำหรับการออกแบบโครงการคนละครึ่ง พลัส เฟส 2 รอบเก็บตกในกลุ่มเปราะบาง หรือผู้มีรายได้น้อยนั้น หากพบว่าประชาชนกลุ่มดังกล่าวเข้าเกณฑ์บัตรสวัสดิการฯ ก็จะจัดสรรให้รับบัตรสวัสดิการฯ ไปเลย ซึ่งในปี 2569 จะมีการเปิดลงทะเบียนควบคู่กันไปด้วย โดยโครงการคนละครึ่ง พลัส เฟส 2 ยังคงยึดหลักการที่ไม่ซ้ำซ้อนกับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการฯ จะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งได้ เนื่องจากเป็นคนละแนวคิดกัน เพราะโครงการคนละครึ่งพลัสนี้ กำหนดให้ประชาชนต้องมีเงินร่วมจ่าย (Co-pay) ซึ่งผู้ยากจนที่เหมาะสมกับบัตรสวัสดิการฯ อาจไม่มีเงินในส่วนนี้
อ่านต่อ >6