#ข่าวการเมือง #TNN ช่อง16
วันนี้ (13 กันยายน 2567) เวลา 11.45 น. ณ ด่านพรมแดน ด่านศุลกากรแม่สาย จ.เชียงราย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัย พร้อมให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ นายกรัฐมนตรีรับรายงานจากข้าราชการทหาร พลเรือน และข้าราชการท้องถิ่น รวมทั้งอาสาสมัคร และจิตอาสาที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ ปริมาณน้ำในพื้นที่ได้ลดลงและเข้าสู่ขั้นตอนเก็บกวาดทำความสะอาดถนน สะพาน สถานที่สาธารณะ เพื่อเร่งคืนพื้นที่ให้กับประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ให้เร็วที่สุด นายกรัฐมนตรี ยังสอบถามการช่วยเหลือของทางเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปถึงพี่น้องประชาชน ซึ่งได้เจ้าหน้าที่รายงาน ในช่วงแรกการช่วยเหลือเต็มไปด้วยความยากลำบากช่วงกระแสน้ำเชี่ยว ต้องอาศัยเจ็ตสกีจากผู้มีความชำนาญพิเศษ รวมทั้งการใช้เฮลิคอปเตอร์ในการส่งเสบียง อาหารและเครื่องดื่มเข้าไป ซึ่งเป็นการบูรณาการจากหลายหน่วยงานร่วมกัน เร่งช่วยเหลือประชาชนเริ่มตั้งแต่การช่วยขนย้ายของขึ้นที่สูง รวมทั้งช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ โดยเฉพาะการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ และได้จัดตั้งศูนย์เพื่อช่วยเหลือทันที นายกรัฐมนตรียังมอบหมายกระทรวงกลาโหมและกระทรวงมหาดไทย รวบรวมข้อมูล ความคิดเห็น และคำแนะนำต่าง ๆ จากเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้างาน เพื่อถอดบทเรียน และวางแผนแก้ไขปัญหา รวมถึงกำหนดแนวปฏิบัติการงานในการจัดการช่วยเหลือต่อไปด้วย จากนั้น นายกรัฐมนตรีตรวจดูแม่น้ำสาย ซึ่งกระแสน้ำได้ลดระดับและความรุนแรงลงบ้างแล้ว โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวทักทายและขอบคุณนายกษิดิศ ธีระประทีป ผู้ที่ขับเจ็ตสกีเข้าไปช่วยเหลือลุงเขียงหมูที่ติดเต็นท์แดงด้วย จากนั้น เวลา 12.30 น. เยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราว วัดพรหมวิหาร ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย กล่าวว่ารัฐบาลจะดูแลเรื่องการเยียวยาให้ดีที่สุด ถือว่าการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเป็นความสำคัญเร่งด่วน รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ และมีความห่วงใยทุกคน ทั้งนี้ ข
อ่านต่อ >28
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
มูลนิธิช่วยเหลือเด็ก ประเทศไทย (Save the Children Thailand ) ระดมทีมงานลงพื้นที่ เพื่อประเมินความต้องการเร่งด่วนของครอบครัวเด็ก ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างกว้างขวางในภาคเหนือ โดยเฉพาะในอำเภอขุนตาล อำเภอพญาเม็งราย อำเภอเทิง และ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ซึ่ง เป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบไปก่อนหน้านี้ ล่าสุด อยู่ระหว่างประเมินผลกระทบในอำเภอแม่สายและอำเภอเชียงแสน หลังจากเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ ทำให้ชุมชน บ้านเรือน และโรงเรียนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้เด็กหลายพันคนต้องหยุดเรียน เนื่องจากโรงเรียนหลายแห่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก และชาวบ้านในชุมชนต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ ยังมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำที่ ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่กำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมการช่วยเหลือเพิ่มเติม คุณกีโยม ราชู ผู้อำนวยการบริหาร มูลนิธิช่วยเหลือเด็ก ประเทศไทย (Save the Children Thailand ) กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบว่า มีครอบครัวจำนวนมากที่ ยังคงอยู่ในภาวะช็อกจากความเสียหายที่เกิดขึ้น เนื่องจากบ้านเรือนถูกน้ำท่วม และหลายคนสูญเสียปัจจัยจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตประจำวัน หลายครอบครัวต้องการเสื้อผ้า และชุดสุขอนามัยอย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ ยังเกิดความกังวลว่าจะฟื้นฟูชีวิตอย่างไรหลังจากสูญเสียทรัพย์สินไปเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อบรรเทาสถานการณ์ แม้ว่าคนในชุมชนกำลังช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แต่ยังต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการช่วยให้เด็ก ๆ ให้กลับไปโรงเรียนได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจว่าความต้องการพื้นฐานของพวกเขาจะได้รับการตอบสนอง ดังนั้น เป้าหมายของมูลนิธิฯ คือการให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นโดยเร็วที่สุด โดยจะทำงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นและองค์กรอื่น ๆ โดย วางแผนการช่วยเหลือทั้งในระยะสั้นและระยะยาวสำหรับเด็กและครอบครัวที่ประสบภัย ประกอบด้วย โครงการกลับสู่โรงเรียนอย่างปลอดภัย สนับสนุนการซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานของโรงเรียนที่เสียหาย และจัดหาอุปกรณ์จำเป็นสำหรับเด็ก เช่น ชุดนักเรียน สมุด และดินสอ เพื่อให้สามารถกลับมาเรียนได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ ยังจะจัดตั้งพื้นที่เล่นในโรงเรียนเพื่อช่วยให้เด็ก ๆ จัดการความเครียดได้, ชุดอุปกรณ์สำหรับทารกและสิ่งของจำเป็น รวมถึ
อ่านต่อ >21
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ขณะที่มีแนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้ในระดับบนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ระหว่างวันที่ 16 ส.ค. - 14 ก.ย. 67 มีสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 28 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ เลย อุดรธานี หนองคาย หนองบัวลำภู ปราจีนบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ระยอง ภูเก็ต ยะลา นครศรีธรรมราช พังงา ตรัง และสตูล รวม 129 อำเภอ 590 ตำบล 3,134 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 132,615 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยและดินถล่ม รวม 34 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ รวม 24 ราย โดยปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 14 กันยายน 2567) ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 10 จังหวัด รวม 33 อำเภอ 160 ตำบล 733 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 60,050 ครัวเรือน ดังนี้1) เชียงราย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.แม่สาย อ.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่จัน อ.เชียงแสน อ.เชียงของ และ อ.เมืองฯ รวม 24 ตำบล 123 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 45,329 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ผู้ได้ร้บบาดเจ็บ 2 คน ระดับน้ำลดลง2)แม่ฮ่องสอน เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.สบเมย และ อ.ปางมะผ้า รวม 2 ตำบล 4 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 78 คน ระดับน้ำลดลง3) ตาก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.พบพระ อ.แม่สอด อ.แม่ระมาด และ อ.ท่าสองยาง รวม 11 ตำบล 31 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 720 คน ระดับน้ำลดลง4) สุโขทัย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอกงไกรลาศ รวม 3 ตำบล 20 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 361 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง5) พิษณุโลก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.พรหมพิราม อ.บางระกำ และ อ.เมืองฯ รวม 7 ตำบล 15 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 576 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว 6) เพชรบูรณ์ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.หนองไผ่ และ อ.ชนแดน รวม 5 ตำบล 13 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 49 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง 7) หนองคาย เกิดน้ำ
อ่านต่อ >31
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
วันนี้ (14 กันยายน 2567) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยสถานการณ์อุทกภัยและดินโคลนถล่มในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 1 ระหว่างวันที่ 8-13 กันยายน 2567 ว่า พบมีสถานการณ์ใน 2 จังหวัด ได้แก่ 1.เชียงใหม่ คือ อ.แม่อาย และ อ.ฝาง ผู้ได้รับผลกระทบสะสม 2,978 ครัวเรือน เป็นบุคลากรทางการแพทย์ 109 ราย ผู้บาดเจ็บสะสม 3 ราย เสียชีวิตสะสม 6 ราย รพ.สต.ได้รับผลกระทบ 1 แห่ง คือ รพ.สต.บ้านท่ามะแกง ซึ่งยังต้องปิดให้บริการ มีการเปิดศูนย์พักพิง 7 แห่ง (แม่อาย 6 แห่ง ฝาง 1 แห่ง) และ 2.เชียงราย ได้แก่ อ.แม่สาย อ.แม่จัน อ.แม่ฟ้าหลวง และ อ.เมือง ผู้ได้รับผลกระทบ 24,925 ครัวเรือน เป็นบุคลากรทางการแพทย์ 308 ราย ผู้บาดเจ็บสะสม 133 ราย เสียชีวิตสะสม 10 ราย รพ.สต.ได้รับผลกระทบ 5 แห่ง ได้แก่ รพ.สต.แม่สาย รพ.สต.โป่งผา รพ.สต.สามัคคีใหม่ รพ.สต.ป่ายาง และ รพ.สต.รอบเวียง แต่ยังสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ มีการเปิดศูนย์พักพิง 22 แห่ง (เมือง 12 แห่ง แม่สาย 7 แห่ง แม่จัน เวียงชัย และแม่ฟ้าหลวง อำเภอละ 1 แห่ง)ภาพรวมทั้ง 2 จังหวัดมีผู้เสียชีวิตสะสม 16 ราย สาเหตุมาจากดินถล่ม พลัดตกน้ำ/จมน้ำ และถูกกระแสน้ำพัด ผู้บาดเจ็บสะสม 136 ราย สถานบริการสาธารณสุขได้รับผลกระทบรวม 6 แห่ง บุคลากรทางการแพทย์ได้รับผลกระทบรวม 417 ราย ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (PHEOC) แล้วทั้ง 2 จังหวัด ส่วนกลางและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสนับสนุนยาและเวชภัณฑ์ (ชุดตรวจโรคฉี่หนู รองเท้าบูท ยากันยุง) รวม 9,000 ชุดนพ.โอภาสกล่าวต่อว่า ส่วนการดูแลสุขภาพประชาชน มีการจัดทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ (MERT) ทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ระดับอำเภอ (Mini MERT) หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ทีมสุขภาพจิต (MCATT) ทีมอนามัยสิ่งแวดล้อม (SEhRT) หน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อ (CDCU) ทีมเฝ้าระวังสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) และทีมกู้ชีพกู้ภัย รวม 167 ทีม แบ่งเป็น เชียงใหม่ 52 ทีม และเชียงราย 115 ทีม ให้การเยี่ยมบ้าน 192 ราย ตรวจรักษา 1,662 ราย ให้สุขศึกษา 2,443 ราย สุขภาพจิต 784 ราย ส่งต่อผู้ป่วย 30 ราย มอบชุดดูแลสิ่งแวดล้อม 168 ราย โดยโรคและภัยสุขภาพที่พบส่วนใหญ่เป็นน้ำกัดเท้า รองลงมาเป็นอาการทางระบบกล้ามเนื้อ/กระดูก ระบบทางเดินหายใจ โรคติดเชื้อจากไวรัส เป็นต้น ยังไม่พบการระบาดของโรคที่เกี่ยวข้องกับอุทกภัย โดยในส่วนจังหวัดเ
อ่านต่อ >11
#ข่าวการเมือง #TNN ช่อง16
วันนี้ (13 กันยายน 2567) เวลา 11.45 น. ณ ด่านพรมแดน ด่านศุลกากรแม่สาย จ.เชียงราย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัย พร้อมให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ นายกรัฐมนตรีรับรายงานจากข้าราชการทหาร พลเรือน และข้าราชการท้องถิ่น รวมทั้งอาสาสมัคร และจิตอาสาที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ ปริมาณน้ำในพื้นที่ได้ลดลงและเข้าสู่ขั้นตอนเก็บกวาดทำความสะอาดถนน สะพาน สถานที่สาธารณะ เพื่อเร่งคืนพื้นที่ให้กับประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ให้เร็วที่สุด นายกรัฐมนตรี ยังสอบถามการช่วยเหลือของทางเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปถึงพี่น้องประชาชน ซึ่งได้เจ้าหน้าที่รายงาน ในช่วงแรกการช่วยเหลือเต็มไปด้วยความยากลำบากช่วงกระแสน้ำเชี่ยว ต้องอาศัยเจ็ตสกีจากผู้มีความชำนาญพิเศษ รวมทั้งการใช้เฮลิคอปเตอร์ในการส่งเสบียง อาหารและเครื่องดื่มเข้าไป ซึ่งเป็นการบูรณาการจากหลายหน่วยงานร่วมกัน เร่งช่วยเหลือประชาชนเริ่มตั้งแต่การช่วยขนย้ายของขึ้นที่สูง รวมทั้งช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ โดยเฉพาะการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ และได้จัดตั้งศูนย์เพื่อช่วยเหลือทันที นายกรัฐมนตรียังมอบหมายกระทรวงกลาโหมและกระทรวงมหาดไทย รวบรวมข้อมูล ความคิดเห็น และคำแนะนำต่าง ๆ จากเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้างาน เพื่อถอดบทเรียน และวางแผนแก้ไขปัญหา รวมถึงกำหนดแนวปฏิบัติการงานในการจัดการช่วยเหลือต่อไปด้วย จากนั้น นายกรัฐมนตรีตรวจดูแม่น้ำสาย ซึ่งกระแสน้ำได้ลดระดับและความรุนแรงลงบ้างแล้ว โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวทักทายและขอบคุณนายกษิดิศ ธีระประทีป ผู้ที่ขับเจ็ตสกีเข้าไปช่วยเหลือลุงเขียงหมูที่ติดเต็นท์แดงด้วย จากนั้น เวลา 12.30 น. เยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราว วัดพรหมวิหาร ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย กล่าวว่ารัฐบาลจะดูแลเรื่องการเยียวยาให้ดีที่สุด ถือว่าการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเป็นความสำคัญเร่งด่วน รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ และมีความห่วงใยทุกคน ทั้งนี้ ข
อ่านต่อ >28
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
มูลนิธิช่วยเหลือเด็ก ประเทศไทย (Save the Children Thailand ) ระดมทีมงานลงพื้นที่ เพื่อประเมินความต้องการเร่งด่วนของครอบครัวเด็ก ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างกว้างขวางในภาคเหนือ โดยเฉพาะในอำเภอขุนตาล อำเภอพญาเม็งราย อำเภอเทิง และ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ซึ่ง เป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบไปก่อนหน้านี้ ล่าสุด อยู่ระหว่างประเมินผลกระทบในอำเภอแม่สายและอำเภอเชียงแสน หลังจากเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ ทำให้ชุมชน บ้านเรือน และโรงเรียนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้เด็กหลายพันคนต้องหยุดเรียน เนื่องจากโรงเรียนหลายแห่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก และชาวบ้านในชุมชนต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ ยังมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำที่ ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่กำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมการช่วยเหลือเพิ่มเติม คุณกีโยม ราชู ผู้อำนวยการบริหาร มูลนิธิช่วยเหลือเด็ก ประเทศไทย (Save the Children Thailand ) กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบว่า มีครอบครัวจำนวนมากที่ ยังคงอยู่ในภาวะช็อกจากความเสียหายที่เกิดขึ้น เนื่องจากบ้านเรือนถูกน้ำท่วม และหลายคนสูญเสียปัจจัยจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตประจำวัน หลายครอบครัวต้องการเสื้อผ้า และชุดสุขอนามัยอย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ ยังเกิดความกังวลว่าจะฟื้นฟูชีวิตอย่างไรหลังจากสูญเสียทรัพย์สินไปเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อบรรเทาสถานการณ์ แม้ว่าคนในชุมชนกำลังช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แต่ยังต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการช่วยให้เด็ก ๆ ให้กลับไปโรงเรียนได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจว่าความต้องการพื้นฐานของพวกเขาจะได้รับการตอบสนอง ดังนั้น เป้าหมายของมูลนิธิฯ คือการให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นโดยเร็วที่สุด โดยจะทำงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นและองค์กรอื่น ๆ โดย วางแผนการช่วยเหลือทั้งในระยะสั้นและระยะยาวสำหรับเด็กและครอบครัวที่ประสบภัย ประกอบด้วย โครงการกลับสู่โรงเรียนอย่างปลอดภัย สนับสนุนการซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานของโรงเรียนที่เสียหาย และจัดหาอุปกรณ์จำเป็นสำหรับเด็ก เช่น ชุดนักเรียน สมุด และดินสอ เพื่อให้สามารถกลับมาเรียนได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ ยังจะจัดตั้งพื้นที่เล่นในโรงเรียนเพื่อช่วยให้เด็ก ๆ จัดการความเครียดได้, ชุดอุปกรณ์สำหรับทารกและสิ่งของจำเป็น รวมถึ
อ่านต่อ >21
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ขณะที่มีแนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้ในระดับบนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ระหว่างวันที่ 16 ส.ค. - 14 ก.ย. 67 มีสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 28 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ เลย อุดรธานี หนองคาย หนองบัวลำภู ปราจีนบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ระยอง ภูเก็ต ยะลา นครศรีธรรมราช พังงา ตรัง และสตูล รวม 129 อำเภอ 590 ตำบล 3,134 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 132,615 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยและดินถล่ม รวม 34 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ รวม 24 ราย โดยปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 14 กันยายน 2567) ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 10 จังหวัด รวม 33 อำเภอ 160 ตำบล 733 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 60,050 ครัวเรือน ดังนี้1) เชียงราย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.แม่สาย อ.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่จัน อ.เชียงแสน อ.เชียงของ และ อ.เมืองฯ รวม 24 ตำบล 123 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 45,329 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ผู้ได้ร้บบาดเจ็บ 2 คน ระดับน้ำลดลง2)แม่ฮ่องสอน เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.สบเมย และ อ.ปางมะผ้า รวม 2 ตำบล 4 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 78 คน ระดับน้ำลดลง3) ตาก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.พบพระ อ.แม่สอด อ.แม่ระมาด และ อ.ท่าสองยาง รวม 11 ตำบล 31 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 720 คน ระดับน้ำลดลง4) สุโขทัย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอกงไกรลาศ รวม 3 ตำบล 20 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 361 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง5) พิษณุโลก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.พรหมพิราม อ.บางระกำ และ อ.เมืองฯ รวม 7 ตำบล 15 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 576 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว 6) เพชรบูรณ์ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.หนองไผ่ และ อ.ชนแดน รวม 5 ตำบล 13 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 49 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง 7) หนองคาย เกิดน้ำ
อ่านต่อ >31
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
วันนี้ (14 กันยายน 2567) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยสถานการณ์อุทกภัยและดินโคลนถล่มในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 1 ระหว่างวันที่ 8-13 กันยายน 2567 ว่า พบมีสถานการณ์ใน 2 จังหวัด ได้แก่ 1.เชียงใหม่ คือ อ.แม่อาย และ อ.ฝาง ผู้ได้รับผลกระทบสะสม 2,978 ครัวเรือน เป็นบุคลากรทางการแพทย์ 109 ราย ผู้บาดเจ็บสะสม 3 ราย เสียชีวิตสะสม 6 ราย รพ.สต.ได้รับผลกระทบ 1 แห่ง คือ รพ.สต.บ้านท่ามะแกง ซึ่งยังต้องปิดให้บริการ มีการเปิดศูนย์พักพิง 7 แห่ง (แม่อาย 6 แห่ง ฝาง 1 แห่ง) และ 2.เชียงราย ได้แก่ อ.แม่สาย อ.แม่จัน อ.แม่ฟ้าหลวง และ อ.เมือง ผู้ได้รับผลกระทบ 24,925 ครัวเรือน เป็นบุคลากรทางการแพทย์ 308 ราย ผู้บาดเจ็บสะสม 133 ราย เสียชีวิตสะสม 10 ราย รพ.สต.ได้รับผลกระทบ 5 แห่ง ได้แก่ รพ.สต.แม่สาย รพ.สต.โป่งผา รพ.สต.สามัคคีใหม่ รพ.สต.ป่ายาง และ รพ.สต.รอบเวียง แต่ยังสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ มีการเปิดศูนย์พักพิง 22 แห่ง (เมือง 12 แห่ง แม่สาย 7 แห่ง แม่จัน เวียงชัย และแม่ฟ้าหลวง อำเภอละ 1 แห่ง)ภาพรวมทั้ง 2 จังหวัดมีผู้เสียชีวิตสะสม 16 ราย สาเหตุมาจากดินถล่ม พลัดตกน้ำ/จมน้ำ และถูกกระแสน้ำพัด ผู้บาดเจ็บสะสม 136 ราย สถานบริการสาธารณสุขได้รับผลกระทบรวม 6 แห่ง บุคลากรทางการแพทย์ได้รับผลกระทบรวม 417 ราย ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (PHEOC) แล้วทั้ง 2 จังหวัด ส่วนกลางและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสนับสนุนยาและเวชภัณฑ์ (ชุดตรวจโรคฉี่หนู รองเท้าบูท ยากันยุง) รวม 9,000 ชุดนพ.โอภาสกล่าวต่อว่า ส่วนการดูแลสุขภาพประชาชน มีการจัดทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ (MERT) ทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ระดับอำเภอ (Mini MERT) หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ทีมสุขภาพจิต (MCATT) ทีมอนามัยสิ่งแวดล้อม (SEhRT) หน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อ (CDCU) ทีมเฝ้าระวังสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) และทีมกู้ชีพกู้ภัย รวม 167 ทีม แบ่งเป็น เชียงใหม่ 52 ทีม และเชียงราย 115 ทีม ให้การเยี่ยมบ้าน 192 ราย ตรวจรักษา 1,662 ราย ให้สุขศึกษา 2,443 ราย สุขภาพจิต 784 ราย ส่งต่อผู้ป่วย 30 ราย มอบชุดดูแลสิ่งแวดล้อม 168 ราย โดยโรคและภัยสุขภาพที่พบส่วนใหญ่เป็นน้ำกัดเท้า รองลงมาเป็นอาการทางระบบกล้ามเนื้อ/กระดูก ระบบทางเดินหายใจ โรคติดเชื้อจากไวรัส เป็นต้น ยังไม่พบการระบาดของโรคที่เกี่ยวข้องกับอุทกภัย โดยในส่วนจังหวัดเ
อ่านต่อ >11
#ข่าวการเมือง #TNN ช่อง16
วันนี้ (13 กันยายน 2567) เวลา 11.45 น. ณ ด่านพรมแดน ด่านศุลกากรแม่สาย จ.เชียงราย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัย พร้อมให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ นายกรัฐมนตรีรับรายงานจากข้าราชการทหาร พลเรือน และข้าราชการท้องถิ่น รวมทั้งอาสาสมัคร และจิตอาสาที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ ปริมาณน้ำในพื้นที่ได้ลดลงและเข้าสู่ขั้นตอนเก็บกวาดทำความสะอาดถนน สะพาน สถานที่สาธารณะ เพื่อเร่งคืนพื้นที่ให้กับประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ให้เร็วที่สุด นายกรัฐมนตรี ยังสอบถามการช่วยเหลือของทางเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปถึงพี่น้องประชาชน ซึ่งได้เจ้าหน้าที่รายงาน ในช่วงแรกการช่วยเหลือเต็มไปด้วยความยากลำบากช่วงกระแสน้ำเชี่ยว ต้องอาศัยเจ็ตสกีจากผู้มีความชำนาญพิเศษ รวมทั้งการใช้เฮลิคอปเตอร์ในการส่งเสบียง อาหารและเครื่องดื่มเข้าไป ซึ่งเป็นการบูรณาการจากหลายหน่วยงานร่วมกัน เร่งช่วยเหลือประชาชนเริ่มตั้งแต่การช่วยขนย้ายของขึ้นที่สูง รวมทั้งช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ โดยเฉพาะการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ และได้จัดตั้งศูนย์เพื่อช่วยเหลือทันที นายกรัฐมนตรียังมอบหมายกระทรวงกลาโหมและกระทรวงมหาดไทย รวบรวมข้อมูล ความคิดเห็น และคำแนะนำต่าง ๆ จากเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้างาน เพื่อถอดบทเรียน และวางแผนแก้ไขปัญหา รวมถึงกำหนดแนวปฏิบัติการงานในการจัดการช่วยเหลือต่อไปด้วย จากนั้น นายกรัฐมนตรีตรวจดูแม่น้ำสาย ซึ่งกระแสน้ำได้ลดระดับและความรุนแรงลงบ้างแล้ว โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวทักทายและขอบคุณนายกษิดิศ ธีระประทีป ผู้ที่ขับเจ็ตสกีเข้าไปช่วยเหลือลุงเขียงหมูที่ติดเต็นท์แดงด้วย จากนั้น เวลา 12.30 น. เยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราว วัดพรหมวิหาร ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย กล่าวว่ารัฐบาลจะดูแลเรื่องการเยียวยาให้ดีที่สุด ถือว่าการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเป็นความสำคัญเร่งด่วน รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ และมีความห่วงใยทุกคน ทั้งนี้ ข
อ่านต่อ >28