
#ข่าวการเงิน การลงทุน #ทันหุ้น
#BKI #ทันหุ้น "กรุงเทพประกันภัยยุคใหม่" ชัย โสภณพนิช พร้อมส่งไม้ต่อ "ชวาล-ลสา โสภณพนิช" เข้าบริหาร BKI หลังทั้งสองท่านได้เข้ามาบริหารงาน และสั่งสมประสบการณ์มาพักใหญ่ จนพร้อมสานความสำเร็จของกรุงเทพประกันภัยสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและแข็งแกร่งนับเป็นเวลากว่า 7 ทศวรรษที่กรุงเทพประกันภัยยืนหยัดเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมประกันวินาศภัย ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ผู้บริโภค การพัฒนาของเทคโนโลยี และการแข่งขันที่เข้มข้นบริษัทฯ ได้มีการปรับทิศทางกลยุทธ์ ยกระดับพัฒนาบุคลากร และปรับโครงสร้างการบริหารอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคงและแข็งแกร่งนายชัย โสภณพนิช ประธานกรรมการ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) เตรียมพร้อมให้ 2 ทายาท นายชวาล โสภณพนิช และนางสาวลสา โสภณพนิช สืบทอดธุรกิจในการบริหารกรุงเทพประกันภัย ด้วยการส่งเสริมให้เรียนรู้และการสั่งสมประสบการณ์ในทุกมิติขององค์กรอย่างต่อเนื่อง พร้อมสานต่อภารกิจพัฒนาบริษัทฯ ให้เติบโตไปข้างหน้า เป็นหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญเพื่อก้าวเข้าสู่ “กรุงเทพประกันภัยยุคใหม่” โดยยังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์ “มุ่งเป็นที่สุดในใจลูกค้า” ท่ามกลางความท้าทายในธุรกิจประกันภัยเมื่อช่วงต้นปี 2568 ที่ผ่านมา กรุงเทพประกันภัยมีการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง ด้วยการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง นายชวาล โสภณพนิช ดำรงตำแหน่งประธานคณะผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ (Chief Operating Officer: COO) ดูแลและพัฒนากลยุทธ์การดำเนินงานภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ครอบคลุมการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม การบริหารแบรนด์องค์กร งานบริการลูกค้า การบริหารสินไหมทดแทนยานยนต์ รวมถึงการส่งเสริมพัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพตลอดจนได้รับความไว้วางใจกับอีกหนึ่งบทบาทที่สำคัญคือการดูแลมูลนิธิกรุงเทพประกันภัยที่นายชัยโสภณพนิช ให้ความใส่ใจอย่างยิ่งในการให้การสนับสนุนช่วยเหลือผู้ที่ขาดโอกาสทางสังคมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นเส้นทางการทำงานของนายชวาลกับกรุงเทพประกันภัย เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2547 โดยตลอดระยะเวลากว่าสองทศวรรษที่ผ่านมาได้สั่งสมประสบการณ์ในด้านการบริหารงานธุรกิจลูกค้ารายย่อย การบริหารทรัพยากรบุคคลการสื่อสารองค์กร และการบริการลูกค้า หลังจบการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์จาก University of Rochester และได้รับประกาศนียบัตรด้านบริหารความเสี่ยงและการประกันภัยจาก St. John’s Univers
อ่านต่อ >32

#ข่าวยานยนต์
นิสสัน ประเทศไทย เตรียมสร้างความตื่นเต้นให้กับงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 กับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ “นิสสัน เซเรน่า อี-พาวเวอร์ ใหม่” ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ ในกลุ่มรถเอ็มพีวีอเนกประสงค์ขนาดกลางที่ได้รับความนิยม ยกระดับประสบการณ์การเดินทางของผู้ขับขี่ด้วยสมรรถนะการขับขี่แบบยานยนต์ไฟฟ้า 100% ที่ตอบสนองได้รวดเร็วทันใจ โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ และเพลิดเพลินกับการเดินทางกับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนแบบ "Big. Easy. Fun"
นิสสันเตรียมเปิดตัว นิสสัน เซเรน่า อี-พาวเวอร์ ใหม่
นิสสัน เซเรน่า อี-พาวเวอร์ ใหม่ จะจัดแสดงเป็นส่วนหนึ่งในไลน์อัพรถยนต์ครบรุ่นของนิสสัน เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด พร้อมข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าตลอดงานตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 ณ อิมแพค เมืองทองธานี
โทชิฮิโระ ฟูจิคิ ประธานนิสสัน ประเทศไทย และนิสสัน อาเซียน กล่าวว่า "นับตั้งแต่การเปิดตัว นิสสัน เซเรน่า ในประเทศไทยเมื่อปีที่ผ่านมา เราขอขอบคุณลูกค้าชาวไทยทุกท่านที่ให้การตอบรับเป็นอย่างดี รวมถึงเสียงตอบรับเชิงบวกจากผู้ใช้งานจริง สำหรับการเปิดตัว นิสสัน เซเรน่า อี-พาวเวอร์ ใหม่ ในครั้งนี้ เรามั่นใจว่าจะช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ไปอีกขั้น ด้วยเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% ที่ให้สมรรถนะและการประหยัด โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้รถ พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ และมอบความสะดวกสบายสำหรับการเดินทางแบบครอบครัว นอกจากนี้ การเปิดตัวในครั้งนี้ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของนิสสันที่มีต่อประเทศไทยมาอย่างยาวนานกว่า 72 ปี และเราจะยังคงเดินหน้าพัฒนาเพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าชาวไทยต่อไป"
นอกเหนือจากการเปิดตัวนิสสัน เซเรน่า อี-พาวเวอร์ ใหม่ นิสสันจะจัดแสดง และเปิดให้ทดลองขับรถรุ่นที่ได้รับความนิยมในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ปีนี้ ได้แก่ นิสสัน เซเรน่า, นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์, นิสสัน อัลเมร่า, นิสสัน นาวารา และนิสสัน เทอร์ร่า
นิสสัน ยังได้เตรียมโปรโมชั่นพิเศษที่จะทำให้ลูกค้าเป็นเจ้าของรถยนต์คุณภาพเยี่ยมได้ง่ายขึ้นกับแคมเปญ SAY YES! ที่มีความหลากหลายให้ลูกค้าเลือกได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการของตนเอง ตั้งแต่ดอกเบี้ยพิเศษ 0% ไปจนถึงผ่อนนานสูงสุด 96 เดือน รวมถึงส่วนลดพิเศษสำหรับเจ้าของรถนิสสัน สูงสุด 3
อ่านต่อ >20

#ข่าวยานยนต์
วิธีจอดรถในหน้าร้อน เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว อุณหภูมิสูงสุดในประเทศไทยพุ่งขึ้นไปสูงสุดถึง 43-44 องศาเซลเซียส (โดยเฉพาะบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลางตอนบน) ซึ่งทำให้คนรักรถอย่างเราๆ คงรู้สึกไม่ดีที่ต้องจอดรถแสนรักตากแดดร้อนๆ แบบนั้น
เพราะการจอดรถกลางแดดเป็นเวลานานอาจส่งผลเสียต่อรถของเราได้มากมายหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการทำให้สีภายนอกรถซีดจาง หรือเกิดความร้อนสะสมภายในห้องโดยสาร และอาจส่งผลไปถึงทำให้ชิ้นส่วนภายในรถเกิดการเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ และเมื่อช่วงหน้าร้อนของประเทศไทยกำลังกลับมาอีกครั้งในปีนี้ ทาง TrueID เราก็มีเทคนิคการจอดรถกลางแดดที่อาจช่วยลดผลกระทบดังกล่าว และเพื่อเป็นการเตรียมตัวก่อนหน้าร้อนจะกลับมาอีกครั้ง
Thanks images from Pixabay
1. การเลือกทำเลจอดรถ
จอดรถในที่ร่ม : หากเป็นไปได้ ควรจอดรถในที่มีร่มเงา เช่น ใต้ต้นไม้ และหากจอดใต้ต้นไม้ ก็ควรหาผ้าหรืออะไรคลุมรถด้วย เพื่อป้องกันยางไม้หรือเศษใบไม้ต่างๆ ตกหล่นในสีรถ
จอดรถหันหน้าไปทางทิศตะวันออก : การเลือกทิศทางการจอดก็มีส่วนช่วยถนอมรถเช่นกัน เนื่องจากแดดในช่วงเช้าทางทิศตะวันออกจะแรงน้อยกว่าช่วงบ่ายทางทิศตะวันตก ดังนั้นการหันหน้าไปทางตะวันออกจะทำให้ภายในห้องโดยสารโดยแดดน้อยกว่าเมื่อแดดแรง ช่วยลดความร้อนสะสมในช่วงบ่ายได้
Thanks images from Pixabay
2. ใช้อุปกรณ์ป้องกัน
แผ่นบังแดด : ควรใช้แผ่นบังแดดติดกระจกหน้ารถและกระจกด้านข้าง เพื่อสะท้อนแสงแดดและความร้อนออกจากห้องโดยสาร
ผ้าคลุมรถ : เพื่อลดสีซีดจางของชิ้นส่วนภายนอกรถ ควรใช้ผ้าคลุมรถเพื่อปกป้องสีสถจากการโดยแสงแดดโดยตรง
ผ้าคลุมเบาะและพวงมาลัย : การใช้ผ้าคลุมเบาะและพวงมาลัย จะช่วยลดความร้อนในบริเวณที่ร่างกายเราสัมผัสโดยตรง ช่วยให้เราสามารถขับขี่หลังจากรถตากแดดได้สบายยิ่งขึ้น
Thanks images from Pixabay
3. การระบายความร้อน
ลดกระจกลงเล็กน้อย : การลดกระจกลงเล็กน้อย จะช่วยให้อากาศถ่ายเท และความร้อนสะสมภายในรถก็จะลดลงได้มาก
เปิดประตูระบายอากาศ : หากจอดรถกลางแดด ก่อนสตาร์ทรถ ควรเปิดประตูทุกบานหากเป็นไปได้ เพื่อระบายความร้อนออกจากห้องโดยสารก่อน
Thanks images from Pixabay
4. การดูแลรักษารถ
ติดฟิล์มกรองแสง: การติดฟิล์มกรองแสงที่มีคุณภาพดี จะสามารถช่วยลดความร้อนและรังสี UV ที่เข้ามาในรถได้
เคลือบสีรถ: การเคลือบสีรถก็เป็นการปกป้องสีรถจากแสงแด
อ่านต่อ >29

#ข่าวการเงิน การลงทุน #ทันหุ้น
#ทันหุ้น - บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจ “แม็คโคร-โลตัส” ร่วมกับ กลุ่ม ปตท. นำโดย บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดยโครงการบริหารการสร้างประโยชน์ร่วมธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น(Petrochemical and Refining Integrated Synergy Management ; PRISM) เปิดตัวโครงการ “AXTRA Green Together” ขับเคลื่อนการจัดการขยะและส่งเสริมให้คนไทยมีส่วนร่วมในการลดปัญหาขยะพลาสติกอย่างยั่งยืน ตอกย้ำความมุ่งมั่นสู่ผู้นำด้านการจัดการขยะในประเทศไทย โดยจัดตั้งจุดรับขวดพลาสติกใช้แล้ว (PET) ที่แม็คโครและโลตัส ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งจะนำขวดพลาสติก PET เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลและอัพไซคลิ่งด้วยระบบบริหารจัดการแบบครบวงจรผ่าน GC YOU เทิร์น แพลตฟอร์ม เพื่อสร้างคุณค่าเปลี่ยนเป็นเสื้อกีฬา และมอบให้กับเยาวชนในโรงเรียนทั่วไทย โครงการนี้ไม่เพียงช่วยลดปริมาณขยะพลาสติก ยังเป็นการร่วมเฉลิมฉลอง วันรีไซเคิลโลก พร้อมปลุกจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม สอดคล้องเป้าหมายของ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ในการลดขยะสู่หลุมฝังกลบให้เป็นศูนย์ภายในปี 2573 และเป้าหมายของกลุ่ม ปตท. ในการมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission)
นางศิริพร เดชสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบภายใต้หลัก ESG “ที่ ซีพี แอ็กซ์ตร้า เราให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ครอบคลุมทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล โดยหนึ่งในเป้าหมายหลักของเรา คือ การส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ผ่านการลดการทิ้งขยะสู่หลุมฝังกลบ ซึ่งรวมถึงบรรจุภัณฑ์พลาสติก สำหรับโครงการ ‘AXTRA Green Together’ เราตั้งเป้ารวบรวมขวดพลาสติกให้ได้1,400,000 ขวด เพื่อนำมาสร้างมูลค่าเพิ่ม และนำกลับมาเป็นเสื้อกีฬา อัพไซเคิล มอบให้กับเยาวชนทั่วประเทศ เราเชื่อว่าความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจะเป็นพลังสำคัญในการลดปริมาณขยะ บรรเทาภาวะโลกร้อน และสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อโลกที่ยั่งยืน”
นางชนัญชิดา วิบูลคณารักษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานกลยุทธ์องค์กร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC กล่าวว่า “GC มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้ามาสนับสนุนโครงการ “AXTR
อ่านต่อ >10

#ข่าวการเงิน การลงทุน #ทันหุ้น
#BKI #ทันหุ้น "กรุงเทพประกันภัยยุคใหม่" ชัย โสภณพนิช พร้อมส่งไม้ต่อ "ชวาล-ลสา โสภณพนิช" เข้าบริหาร BKI หลังทั้งสองท่านได้เข้ามาบริหารงาน และสั่งสมประสบการณ์มาพักใหญ่ จนพร้อมสานความสำเร็จของกรุงเทพประกันภัยสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและแข็งแกร่งนับเป็นเวลากว่า 7 ทศวรรษที่กรุงเทพประกันภัยยืนหยัดเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมประกันวินาศภัย ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ผู้บริโภค การพัฒนาของเทคโนโลยี และการแข่งขันที่เข้มข้นบริษัทฯ ได้มีการปรับทิศทางกลยุทธ์ ยกระดับพัฒนาบุคลากร และปรับโครงสร้างการบริหารอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคงและแข็งแกร่งนายชัย โสภณพนิช ประธานกรรมการ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) เตรียมพร้อมให้ 2 ทายาท นายชวาล โสภณพนิช และนางสาวลสา โสภณพนิช สืบทอดธุรกิจในการบริหารกรุงเทพประกันภัย ด้วยการส่งเสริมให้เรียนรู้และการสั่งสมประสบการณ์ในทุกมิติขององค์กรอย่างต่อเนื่อง พร้อมสานต่อภารกิจพัฒนาบริษัทฯ ให้เติบโตไปข้างหน้า เป็นหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญเพื่อก้าวเข้าสู่ “กรุงเทพประกันภัยยุคใหม่” โดยยังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์ “มุ่งเป็นที่สุดในใจลูกค้า” ท่ามกลางความท้าทายในธุรกิจประกันภัยเมื่อช่วงต้นปี 2568 ที่ผ่านมา กรุงเทพประกันภัยมีการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง ด้วยการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง นายชวาล โสภณพนิช ดำรงตำแหน่งประธานคณะผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ (Chief Operating Officer: COO) ดูแลและพัฒนากลยุทธ์การดำเนินงานภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ครอบคลุมการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม การบริหารแบรนด์องค์กร งานบริการลูกค้า การบริหารสินไหมทดแทนยานยนต์ รวมถึงการส่งเสริมพัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพตลอดจนได้รับความไว้วางใจกับอีกหนึ่งบทบาทที่สำคัญคือการดูแลมูลนิธิกรุงเทพประกันภัยที่นายชัยโสภณพนิช ให้ความใส่ใจอย่างยิ่งในการให้การสนับสนุนช่วยเหลือผู้ที่ขาดโอกาสทางสังคมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นเส้นทางการทำงานของนายชวาลกับกรุงเทพประกันภัย เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2547 โดยตลอดระยะเวลากว่าสองทศวรรษที่ผ่านมาได้สั่งสมประสบการณ์ในด้านการบริหารงานธุรกิจลูกค้ารายย่อย การบริหารทรัพยากรบุคคลการสื่อสารองค์กร และการบริการลูกค้า หลังจบการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์จาก University of Rochester และได้รับประกาศนียบัตรด้านบริหารความเสี่ยงและการประกันภัยจาก St. John’s Univers
อ่านต่อ >32

#ข่าวยานยนต์
นิสสัน ประเทศไทย เตรียมสร้างความตื่นเต้นให้กับงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 กับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ “นิสสัน เซเรน่า อี-พาวเวอร์ ใหม่” ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ ในกลุ่มรถเอ็มพีวีอเนกประสงค์ขนาดกลางที่ได้รับความนิยม ยกระดับประสบการณ์การเดินทางของผู้ขับขี่ด้วยสมรรถนะการขับขี่แบบยานยนต์ไฟฟ้า 100% ที่ตอบสนองได้รวดเร็วทันใจ โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ และเพลิดเพลินกับการเดินทางกับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนแบบ "Big. Easy. Fun"
นิสสันเตรียมเปิดตัว นิสสัน เซเรน่า อี-พาวเวอร์ ใหม่
นิสสัน เซเรน่า อี-พาวเวอร์ ใหม่ จะจัดแสดงเป็นส่วนหนึ่งในไลน์อัพรถยนต์ครบรุ่นของนิสสัน เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด พร้อมข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าตลอดงานตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 ณ อิมแพค เมืองทองธานี
โทชิฮิโระ ฟูจิคิ ประธานนิสสัน ประเทศไทย และนิสสัน อาเซียน กล่าวว่า "นับตั้งแต่การเปิดตัว นิสสัน เซเรน่า ในประเทศไทยเมื่อปีที่ผ่านมา เราขอขอบคุณลูกค้าชาวไทยทุกท่านที่ให้การตอบรับเป็นอย่างดี รวมถึงเสียงตอบรับเชิงบวกจากผู้ใช้งานจริง สำหรับการเปิดตัว นิสสัน เซเรน่า อี-พาวเวอร์ ใหม่ ในครั้งนี้ เรามั่นใจว่าจะช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ไปอีกขั้น ด้วยเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% ที่ให้สมรรถนะและการประหยัด โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้รถ พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ และมอบความสะดวกสบายสำหรับการเดินทางแบบครอบครัว นอกจากนี้ การเปิดตัวในครั้งนี้ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของนิสสันที่มีต่อประเทศไทยมาอย่างยาวนานกว่า 72 ปี และเราจะยังคงเดินหน้าพัฒนาเพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าชาวไทยต่อไป"
นอกเหนือจากการเปิดตัวนิสสัน เซเรน่า อี-พาวเวอร์ ใหม่ นิสสันจะจัดแสดง และเปิดให้ทดลองขับรถรุ่นที่ได้รับความนิยมในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ปีนี้ ได้แก่ นิสสัน เซเรน่า, นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์, นิสสัน อัลเมร่า, นิสสัน นาวารา และนิสสัน เทอร์ร่า
นิสสัน ยังได้เตรียมโปรโมชั่นพิเศษที่จะทำให้ลูกค้าเป็นเจ้าของรถยนต์คุณภาพเยี่ยมได้ง่ายขึ้นกับแคมเปญ SAY YES! ที่มีความหลากหลายให้ลูกค้าเลือกได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการของตนเอง ตั้งแต่ดอกเบี้ยพิเศษ 0% ไปจนถึงผ่อนนานสูงสุด 96 เดือน รวมถึงส่วนลดพิเศษสำหรับเจ้าของรถนิสสัน สูงสุด 3
อ่านต่อ >20

#ข่าวยานยนต์
วิธีจอดรถในหน้าร้อน เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว อุณหภูมิสูงสุดในประเทศไทยพุ่งขึ้นไปสูงสุดถึง 43-44 องศาเซลเซียส (โดยเฉพาะบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลางตอนบน) ซึ่งทำให้คนรักรถอย่างเราๆ คงรู้สึกไม่ดีที่ต้องจอดรถแสนรักตากแดดร้อนๆ แบบนั้น
เพราะการจอดรถกลางแดดเป็นเวลานานอาจส่งผลเสียต่อรถของเราได้มากมายหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการทำให้สีภายนอกรถซีดจาง หรือเกิดความร้อนสะสมภายในห้องโดยสาร และอาจส่งผลไปถึงทำให้ชิ้นส่วนภายในรถเกิดการเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ และเมื่อช่วงหน้าร้อนของประเทศไทยกำลังกลับมาอีกครั้งในปีนี้ ทาง TrueID เราก็มีเทคนิคการจอดรถกลางแดดที่อาจช่วยลดผลกระทบดังกล่าว และเพื่อเป็นการเตรียมตัวก่อนหน้าร้อนจะกลับมาอีกครั้ง
Thanks images from Pixabay
1. การเลือกทำเลจอดรถ
จอดรถในที่ร่ม : หากเป็นไปได้ ควรจอดรถในที่มีร่มเงา เช่น ใต้ต้นไม้ และหากจอดใต้ต้นไม้ ก็ควรหาผ้าหรืออะไรคลุมรถด้วย เพื่อป้องกันยางไม้หรือเศษใบไม้ต่างๆ ตกหล่นในสีรถ
จอดรถหันหน้าไปทางทิศตะวันออก : การเลือกทิศทางการจอดก็มีส่วนช่วยถนอมรถเช่นกัน เนื่องจากแดดในช่วงเช้าทางทิศตะวันออกจะแรงน้อยกว่าช่วงบ่ายทางทิศตะวันตก ดังนั้นการหันหน้าไปทางตะวันออกจะทำให้ภายในห้องโดยสารโดยแดดน้อยกว่าเมื่อแดดแรง ช่วยลดความร้อนสะสมในช่วงบ่ายได้
Thanks images from Pixabay
2. ใช้อุปกรณ์ป้องกัน
แผ่นบังแดด : ควรใช้แผ่นบังแดดติดกระจกหน้ารถและกระจกด้านข้าง เพื่อสะท้อนแสงแดดและความร้อนออกจากห้องโดยสาร
ผ้าคลุมรถ : เพื่อลดสีซีดจางของชิ้นส่วนภายนอกรถ ควรใช้ผ้าคลุมรถเพื่อปกป้องสีสถจากการโดยแสงแดดโดยตรง
ผ้าคลุมเบาะและพวงมาลัย : การใช้ผ้าคลุมเบาะและพวงมาลัย จะช่วยลดความร้อนในบริเวณที่ร่างกายเราสัมผัสโดยตรง ช่วยให้เราสามารถขับขี่หลังจากรถตากแดดได้สบายยิ่งขึ้น
Thanks images from Pixabay
3. การระบายความร้อน
ลดกระจกลงเล็กน้อย : การลดกระจกลงเล็กน้อย จะช่วยให้อากาศถ่ายเท และความร้อนสะสมภายในรถก็จะลดลงได้มาก
เปิดประตูระบายอากาศ : หากจอดรถกลางแดด ก่อนสตาร์ทรถ ควรเปิดประตูทุกบานหากเป็นไปได้ เพื่อระบายความร้อนออกจากห้องโดยสารก่อน
Thanks images from Pixabay
4. การดูแลรักษารถ
ติดฟิล์มกรองแสง: การติดฟิล์มกรองแสงที่มีคุณภาพดี จะสามารถช่วยลดความร้อนและรังสี UV ที่เข้ามาในรถได้
เคลือบสีรถ: การเคลือบสีรถก็เป็นการปกป้องสีรถจากแสงแด
อ่านต่อ >29

#ข่าวการเงิน การลงทุน #ทันหุ้น
#ทันหุ้น - บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจ “แม็คโคร-โลตัส” ร่วมกับ กลุ่ม ปตท. นำโดย บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดยโครงการบริหารการสร้างประโยชน์ร่วมธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น(Petrochemical and Refining Integrated Synergy Management ; PRISM) เปิดตัวโครงการ “AXTRA Green Together” ขับเคลื่อนการจัดการขยะและส่งเสริมให้คนไทยมีส่วนร่วมในการลดปัญหาขยะพลาสติกอย่างยั่งยืน ตอกย้ำความมุ่งมั่นสู่ผู้นำด้านการจัดการขยะในประเทศไทย โดยจัดตั้งจุดรับขวดพลาสติกใช้แล้ว (PET) ที่แม็คโครและโลตัส ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งจะนำขวดพลาสติก PET เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลและอัพไซคลิ่งด้วยระบบบริหารจัดการแบบครบวงจรผ่าน GC YOU เทิร์น แพลตฟอร์ม เพื่อสร้างคุณค่าเปลี่ยนเป็นเสื้อกีฬา และมอบให้กับเยาวชนในโรงเรียนทั่วไทย โครงการนี้ไม่เพียงช่วยลดปริมาณขยะพลาสติก ยังเป็นการร่วมเฉลิมฉลอง วันรีไซเคิลโลก พร้อมปลุกจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม สอดคล้องเป้าหมายของ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ในการลดขยะสู่หลุมฝังกลบให้เป็นศูนย์ภายในปี 2573 และเป้าหมายของกลุ่ม ปตท. ในการมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission)
นางศิริพร เดชสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบภายใต้หลัก ESG “ที่ ซีพี แอ็กซ์ตร้า เราให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ครอบคลุมทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล โดยหนึ่งในเป้าหมายหลักของเรา คือ การส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ผ่านการลดการทิ้งขยะสู่หลุมฝังกลบ ซึ่งรวมถึงบรรจุภัณฑ์พลาสติก สำหรับโครงการ ‘AXTRA Green Together’ เราตั้งเป้ารวบรวมขวดพลาสติกให้ได้1,400,000 ขวด เพื่อนำมาสร้างมูลค่าเพิ่ม และนำกลับมาเป็นเสื้อกีฬา อัพไซเคิล มอบให้กับเยาวชนทั่วประเทศ เราเชื่อว่าความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจะเป็นพลังสำคัญในการลดปริมาณขยะ บรรเทาภาวะโลกร้อน และสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อโลกที่ยั่งยืน”
นางชนัญชิดา วิบูลคณารักษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานกลยุทธ์องค์กร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC กล่าวว่า “GC มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้ามาสนับสนุนโครงการ “AXTR
อ่านต่อ >10

#ข่าวการเงิน การลงทุน #ทันหุ้น
#BKI #ทันหุ้น "กรุงเทพประกันภัยยุคใหม่" ชัย โสภณพนิช พร้อมส่งไม้ต่อ "ชวาล-ลสา โสภณพนิช" เข้าบริหาร BKI หลังทั้งสองท่านได้เข้ามาบริหารงาน และสั่งสมประสบการณ์มาพักใหญ่ จนพร้อมสานความสำเร็จของกรุงเทพประกันภัยสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและแข็งแกร่งนับเป็นเวลากว่า 7 ทศวรรษที่กรุงเทพประกันภัยยืนหยัดเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมประกันวินาศภัย ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ผู้บริโภค การพัฒนาของเทคโนโลยี และการแข่งขันที่เข้มข้นบริษัทฯ ได้มีการปรับทิศทางกลยุทธ์ ยกระดับพัฒนาบุคลากร และปรับโครงสร้างการบริหารอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคงและแข็งแกร่งนายชัย โสภณพนิช ประธานกรรมการ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) เตรียมพร้อมให้ 2 ทายาท นายชวาล โสภณพนิช และนางสาวลสา โสภณพนิช สืบทอดธุรกิจในการบริหารกรุงเทพประกันภัย ด้วยการส่งเสริมให้เรียนรู้และการสั่งสมประสบการณ์ในทุกมิติขององค์กรอย่างต่อเนื่อง พร้อมสานต่อภารกิจพัฒนาบริษัทฯ ให้เติบโตไปข้างหน้า เป็นหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญเพื่อก้าวเข้าสู่ “กรุงเทพประกันภัยยุคใหม่” โดยยังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์ “มุ่งเป็นที่สุดในใจลูกค้า” ท่ามกลางความท้าทายในธุรกิจประกันภัยเมื่อช่วงต้นปี 2568 ที่ผ่านมา กรุงเทพประกันภัยมีการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง ด้วยการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง นายชวาล โสภณพนิช ดำรงตำแหน่งประธานคณะผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ (Chief Operating Officer: COO) ดูแลและพัฒนากลยุทธ์การดำเนินงานภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ครอบคลุมการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม การบริหารแบรนด์องค์กร งานบริการลูกค้า การบริหารสินไหมทดแทนยานยนต์ รวมถึงการส่งเสริมพัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพตลอดจนได้รับความไว้วางใจกับอีกหนึ่งบทบาทที่สำคัญคือการดูแลมูลนิธิกรุงเทพประกันภัยที่นายชัยโสภณพนิช ให้ความใส่ใจอย่างยิ่งในการให้การสนับสนุนช่วยเหลือผู้ที่ขาดโอกาสทางสังคมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นเส้นทางการทำงานของนายชวาลกับกรุงเทพประกันภัย เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2547 โดยตลอดระยะเวลากว่าสองทศวรรษที่ผ่านมาได้สั่งสมประสบการณ์ในด้านการบริหารงานธุรกิจลูกค้ารายย่อย การบริหารทรัพยากรบุคคลการสื่อสารองค์กร และการบริการลูกค้า หลังจบการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์จาก University of Rochester และได้รับประกาศนียบัตรด้านบริหารความเสี่ยงและการประกันภัยจาก St. John’s Univers
อ่านต่อ >32