
#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาที่ปะทุขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม 2568 ได้ขยายผลจากพื้นที่ความมั่นคงสู่เวทีเศรษฐกิจระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเจรจาภาษีนำเข้าระหว่างไทยและสหรัฐฯ ภายใต้ยุคประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนสำคัญก่อนสรุปผลข้อตกลงแบบค่าตอบแทนซึ่งกันและกัน แต่กลับต้องหยุดชั่วคราวหลังสหรัฐฯ ระบุว่าไทยจำเป็นต้องให้คำมั่นต่อปฏิญญาสันติภาพไทย–กัมพูชาก่อนจึงจะสามารถเดินหน้าการเจรจาได้ความตึงเครียดบริเวณชายแดนตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ประชาชนหลายแสนคนต้องอพยพ และด่านการค้าหลายแห่งปิดทำการชั่วคราว เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้วอชิงตันจับตามองความเสี่ยงต่อเสถียรภาพภูมิภาคและผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานในเอเชีย ก่อนจะประกาศระงับเจรจาภาษีชั่วคราว โดยกำหนดเงื่อนไขว่าหากไทยไม่กลับเข้าร่วมกรอบสันติภาพ การหารือด้านการค้าจะไม่สามารถเดินหน้าต่อได้แม้ประธานาธิบดีทรัมป์จะยืนยันกับนายกรัฐมนตรีไทยว่าสหรัฐฯ ไม่ต้องการแทรกแซงข้อพิพาทชายแดน แต่ท่าทีของผู้แทนการค้าแสดงให้เห็นว่าภาษีถูกใช้เพื่อกดดันไทยให้สร้างความมั่นคงในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ยังมีการหารือให้อาจใช้การเก็บกู้ทุ่นระเบิดเป็นสัญญาณความร่วมมือ เพื่อให้การเจรจาการค้ากลับเข้าสู่เส้นทางตามเดิม การชะลอการเจรจาทำให้ไทยเสี่ยงกลับสู่ภาษีนำเข้าระดับสูงถึง 36% สำหรับสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญหลายประเภท เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ อาหารแปรรูป เหล็ก อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ และเครื่องประดับ ซึ่งมูลค่าความเสียหายรวมอาจสูงถึง 8–9 แสนล้านบาท เมื่อเทียบกับเงื่อนไขในกรอบที่เคยเจรจาไว้ ซึ่งจะช่วยลดภาษีลงเหลือเพียง 0–19% สำหรับบางรายการฝ่ายไทยยืนยันหลักการแยกประเด็นความมั่นคงออกจากการเจรจาการค้า และชี้ว่าปัญหาชายแดนกำลังถูกแก้ไขผ่านช่องทางการทูตและทหารอยู่แล้ว พร้อมขอให้สหรัฐฯ พิจารณาเดินหน้าเจรจาโดยไม่ผูกเงื่อนไขเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี ไทยยังต้องบริหารสัมพันธ์กับมหาอำนาจด้วยความรอบคอบ เนื่องจากความล่าช้าด้านภาษีมีผลต่อผู้ส่งออกและความสามารถแข่งขันทางเศรษฐกิจโดยตรง นักวิเคราะห์จำนวนมากเห็นตรงกันว่ายุคทรัมป์ใช้ “ภาษี” เป็นเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์ ทั้งเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศและเพื่อกำกับพฤติกรรมพันธมิตรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กรณีไทยจึงไม่ใช่เพียงปัญหาความมั่นคงชายแดน แต่เป็นสัญญาณของการเช
อ่านต่อ >43

#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
แจ็ค แปปโฮเต้นบนรถที่ญี่ปุ่น จุดดราม่าข้ามประเทศจนสื่อญี่ปุ่นรายงานดราม่า “แจ็ค แปปโฮ เต้นบนรถ” กลายเป็นกระแสใหญ่ในโลกออนไลน์ หลังอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังเผยแพร่คลิปถอดเสื้อยืนเต้นบนหลังคารถเช่าที่จอดหน้าร้าน Lawson ใกล้ภูเขาไฟฟูจิ ประเทศญี่ปุ่น เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้ใช้โซเชียลจำนวนมากตำหนิถึงความไม่เหมาะสม การไม่คำนึงถึงกฎระเบียบ และความเสี่ยงต่อการทำให้ภาพลักษณ์นักท่องเที่ยวไทยดูแย่ลงในสายตาคนต่างชาติเหตุการณ์ที่ทำให้ดราม่าปะทุต้นเหตุเกิดจากคลิปที่แจ็ค แปปโฮปีนขึ้นหลังคารถเช่า ถอดเสื้อ และเต้นพร้อมประโยคท้าทาย ก่อนโพสต์ลงโซเชียลพร้อมแคปชั่นที่ทำให้ประเด็นยิ่งรุนแรงขึ้น ผู้ชมจำนวนมากมองว่าพฤติกรรมนี้ไม่สอดคล้องกับมารยาทสาธารณะ โดยเฉพาะในญี่ปุ่นที่เข้มงวดเรื่องวินัยและความเป็นระเบียบ กระแสวิจารณ์รุนแรงจากไทยถึงญี่ปุ่นชาวเน็ตไทยจำนวนมากวิพากษ์วิจารณ์ว่าคอนเทนต์ประเภทนี้ไม่สร้างสรรค์และอาจทำให้ชาวญี่ปุ่นเกิดความเข้าใจผิดต่อนักท่องเที่ยวไทย ขณะที่สื่อญี่ปุ่นหลายสำนักนำเหตุการณ์ไปเสนอข่าว โดยใช้หัวข้อเกี่ยวกับยูทูบเบอร์ไทยก่อเรื่องไม่เหมาะสมที่หน้าร้าน Lawson วิวฟูจิ ทำให้ประเด็นยิ่งเป็นที่พูดถึงในวงกว้างการวิจารณ์ยังขยายไปถึงครอบครัว เมื่อภรรยาของแจ็คโพสต์ยืนยันว่าพยายามห้ามแล้วแต่ไม่เป็นผล พร้อมย้ำว่าไม่ขอปกป้องพฤติกรรมดังกล่าว ซึ่งทำให้สังคมหันมาพูดถึงความรับผิดชอบของผู้สร้างคอนเทนต์ในยุคออนไลน์มากขึ้นการตอบของแจ็ค แปปโฮหลังเสียงวิจารณ์เพิ่มขึ้น แจ็คโพสต์ข้อความขอโทษและยอมรับทุกคำตำหนิ แต่ยืนยันว่าจะไม่ลบคลิปออกจากโซเชียล นอกจากนี้ยังมีคอมเมนต์ตอบกลับแบบกวน ทำให้เกิดการวิจารณ์เพิ่มขึ้นกว่าเดิม ประเด็นที่ถูกตั้งคำถามในสังคมเหตุการณ์นี้ทำให้เกิดการพูดคุยเกี่ยวกับความตระหนักเรื่องมารยาทในพื้นที่สาธารณะเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ และผลกระทบที่เกิดขึ้นเมื่อผู้มีชื่อเสียงทำคอนเทนต์ที่อาจสร้างความขัดแย้ง ความประพฤติในคลิปกลายเป็นประเด็นที่ทำให้ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของเจ้าตัวถูกตั้งคำถามอย่างหนัก
อ่านต่อ >170

#ข่าวเศรษฐกิจ #TNN ช่อง16
กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศ อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2568) ฉบับที่ 7 ในช่วงวันที่ 18 - 23 พ.ย. 68 ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศแปรปรวน โดยมีฝนบางพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 19 – 20 พ.ย. 68 อุณหภูมิจะลดลง และมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส ภาคเหนืออุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 2-5 องศาเซลเซียสขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจจะเกิดขึ้นจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง เตือนภาคใต้ฝนตกหนักสำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ขณะที่ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ในช่วงวันที่ 18–23 พ.ย. 68 เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย รวมทั้งประชาชนในภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยและห่างฝั่งของทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 19-23 พ.ย. 68จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
อ่านต่อ >27

#ข่าวต่างประเทศ #TNN ช่อง16
ต้นเหตุความขัดแย้งความขัดแย้งเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซานาเอะ ทาคาอิจิ กล่าวในสุนทรพจน์ต่อรัฐสภาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนตุลาคมว่า ญี่ปุ่นอาจเข้าไปเกี่ยวข้องทางทหารในความขัดแย้งระหว่างจีนและไต้หวัน หากความขัดแย้งดังกล่าวก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ของญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ห่างจากไต้หวันเพียง 110 กิโลเมตรทางการจีนมองว่า คำพูดของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเป็น ภัยคุกคามทางการทหารต่อจีนทั้งนี้รัฐธรรมนูญหลังสงครามของญี่ปุ่นห้ามมิให้ใช้กำลังเพื่อยุติข้อพิพาทระหว่างประเทศ แต่กฎหมายในปี 2015 ซึ่งผ่านเมื่อชินโซ อาเบะ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อนุญาตให้ญี่ปุ่นใช้การป้องกันตนเองร่วมในสถานการณ์บางสถานการณ์ แม้ว่าจะไม่ได้ถูกโจมตีโดยตรงก็ตามพรรคคอมมิวนิสต์จีนระบุว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน และประกาศจะผนวกไต้หวันให้กลับมาอยู่กับจีนโดยใช้กำลังทหาร หากไม่สามารถโน้มน้าวหรือบีบบังคับให้ไต้หวันยอมรับสิ่งที่เรียกว่า "การรวมชาติ" ได้ แต่ไต้หวันคัดค้านอย่างสุดตัว และความพยายามรุกรานของจีนอาจนำไปสู่ความขัดแย้งระดับภูมิภาคหรือระดับโลก เหตุใดซานาเอะ ทาคาอิจิ จึงแสดงจุดยืนเช่นนี้ ?ทาคาอิจิ มาจากฝ่ายขวาของพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) และมีมุมมองที่แข็งกร้าวต่อจีนอยู่แล้ว ในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่เพิ่งได้ดำรงตำแหน่ง ทาคาอิจิได้สนับสนุนการเสริมการป้องกันญี่ปุ่นเพื่อต่อต้านจีนที่มีความแข็งแกร่งมากขึ้น โดยเน้นที่หมู่เกาะรอบนอกของญี่ปุ่นในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งเป็นที่ตั้งของหมู่เกาะเซ็นกากุเธอให้คำมั่นว่าจะเพิ่มการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศ ซึ่งเป็นนโยบายที่โดนัลด์ ทรัมป์ ผลักดัน และต้องการให้ญี่ปุ่นพันธมิตรในเอเชียตะวันออกของสหรัฐฯ ใช้จ่ายด้านความมั่นคงมากขึ้น โดยจะเพิ่มเป็น 2% ของ GDP ภายในสิ้นเดือนมีนาคม พ.ศ. 2026 ซึ่งเร็วกว่าที่วางแผนไว้ 2 ปีจีนตอบโต้อย่างไร ?การตอบสนองของจีนเริ่มจากโพสต์บน X ที่เสวี่ย เจี้ยน กงสุลใหญ่จีนประจำโอซากาลบไปแล้ว เขาขู่ว่าจะตัดคอโดยไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว ซึ่งสิ่งที่เขาพูดค่อนข้างกำกวม แต่บางคนตีความว่า เป็นการคุกคามทาคาอิจิหลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน ออกมาปกป้องโพสต์ของเสวี่ย เจี้ยน และเรียกร้องให้ญี่ปุ่นหยุดส่งสัญญาณที่ผิด ๆ ไปยังกองกำลังแบ่งแยกดินแดนเพื่อเอกราชของไต้หวันต่อมา ทั้งสองประเทศได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตของอีกฝ่ายเข้าพบเพื
อ่านต่อ >46

#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาที่ปะทุขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม 2568 ได้ขยายผลจากพื้นที่ความมั่นคงสู่เวทีเศรษฐกิจระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเจรจาภาษีนำเข้าระหว่างไทยและสหรัฐฯ ภายใต้ยุคประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนสำคัญก่อนสรุปผลข้อตกลงแบบค่าตอบแทนซึ่งกันและกัน แต่กลับต้องหยุดชั่วคราวหลังสหรัฐฯ ระบุว่าไทยจำเป็นต้องให้คำมั่นต่อปฏิญญาสันติภาพไทย–กัมพูชาก่อนจึงจะสามารถเดินหน้าการเจรจาได้ความตึงเครียดบริเวณชายแดนตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ประชาชนหลายแสนคนต้องอพยพ และด่านการค้าหลายแห่งปิดทำการชั่วคราว เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้วอชิงตันจับตามองความเสี่ยงต่อเสถียรภาพภูมิภาคและผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานในเอเชีย ก่อนจะประกาศระงับเจรจาภาษีชั่วคราว โดยกำหนดเงื่อนไขว่าหากไทยไม่กลับเข้าร่วมกรอบสันติภาพ การหารือด้านการค้าจะไม่สามารถเดินหน้าต่อได้แม้ประธานาธิบดีทรัมป์จะยืนยันกับนายกรัฐมนตรีไทยว่าสหรัฐฯ ไม่ต้องการแทรกแซงข้อพิพาทชายแดน แต่ท่าทีของผู้แทนการค้าแสดงให้เห็นว่าภาษีถูกใช้เพื่อกดดันไทยให้สร้างความมั่นคงในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ยังมีการหารือให้อาจใช้การเก็บกู้ทุ่นระเบิดเป็นสัญญาณความร่วมมือ เพื่อให้การเจรจาการค้ากลับเข้าสู่เส้นทางตามเดิม การชะลอการเจรจาทำให้ไทยเสี่ยงกลับสู่ภาษีนำเข้าระดับสูงถึง 36% สำหรับสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญหลายประเภท เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ อาหารแปรรูป เหล็ก อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ และเครื่องประดับ ซึ่งมูลค่าความเสียหายรวมอาจสูงถึง 8–9 แสนล้านบาท เมื่อเทียบกับเงื่อนไขในกรอบที่เคยเจรจาไว้ ซึ่งจะช่วยลดภาษีลงเหลือเพียง 0–19% สำหรับบางรายการฝ่ายไทยยืนยันหลักการแยกประเด็นความมั่นคงออกจากการเจรจาการค้า และชี้ว่าปัญหาชายแดนกำลังถูกแก้ไขผ่านช่องทางการทูตและทหารอยู่แล้ว พร้อมขอให้สหรัฐฯ พิจารณาเดินหน้าเจรจาโดยไม่ผูกเงื่อนไขเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี ไทยยังต้องบริหารสัมพันธ์กับมหาอำนาจด้วยความรอบคอบ เนื่องจากความล่าช้าด้านภาษีมีผลต่อผู้ส่งออกและความสามารถแข่งขันทางเศรษฐกิจโดยตรง นักวิเคราะห์จำนวนมากเห็นตรงกันว่ายุคทรัมป์ใช้ “ภาษี” เป็นเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์ ทั้งเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศและเพื่อกำกับพฤติกรรมพันธมิตรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กรณีไทยจึงไม่ใช่เพียงปัญหาความมั่นคงชายแดน แต่เป็นสัญญาณของการเช
อ่านต่อ >43

#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
แจ็ค แปปโฮเต้นบนรถที่ญี่ปุ่น จุดดราม่าข้ามประเทศจนสื่อญี่ปุ่นรายงานดราม่า “แจ็ค แปปโฮ เต้นบนรถ” กลายเป็นกระแสใหญ่ในโลกออนไลน์ หลังอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังเผยแพร่คลิปถอดเสื้อยืนเต้นบนหลังคารถเช่าที่จอดหน้าร้าน Lawson ใกล้ภูเขาไฟฟูจิ ประเทศญี่ปุ่น เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้ใช้โซเชียลจำนวนมากตำหนิถึงความไม่เหมาะสม การไม่คำนึงถึงกฎระเบียบ และความเสี่ยงต่อการทำให้ภาพลักษณ์นักท่องเที่ยวไทยดูแย่ลงในสายตาคนต่างชาติเหตุการณ์ที่ทำให้ดราม่าปะทุต้นเหตุเกิดจากคลิปที่แจ็ค แปปโฮปีนขึ้นหลังคารถเช่า ถอดเสื้อ และเต้นพร้อมประโยคท้าทาย ก่อนโพสต์ลงโซเชียลพร้อมแคปชั่นที่ทำให้ประเด็นยิ่งรุนแรงขึ้น ผู้ชมจำนวนมากมองว่าพฤติกรรมนี้ไม่สอดคล้องกับมารยาทสาธารณะ โดยเฉพาะในญี่ปุ่นที่เข้มงวดเรื่องวินัยและความเป็นระเบียบ กระแสวิจารณ์รุนแรงจากไทยถึงญี่ปุ่นชาวเน็ตไทยจำนวนมากวิพากษ์วิจารณ์ว่าคอนเทนต์ประเภทนี้ไม่สร้างสรรค์และอาจทำให้ชาวญี่ปุ่นเกิดความเข้าใจผิดต่อนักท่องเที่ยวไทย ขณะที่สื่อญี่ปุ่นหลายสำนักนำเหตุการณ์ไปเสนอข่าว โดยใช้หัวข้อเกี่ยวกับยูทูบเบอร์ไทยก่อเรื่องไม่เหมาะสมที่หน้าร้าน Lawson วิวฟูจิ ทำให้ประเด็นยิ่งเป็นที่พูดถึงในวงกว้างการวิจารณ์ยังขยายไปถึงครอบครัว เมื่อภรรยาของแจ็คโพสต์ยืนยันว่าพยายามห้ามแล้วแต่ไม่เป็นผล พร้อมย้ำว่าไม่ขอปกป้องพฤติกรรมดังกล่าว ซึ่งทำให้สังคมหันมาพูดถึงความรับผิดชอบของผู้สร้างคอนเทนต์ในยุคออนไลน์มากขึ้นการตอบของแจ็ค แปปโฮหลังเสียงวิจารณ์เพิ่มขึ้น แจ็คโพสต์ข้อความขอโทษและยอมรับทุกคำตำหนิ แต่ยืนยันว่าจะไม่ลบคลิปออกจากโซเชียล นอกจากนี้ยังมีคอมเมนต์ตอบกลับแบบกวน ทำให้เกิดการวิจารณ์เพิ่มขึ้นกว่าเดิม ประเด็นที่ถูกตั้งคำถามในสังคมเหตุการณ์นี้ทำให้เกิดการพูดคุยเกี่ยวกับความตระหนักเรื่องมารยาทในพื้นที่สาธารณะเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ และผลกระทบที่เกิดขึ้นเมื่อผู้มีชื่อเสียงทำคอนเทนต์ที่อาจสร้างความขัดแย้ง ความประพฤติในคลิปกลายเป็นประเด็นที่ทำให้ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของเจ้าตัวถูกตั้งคำถามอย่างหนัก
อ่านต่อ >170

#ข่าวเศรษฐกิจ #TNN ช่อง16
กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศ อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2568) ฉบับที่ 7 ในช่วงวันที่ 18 - 23 พ.ย. 68 ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศแปรปรวน โดยมีฝนบางพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 19 – 20 พ.ย. 68 อุณหภูมิจะลดลง และมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส ภาคเหนืออุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 2-5 องศาเซลเซียสขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจจะเกิดขึ้นจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง เตือนภาคใต้ฝนตกหนักสำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ขณะที่ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ในช่วงวันที่ 18–23 พ.ย. 68 เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย รวมทั้งประชาชนในภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยและห่างฝั่งของทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 19-23 พ.ย. 68จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
อ่านต่อ >27

#ข่าวต่างประเทศ #TNN ช่อง16
ต้นเหตุความขัดแย้งความขัดแย้งเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซานาเอะ ทาคาอิจิ กล่าวในสุนทรพจน์ต่อรัฐสภาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนตุลาคมว่า ญี่ปุ่นอาจเข้าไปเกี่ยวข้องทางทหารในความขัดแย้งระหว่างจีนและไต้หวัน หากความขัดแย้งดังกล่าวก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ของญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ห่างจากไต้หวันเพียง 110 กิโลเมตรทางการจีนมองว่า คำพูดของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเป็น ภัยคุกคามทางการทหารต่อจีนทั้งนี้รัฐธรรมนูญหลังสงครามของญี่ปุ่นห้ามมิให้ใช้กำลังเพื่อยุติข้อพิพาทระหว่างประเทศ แต่กฎหมายในปี 2015 ซึ่งผ่านเมื่อชินโซ อาเบะ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อนุญาตให้ญี่ปุ่นใช้การป้องกันตนเองร่วมในสถานการณ์บางสถานการณ์ แม้ว่าจะไม่ได้ถูกโจมตีโดยตรงก็ตามพรรคคอมมิวนิสต์จีนระบุว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน และประกาศจะผนวกไต้หวันให้กลับมาอยู่กับจีนโดยใช้กำลังทหาร หากไม่สามารถโน้มน้าวหรือบีบบังคับให้ไต้หวันยอมรับสิ่งที่เรียกว่า "การรวมชาติ" ได้ แต่ไต้หวันคัดค้านอย่างสุดตัว และความพยายามรุกรานของจีนอาจนำไปสู่ความขัดแย้งระดับภูมิภาคหรือระดับโลก เหตุใดซานาเอะ ทาคาอิจิ จึงแสดงจุดยืนเช่นนี้ ?ทาคาอิจิ มาจากฝ่ายขวาของพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) และมีมุมมองที่แข็งกร้าวต่อจีนอยู่แล้ว ในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่เพิ่งได้ดำรงตำแหน่ง ทาคาอิจิได้สนับสนุนการเสริมการป้องกันญี่ปุ่นเพื่อต่อต้านจีนที่มีความแข็งแกร่งมากขึ้น โดยเน้นที่หมู่เกาะรอบนอกของญี่ปุ่นในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งเป็นที่ตั้งของหมู่เกาะเซ็นกากุเธอให้คำมั่นว่าจะเพิ่มการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศ ซึ่งเป็นนโยบายที่โดนัลด์ ทรัมป์ ผลักดัน และต้องการให้ญี่ปุ่นพันธมิตรในเอเชียตะวันออกของสหรัฐฯ ใช้จ่ายด้านความมั่นคงมากขึ้น โดยจะเพิ่มเป็น 2% ของ GDP ภายในสิ้นเดือนมีนาคม พ.ศ. 2026 ซึ่งเร็วกว่าที่วางแผนไว้ 2 ปีจีนตอบโต้อย่างไร ?การตอบสนองของจีนเริ่มจากโพสต์บน X ที่เสวี่ย เจี้ยน กงสุลใหญ่จีนประจำโอซากาลบไปแล้ว เขาขู่ว่าจะตัดคอโดยไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว ซึ่งสิ่งที่เขาพูดค่อนข้างกำกวม แต่บางคนตีความว่า เป็นการคุกคามทาคาอิจิหลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน ออกมาปกป้องโพสต์ของเสวี่ย เจี้ยน และเรียกร้องให้ญี่ปุ่นหยุดส่งสัญญาณที่ผิด ๆ ไปยังกองกำลังแบ่งแยกดินแดนเพื่อเอกราชของไต้หวันต่อมา ทั้งสองประเทศได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตของอีกฝ่ายเข้าพบเพื
อ่านต่อ >46

#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาที่ปะทุขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม 2568 ได้ขยายผลจากพื้นที่ความมั่นคงสู่เวทีเศรษฐกิจระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเจรจาภาษีนำเข้าระหว่างไทยและสหรัฐฯ ภายใต้ยุคประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนสำคัญก่อนสรุปผลข้อตกลงแบบค่าตอบแทนซึ่งกันและกัน แต่กลับต้องหยุดชั่วคราวหลังสหรัฐฯ ระบุว่าไทยจำเป็นต้องให้คำมั่นต่อปฏิญญาสันติภาพไทย–กัมพูชาก่อนจึงจะสามารถเดินหน้าการเจรจาได้ความตึงเครียดบริเวณชายแดนตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ประชาชนหลายแสนคนต้องอพยพ และด่านการค้าหลายแห่งปิดทำการชั่วคราว เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้วอชิงตันจับตามองความเสี่ยงต่อเสถียรภาพภูมิภาคและผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานในเอเชีย ก่อนจะประกาศระงับเจรจาภาษีชั่วคราว โดยกำหนดเงื่อนไขว่าหากไทยไม่กลับเข้าร่วมกรอบสันติภาพ การหารือด้านการค้าจะไม่สามารถเดินหน้าต่อได้แม้ประธานาธิบดีทรัมป์จะยืนยันกับนายกรัฐมนตรีไทยว่าสหรัฐฯ ไม่ต้องการแทรกแซงข้อพิพาทชายแดน แต่ท่าทีของผู้แทนการค้าแสดงให้เห็นว่าภาษีถูกใช้เพื่อกดดันไทยให้สร้างความมั่นคงในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ยังมีการหารือให้อาจใช้การเก็บกู้ทุ่นระเบิดเป็นสัญญาณความร่วมมือ เพื่อให้การเจรจาการค้ากลับเข้าสู่เส้นทางตามเดิม การชะลอการเจรจาทำให้ไทยเสี่ยงกลับสู่ภาษีนำเข้าระดับสูงถึง 36% สำหรับสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญหลายประเภท เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ อาหารแปรรูป เหล็ก อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ และเครื่องประดับ ซึ่งมูลค่าความเสียหายรวมอาจสูงถึง 8–9 แสนล้านบาท เมื่อเทียบกับเงื่อนไขในกรอบที่เคยเจรจาไว้ ซึ่งจะช่วยลดภาษีลงเหลือเพียง 0–19% สำหรับบางรายการฝ่ายไทยยืนยันหลักการแยกประเด็นความมั่นคงออกจากการเจรจาการค้า และชี้ว่าปัญหาชายแดนกำลังถูกแก้ไขผ่านช่องทางการทูตและทหารอยู่แล้ว พร้อมขอให้สหรัฐฯ พิจารณาเดินหน้าเจรจาโดยไม่ผูกเงื่อนไขเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี ไทยยังต้องบริหารสัมพันธ์กับมหาอำนาจด้วยความรอบคอบ เนื่องจากความล่าช้าด้านภาษีมีผลต่อผู้ส่งออกและความสามารถแข่งขันทางเศรษฐกิจโดยตรง นักวิเคราะห์จำนวนมากเห็นตรงกันว่ายุคทรัมป์ใช้ “ภาษี” เป็นเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์ ทั้งเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศและเพื่อกำกับพฤติกรรมพันธมิตรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กรณีไทยจึงไม่ใช่เพียงปัญหาความมั่นคงชายแดน แต่เป็นสัญญาณของการเช
อ่านต่อ >43