
#ข่าวการเงิน การลงทุน #ทันหุ้น
#ทันหุ้น-สำนักงาน กสทช. จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อ ร่างประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล 850 MHz 1500 MHz 1800 MHz 2100 MHz 2300 MHz และ 26 GHz และ ร่างประกาศ กสทช. เรื่อง แผนความถี่วิทยุฯ ที่เกี่ยวข้อง โดยคาดว่าจะสามารถจัดประมูลได้ภายในไตรมาส 2/68
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (สำนักงาน กสทช.) ได้จัดงานการประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อ ร่างประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล 850 MHz 1500 MHz 1800 MHz 2100 MHz 2300 MHz และ 26 GHz และ ร่างประกาศ กสทช. เรื่อง แผนความถี่วิทยุฯ ที่เกี่ยวข้องโดยมี ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ประธาน กสทช.) เข้าร่วมเป็นประธานในการเปิดงาน
"ปัจจุบัน ประเทศไทยมีผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือกว่า 100 ล้านราย โดยใช้เครือข่าย 4G ประมาณ 99.15% และ 5G ประมาณ 91% ทั่วประเทศ มีการคาดการณ์ว่า ในปี 2572 จะมีความต้องการใช้งานบรอดแบนด์เคลื่อนที่ภายในประเทศมากถึง 1,156 GB ต่อคนต่อปี และจะมีการประยุกต์ใช้ Smart 5G ในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การผลิตของ
ภาคการเกษตร การจัดระเบียบเมืองให้ปลอดภัยการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนที่แม่นยำ การพัฒนาด้านการศึกษา รวมถึงการพัฒนาระบบการสื่อสารความเร็วสูงให้มีความทันสมัย รองรับกับความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะระบบสาธารณสุข การเข้าถึงทางการแพทย์ ที่ต้องอาศัยข้อมูลเพื่อช่วยเหลือชีวิตคนอย่างทันท่วงที"
"ดังนั้น กสทช. จึงมุ่งมั่นที่จะขยายเครือข่าย 5G เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนและทุกภาคส่วน จะได้รับความสะดวกสบายในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่สามารถเชื่อมต่อ และส่งข้อมูลได้ในทันที หากมองไปไกลกว่าการจัดสรรคลื่นความถี่ กสทช. มุ่งหวังที่จะผลักดัน ให้เทคโนโลยีสมัยใหม่สามารถเข้าถึงทุกคนได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม แม้ในพื้นที่ห่างไกล ผ่านระบบโทรคมนาคม ด้วยการใช้ประโยชน์ในระบบสาธารณสุข การเงิน การขนส่ง และการผลิต โดยมีคลื่นความถี่เป็นปัจจัยพื้นฐานของการพัฒนา ซึ่งแน่นอนว่าต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกท่านจะเล็งเห็นถึงความจำเป็นของ
อ่านต่อ >32

#ข่าวการเงิน การลงทุน #ทันหุ้น
“พิชัย”ยอมรับนักลงทุนยังขาดความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทย เหตุภาพความไม่ชัดเจนจากภาวะเศรษฐกิจโลก ส่งผลกระทบต่อการลงทุนและบริโภค ขณะที่ รัฐบาลเร่งฟื้นความเชื่อมั่นด้วยการสนับสนุนลงทุนเพิ่ม ระบุ นโยบายทรัมป์ยังไม่ชัดเจน หนุนแนวคิดขยายกรอบก่อหนี้เพิ่ม
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า การผลักดันเศรษฐกิจไทยให้สามารถขยายตัวได้ถึง3.5%ในปีนี้นั้น อยู่ที่ความเชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งปัจจุบันความเชื่อมั่นในประเทศไทยยังน้อย แม้ในช่วงที่ผ่านมาอาจจะมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นมาบ้างก็ตาม โดยสาเหตุที่ความเชื่อมั่นในประเทศไทยยังน้อย มาจากภาพของเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ชัดเจน ไม่มีความแน่นอน ทำให้นักลงทุนไม่ตัดสินใจ ขณะที่ ผู้บริโภคก็บริโภคน้อยลง
ส่วนการที่จะทำให้ความเชื่อมั่นในประเทศไทย กลับคืนมานั้น นายพิชัย กล่าวว่า เราจำเป็นต้องทำในหลายรูปแบบ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาเราได้พยายามทำในหลายเรื่องเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นให้กลับมา ซึ่งตนพยายามจะเร่งให้เกิดการลงทุนในประเทศ เพื่อให้เกิดการจ้างงาน ซึ่งขณะนี้ก็มีโครงการลงทุนหลายโครงการที่เตรียมจะลงทุนจริง โดยอยู่ในระหว่างการหาพื้นที่ก่อสร้างโครงการ
เขายังกล่าวถึงนโยบายของทรัมป์ ที่จะขึ้นภาษีนำเข้าว่า ขณะนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเดินอย่างไร แม้แต่นักธุรกิจอเมริกันที่ตนได้พูดคุยด้วยก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่านโยบายทรัมป์จะเดินหน้าอย่างไร ส่วนที่สหรัฐต้องการให้ประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐต้องนำเข้าสินค้าจากสหรัฐมากขึ้นนั้นว่า อย่าเรียกว่า เป็นการนำเข้าเพิ่มขึ้นเลย แต่เป็นการนำเข้าสินค้าที่เราต้องการ แต่ต้องเป็นสินค้าที่มีคุณภาพและราคาที่เหมาะสม ซึ่งสินค้าหลายอย่างของสหรัฐก็เป็นสินค้าที่มีคุณภาพและราคาที่เหมาะสม
เขายังกล่าวถึงข้อเสนอของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน)ที่ขอให้รัฐบาลขยายเพดานหนี้สาธารณะของรัฐบาล ให้สูงกว่า 70%ของจีดีพีว่า ในส่วนตัวนั้น ตนเห็นด้วย เพราะภาระหนี้สาธารณะที่สูงขึ้น ทำให้รัฐบาลมีความสามารถในการก่อหนี้ได้น้อยลง
อย่างก็ตามนายพิชัย กล่าวว่า ก่อนที่เราจะขยายเพดานการก่อหนี้ให้สูงขึ้น เราจำเป็นต้องบริหารฝั่งรายรับและรายจ่ายให้มีประสิทธิภาพก่อน โดยจะต้องปรับปรุงระบบงบประมาณให้มีประสิทธิภาพ ขณะที่ การจัดเก็บภาษี จะต้องทำอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ซึ่งหากเราสามารถบริหารจัดการดังกล่าวได้อย่างมีป
อ่านต่อ >18

#ข่าวการเงิน การลงทุน #ทันหุ้น
คลังเตรียมตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าธปท.คนใหม่ภายในเดือนก.พ.นี้ เพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกผู้ว่าธปท.คนใหม่แทนคนปัจจุบันที่จะหมดวาระในเดือนก.ย.นี้
#ทันหุ้น นายพิชัยกล่าวด้วยว่า ภายในเดือนมีนาคมนี้ ตนเตรียมลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ ที่จะมานั่งในตำแหน่งต่อจากนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธปท.ที่จะหมดวาระในเดือนกันยายนปีนี้ ซึ่งการเลือกผู้ว่าการธปท.นั้น จำเป็นต้องดำเนินการอย่างรอบคอบและใช้เวลานาน ดังนั้น จึงต้องเริ่มต้นกระบวนการโดยเร็ว
อ่านต่อ >16

#ข่าวการเงิน การลงทุน #ทันหุ้น
“จุลพันธ์”เผย รัฐบาลเตรียมผ่อนปรนเงื่อนไขการใช้จ่ายเงินโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเฟสสาม เพื่อให้เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากที่สุด พร้อมประเมินเม็ดเงิน 1.5แสนล้านบาทจะช่วยกระตุ้นจีดีพีได้มากกว่า 0.37%
#ทันหุ้น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมผ่อนปรนเงื่อนไขการใช้จ่ายในโครงการจ่ายเงินดิจิทัลเฟสที่สาม เพื่อให้เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบได้ง่ายขึ้น โดยโครงการนี้จะเริ่มจ่ายได้ในไตรมาสสองปีนี้
เขากล่าวว่า การจ่ายเงินเฟสสามจะมีเม็ดเงินราว 1.5 แสนล้านบาท ถือว่าเป็นเม็เงินก้อนใหญ่ที่จะไหลลงสู่ระบบเศรษฐกิจ ซึ่งได้มีการประเมินว่า ด้วยกลไกการจ่ายเงินที่จะมีความผ่อนปรนนี้ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ 0.37% และหากว่า มีการใช้จ่ายทั้ง 100% จะเพิ่มจีดีพีได้อีกไม่ต่ำกว่า 0.1%
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ รวมถึง สถาบันการเงินทั้งแบงก์และนอนแบงก์ เพื่อสอบถามเกี่ยวกับการเข้าร่วมโครงการใช้จ่ายดังกล่าว ซึ่งได้รับการตอบรับในการเข้าร่วมเป็นอย่างดี
สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น รัฐบาลได้ดำเนินการมาแล้วสองเฟส โดยเฟสแรกเป็นการจ่ายเงินสดให้แก่กลุ่มเปราะบางและพิการจำนวน 1.45 แสนล้านบาท ต่อมาในเฟสสองจ่ายเงินให้แก่ผู้สูงอายุอีก 3 หมื่นล้านบาท ส่วนเฟสที่สามนี้ เมื่อได้ข้อสรุปแล้ว จะมีการนำเข้าสู่คณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในปลายเดือนก.พ.นี้
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ทำการประเมินผลการใช้จ่ายเงินในโครงการนี้ ซึ่งพบว่า 90%นำไปใช้จ่าย ส่วนที่เหลืออีก 10% นำไปใช้เพื่อชำระหนี้และเก็บออม อย่างไรก็ดี ในการใช้จ่ายถึง 90%นี้ ถือเป็นผลสำเร็จของโครงการที่ทำให้เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ
เขายังกล่าวด้วยว่า ในปีนี้ เราพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้มากกว่า 3%โดยหากเราสามารถเพิ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติได้อีก 5 แสนคน จากเป้าหมายกว่า 38 ล้านคน จะสามารถเพิ่มจีดีพีได้อีก 0.11% และหากมีเม็ดเงินลงทุนจริง 7 หมื่นล้านบาท จากการขอสิทธิประโยชน์บีอีโอ 1.3 ล้านล้านบาท จะช่วยเพิ่มจีดีพีได้อีก 0.1% ดังนั้น โจทย์เราไม่ใช่แค่ดันจีดีพีให้ได้ 3% แต่เราตั้งเป้าจะทำให้ได้ถึง 3.5% ถ้ารัฐบาลทำได้จะขับเคลื่อนให้ทุกภาคส่วนสังคมฟื้นได้
อ่านต่อ >46

#ข่าวการเงิน การลงทุน #ทันหุ้น
#ทันหุ้น-สำนักงาน กสทช. จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อ ร่างประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล 850 MHz 1500 MHz 1800 MHz 2100 MHz 2300 MHz และ 26 GHz และ ร่างประกาศ กสทช. เรื่อง แผนความถี่วิทยุฯ ที่เกี่ยวข้อง โดยคาดว่าจะสามารถจัดประมูลได้ภายในไตรมาส 2/68
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (สำนักงาน กสทช.) ได้จัดงานการประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อ ร่างประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล 850 MHz 1500 MHz 1800 MHz 2100 MHz 2300 MHz และ 26 GHz และ ร่างประกาศ กสทช. เรื่อง แผนความถี่วิทยุฯ ที่เกี่ยวข้องโดยมี ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ประธาน กสทช.) เข้าร่วมเป็นประธานในการเปิดงาน
"ปัจจุบัน ประเทศไทยมีผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือกว่า 100 ล้านราย โดยใช้เครือข่าย 4G ประมาณ 99.15% และ 5G ประมาณ 91% ทั่วประเทศ มีการคาดการณ์ว่า ในปี 2572 จะมีความต้องการใช้งานบรอดแบนด์เคลื่อนที่ภายในประเทศมากถึง 1,156 GB ต่อคนต่อปี และจะมีการประยุกต์ใช้ Smart 5G ในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การผลิตของ
ภาคการเกษตร การจัดระเบียบเมืองให้ปลอดภัยการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนที่แม่นยำ การพัฒนาด้านการศึกษา รวมถึงการพัฒนาระบบการสื่อสารความเร็วสูงให้มีความทันสมัย รองรับกับความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะระบบสาธารณสุข การเข้าถึงทางการแพทย์ ที่ต้องอาศัยข้อมูลเพื่อช่วยเหลือชีวิตคนอย่างทันท่วงที"
"ดังนั้น กสทช. จึงมุ่งมั่นที่จะขยายเครือข่าย 5G เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนและทุกภาคส่วน จะได้รับความสะดวกสบายในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่สามารถเชื่อมต่อ และส่งข้อมูลได้ในทันที หากมองไปไกลกว่าการจัดสรรคลื่นความถี่ กสทช. มุ่งหวังที่จะผลักดัน ให้เทคโนโลยีสมัยใหม่สามารถเข้าถึงทุกคนได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม แม้ในพื้นที่ห่างไกล ผ่านระบบโทรคมนาคม ด้วยการใช้ประโยชน์ในระบบสาธารณสุข การเงิน การขนส่ง และการผลิต โดยมีคลื่นความถี่เป็นปัจจัยพื้นฐานของการพัฒนา ซึ่งแน่นอนว่าต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกท่านจะเล็งเห็นถึงความจำเป็นของ
อ่านต่อ >32

#ข่าวการเงิน การลงทุน #ทันหุ้น
“พิชัย”ยอมรับนักลงทุนยังขาดความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทย เหตุภาพความไม่ชัดเจนจากภาวะเศรษฐกิจโลก ส่งผลกระทบต่อการลงทุนและบริโภค ขณะที่ รัฐบาลเร่งฟื้นความเชื่อมั่นด้วยการสนับสนุนลงทุนเพิ่ม ระบุ นโยบายทรัมป์ยังไม่ชัดเจน หนุนแนวคิดขยายกรอบก่อหนี้เพิ่ม
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า การผลักดันเศรษฐกิจไทยให้สามารถขยายตัวได้ถึง3.5%ในปีนี้นั้น อยู่ที่ความเชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งปัจจุบันความเชื่อมั่นในประเทศไทยยังน้อย แม้ในช่วงที่ผ่านมาอาจจะมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นมาบ้างก็ตาม โดยสาเหตุที่ความเชื่อมั่นในประเทศไทยยังน้อย มาจากภาพของเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ชัดเจน ไม่มีความแน่นอน ทำให้นักลงทุนไม่ตัดสินใจ ขณะที่ ผู้บริโภคก็บริโภคน้อยลง
ส่วนการที่จะทำให้ความเชื่อมั่นในประเทศไทย กลับคืนมานั้น นายพิชัย กล่าวว่า เราจำเป็นต้องทำในหลายรูปแบบ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาเราได้พยายามทำในหลายเรื่องเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นให้กลับมา ซึ่งตนพยายามจะเร่งให้เกิดการลงทุนในประเทศ เพื่อให้เกิดการจ้างงาน ซึ่งขณะนี้ก็มีโครงการลงทุนหลายโครงการที่เตรียมจะลงทุนจริง โดยอยู่ในระหว่างการหาพื้นที่ก่อสร้างโครงการ
เขายังกล่าวถึงนโยบายของทรัมป์ ที่จะขึ้นภาษีนำเข้าว่า ขณะนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเดินอย่างไร แม้แต่นักธุรกิจอเมริกันที่ตนได้พูดคุยด้วยก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่านโยบายทรัมป์จะเดินหน้าอย่างไร ส่วนที่สหรัฐต้องการให้ประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐต้องนำเข้าสินค้าจากสหรัฐมากขึ้นนั้นว่า อย่าเรียกว่า เป็นการนำเข้าเพิ่มขึ้นเลย แต่เป็นการนำเข้าสินค้าที่เราต้องการ แต่ต้องเป็นสินค้าที่มีคุณภาพและราคาที่เหมาะสม ซึ่งสินค้าหลายอย่างของสหรัฐก็เป็นสินค้าที่มีคุณภาพและราคาที่เหมาะสม
เขายังกล่าวถึงข้อเสนอของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน)ที่ขอให้รัฐบาลขยายเพดานหนี้สาธารณะของรัฐบาล ให้สูงกว่า 70%ของจีดีพีว่า ในส่วนตัวนั้น ตนเห็นด้วย เพราะภาระหนี้สาธารณะที่สูงขึ้น ทำให้รัฐบาลมีความสามารถในการก่อหนี้ได้น้อยลง
อย่างก็ตามนายพิชัย กล่าวว่า ก่อนที่เราจะขยายเพดานการก่อหนี้ให้สูงขึ้น เราจำเป็นต้องบริหารฝั่งรายรับและรายจ่ายให้มีประสิทธิภาพก่อน โดยจะต้องปรับปรุงระบบงบประมาณให้มีประสิทธิภาพ ขณะที่ การจัดเก็บภาษี จะต้องทำอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ซึ่งหากเราสามารถบริหารจัดการดังกล่าวได้อย่างมีป
อ่านต่อ >18

#ข่าวการเงิน การลงทุน #ทันหุ้น
คลังเตรียมตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าธปท.คนใหม่ภายในเดือนก.พ.นี้ เพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกผู้ว่าธปท.คนใหม่แทนคนปัจจุบันที่จะหมดวาระในเดือนก.ย.นี้
#ทันหุ้น นายพิชัยกล่าวด้วยว่า ภายในเดือนมีนาคมนี้ ตนเตรียมลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ ที่จะมานั่งในตำแหน่งต่อจากนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธปท.ที่จะหมดวาระในเดือนกันยายนปีนี้ ซึ่งการเลือกผู้ว่าการธปท.นั้น จำเป็นต้องดำเนินการอย่างรอบคอบและใช้เวลานาน ดังนั้น จึงต้องเริ่มต้นกระบวนการโดยเร็ว
อ่านต่อ >16

#ข่าวการเงิน การลงทุน #ทันหุ้น
“จุลพันธ์”เผย รัฐบาลเตรียมผ่อนปรนเงื่อนไขการใช้จ่ายเงินโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเฟสสาม เพื่อให้เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากที่สุด พร้อมประเมินเม็ดเงิน 1.5แสนล้านบาทจะช่วยกระตุ้นจีดีพีได้มากกว่า 0.37%
#ทันหุ้น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมผ่อนปรนเงื่อนไขการใช้จ่ายในโครงการจ่ายเงินดิจิทัลเฟสที่สาม เพื่อให้เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบได้ง่ายขึ้น โดยโครงการนี้จะเริ่มจ่ายได้ในไตรมาสสองปีนี้
เขากล่าวว่า การจ่ายเงินเฟสสามจะมีเม็ดเงินราว 1.5 แสนล้านบาท ถือว่าเป็นเม็เงินก้อนใหญ่ที่จะไหลลงสู่ระบบเศรษฐกิจ ซึ่งได้มีการประเมินว่า ด้วยกลไกการจ่ายเงินที่จะมีความผ่อนปรนนี้ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ 0.37% และหากว่า มีการใช้จ่ายทั้ง 100% จะเพิ่มจีดีพีได้อีกไม่ต่ำกว่า 0.1%
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ รวมถึง สถาบันการเงินทั้งแบงก์และนอนแบงก์ เพื่อสอบถามเกี่ยวกับการเข้าร่วมโครงการใช้จ่ายดังกล่าว ซึ่งได้รับการตอบรับในการเข้าร่วมเป็นอย่างดี
สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น รัฐบาลได้ดำเนินการมาแล้วสองเฟส โดยเฟสแรกเป็นการจ่ายเงินสดให้แก่กลุ่มเปราะบางและพิการจำนวน 1.45 แสนล้านบาท ต่อมาในเฟสสองจ่ายเงินให้แก่ผู้สูงอายุอีก 3 หมื่นล้านบาท ส่วนเฟสที่สามนี้ เมื่อได้ข้อสรุปแล้ว จะมีการนำเข้าสู่คณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในปลายเดือนก.พ.นี้
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ทำการประเมินผลการใช้จ่ายเงินในโครงการนี้ ซึ่งพบว่า 90%นำไปใช้จ่าย ส่วนที่เหลืออีก 10% นำไปใช้เพื่อชำระหนี้และเก็บออม อย่างไรก็ดี ในการใช้จ่ายถึง 90%นี้ ถือเป็นผลสำเร็จของโครงการที่ทำให้เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ
เขายังกล่าวด้วยว่า ในปีนี้ เราพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้มากกว่า 3%โดยหากเราสามารถเพิ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติได้อีก 5 แสนคน จากเป้าหมายกว่า 38 ล้านคน จะสามารถเพิ่มจีดีพีได้อีก 0.11% และหากมีเม็ดเงินลงทุนจริง 7 หมื่นล้านบาท จากการขอสิทธิประโยชน์บีอีโอ 1.3 ล้านล้านบาท จะช่วยเพิ่มจีดีพีได้อีก 0.1% ดังนั้น โจทย์เราไม่ใช่แค่ดันจีดีพีให้ได้ 3% แต่เราตั้งเป้าจะทำให้ได้ถึง 3.5% ถ้ารัฐบาลทำได้จะขับเคลื่อนให้ทุกภาคส่วนสังคมฟื้นได้
อ่านต่อ >46

#ข่าวการเงิน การลงทุน #ทันหุ้น
#ทันหุ้น-สำนักงาน กสทช. จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อ ร่างประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล 850 MHz 1500 MHz 1800 MHz 2100 MHz 2300 MHz และ 26 GHz และ ร่างประกาศ กสทช. เรื่อง แผนความถี่วิทยุฯ ที่เกี่ยวข้อง โดยคาดว่าจะสามารถจัดประมูลได้ภายในไตรมาส 2/68
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (สำนักงาน กสทช.) ได้จัดงานการประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อ ร่างประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล 850 MHz 1500 MHz 1800 MHz 2100 MHz 2300 MHz และ 26 GHz และ ร่างประกาศ กสทช. เรื่อง แผนความถี่วิทยุฯ ที่เกี่ยวข้องโดยมี ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ประธาน กสทช.) เข้าร่วมเป็นประธานในการเปิดงาน
"ปัจจุบัน ประเทศไทยมีผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือกว่า 100 ล้านราย โดยใช้เครือข่าย 4G ประมาณ 99.15% และ 5G ประมาณ 91% ทั่วประเทศ มีการคาดการณ์ว่า ในปี 2572 จะมีความต้องการใช้งานบรอดแบนด์เคลื่อนที่ภายในประเทศมากถึง 1,156 GB ต่อคนต่อปี และจะมีการประยุกต์ใช้ Smart 5G ในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การผลิตของ
ภาคการเกษตร การจัดระเบียบเมืองให้ปลอดภัยการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนที่แม่นยำ การพัฒนาด้านการศึกษา รวมถึงการพัฒนาระบบการสื่อสารความเร็วสูงให้มีความทันสมัย รองรับกับความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะระบบสาธารณสุข การเข้าถึงทางการแพทย์ ที่ต้องอาศัยข้อมูลเพื่อช่วยเหลือชีวิตคนอย่างทันท่วงที"
"ดังนั้น กสทช. จึงมุ่งมั่นที่จะขยายเครือข่าย 5G เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนและทุกภาคส่วน จะได้รับความสะดวกสบายในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่สามารถเชื่อมต่อ และส่งข้อมูลได้ในทันที หากมองไปไกลกว่าการจัดสรรคลื่นความถี่ กสทช. มุ่งหวังที่จะผลักดัน ให้เทคโนโลยีสมัยใหม่สามารถเข้าถึงทุกคนได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม แม้ในพื้นที่ห่างไกล ผ่านระบบโทรคมนาคม ด้วยการใช้ประโยชน์ในระบบสาธารณสุข การเงิน การขนส่ง และการผลิต โดยมีคลื่นความถี่เป็นปัจจัยพื้นฐานของการพัฒนา ซึ่งแน่นอนว่าต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกท่านจะเล็งเห็นถึงความจำเป็นของ
อ่านต่อ >32