#ข่าวการเมือง #TNN ช่อง16
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเข้าช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนอย่างเต็มที่ โดยล่าสุดในการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ได้อนุมัติหลักการมาตรการภาษี ช่วยค่าซ่อมแซมบ้าน โดยประชาชนหรือนิติบุคคลสามารถนำรายจ่ายในการซ่อมแซมบ้านหรืออาคารสำนักงาน ในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย ระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม 2567 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน 100,000 บาท มาหักลดหย่อนภาษีได้ และมาตรการภาษีช่วยค่าซ่อมรถ นำมาหักลดหย่อนค่าได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงไม่เกิน 30,000 บาท “รัฐบาลโดยกระทรวงการคลัง ตระหนักถึงความเดือดร้อนของผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ประสบอุทกภัย และเห็นว่าปัจจุบันประชาชนมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องซ่อมแซ่มทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย หากพี่น้องประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานสรรพากรทุกแห่งทั่วประเทศหรือโทรสอบถามได้ที่ 1161“ นางสาวศศิกานต์ กล่าว ขณะที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยเลื่อนระยะเวลาการชำระหนี้ออกไปสูงสุดไม่เกิน 1 ปี และไม่คิดดอกเบี้ยปรับ พร้อมจัดทำมาตรการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน ปี 2567/68 วงเงินรายละไม่เกิน 50,000 บาท ดอกเบี้ย 0 % นาน 6 เดือนแรก และสินเชื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิต วงเงินรายละไม่เกิน 500,000 บาท โดยเกษตรกรผู้ประสบภัยสามารถแจ้งความประสงค์ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ ธ.ก.ส. สาขาใกล้บ้านหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02 555 0555 ตลอด 24 ชั่วโมง “จากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ส่งผลให้เกษตรกรในหลายจังหวัดได้รับผลกระทบจากความเสียหาย โดยเฉพาะผลผลิตทางการเกษตร ที่อยู่อาศัย รวมถึงทรัพย์สินในวงกว้าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดพร้อมกำชับให้ทุกหน่วยงานเร่งบูรณาการช่วยเหลือประชาชนอย่างรอบด้านทั้งการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนและการฟื้นฟูเยียวยาในระยะต่อไป“ นางสาวศศิกานต์ กล่าว
อ่านต่อ >45
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
วันนี้ (2 ธันวาคม 2567) นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ประกาศเตือนประชาชนในบริเวณภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ ในช่วง 2 - 5 ธันวาคม 2567 เนื่องด้วยประเทศไทยยังคงมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างจะเคลื่อนผ่านอ่าวไทยและภาคใต้ตอนล่างลงสู่ทะเลอันดามันตอนล่าง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล และฝนตกหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ขณะเดียวกัน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้รายงานต่อที่ประชุม ศปช. จากสถานการณ์อุทกภัยในบริเวณพื้นที่ภาคใต้ส่งผลให้พื้นจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ได้รับความเสียหายและยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ลงพื้นที่ดำเนินการให้การช่วยเหลือประชาชนที่ยังคงได้รับผลกระทบผ่านการจัดตั้งศูนย์พักพิงและจุดอพยพ รวม 299 แห่ง สามารถรองรับผู้อพยพได้ 22,416 คน โดยแบ่งเป็นในพื้นที่ 4 จังหวัด จังหวัดสงขลา 16 แห่ง 567 คน จังหวัดปัตตานี 139 แห่ง 8,323 คน จังหวัดยะลา 48 แห่ง 7,225 คน และจังหวัดนราธิวาส 96 แห่ง รองรับ 6,301 คน นอกจากนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้เร่งดำเนินการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ ศูนย์ ปภ.เขต 11 สุราษฎร์ธานี สนับสนุนรถผลิตน้ำดื่ม เข้าสนับสนุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดยะลา พร้อมด้วยเครื่องจักรกลสาธารณภัยในการช่วยเหลือ พร้อมทั้งสั่งการให้ ศูนย์ ปภ.เขต 12 สงขลา ดำเนินการช่วยเหลือขนย้ายผู้ประสบภัยในพื้นที่ พร้อมนำ ถุงยังชีพแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยการจัดตั้งโรงครัว รถประกอบอาหารและผลิตน้ำดื่ม ให้บริการประชาชนในพื้นที่จังหวัดปัตตานี และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลาดำเนินการช่วยเหลือผู้ประประสบอุทกภัยในพื้นที่พร้อมนำถุงยังชีพแจกจ่ายประชาชนในพื้นที่สงขลา จำนวน 70,000 ชุด อาหารพร้อมปรุงสุก 200,000 กล่อง น้ำดื่ม 40,000 ขวด ยาและเ
อ่านต่อ >19
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
สำนักนายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีมีแผนจัดตั้ง คณะกรรมการศูนย์ภัยพิบัติแห่งชาติ เพื่อบริหารจัดการปัญหาภัยพิบัติอย่างครอบคลุม ไม่เพียงเฉพาะอุทกภัย แต่ยังครอบคลุมถึงภัยหนาวและภัยแล้งที่คาดว่าจะหมุนเวียนเกิดขึ้นในอนาคตในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 3 ธันวาคมนี้ จะมีการพิจารณาแนวทางดำเนินงานเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยพิบัติรูปแบบต่าง ๆ โดยเน้นการตอบสนองอย่างรวดเร็ว นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์และสั่งการอย่างชัดเจนนายกรัฐมนตรีชู แม่สายโมเดล เป็นต้นแบบสำคัญ โดยจากกรณีอุทกภัยที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย การฟื้นฟูพื้นที่สามารถเสร็จสิ้นภายใน 2 เดือน โดยโมเดลนี้จะถูกปรับใช้กับพื้นที่ประสบอุทกภัยในภาคใต้ ซึ่งจะมีการวางแผนฟื้นฟูทั้งในระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพและสมดุลในส่วนของการลงพื้นที่ภาคใต้เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัย นายกรัฐมนตรีจะหารือในที่ประชุม ครม.อีกครั้ง เนื่องจากขณะนี้ระดับน้ำลดลงแล้ว การลงพื้นที่อาจส่งผลกระทบทั้งด้านบวกและลบ อย่างไรก็ตาม การสั่งการอย่างต่อเนื่องถือเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งในการบริหารจัดการสถานการณ์ศูนย์ภัยพิบัติแห่งชาติที่อยู่ระหว่างการวางแผนจะเป็นก้าวสำคัญในการบริหารจัดการภัยพิบัติในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการเตรียมพร้อม รับมือ และฟื้นฟูอย่างเป็นระบบ ครอบคลุมทุกมิติภัยพิบัติ เพื่อสร้างความมั่นคงและความสมดุลให้กับประเทศในระยะยาวภาพจาก: AFP
อ่านต่อ >13
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง ลงพื้นที่กำกับและติดตามการเคลียร์พื้นที่หลังเกิดเหตุโครงเหล็กติดตั้งสะพานของโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ M82 ร่วงหล่นบนถนนพระราม 2 โดยความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้เร่งทำงานอย่างเต็มที่ในการเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนของสะพานที่หล่นอยู่บนพื้น ถ.พระราม 2 ออกจากพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ยังคงเหลือโครงเหล็กติดตั้งสะพานที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งต้องดำเนินการเคลียร์พื้นที่อย่างระมัดระวังโดยวิศวกรใหญ่กรมทางหลวง พร้อมด้วยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ สภาวิศวกร และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) ได้ใช้โดรนขึ้นบินเพื่อตรวจสอบความเสียหายของโครงสร้างเหล็กโดยละเอียด และจัดทำข้อมูลในการกำหนดขั้นตอนการเคลื่อนย้ายโครงเหล็กติดตั้งสะพาน ดังนี้ - ดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดบริเวณตอม่อและโครงสร้างสะพานเพื่อเฝ้าระวังการเคลื่อนตัวเพิ่มเติมและลดโอกาสการเกิดการพังทลายต่อเนื่อง- ดำเนินการเคลียร์พื้นที่ด้านล่างของโครงเหล็กติดตั้งสะพานเพื่อติดตั้งอุปกรณ์ เครื่องจักรต่างๆ ที่ใช้ในการรื้อย้ายโครงเหล็กที่เสียหาย พร้อมทั้งชุดอุปกรณ์ Safety ให้มีความพร้อมก่อนดำเนินงาน เนื่องจากโครงสร้างเหล็กส่วนนี้มีขนาดใหญ่ และน้ำหนักมาก โดยยึดความปลอดภัยในการทำงานป้องการเกิดเหตุซ้อน- ดำเนินการจัดเตรียมพื้นที่ทางเบี่ยงระหว่างการรื้อย้าย (Reversible Lane) เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจร- ดำเนินการรื้อและเคลื่อนย้ายโครงเหล็กที่เสียหายด้านซ้ายทางลงจากตอม่อสะพาน- ดำเนินการปลดก้อนคอนกรีตและย้ายโครงเหล็กที่อาจมีผลกระทบด้านขวาทางกลับสู่ตำแหน่งที่ปลอดภัยเพื่อการตรวจสอบอย่างละเอียดขั้นตอนทั้งหมดนี้ จะดำเนินการ ในกรอบเวลาที่กำหนดไว้คือ 14 วัน ในระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าว แขวงทางหลวงสมุทรสาคร ได้เตรียมแผนการบริหารจัดการจราจรเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน โดยจะเปิดช่องทางพิเศษบนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) ระหว่าง กม.20+900 (บริเวณตลาดมหาชัยเมืองใหม่) ถึง กม.21+800 (พื้นที่ ต.คอกกระบือ อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร) ตั้งแต่วันนี้ 1 ธันวาคม 2567 เวลา 07.00 น. – 21.00 น. เพื่อระบายการจราจรและบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนพระราม 2 จนกว่าจะแล้วเสร็จภารกิจและคืนผิวจราจรให้แก่ประชาชน โดยมีเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงและเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่คอยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้เส้นทางอย่างเต็มที่สำหรับรายงานผู้ได้ร
อ่านต่อ >24
#ข่าวการเมือง #TNN ช่อง16
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเข้าช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนอย่างเต็มที่ โดยล่าสุดในการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ได้อนุมัติหลักการมาตรการภาษี ช่วยค่าซ่อมแซมบ้าน โดยประชาชนหรือนิติบุคคลสามารถนำรายจ่ายในการซ่อมแซมบ้านหรืออาคารสำนักงาน ในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย ระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม 2567 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน 100,000 บาท มาหักลดหย่อนภาษีได้ และมาตรการภาษีช่วยค่าซ่อมรถ นำมาหักลดหย่อนค่าได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงไม่เกิน 30,000 บาท “รัฐบาลโดยกระทรวงการคลัง ตระหนักถึงความเดือดร้อนของผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ประสบอุทกภัย และเห็นว่าปัจจุบันประชาชนมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องซ่อมแซ่มทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย หากพี่น้องประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานสรรพากรทุกแห่งทั่วประเทศหรือโทรสอบถามได้ที่ 1161“ นางสาวศศิกานต์ กล่าว ขณะที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยเลื่อนระยะเวลาการชำระหนี้ออกไปสูงสุดไม่เกิน 1 ปี และไม่คิดดอกเบี้ยปรับ พร้อมจัดทำมาตรการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน ปี 2567/68 วงเงินรายละไม่เกิน 50,000 บาท ดอกเบี้ย 0 % นาน 6 เดือนแรก และสินเชื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิต วงเงินรายละไม่เกิน 500,000 บาท โดยเกษตรกรผู้ประสบภัยสามารถแจ้งความประสงค์ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ ธ.ก.ส. สาขาใกล้บ้านหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02 555 0555 ตลอด 24 ชั่วโมง “จากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ส่งผลให้เกษตรกรในหลายจังหวัดได้รับผลกระทบจากความเสียหาย โดยเฉพาะผลผลิตทางการเกษตร ที่อยู่อาศัย รวมถึงทรัพย์สินในวงกว้าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดพร้อมกำชับให้ทุกหน่วยงานเร่งบูรณาการช่วยเหลือประชาชนอย่างรอบด้านทั้งการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนและการฟื้นฟูเยียวยาในระยะต่อไป“ นางสาวศศิกานต์ กล่าว
อ่านต่อ >45
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
วันนี้ (2 ธันวาคม 2567) นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ประกาศเตือนประชาชนในบริเวณภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ ในช่วง 2 - 5 ธันวาคม 2567 เนื่องด้วยประเทศไทยยังคงมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างจะเคลื่อนผ่านอ่าวไทยและภาคใต้ตอนล่างลงสู่ทะเลอันดามันตอนล่าง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล และฝนตกหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ขณะเดียวกัน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้รายงานต่อที่ประชุม ศปช. จากสถานการณ์อุทกภัยในบริเวณพื้นที่ภาคใต้ส่งผลให้พื้นจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ได้รับความเสียหายและยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ลงพื้นที่ดำเนินการให้การช่วยเหลือประชาชนที่ยังคงได้รับผลกระทบผ่านการจัดตั้งศูนย์พักพิงและจุดอพยพ รวม 299 แห่ง สามารถรองรับผู้อพยพได้ 22,416 คน โดยแบ่งเป็นในพื้นที่ 4 จังหวัด จังหวัดสงขลา 16 แห่ง 567 คน จังหวัดปัตตานี 139 แห่ง 8,323 คน จังหวัดยะลา 48 แห่ง 7,225 คน และจังหวัดนราธิวาส 96 แห่ง รองรับ 6,301 คน นอกจากนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้เร่งดำเนินการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ ศูนย์ ปภ.เขต 11 สุราษฎร์ธานี สนับสนุนรถผลิตน้ำดื่ม เข้าสนับสนุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดยะลา พร้อมด้วยเครื่องจักรกลสาธารณภัยในการช่วยเหลือ พร้อมทั้งสั่งการให้ ศูนย์ ปภ.เขต 12 สงขลา ดำเนินการช่วยเหลือขนย้ายผู้ประสบภัยในพื้นที่ พร้อมนำ ถุงยังชีพแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยการจัดตั้งโรงครัว รถประกอบอาหารและผลิตน้ำดื่ม ให้บริการประชาชนในพื้นที่จังหวัดปัตตานี และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลาดำเนินการช่วยเหลือผู้ประประสบอุทกภัยในพื้นที่พร้อมนำถุงยังชีพแจกจ่ายประชาชนในพื้นที่สงขลา จำนวน 70,000 ชุด อาหารพร้อมปรุงสุก 200,000 กล่อง น้ำดื่ม 40,000 ขวด ยาและเ
อ่านต่อ >19
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
สำนักนายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีมีแผนจัดตั้ง คณะกรรมการศูนย์ภัยพิบัติแห่งชาติ เพื่อบริหารจัดการปัญหาภัยพิบัติอย่างครอบคลุม ไม่เพียงเฉพาะอุทกภัย แต่ยังครอบคลุมถึงภัยหนาวและภัยแล้งที่คาดว่าจะหมุนเวียนเกิดขึ้นในอนาคตในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 3 ธันวาคมนี้ จะมีการพิจารณาแนวทางดำเนินงานเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยพิบัติรูปแบบต่าง ๆ โดยเน้นการตอบสนองอย่างรวดเร็ว นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์และสั่งการอย่างชัดเจนนายกรัฐมนตรีชู แม่สายโมเดล เป็นต้นแบบสำคัญ โดยจากกรณีอุทกภัยที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย การฟื้นฟูพื้นที่สามารถเสร็จสิ้นภายใน 2 เดือน โดยโมเดลนี้จะถูกปรับใช้กับพื้นที่ประสบอุทกภัยในภาคใต้ ซึ่งจะมีการวางแผนฟื้นฟูทั้งในระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพและสมดุลในส่วนของการลงพื้นที่ภาคใต้เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัย นายกรัฐมนตรีจะหารือในที่ประชุม ครม.อีกครั้ง เนื่องจากขณะนี้ระดับน้ำลดลงแล้ว การลงพื้นที่อาจส่งผลกระทบทั้งด้านบวกและลบ อย่างไรก็ตาม การสั่งการอย่างต่อเนื่องถือเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งในการบริหารจัดการสถานการณ์ศูนย์ภัยพิบัติแห่งชาติที่อยู่ระหว่างการวางแผนจะเป็นก้าวสำคัญในการบริหารจัดการภัยพิบัติในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการเตรียมพร้อม รับมือ และฟื้นฟูอย่างเป็นระบบ ครอบคลุมทุกมิติภัยพิบัติ เพื่อสร้างความมั่นคงและความสมดุลให้กับประเทศในระยะยาวภาพจาก: AFP
อ่านต่อ >13
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง ลงพื้นที่กำกับและติดตามการเคลียร์พื้นที่หลังเกิดเหตุโครงเหล็กติดตั้งสะพานของโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ M82 ร่วงหล่นบนถนนพระราม 2 โดยความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้เร่งทำงานอย่างเต็มที่ในการเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนของสะพานที่หล่นอยู่บนพื้น ถ.พระราม 2 ออกจากพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ยังคงเหลือโครงเหล็กติดตั้งสะพานที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งต้องดำเนินการเคลียร์พื้นที่อย่างระมัดระวังโดยวิศวกรใหญ่กรมทางหลวง พร้อมด้วยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ สภาวิศวกร และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) ได้ใช้โดรนขึ้นบินเพื่อตรวจสอบความเสียหายของโครงสร้างเหล็กโดยละเอียด และจัดทำข้อมูลในการกำหนดขั้นตอนการเคลื่อนย้ายโครงเหล็กติดตั้งสะพาน ดังนี้ - ดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดบริเวณตอม่อและโครงสร้างสะพานเพื่อเฝ้าระวังการเคลื่อนตัวเพิ่มเติมและลดโอกาสการเกิดการพังทลายต่อเนื่อง- ดำเนินการเคลียร์พื้นที่ด้านล่างของโครงเหล็กติดตั้งสะพานเพื่อติดตั้งอุปกรณ์ เครื่องจักรต่างๆ ที่ใช้ในการรื้อย้ายโครงเหล็กที่เสียหาย พร้อมทั้งชุดอุปกรณ์ Safety ให้มีความพร้อมก่อนดำเนินงาน เนื่องจากโครงสร้างเหล็กส่วนนี้มีขนาดใหญ่ และน้ำหนักมาก โดยยึดความปลอดภัยในการทำงานป้องการเกิดเหตุซ้อน- ดำเนินการจัดเตรียมพื้นที่ทางเบี่ยงระหว่างการรื้อย้าย (Reversible Lane) เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจร- ดำเนินการรื้อและเคลื่อนย้ายโครงเหล็กที่เสียหายด้านซ้ายทางลงจากตอม่อสะพาน- ดำเนินการปลดก้อนคอนกรีตและย้ายโครงเหล็กที่อาจมีผลกระทบด้านขวาทางกลับสู่ตำแหน่งที่ปลอดภัยเพื่อการตรวจสอบอย่างละเอียดขั้นตอนทั้งหมดนี้ จะดำเนินการ ในกรอบเวลาที่กำหนดไว้คือ 14 วัน ในระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าว แขวงทางหลวงสมุทรสาคร ได้เตรียมแผนการบริหารจัดการจราจรเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน โดยจะเปิดช่องทางพิเศษบนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) ระหว่าง กม.20+900 (บริเวณตลาดมหาชัยเมืองใหม่) ถึง กม.21+800 (พื้นที่ ต.คอกกระบือ อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร) ตั้งแต่วันนี้ 1 ธันวาคม 2567 เวลา 07.00 น. – 21.00 น. เพื่อระบายการจราจรและบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนพระราม 2 จนกว่าจะแล้วเสร็จภารกิจและคืนผิวจราจรให้แก่ประชาชน โดยมีเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงและเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่คอยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้เส้นทางอย่างเต็มที่สำหรับรายงานผู้ได้ร
อ่านต่อ >24
#ข่าวการเมือง #TNN ช่อง16
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเข้าช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนอย่างเต็มที่ โดยล่าสุดในการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ได้อนุมัติหลักการมาตรการภาษี ช่วยค่าซ่อมแซมบ้าน โดยประชาชนหรือนิติบุคคลสามารถนำรายจ่ายในการซ่อมแซมบ้านหรืออาคารสำนักงาน ในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย ระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม 2567 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน 100,000 บาท มาหักลดหย่อนภาษีได้ และมาตรการภาษีช่วยค่าซ่อมรถ นำมาหักลดหย่อนค่าได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงไม่เกิน 30,000 บาท “รัฐบาลโดยกระทรวงการคลัง ตระหนักถึงความเดือดร้อนของผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ประสบอุทกภัย และเห็นว่าปัจจุบันประชาชนมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องซ่อมแซ่มทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย หากพี่น้องประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานสรรพากรทุกแห่งทั่วประเทศหรือโทรสอบถามได้ที่ 1161“ นางสาวศศิกานต์ กล่าว ขณะที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยเลื่อนระยะเวลาการชำระหนี้ออกไปสูงสุดไม่เกิน 1 ปี และไม่คิดดอกเบี้ยปรับ พร้อมจัดทำมาตรการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน ปี 2567/68 วงเงินรายละไม่เกิน 50,000 บาท ดอกเบี้ย 0 % นาน 6 เดือนแรก และสินเชื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิต วงเงินรายละไม่เกิน 500,000 บาท โดยเกษตรกรผู้ประสบภัยสามารถแจ้งความประสงค์ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ ธ.ก.ส. สาขาใกล้บ้านหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02 555 0555 ตลอด 24 ชั่วโมง “จากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ส่งผลให้เกษตรกรในหลายจังหวัดได้รับผลกระทบจากความเสียหาย โดยเฉพาะผลผลิตทางการเกษตร ที่อยู่อาศัย รวมถึงทรัพย์สินในวงกว้าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดพร้อมกำชับให้ทุกหน่วยงานเร่งบูรณาการช่วยเหลือประชาชนอย่างรอบด้านทั้งการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนและการฟื้นฟูเยียวยาในระยะต่อไป“ นางสาวศศิกานต์ กล่าว
อ่านต่อ >45