
#ข่าวการเมือง #TNN ช่อง16
นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า จากกระแสข่าวลือที่ว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อาจตอบรับข้อเสนอจากพรรคการเมืองบางพรรค ด้วยการลาออกหรือยุบสภาหลังผ่านการลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในวาระที่สามนั้น ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ขอเรียนชี้แจงอย่างชัดเจนว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันกับพวกเราชัดเจนว่า จะเดินหน้าทำหน้าที่แก้ไขวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ที่ประเทศกำลังเผชิญอย่างเต็มความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินมาตรการตอบโต้ที่เข้มข้นขึ้น ทั้งในมิติการทูตและด้านความมั่นคง รวมถึงปัญหาวิกฤตภาษีทรัมป์ ที่รัฐบาลได้เร่งผลักดันการเจรจาอย่างจริงจัง และได้รับการตอบรับอย่างดีจากคู่เจรจา รัฐบาลยังมุ่งมั่นใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่จนครบวาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี ในการผลักดันนโยบายที่วางไว้ให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม อาทิ- การเดินหน้านโยบายปราบปรามยาเสพติด- การปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งขณะนี้เริ่มเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้น- มาตรการลดค่าครองชีพ ผ่านโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย- การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ผ่านการพัฒนาโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่- การสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ (man-made destination) เพื่อเป็นรายได้ใหม่ของประเทศ สร้างงาน สร้างเศรษฐกิจ- และมาตรการแก้ไขหนี้สินของประชาชน ที่กำลังดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม- รวมถึงการเริ่มต้นกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเป็นระบบและมีส่วนร่วม เพื่อสร้างกติกาทางประชาธิปไตยที่เป็นธรรม ยึดโยงกับประชาชนมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นภารกิจทางการเมืองสำคัญที่ต้องการเสถียรภาพและการต่อเนื่องของรัฐบาลในการขับเคลื่อน “ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่รัฐบาลยืนยันจะเดินหน้าทำงานต่อไป ไม่ลาออก และไม่ยุบสภา เพราะเป้าหมายของเราคือการเร่งแก้ปัญหาให้จบ และผลักดันนโยบายให้เกิดขึ้นจริง เราเชื่อว่าความต่อเนื่องในการบริหารประเทศเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเหล่านี้เดินหน้าอย่างเต็มกำลังจนถึงวันสุดท้ายของวาระรัฐบาล”“จึงขอวิงวอนผู้ที่เผยแพร่ข่าวลักษณะดังกล่าว โปรดคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก อย่าให้เรื่องทางการเมืองมาบดบังเป้าหมายสำคัญนี้ เพราะรัฐบาลนี้ได้รับอำนาจมาจากประชาชน เราเป็นตัวแทนของพวกเขา และมีหน้าที่ต้องทำงาน แก้ปัญหาให้พวกเขาจนหมดวาระที่ป
อ่านต่อ >23

#ข่าวการเมือง #TNN ช่อง16
นายกฯนัดแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล หารือโผ ครม. วันนี้ หลังลงนามคำสั่งแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรีใหม่ความเคลื่อนไหวในการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) หลังพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ขณะที่บางพรรคร่วมรัฐบาล อย่าง พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ยังมีความเห็นเป็นสองฝ่าย ล่าสุดมีรายงานว่า ในวันนี้ (22 มิ.ย.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลืออยู่หารือเป็นการภายใน เพื่อพูดคุยเรื่องการปรับ ครม. โดยเฉพาะการจัดสรรโควต้ารัฐมนตรีที่ว่างลง 8 ตำแหน่ง เพิ่มให้กับพรรคร่วมรัฐบาลตามความเหมาะสม ซึ่งพบว่า พรรคร่วมรัฐบาลเดิมที่เหลืออยู่ยังอยู่ครบถ้วนและมี สส.พรรคอื่นเข้ามาร่วมเพิ่ม เช่น พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ทั้งนี้ นายกฯ ตั้งเป้าจัดโผ ครม.ให้เสร็จในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ จากนั้นในวันที่ 23 มิถุนายน จะส่งรายชื่อ ครม.ชุดใหม่ ตรวจสอบคุณสมบัติตามขั้นตอนอย่างไรก็ตาม หลังจากที่ พรรคภูมิใจไทยถอนตัวออกจากรัฐบาล นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามคำสั่งเรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี โดยมอบให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในส่วนของกระทรวงกลาโหม , กระทรวงมหาดไทย , กระทรวงยุติธรรม , สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา /สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และสำนักงานราชบัณฑิตยสภา นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐนตรี มอบอำนาจให้กำกับดูแลกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม กระทรวงแรงงาน กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี ดูแลกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง พร้อมมอบหมายให้กำกับดูแลองค์การมหาชนและหน่วยงานของรัฐ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิจิทัล (องค์การมหาชน) เป็นต้นทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าว เป็นการแบ่งงานเพียงรอนายกรัฐมตรีในสัดส่วนของ
อ่านต่อ >10

#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
กองทัพภาคที่ 2 ออกคำสั่งด่วนให้ปิด “จุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู” ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ มีผลตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป โดยเป็นไปตามแนวทางการควบคุมพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและความมั่นคงของประเทศ การตัดสินใจครั้งนี้เป็นไปตามอำนาจของกองกำลังสุรนารี ซึ่งได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนในเขตรับผิดชอบตามสถานการณ์ในพื้นที่ โดยมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันภัยความมั่นคง ดูแลชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณชายแดนเจ้าหน้าที่เน้นย้ำว่า การบริหารจุดผ่านแดนจะพิจารณาตามความเหมาะสมด้านสถานการณ์ความมั่นคง โดยอาจปรับเปลี่ยนเวลา เงื่อนไข หรือรูปแบบการเปิด-ปิดด่านให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและความเสี่ยงในแต่ละช่วง ทั้งนี้ การปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกูครั้งนี้ จะส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ใช้เส้นทางดังกล่าวในการเดินทางและค้าขายชายแดน ซึ่งเคยได้รับอนุญาตให้ข้ามแดนในวันและเวลาที่กำหนด โดยเฉพาะชาวบ้านกรวดที่ต้องติดตามประกาศเพิ่มเติมอย่างใกล้ชิดคำสั่งดังกล่าวมีผลบังคับใช้ทันที และเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมความมั่นคงของประเทศในช่วงสถานการณ์ตึงเครียดตามแนวชายแดนฝั่งตะวันออก
อ่านต่อ >31

#ข่าววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี #TNN ช่อง16
สำนักข่าวรอยเตอร์ส (Reuters) รายงานว่า บริษัท เจ้อเจียง โฮซอน นิว เอเนอร์จี ออโตโมบิล (Zhejiang Hozon New Energy Automobile) เจ้าของและผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเนตา (NETA) เข้าสู่กระบวนการล้มละลายในจีนอย่างเป็นทางการเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา ตามการรายงานของสำนักข่าว CCTV ของทางการจีน ข้อมูลบริษัทรถแบรนด์ NETAบริษัท Hozon New Energy ก่อตั้งเมื่อปี 2014 ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าภายใต้ชื่อแบรนด์ NETA ในจีน ไทย มาเลย์เซีย อินโดนีเซีย เม็กซิโก บราซิล ลาว อุซเบกิสถาน สิงคโปร์ และเนปาล มียอดขายในปี 2024 ที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 87,700 คันทั้งนี้ เมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Hozon New Energy เผชิญปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน ทั้งการขาดจ่ายเงินเดือนพนักงาน ผู้ผลิตชิ้นส่วน และยังเผชิญสภาพการแข่งขันรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในจีนที่แข่งขันสูง ความเคลื่อนไหว NETA ในไทยด้าน NETA Thailand แถลงเมื่อ 12 มิถุนายนว่า “Hozon บริษัทแม่ของแบรนด์รถยนต์ NETA Auto เข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างองค์กร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาทางด้านหนี้สิน และส่งเสริมพันธมิตรทางธุรกิจให้เข้ามาร่วมลงทุน อีกทั้งยกระดับการบริหารจัดการองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ภายใต้กรอบของกระบวนการทางกฎหมาย Hozon มุ่งมั่นที่จะเดินหน้าสู่การดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน และเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะยาว ทั้งนี้ กระบวนการดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของ NETA Auto Thailand ซึ่งยังคงดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตามปกติ โดยให้ความสำคัญกับการให้บริการลูกค้าและพัฒนาแบรนด์อย่างต่อเนื่อง”ในปัจจุบัน ณ เวลาประมาณ 0.00 น. ของวันที่ 22 มิถุนายน เว็บไซต์และแพลตฟอร์มเฟซบุ๊กของ NETA Thailand ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ โดย NETA ประเทศไทย จัดจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ NETA V และ NETA X
อ่านต่อ >12

#ข่าวการเมือง #TNN ช่อง16
นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า จากกระแสข่าวลือที่ว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อาจตอบรับข้อเสนอจากพรรคการเมืองบางพรรค ด้วยการลาออกหรือยุบสภาหลังผ่านการลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในวาระที่สามนั้น ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ขอเรียนชี้แจงอย่างชัดเจนว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันกับพวกเราชัดเจนว่า จะเดินหน้าทำหน้าที่แก้ไขวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ที่ประเทศกำลังเผชิญอย่างเต็มความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินมาตรการตอบโต้ที่เข้มข้นขึ้น ทั้งในมิติการทูตและด้านความมั่นคง รวมถึงปัญหาวิกฤตภาษีทรัมป์ ที่รัฐบาลได้เร่งผลักดันการเจรจาอย่างจริงจัง และได้รับการตอบรับอย่างดีจากคู่เจรจา รัฐบาลยังมุ่งมั่นใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่จนครบวาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี ในการผลักดันนโยบายที่วางไว้ให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม อาทิ- การเดินหน้านโยบายปราบปรามยาเสพติด- การปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งขณะนี้เริ่มเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้น- มาตรการลดค่าครองชีพ ผ่านโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย- การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ผ่านการพัฒนาโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่- การสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ (man-made destination) เพื่อเป็นรายได้ใหม่ของประเทศ สร้างงาน สร้างเศรษฐกิจ- และมาตรการแก้ไขหนี้สินของประชาชน ที่กำลังดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม- รวมถึงการเริ่มต้นกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเป็นระบบและมีส่วนร่วม เพื่อสร้างกติกาทางประชาธิปไตยที่เป็นธรรม ยึดโยงกับประชาชนมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นภารกิจทางการเมืองสำคัญที่ต้องการเสถียรภาพและการต่อเนื่องของรัฐบาลในการขับเคลื่อน “ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่รัฐบาลยืนยันจะเดินหน้าทำงานต่อไป ไม่ลาออก และไม่ยุบสภา เพราะเป้าหมายของเราคือการเร่งแก้ปัญหาให้จบ และผลักดันนโยบายให้เกิดขึ้นจริง เราเชื่อว่าความต่อเนื่องในการบริหารประเทศเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเหล่านี้เดินหน้าอย่างเต็มกำลังจนถึงวันสุดท้ายของวาระรัฐบาล”“จึงขอวิงวอนผู้ที่เผยแพร่ข่าวลักษณะดังกล่าว โปรดคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก อย่าให้เรื่องทางการเมืองมาบดบังเป้าหมายสำคัญนี้ เพราะรัฐบาลนี้ได้รับอำนาจมาจากประชาชน เราเป็นตัวแทนของพวกเขา และมีหน้าที่ต้องทำงาน แก้ปัญหาให้พวกเขาจนหมดวาระที่ป
อ่านต่อ >23

#ข่าวการเมือง #TNN ช่อง16
นายกฯนัดแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล หารือโผ ครม. วันนี้ หลังลงนามคำสั่งแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรีใหม่ความเคลื่อนไหวในการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) หลังพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ขณะที่บางพรรคร่วมรัฐบาล อย่าง พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ยังมีความเห็นเป็นสองฝ่าย ล่าสุดมีรายงานว่า ในวันนี้ (22 มิ.ย.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลืออยู่หารือเป็นการภายใน เพื่อพูดคุยเรื่องการปรับ ครม. โดยเฉพาะการจัดสรรโควต้ารัฐมนตรีที่ว่างลง 8 ตำแหน่ง เพิ่มให้กับพรรคร่วมรัฐบาลตามความเหมาะสม ซึ่งพบว่า พรรคร่วมรัฐบาลเดิมที่เหลืออยู่ยังอยู่ครบถ้วนและมี สส.พรรคอื่นเข้ามาร่วมเพิ่ม เช่น พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ทั้งนี้ นายกฯ ตั้งเป้าจัดโผ ครม.ให้เสร็จในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ จากนั้นในวันที่ 23 มิถุนายน จะส่งรายชื่อ ครม.ชุดใหม่ ตรวจสอบคุณสมบัติตามขั้นตอนอย่างไรก็ตาม หลังจากที่ พรรคภูมิใจไทยถอนตัวออกจากรัฐบาล นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามคำสั่งเรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี โดยมอบให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในส่วนของกระทรวงกลาโหม , กระทรวงมหาดไทย , กระทรวงยุติธรรม , สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา /สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และสำนักงานราชบัณฑิตยสภา นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐนตรี มอบอำนาจให้กำกับดูแลกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม กระทรวงแรงงาน กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี ดูแลกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง พร้อมมอบหมายให้กำกับดูแลองค์การมหาชนและหน่วยงานของรัฐ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิจิทัล (องค์การมหาชน) เป็นต้นทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าว เป็นการแบ่งงานเพียงรอนายกรัฐมตรีในสัดส่วนของ
อ่านต่อ >10

#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
กองทัพภาคที่ 2 ออกคำสั่งด่วนให้ปิด “จุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู” ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ มีผลตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป โดยเป็นไปตามแนวทางการควบคุมพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและความมั่นคงของประเทศ การตัดสินใจครั้งนี้เป็นไปตามอำนาจของกองกำลังสุรนารี ซึ่งได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนในเขตรับผิดชอบตามสถานการณ์ในพื้นที่ โดยมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันภัยความมั่นคง ดูแลชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณชายแดนเจ้าหน้าที่เน้นย้ำว่า การบริหารจุดผ่านแดนจะพิจารณาตามความเหมาะสมด้านสถานการณ์ความมั่นคง โดยอาจปรับเปลี่ยนเวลา เงื่อนไข หรือรูปแบบการเปิด-ปิดด่านให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและความเสี่ยงในแต่ละช่วง ทั้งนี้ การปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกูครั้งนี้ จะส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ใช้เส้นทางดังกล่าวในการเดินทางและค้าขายชายแดน ซึ่งเคยได้รับอนุญาตให้ข้ามแดนในวันและเวลาที่กำหนด โดยเฉพาะชาวบ้านกรวดที่ต้องติดตามประกาศเพิ่มเติมอย่างใกล้ชิดคำสั่งดังกล่าวมีผลบังคับใช้ทันที และเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมความมั่นคงของประเทศในช่วงสถานการณ์ตึงเครียดตามแนวชายแดนฝั่งตะวันออก
อ่านต่อ >31

#ข่าววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี #TNN ช่อง16
สำนักข่าวรอยเตอร์ส (Reuters) รายงานว่า บริษัท เจ้อเจียง โฮซอน นิว เอเนอร์จี ออโตโมบิล (Zhejiang Hozon New Energy Automobile) เจ้าของและผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเนตา (NETA) เข้าสู่กระบวนการล้มละลายในจีนอย่างเป็นทางการเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา ตามการรายงานของสำนักข่าว CCTV ของทางการจีน ข้อมูลบริษัทรถแบรนด์ NETAบริษัท Hozon New Energy ก่อตั้งเมื่อปี 2014 ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าภายใต้ชื่อแบรนด์ NETA ในจีน ไทย มาเลย์เซีย อินโดนีเซีย เม็กซิโก บราซิล ลาว อุซเบกิสถาน สิงคโปร์ และเนปาล มียอดขายในปี 2024 ที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 87,700 คันทั้งนี้ เมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Hozon New Energy เผชิญปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน ทั้งการขาดจ่ายเงินเดือนพนักงาน ผู้ผลิตชิ้นส่วน และยังเผชิญสภาพการแข่งขันรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในจีนที่แข่งขันสูง ความเคลื่อนไหว NETA ในไทยด้าน NETA Thailand แถลงเมื่อ 12 มิถุนายนว่า “Hozon บริษัทแม่ของแบรนด์รถยนต์ NETA Auto เข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างองค์กร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาทางด้านหนี้สิน และส่งเสริมพันธมิตรทางธุรกิจให้เข้ามาร่วมลงทุน อีกทั้งยกระดับการบริหารจัดการองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ภายใต้กรอบของกระบวนการทางกฎหมาย Hozon มุ่งมั่นที่จะเดินหน้าสู่การดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน และเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะยาว ทั้งนี้ กระบวนการดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของ NETA Auto Thailand ซึ่งยังคงดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตามปกติ โดยให้ความสำคัญกับการให้บริการลูกค้าและพัฒนาแบรนด์อย่างต่อเนื่อง”ในปัจจุบัน ณ เวลาประมาณ 0.00 น. ของวันที่ 22 มิถุนายน เว็บไซต์และแพลตฟอร์มเฟซบุ๊กของ NETA Thailand ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ โดย NETA ประเทศไทย จัดจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ NETA V และ NETA X
อ่านต่อ >12

#ข่าวการเมือง #TNN ช่อง16
นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า จากกระแสข่าวลือที่ว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อาจตอบรับข้อเสนอจากพรรคการเมืองบางพรรค ด้วยการลาออกหรือยุบสภาหลังผ่านการลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในวาระที่สามนั้น ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ขอเรียนชี้แจงอย่างชัดเจนว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันกับพวกเราชัดเจนว่า จะเดินหน้าทำหน้าที่แก้ไขวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ที่ประเทศกำลังเผชิญอย่างเต็มความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินมาตรการตอบโต้ที่เข้มข้นขึ้น ทั้งในมิติการทูตและด้านความมั่นคง รวมถึงปัญหาวิกฤตภาษีทรัมป์ ที่รัฐบาลได้เร่งผลักดันการเจรจาอย่างจริงจัง และได้รับการตอบรับอย่างดีจากคู่เจรจา รัฐบาลยังมุ่งมั่นใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่จนครบวาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี ในการผลักดันนโยบายที่วางไว้ให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม อาทิ- การเดินหน้านโยบายปราบปรามยาเสพติด- การปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งขณะนี้เริ่มเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้น- มาตรการลดค่าครองชีพ ผ่านโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย- การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ผ่านการพัฒนาโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่- การสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ (man-made destination) เพื่อเป็นรายได้ใหม่ของประเทศ สร้างงาน สร้างเศรษฐกิจ- และมาตรการแก้ไขหนี้สินของประชาชน ที่กำลังดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม- รวมถึงการเริ่มต้นกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเป็นระบบและมีส่วนร่วม เพื่อสร้างกติกาทางประชาธิปไตยที่เป็นธรรม ยึดโยงกับประชาชนมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นภารกิจทางการเมืองสำคัญที่ต้องการเสถียรภาพและการต่อเนื่องของรัฐบาลในการขับเคลื่อน “ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่รัฐบาลยืนยันจะเดินหน้าทำงานต่อไป ไม่ลาออก และไม่ยุบสภา เพราะเป้าหมายของเราคือการเร่งแก้ปัญหาให้จบ และผลักดันนโยบายให้เกิดขึ้นจริง เราเชื่อว่าความต่อเนื่องในการบริหารประเทศเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเหล่านี้เดินหน้าอย่างเต็มกำลังจนถึงวันสุดท้ายของวาระรัฐบาล”“จึงขอวิงวอนผู้ที่เผยแพร่ข่าวลักษณะดังกล่าว โปรดคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก อย่าให้เรื่องทางการเมืองมาบดบังเป้าหมายสำคัญนี้ เพราะรัฐบาลนี้ได้รับอำนาจมาจากประชาชน เราเป็นตัวแทนของพวกเขา และมีหน้าที่ต้องทำงาน แก้ปัญหาให้พวกเขาจนหมดวาระที่ป
อ่านต่อ >23