
#ข่าวเศรษฐกิจ #TNN ช่อง16
เปิดรับฟังความคิดเห็นค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) และการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าสำหรับงวด ก.ย. - ธ.ค. 2568ดร.พูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ในการประชุม กกพ. ครั้งที่ 26/2568 (ครั้งที่ 968) เมื่อวันพุธที่ 16 กรกฎาคม 2568 มีมติให้เปิดรับฟังความคิดเห็นค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) และการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าสำหรับงวด ก.ย. - ธ.ค. 2568 เป็น 3 กรณี ตั้งแต่เรียกเก็บต่ำสุดที่ 3.98 บาทต่อหน่วยจนถึงสูงสุดที่ 5.10 บาทต่อหน่วย ปัจจัยบวกที่ส่งผลดีต่อค่าเอฟทีและแนวโน้มค่าไฟที่ลดลงปัจจัยบวกหลัก ๆ ที่ส่งผลดีต่อค่าเอฟทีและแนวโน้มค่าไฟที่ลดลงในงวด ก.ย.-ธ.ค.68 มาจากปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ผลิตจากอ่าวไทยกลับมาสู่ภาวะปกติเท่ากับก่อนวิกฤตราคาก๊าซธรรมชาติ ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าช่วงปลายปีมีแนวโน้มลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ กกพ.ยังไม่สามารถประกาศปรับลดค่าเอฟทีและค่าไฟได้ทันทีเพราะยังคงมีภาระต้นทุนค่าเชื้อเพลิงคงค้าง (AF) ที่เกิดขึ้นจริงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) อีกกว่า 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งการจัดเก็บค่าไฟฟ้าเพื่อลดหนี้ กฟผ.ในช่วงต้นปีก็ยังคงต่ำกว่าเป้าหมายอยู่ 8,295 ล้านบาทภาระการชดเชยต้นทุนคงค้าง (AF) ที่เกิดขึ้นจริงของ กฟผ.ในช่วงที่ผ่านมาคาดว่าจะสามารถลดต้นทุนคงค้างลง 13,142 ล้านบาท แต่ราคาเชื้อเพลิงที่ใช้ผลิตไฟฟ้าจริงสูงกว่าการคาดการณ์ ทำให้สามารถลดต้นทุนคงค้างจริงได้เพียง 4,847 ล้านบาท ซึ่งภาระการชดเชยต้นทุนคงค้าง (AF) ยังคงเป็นปัจจัยลบที่กดดันค่าเอฟทีต่อไปจนกว่าจะหมดภาระ อย่างไรก็ตามแนวโน้มค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจากงวดก่อนหน้า 1.32 บาท/ดอลลาร์ (งวด พ.ค.-ส.ค.68) เป็น 32.95 บาท/ดอลลาร์ และราคา LNG Spot ที่มีแนวโน้มลดลงเล็กน้อยตามราคาในตลาดโลกมาอยู่ที่ 13.9 ดอลลาร์/ล้านบีทียู ส่งผลดีต่อต้นทุนการผลิตไฟฟ้า เรียกเก็บค่าไฟฟ้าในงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2568 เปิดรับฟังความคิดเห็น 3 กรณีสำหรับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2568 ที่จะเปิดรับฟังความคิดเห็นแบ่งเป็น 3 กรณีตามเงื่อนไข ดังนี้- กรณีที่ 1: ผลการคำนวณตามสูตรการปรับค่า Ft (จ่ายคืนภาระต้นทุนคงค้าง กฟผ.ทั้งหมด) และการคำนวณกรณีเรียกเก็บมูลค่าส่วนต่างราคาก๊าซธรรมชาติ
อ่านต่อ >14

#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
พื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น กรมชลประทาน แจ้งเตือนพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น หลังมีฝนตกชุกในพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ส่งผลให้เมื่อเวลา 12.00 น.ที่ผ่านมา ที่สถานี C.2 จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 898 ลบ.ม./วินาที ส่งผลต่อเนื่องให้เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท มีปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 490 ลบ.ม./วินาที ทั้งนี้ เนื่องจากยังคงมีฝนตกจากอิทธิพลของร่องมรสุมในพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามีแนวโน้มสูงขึ้นอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 500 – 700 ลบ.ม./วินาที พื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งทั้งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เฝ้าระวังสถานการณ์จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งทั้งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำและการแจ้งเตือนจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด หากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องเตือนสัปดาห์อันตราย 21-28 กรกฎาคมนี้ เตรียมรับมือฝนตกหนัก-ชุมชนหลายพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมกรมชลประทาน ชี้แจงแม่น้ำยม ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นจากฝนตกหนักแต่ยังไม่ล้นตลิ่ง
อ่านต่อ >34

#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
กัมพูชา...คือหนึ่งในประเทศที่รู้จัก "ความสยดสยองของทุ่นระเบิด" ดีกว่าใครในโลกมรดกจากยุคเขมรแดง เปลี่ยนทุ่งนาให้กลายเป็นทุ่งสังหาที่ทุกย่างก้าว อาจแลกมาด้วยแขน ขา หรือแม้แต่ชีวิตกัมพูชามีจึงผู้พิการจากกับระเบิดมากที่สุดอันดับต้น ๆ ของโลก และจนถึงปี 2022 ยังมีพื้นที่เสี่ยงทุ่นระเบิดกว่า 2,000 ตารางกิโลเมตรรายงานของ Landmine Monitor ระบุว่า ณ ปี 2022 พื้นที่เสี่ยงจากกับระเบิดในกัมพูชายังเหลือกว่า 2,000 ตารางกิโลเมตร และมีเหยื่อเพิ่มขึ้นราว 40 คนต่อปี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวไร่ชาวนาและเด็กในพื้นที่ชนบทนั่นจึงทำให้กัมพูชาเข้าร่วมสนธิสัญญา Ottawa ปี 1997 ซึ่งเป็นอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิด มีเป้าหมายเพื่อขจัดทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (APL) ทั่วโลก แต่เสียงระเบิดเมื่อ 16 กรกฎาคม 2568 กลับบอกเล่าเรื่องราวอีกแบบเมื่อพลทหาร 3 นาย ต้องบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิด โดยหนึ่งในนั้นต้องสูญเสียอวัยวะ ขณะลาดตระเวนที่บริเวณเนิน 481 อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานีที่น่าแปลก คือ คำยืนยันจากหน่วยปฏิบัติการต่อต้านทุ่นระเบิด (นปท.) ที่ระบุว่า ในพื้นที่สีเขียวคือแนวสนามทุ่นระเบิด ที่กวาดล้างทำลายหมดแล้ว และ จากการพิสูจน์ด้วยภาพรายงานว่า คือทุ่นระเบิด PMN-2 ที่เป็นทุ่นใหม่ นั่นหมายความว่ามีการเข้าวางทุ่นระเบิดใหม่ ในแนวที่มีการเก็บกู้ร่วมกันโดยทหารกัมพูชา ซึ่งผิดต่อหลักการของสนธิสัญญา Ottawaรายงานจาก วาสนา นาน่วม นักข่าวสายทหาร เปิดเผยว่ากัมพูชาได้ติดตั้งสนามทุ่นระเบิดใหม่ด้วยกับระเบิด PMN รุ่นล่าสุดจากรัสเซียรวมแล้ว กว่า 335 ลูก และยังมีข้อมูลระบุว่าทหารกัมพูชาเพิ่งได้รับทุ่นระเบิดใหม่อีก 106 ลูก และยังมีการฝังเพิ่มที่ เนินโนเนม อีก 120 ลูกทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นในพื้นที่ที่เคยมีข้อพิพาทและแนวปะทะเดิม เช่น บริเวณสามเหลี่ยมมรกต ช่องบก และใกล้ ปราสาทพระวิหารข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับ พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย (ผอ.สน.ปร.มน) ที่ออกมาเปิดเผยกาอนหน้านี้ว่ามีรายงานหลายครั้งว่ากองทัพกัมพูชา แอบวางกับระเบิดใหม่ตามแนวชายแดนไทย โดยเฉพาะบริเวณใกล้ปราสาทพระวิหาร พล.ต.วันชนะ ตั้งข้อสังเกตว่าทำไมกัมพูชาจึงยังฝังทุ่นระเบิดใหม่ทั้งที่เคยให้คำมั่นว่าจะเลิกใช้ โดยอาจเกี่ยวกับการทุจริตภายในของกัมพูชา โดยมีรายงานว
อ่านต่อ >19

#ข่าวเศรษฐกิจ #TNN ช่อง16
สถานการณ์น้ำในพื้นที่จ.นครพนม ช่วงวันที่ 17 ก.ค. 68 หลังได้รับผลกระทบจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ระดับ ประมาณ 8.60 เมตร เพิ่มขึ้น วันละประมาณ 10-20 เซนติเมตร ห่างจากจุดวิกฤตล้นตลิ่ง ประมาณ 3 เมตร คือที่ 12 เมตร กระทบลำน้ำสาขาสายหลัก ไหลระบายลงน้ำโขงช้า โดยเฉพาะลำน้ำอูน ลำน้ำสงคราม ไหลผ่านพื้นที่ อ.นาหว้า อ.ศรสงคราม ก่อนไหลลงแม่น้ำโขงที่ อ.ท่าอุเทน นครพนม มีปริมาณเกินความจุมากถึง 130 เปอร์เซ็นต์ ของความจุ ทำให้ปริมาณน้ำเอ่อล้น ท่วมพื้นที่การเกษตร นาข้าว ในพื้นที่ลุ่มมากกว่า 10,000 ไร่ ได้รับความเสียหาย ล่าสุดทางจังหวัดนครพนม ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติ แล้ว 7 อำเภอ มี อ.นาหว้า อ.ปลาปาก อ.นาแก อ.วังยาง อ.โพนสวรรค์ อ.ศรีสงคราม และ อ.เรณูนคร จากการสำรวจพบพื้นที่การเกษตร นาข้าวถูกน้ำท่วม มากเกือบ 20,000 ไร่ คาดว่าจะเสียหายทั้งหมด พร้อมเร่งสำรวจให้การช่วยเหลือ ชดเชยเยียวยาตามระเบียบทางราชการ นอกจากนี้ยังได้แจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงติดกับน้ำโขง ลำน้ำสาขา เฝ้าระวังปัญหาน้ำท่วมฉับพลัน เพราะน้ำโขงสูงขึ้นเริ่มส่งผลกระทบต่อลำน้ำสาขาหลัก
อ่านต่อ >319

#ข่าวเศรษฐกิจ #TNN ช่อง16
เปิดรับฟังความคิดเห็นค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) และการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าสำหรับงวด ก.ย. - ธ.ค. 2568ดร.พูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ในการประชุม กกพ. ครั้งที่ 26/2568 (ครั้งที่ 968) เมื่อวันพุธที่ 16 กรกฎาคม 2568 มีมติให้เปิดรับฟังความคิดเห็นค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) และการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าสำหรับงวด ก.ย. - ธ.ค. 2568 เป็น 3 กรณี ตั้งแต่เรียกเก็บต่ำสุดที่ 3.98 บาทต่อหน่วยจนถึงสูงสุดที่ 5.10 บาทต่อหน่วย ปัจจัยบวกที่ส่งผลดีต่อค่าเอฟทีและแนวโน้มค่าไฟที่ลดลงปัจจัยบวกหลัก ๆ ที่ส่งผลดีต่อค่าเอฟทีและแนวโน้มค่าไฟที่ลดลงในงวด ก.ย.-ธ.ค.68 มาจากปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ผลิตจากอ่าวไทยกลับมาสู่ภาวะปกติเท่ากับก่อนวิกฤตราคาก๊าซธรรมชาติ ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าช่วงปลายปีมีแนวโน้มลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ กกพ.ยังไม่สามารถประกาศปรับลดค่าเอฟทีและค่าไฟได้ทันทีเพราะยังคงมีภาระต้นทุนค่าเชื้อเพลิงคงค้าง (AF) ที่เกิดขึ้นจริงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) อีกกว่า 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งการจัดเก็บค่าไฟฟ้าเพื่อลดหนี้ กฟผ.ในช่วงต้นปีก็ยังคงต่ำกว่าเป้าหมายอยู่ 8,295 ล้านบาทภาระการชดเชยต้นทุนคงค้าง (AF) ที่เกิดขึ้นจริงของ กฟผ.ในช่วงที่ผ่านมาคาดว่าจะสามารถลดต้นทุนคงค้างลง 13,142 ล้านบาท แต่ราคาเชื้อเพลิงที่ใช้ผลิตไฟฟ้าจริงสูงกว่าการคาดการณ์ ทำให้สามารถลดต้นทุนคงค้างจริงได้เพียง 4,847 ล้านบาท ซึ่งภาระการชดเชยต้นทุนคงค้าง (AF) ยังคงเป็นปัจจัยลบที่กดดันค่าเอฟทีต่อไปจนกว่าจะหมดภาระ อย่างไรก็ตามแนวโน้มค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจากงวดก่อนหน้า 1.32 บาท/ดอลลาร์ (งวด พ.ค.-ส.ค.68) เป็น 32.95 บาท/ดอลลาร์ และราคา LNG Spot ที่มีแนวโน้มลดลงเล็กน้อยตามราคาในตลาดโลกมาอยู่ที่ 13.9 ดอลลาร์/ล้านบีทียู ส่งผลดีต่อต้นทุนการผลิตไฟฟ้า เรียกเก็บค่าไฟฟ้าในงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2568 เปิดรับฟังความคิดเห็น 3 กรณีสำหรับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2568 ที่จะเปิดรับฟังความคิดเห็นแบ่งเป็น 3 กรณีตามเงื่อนไข ดังนี้- กรณีที่ 1: ผลการคำนวณตามสูตรการปรับค่า Ft (จ่ายคืนภาระต้นทุนคงค้าง กฟผ.ทั้งหมด) และการคำนวณกรณีเรียกเก็บมูลค่าส่วนต่างราคาก๊าซธรรมชาติ
อ่านต่อ >14

#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
พื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น กรมชลประทาน แจ้งเตือนพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น หลังมีฝนตกชุกในพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ส่งผลให้เมื่อเวลา 12.00 น.ที่ผ่านมา ที่สถานี C.2 จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 898 ลบ.ม./วินาที ส่งผลต่อเนื่องให้เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท มีปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 490 ลบ.ม./วินาที ทั้งนี้ เนื่องจากยังคงมีฝนตกจากอิทธิพลของร่องมรสุมในพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามีแนวโน้มสูงขึ้นอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 500 – 700 ลบ.ม./วินาที พื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งทั้งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เฝ้าระวังสถานการณ์จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งทั้งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำและการแจ้งเตือนจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด หากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องเตือนสัปดาห์อันตราย 21-28 กรกฎาคมนี้ เตรียมรับมือฝนตกหนัก-ชุมชนหลายพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมกรมชลประทาน ชี้แจงแม่น้ำยม ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นจากฝนตกหนักแต่ยังไม่ล้นตลิ่ง
อ่านต่อ >34

#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
กัมพูชา...คือหนึ่งในประเทศที่รู้จัก "ความสยดสยองของทุ่นระเบิด" ดีกว่าใครในโลกมรดกจากยุคเขมรแดง เปลี่ยนทุ่งนาให้กลายเป็นทุ่งสังหาที่ทุกย่างก้าว อาจแลกมาด้วยแขน ขา หรือแม้แต่ชีวิตกัมพูชามีจึงผู้พิการจากกับระเบิดมากที่สุดอันดับต้น ๆ ของโลก และจนถึงปี 2022 ยังมีพื้นที่เสี่ยงทุ่นระเบิดกว่า 2,000 ตารางกิโลเมตรรายงานของ Landmine Monitor ระบุว่า ณ ปี 2022 พื้นที่เสี่ยงจากกับระเบิดในกัมพูชายังเหลือกว่า 2,000 ตารางกิโลเมตร และมีเหยื่อเพิ่มขึ้นราว 40 คนต่อปี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวไร่ชาวนาและเด็กในพื้นที่ชนบทนั่นจึงทำให้กัมพูชาเข้าร่วมสนธิสัญญา Ottawa ปี 1997 ซึ่งเป็นอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิด มีเป้าหมายเพื่อขจัดทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (APL) ทั่วโลก แต่เสียงระเบิดเมื่อ 16 กรกฎาคม 2568 กลับบอกเล่าเรื่องราวอีกแบบเมื่อพลทหาร 3 นาย ต้องบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิด โดยหนึ่งในนั้นต้องสูญเสียอวัยวะ ขณะลาดตระเวนที่บริเวณเนิน 481 อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานีที่น่าแปลก คือ คำยืนยันจากหน่วยปฏิบัติการต่อต้านทุ่นระเบิด (นปท.) ที่ระบุว่า ในพื้นที่สีเขียวคือแนวสนามทุ่นระเบิด ที่กวาดล้างทำลายหมดแล้ว และ จากการพิสูจน์ด้วยภาพรายงานว่า คือทุ่นระเบิด PMN-2 ที่เป็นทุ่นใหม่ นั่นหมายความว่ามีการเข้าวางทุ่นระเบิดใหม่ ในแนวที่มีการเก็บกู้ร่วมกันโดยทหารกัมพูชา ซึ่งผิดต่อหลักการของสนธิสัญญา Ottawaรายงานจาก วาสนา นาน่วม นักข่าวสายทหาร เปิดเผยว่ากัมพูชาได้ติดตั้งสนามทุ่นระเบิดใหม่ด้วยกับระเบิด PMN รุ่นล่าสุดจากรัสเซียรวมแล้ว กว่า 335 ลูก และยังมีข้อมูลระบุว่าทหารกัมพูชาเพิ่งได้รับทุ่นระเบิดใหม่อีก 106 ลูก และยังมีการฝังเพิ่มที่ เนินโนเนม อีก 120 ลูกทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นในพื้นที่ที่เคยมีข้อพิพาทและแนวปะทะเดิม เช่น บริเวณสามเหลี่ยมมรกต ช่องบก และใกล้ ปราสาทพระวิหารข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับ พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย (ผอ.สน.ปร.มน) ที่ออกมาเปิดเผยกาอนหน้านี้ว่ามีรายงานหลายครั้งว่ากองทัพกัมพูชา แอบวางกับระเบิดใหม่ตามแนวชายแดนไทย โดยเฉพาะบริเวณใกล้ปราสาทพระวิหาร พล.ต.วันชนะ ตั้งข้อสังเกตว่าทำไมกัมพูชาจึงยังฝังทุ่นระเบิดใหม่ทั้งที่เคยให้คำมั่นว่าจะเลิกใช้ โดยอาจเกี่ยวกับการทุจริตภายในของกัมพูชา โดยมีรายงานว
อ่านต่อ >19

#ข่าวเศรษฐกิจ #TNN ช่อง16
สถานการณ์น้ำในพื้นที่จ.นครพนม ช่วงวันที่ 17 ก.ค. 68 หลังได้รับผลกระทบจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ระดับ ประมาณ 8.60 เมตร เพิ่มขึ้น วันละประมาณ 10-20 เซนติเมตร ห่างจากจุดวิกฤตล้นตลิ่ง ประมาณ 3 เมตร คือที่ 12 เมตร กระทบลำน้ำสาขาสายหลัก ไหลระบายลงน้ำโขงช้า โดยเฉพาะลำน้ำอูน ลำน้ำสงคราม ไหลผ่านพื้นที่ อ.นาหว้า อ.ศรสงคราม ก่อนไหลลงแม่น้ำโขงที่ อ.ท่าอุเทน นครพนม มีปริมาณเกินความจุมากถึง 130 เปอร์เซ็นต์ ของความจุ ทำให้ปริมาณน้ำเอ่อล้น ท่วมพื้นที่การเกษตร นาข้าว ในพื้นที่ลุ่มมากกว่า 10,000 ไร่ ได้รับความเสียหาย ล่าสุดทางจังหวัดนครพนม ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติ แล้ว 7 อำเภอ มี อ.นาหว้า อ.ปลาปาก อ.นาแก อ.วังยาง อ.โพนสวรรค์ อ.ศรีสงคราม และ อ.เรณูนคร จากการสำรวจพบพื้นที่การเกษตร นาข้าวถูกน้ำท่วม มากเกือบ 20,000 ไร่ คาดว่าจะเสียหายทั้งหมด พร้อมเร่งสำรวจให้การช่วยเหลือ ชดเชยเยียวยาตามระเบียบทางราชการ นอกจากนี้ยังได้แจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงติดกับน้ำโขง ลำน้ำสาขา เฝ้าระวังปัญหาน้ำท่วมฉับพลัน เพราะน้ำโขงสูงขึ้นเริ่มส่งผลกระทบต่อลำน้ำสาขาหลัก
อ่านต่อ >319

#ข่าวเศรษฐกิจ #TNN ช่อง16
เปิดรับฟังความคิดเห็นค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) และการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าสำหรับงวด ก.ย. - ธ.ค. 2568ดร.พูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ในการประชุม กกพ. ครั้งที่ 26/2568 (ครั้งที่ 968) เมื่อวันพุธที่ 16 กรกฎาคม 2568 มีมติให้เปิดรับฟังความคิดเห็นค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) และการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าสำหรับงวด ก.ย. - ธ.ค. 2568 เป็น 3 กรณี ตั้งแต่เรียกเก็บต่ำสุดที่ 3.98 บาทต่อหน่วยจนถึงสูงสุดที่ 5.10 บาทต่อหน่วย ปัจจัยบวกที่ส่งผลดีต่อค่าเอฟทีและแนวโน้มค่าไฟที่ลดลงปัจจัยบวกหลัก ๆ ที่ส่งผลดีต่อค่าเอฟทีและแนวโน้มค่าไฟที่ลดลงในงวด ก.ย.-ธ.ค.68 มาจากปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ผลิตจากอ่าวไทยกลับมาสู่ภาวะปกติเท่ากับก่อนวิกฤตราคาก๊าซธรรมชาติ ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าช่วงปลายปีมีแนวโน้มลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ กกพ.ยังไม่สามารถประกาศปรับลดค่าเอฟทีและค่าไฟได้ทันทีเพราะยังคงมีภาระต้นทุนค่าเชื้อเพลิงคงค้าง (AF) ที่เกิดขึ้นจริงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) อีกกว่า 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งการจัดเก็บค่าไฟฟ้าเพื่อลดหนี้ กฟผ.ในช่วงต้นปีก็ยังคงต่ำกว่าเป้าหมายอยู่ 8,295 ล้านบาทภาระการชดเชยต้นทุนคงค้าง (AF) ที่เกิดขึ้นจริงของ กฟผ.ในช่วงที่ผ่านมาคาดว่าจะสามารถลดต้นทุนคงค้างลง 13,142 ล้านบาท แต่ราคาเชื้อเพลิงที่ใช้ผลิตไฟฟ้าจริงสูงกว่าการคาดการณ์ ทำให้สามารถลดต้นทุนคงค้างจริงได้เพียง 4,847 ล้านบาท ซึ่งภาระการชดเชยต้นทุนคงค้าง (AF) ยังคงเป็นปัจจัยลบที่กดดันค่าเอฟทีต่อไปจนกว่าจะหมดภาระ อย่างไรก็ตามแนวโน้มค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจากงวดก่อนหน้า 1.32 บาท/ดอลลาร์ (งวด พ.ค.-ส.ค.68) เป็น 32.95 บาท/ดอลลาร์ และราคา LNG Spot ที่มีแนวโน้มลดลงเล็กน้อยตามราคาในตลาดโลกมาอยู่ที่ 13.9 ดอลลาร์/ล้านบีทียู ส่งผลดีต่อต้นทุนการผลิตไฟฟ้า เรียกเก็บค่าไฟฟ้าในงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2568 เปิดรับฟังความคิดเห็น 3 กรณีสำหรับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2568 ที่จะเปิดรับฟังความคิดเห็นแบ่งเป็น 3 กรณีตามเงื่อนไข ดังนี้- กรณีที่ 1: ผลการคำนวณตามสูตรการปรับค่า Ft (จ่ายคืนภาระต้นทุนคงค้าง กฟผ.ทั้งหมด) และการคำนวณกรณีเรียกเก็บมูลค่าส่วนต่างราคาก๊าซธรรมชาติ
อ่านต่อ >14