#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันนี้ (10 ต.ค. 67) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2567 โดยมี นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขตดุสิต กทม.นายอนุทิน ได้กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือในห้วงที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลได้บูรณาการระดมทุกองคาพยพลงไปจัดการกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งได้รับทราบว่ามีการพัฒนาเป็นไปในทางที่ดีตามลำดับ แต่ก็ไม่ประมาทยังต้องเฝ้าระวังเนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงท้ายฤดูฝน และการดำเนินการที่สำคัญที่ต้องทำต่อไปในพื้นที่จังหวัดเชียงราย คือการกำจัดดินโคลนที่ค้างอยู่ในบ้านเรือนของพี่น้องประชาชน โดยจากการที่ตนและคณะได้ไปลงพื้นที่เห็นว่าเป็นเรื่องที่หนักอยู่"ขอขอบคุณ ปภ. ที่ได้เร่งหารือกับกรมบัญชีกลาง ในกรณีการรับเงินชดเชยเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการขนย้ายดินโคลนออกจากบ้านเรือนที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปให้การช่วยเหลือได้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประกาศเขตให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน โดยใช้เงินทดรองราชการจ่ายเป็นค่าช่วยล้างดินโคลน ในที่อยู่อาศัยประชาชนซึ่งประสบอุทกภัยในอัตรา 10,000 บาทต่อหลัง ซึ่งหลังจากนี้ก็ขอให้ ปภ. ร่วมกันจังหวัด เร่งสำรวจและจ่ายเงินช่วยเหลือให้ผู้ประสบอุทกภัยโดยเร็วที่สุด" นายอนุทิน กล่าวนายอนุทิน กล่าวว่า ในส่วนการเยียวยาฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้หลักการไว้ว่าให้ผู้เดือนร้อนได้รับการช่วยเหลือในเกณฑ์สูงสุด เช่นเงินช่วยเหลือที่ปรับเป็นอัตราเดียว 9,000 บาทต่อครัวเรือน คณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ได้เห็นชอบแล้ว หลังจากนี้ก็ขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในฐานะตัวแทนของรัฐบาลที่ได้ทำงานอย่างเข้มแข็งในพื้นที่ อำนวยความสะดวกและให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ซึ่งจากการที่ตนได้ลงพื้นที่ให้เห็นถึงความตั้งใจของทุกหน่วยงาน เป็นที่น่าประทับใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ความยากลำบากยากเย็นของประชาชนมีรอยยิ้มมีกำลังใจ การแสดงผลักดันให้กับเจ้าหน้าที่ของเราทุกคน"ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ได้ช่วยกันดูแลประชาชน เพราะแม้ทุกท่
อ่านต่อ >4
#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
อุบัติเหตุรถตู้ชนรถจักรยานยนต์บนสะพานข้ามแยกถนนเทพรักษ์ แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพฯ เป็นเหตุการณ์ที่ได้รับความสนใจจากสังคมพอสมควร เพราะผู้ขับขี่ คือ นายศิริศักดิ์ นันทเสน หรือ ติ๊ก ชิโร่ นักร้องชื่อดังวัย 63 ปีเป็นผู้ขับ ซึ่งหลังเกิดเหตุ ติ๊ก ชีโร่ ยืนรอมอบตัวในที่เกิดเหตุ พร้อมแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสีย ในส่วนของรูปคดีคงต้องรอตำรวจสรุปอีกครั้ง หลังการตรวจสอบพยานหลักฐานในจุดเกิดเหตุ กล้องหน้ารถ รวมถึงรอผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายของนักน้องชื่อดังว่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ แต่สิ่งที่สังควรน่าจะได้เรียนรู้จากเหตุการณ์นี้คือความเสี่ยงของการใช้รถ ใช้ถนนในยามค่ำคืน โดยเฉพาะจุดเสี่ยงเช่นสะพานข้ามแยก หรือ ทางด่วน จากข้อมูลของนพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน ระบุว่าอุบัติเหตุทางถนนบนสะพานข้ามแยก หรือ บนทางด่วนกว่า 2 ใน 3 มักจะเกิดในช่วงเวลากลางคืน โดยมีปัจจัยอย่างน้อย 3 เรื่องคือ 1.ในช่วงกลางคืนผู้ขับขี่มักจะขับรถด้วยความเร็วมากกว่าในช่วงกลางวัน เพราะผู้ใช้รถมีจำนวนน้อยกว่า ถนนโล่งกว่า 2.เรื่องของทัศนวิสัย จุดอับ ซึ่งเวลากลางคืนมีแสงน้อยกว่าช่วงเวลากลางวัน ซึ่งอาจเป็นเรื่องของไฟส่องสว่าง หรือ บางจุดมีเงาจากตัวอาคาร หรือ สิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ทับลงมาทำให้มองเห็นได้ไม่ชัดเจน 3.ลักษณะทางกายภาพของสะพาน ทั้งสะพานข้ามแยก จุดกลับรถ หรือ ทางด่วน ซึ่งจังหวะเข้าโค้ง หรือ ขึ้นเนินเป็นจุดที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุหากขับมาด้วยความเร็ว เพราะอาจหักเลี้ยวไม่ทัน หรือ หากเกิดอุบัติเหตุก็อาจทำให้กระเด็นตกจากที่สูงได้ เพราะแบริเออร์กั้นขอบสะพานมีความสูงไม่มากนัก ไม่เพียงพอที่จะกั้นไม่ให้ผู้ประสบอุบัติเหตุตกลงจากที่สูง ส่วนกรณีอุบัติเหตุของ "นักร้องชื่อดัง" จากการตรวจสอบภาพถ่ายจากจุดเกิดเหตุ ประกอบกับการตรวจสอบลักษณะทางกายภาพของถนนในจุดดังกล่าวผ่าน Google Earth พบว่าสะพานข้ามแยกถนนเทพรักษ์เป็นถนน 2 ช่องทาง ซึ่งไหล่ทางมีความแคบ ทำให้การจอดรถบริเวณเนินทางขึ้นสะพานจะมีความเสี่ยงมากกว่าปกติ หากรถยนต์ที่ขับตามหลังมาขับมาด้วยความเร็วสูง อาจไม่ทันสังเกตเห็นรถที่จอดอยู่บนทางขึ้นสะพาน เพราะเนินขึ้นมักเป็นจุดอับสายตาของผู้ขับขี่ หรือ หากสังเกตเห็นด้วยความเร็วก็อาจจะตัดสินใจ หรือ แก้ปัญหาด้วยการหักเลี้ยว หรือ เบรกรถไม่ทัน สำหรับแนวทางแก้
อ่านต่อ >#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุถึงการ สถานการณ์น้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ว่า ขณะนี้ระดับน้ำลดลงจากเมื่อวานนี้ หลังจากที่การระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาได้ปรับลดอัตราลง 50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สถานการณ์แนวโน้มดีขึ้น หากในช่วงนี้จนถึงปลายตุลาคมไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติม สถานการณ์ภาพรวมน้ำก็ไม่น่ากังวล แต่เพื่อความไม่ประมาททางกรุงเทพมหานครก็ได้มีการเตรียมพร้อมทั้งการเสริมแนวคันกั้นน้ำ ในจุดฟันหลอริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยได้มีการกระจายกระสอบทราย 600,000 ใบ ในชุมชนเปราะบางที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ / รวมถึงการเตรียมอุปกรณ์เครื่องสูบน้ำตามจุดต่างๆ ขณะเดียวกันก็ต้องเฝ้าระวังในช่วงน้ำทะเลหนุนประมาณวันที่ 20 ตุลาคมนี้ แต่หากในช่วงเวลานั้นไม่มีน้ำเหนือมามาก สถานการณ์ก็ไม่น่ากังวลในส่วนการระบายน้ำนั้น พื้นที่กรุงเทพมหานครมีท่อระบายน้ำกว่า 6,000 กิโลเมตร ที่ผ่านมา ก็ได้มีการตรวจสอบ และ ขุดลอกท่อ ต่อเนื่อง โดยทำไปแล้วกว่า 4,900 กิโลเมตร รวมถึงการขุดลอกคูคลอง กำจัดสิ่งกีดขวาง ในคลองใหญ่ ทำไปแล้ว 200 กิโลเมตร รวมถึงเปิดทางน้ำไปแล้วกว่า 2,000 กิโลเมตร เพื่อที่จะผลักดันน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ออกให้ได้โดยเร็ว ทั้งนี้พื้นที่กรุงเทพมหานคร มีอุโมงค์ระบายน้ำ เพียง 19 กิโลเมตร ถึงแม้ อุโมงค์จะใหญ่แต่ก็ไม่ได้ครอบคลุมการระบายน้ำทั้งหมด ซึ่งต้องมีการบริหารจัดการในหลายส่วนเข้าด้วยกัน
อ่านต่อ >9
#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
ล่าสุด องค์การอวกาศยุโรป หรือ ESA วางแผนกลับไปยังดาวเคราะห์น้อยนี้อีกครั้ง ผ่านภารกิจที่ชื่อว่า “เฮรา” เพื่อมุ่งสำรวจผลกระทบที่เกิดขึ้น หลังการพุ่งชนดาวไดมอร์ฟอสของยานอวกาศ DART อย่างละเอียด และอาจทำให้พวกเขาค้นพบเทคนิคใหม่ ๆ ที่จะป้องกันให้โลก ไม่สูญสลาย เพราะถูกดาวเคราะห์น้อยพุ่งชน ---ESA ปล่อยยาน “เฮรา” สานต่อภารกิจ DART--- ยานอวกาศ “เฮรา” ออกเดินทางไปพร้อมกับจรวด Space X Falcon 9 เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม เวลา 10.52 น. ตามเวลาสหรัฐฯ เพื่อตรวจสอบผลของการทดสอบเปลี่ยนวงโคจรของดาวเคราะห์ไดมอร์ฟอส และยังเป็นภารกิจสำรวจระบบดาวเคราะห์คู่ครั้งแรกของโลก ทั้งนี้ ดาวไดมอร์ฟอส เป็นบริวารของดาวเคราะห์น้อยชื่อว่า “ดีดิมอส” ซึ่งก่อนที่ยานอวกาศ DART จะพุ่งชน ไดมอร์ฟอสโคจรรอบดาวดวงนี้เป็นเวลาราว 11 ชั่วโมง 55 นาทีต่อหนึ่งรอบ แต่เมื่อเกิดการชนแล้ว ระยะการโคจรของไดมอร์ฟอสที่มีต่อดีดิมอสสั้นลงเป็นเวลารวม 32 นาที โดยภารกิจ “เฮรา” จะรวบรวมรายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ ของโครงสร้างภายใน และคุณสมบัติพื้นผิวของดาวเคราะห์ไดมอร์ฟอส หลังการพุ่งชน ด้วยการใช้อุปกรณ์ขั้นสูง เช่น เรดาร์, กล้องถ่ายภาพความร้อน และเทคโนโลยีภาพถ่ายมัลติสเปกตรัมเป็นครั้งแรก พร้อมด้วยดาวเทียม CubeSat จำนวน 2 ลำ และคาดว่าจะเดินทางถึงดาวเคราะห์น้อยดีดิมอส และดาวไดมอร์ฟอส ภายในเดือนตุลาคม ปี 2026“สิ่งนี้เป็นข้อมูลพื้นฐานที่จะช่วยเสริมข้อมูลที่ได้จากยานอวกาศ DART เพื่อให้สามารถใช้เทคนิคนี้กับดาวเคราะห์น้อยดวงอื่นในอนาคตได้” เอียน คาร์เนลลี ผู้จัดการโครงการ “เฮรา” แห่ง ESA กล่าว ---ภารกิจปกป้องภัยอันตรายนอกโลก--- ท่ามกลางดวงดาวหลายล้านล้านดวง ดาวเคราะห์น้อยที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 100 เมตรขึ้นไป เป็นสิ่งที่นักดาราศาสตร์ต้องกังวล เพราะมีดาวเคราะห์น้อยขนาด 100-300 เมตร ประมาณ 30,000 ดวง อยู่ใกล้โลก และในจำนวนนั้น 82% ยังไม่ถูกค้นพบ แต่ก็มีความเสี่ยงพุ่งชนโลกทุก ๆ 10,000 ปี ซึ่งหากพุ่งชนโลกจะส่งพลังงานเทียบเท่าระเบิด TNT ขนาด 50 เมกะตัน ภารกิจ “เฮรา” ซึ่งตั้งชื่อตามเทพีแห่งการแต่งงาน ตามตำนานเทพนิยายกรีก จึงเป็นโครงการของ ESA ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่างประเทศกับนาซา ในการพยายามปกป้องโลก จากดาวเคราะห์น้อย ที่อาจสร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินในระดับมหาศาล ข้อมูลต่าง ๆ ที่ภารกิจ “เฮรา” จะได้มา บรรดาผู้เชี่ยวชาญห
อ่านต่อ >12
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันนี้ (10 ต.ค. 67) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2567 โดยมี นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขตดุสิต กทม.นายอนุทิน ได้กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือในห้วงที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลได้บูรณาการระดมทุกองคาพยพลงไปจัดการกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งได้รับทราบว่ามีการพัฒนาเป็นไปในทางที่ดีตามลำดับ แต่ก็ไม่ประมาทยังต้องเฝ้าระวังเนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงท้ายฤดูฝน และการดำเนินการที่สำคัญที่ต้องทำต่อไปในพื้นที่จังหวัดเชียงราย คือการกำจัดดินโคลนที่ค้างอยู่ในบ้านเรือนของพี่น้องประชาชน โดยจากการที่ตนและคณะได้ไปลงพื้นที่เห็นว่าเป็นเรื่องที่หนักอยู่"ขอขอบคุณ ปภ. ที่ได้เร่งหารือกับกรมบัญชีกลาง ในกรณีการรับเงินชดเชยเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการขนย้ายดินโคลนออกจากบ้านเรือนที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปให้การช่วยเหลือได้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประกาศเขตให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน โดยใช้เงินทดรองราชการจ่ายเป็นค่าช่วยล้างดินโคลน ในที่อยู่อาศัยประชาชนซึ่งประสบอุทกภัยในอัตรา 10,000 บาทต่อหลัง ซึ่งหลังจากนี้ก็ขอให้ ปภ. ร่วมกันจังหวัด เร่งสำรวจและจ่ายเงินช่วยเหลือให้ผู้ประสบอุทกภัยโดยเร็วที่สุด" นายอนุทิน กล่าวนายอนุทิน กล่าวว่า ในส่วนการเยียวยาฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้หลักการไว้ว่าให้ผู้เดือนร้อนได้รับการช่วยเหลือในเกณฑ์สูงสุด เช่นเงินช่วยเหลือที่ปรับเป็นอัตราเดียว 9,000 บาทต่อครัวเรือน คณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ได้เห็นชอบแล้ว หลังจากนี้ก็ขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในฐานะตัวแทนของรัฐบาลที่ได้ทำงานอย่างเข้มแข็งในพื้นที่ อำนวยความสะดวกและให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ซึ่งจากการที่ตนได้ลงพื้นที่ให้เห็นถึงความตั้งใจของทุกหน่วยงาน เป็นที่น่าประทับใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ความยากลำบากยากเย็นของประชาชนมีรอยยิ้มมีกำลังใจ การแสดงผลักดันให้กับเจ้าหน้าที่ของเราทุกคน"ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ได้ช่วยกันดูแลประชาชน เพราะแม้ทุกท่
อ่านต่อ >4
#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
อุบัติเหตุรถตู้ชนรถจักรยานยนต์บนสะพานข้ามแยกถนนเทพรักษ์ แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพฯ เป็นเหตุการณ์ที่ได้รับความสนใจจากสังคมพอสมควร เพราะผู้ขับขี่ คือ นายศิริศักดิ์ นันทเสน หรือ ติ๊ก ชิโร่ นักร้องชื่อดังวัย 63 ปีเป็นผู้ขับ ซึ่งหลังเกิดเหตุ ติ๊ก ชีโร่ ยืนรอมอบตัวในที่เกิดเหตุ พร้อมแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสีย ในส่วนของรูปคดีคงต้องรอตำรวจสรุปอีกครั้ง หลังการตรวจสอบพยานหลักฐานในจุดเกิดเหตุ กล้องหน้ารถ รวมถึงรอผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายของนักน้องชื่อดังว่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ แต่สิ่งที่สังควรน่าจะได้เรียนรู้จากเหตุการณ์นี้คือความเสี่ยงของการใช้รถ ใช้ถนนในยามค่ำคืน โดยเฉพาะจุดเสี่ยงเช่นสะพานข้ามแยก หรือ ทางด่วน จากข้อมูลของนพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน ระบุว่าอุบัติเหตุทางถนนบนสะพานข้ามแยก หรือ บนทางด่วนกว่า 2 ใน 3 มักจะเกิดในช่วงเวลากลางคืน โดยมีปัจจัยอย่างน้อย 3 เรื่องคือ 1.ในช่วงกลางคืนผู้ขับขี่มักจะขับรถด้วยความเร็วมากกว่าในช่วงกลางวัน เพราะผู้ใช้รถมีจำนวนน้อยกว่า ถนนโล่งกว่า 2.เรื่องของทัศนวิสัย จุดอับ ซึ่งเวลากลางคืนมีแสงน้อยกว่าช่วงเวลากลางวัน ซึ่งอาจเป็นเรื่องของไฟส่องสว่าง หรือ บางจุดมีเงาจากตัวอาคาร หรือ สิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ทับลงมาทำให้มองเห็นได้ไม่ชัดเจน 3.ลักษณะทางกายภาพของสะพาน ทั้งสะพานข้ามแยก จุดกลับรถ หรือ ทางด่วน ซึ่งจังหวะเข้าโค้ง หรือ ขึ้นเนินเป็นจุดที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุหากขับมาด้วยความเร็ว เพราะอาจหักเลี้ยวไม่ทัน หรือ หากเกิดอุบัติเหตุก็อาจทำให้กระเด็นตกจากที่สูงได้ เพราะแบริเออร์กั้นขอบสะพานมีความสูงไม่มากนัก ไม่เพียงพอที่จะกั้นไม่ให้ผู้ประสบอุบัติเหตุตกลงจากที่สูง ส่วนกรณีอุบัติเหตุของ "นักร้องชื่อดัง" จากการตรวจสอบภาพถ่ายจากจุดเกิดเหตุ ประกอบกับการตรวจสอบลักษณะทางกายภาพของถนนในจุดดังกล่าวผ่าน Google Earth พบว่าสะพานข้ามแยกถนนเทพรักษ์เป็นถนน 2 ช่องทาง ซึ่งไหล่ทางมีความแคบ ทำให้การจอดรถบริเวณเนินทางขึ้นสะพานจะมีความเสี่ยงมากกว่าปกติ หากรถยนต์ที่ขับตามหลังมาขับมาด้วยความเร็วสูง อาจไม่ทันสังเกตเห็นรถที่จอดอยู่บนทางขึ้นสะพาน เพราะเนินขึ้นมักเป็นจุดอับสายตาของผู้ขับขี่ หรือ หากสังเกตเห็นด้วยความเร็วก็อาจจะตัดสินใจ หรือ แก้ปัญหาด้วยการหักเลี้ยว หรือ เบรกรถไม่ทัน สำหรับแนวทางแก้
อ่านต่อ >#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุถึงการ สถานการณ์น้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ว่า ขณะนี้ระดับน้ำลดลงจากเมื่อวานนี้ หลังจากที่การระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาได้ปรับลดอัตราลง 50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สถานการณ์แนวโน้มดีขึ้น หากในช่วงนี้จนถึงปลายตุลาคมไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติม สถานการณ์ภาพรวมน้ำก็ไม่น่ากังวล แต่เพื่อความไม่ประมาททางกรุงเทพมหานครก็ได้มีการเตรียมพร้อมทั้งการเสริมแนวคันกั้นน้ำ ในจุดฟันหลอริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยได้มีการกระจายกระสอบทราย 600,000 ใบ ในชุมชนเปราะบางที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ / รวมถึงการเตรียมอุปกรณ์เครื่องสูบน้ำตามจุดต่างๆ ขณะเดียวกันก็ต้องเฝ้าระวังในช่วงน้ำทะเลหนุนประมาณวันที่ 20 ตุลาคมนี้ แต่หากในช่วงเวลานั้นไม่มีน้ำเหนือมามาก สถานการณ์ก็ไม่น่ากังวลในส่วนการระบายน้ำนั้น พื้นที่กรุงเทพมหานครมีท่อระบายน้ำกว่า 6,000 กิโลเมตร ที่ผ่านมา ก็ได้มีการตรวจสอบ และ ขุดลอกท่อ ต่อเนื่อง โดยทำไปแล้วกว่า 4,900 กิโลเมตร รวมถึงการขุดลอกคูคลอง กำจัดสิ่งกีดขวาง ในคลองใหญ่ ทำไปแล้ว 200 กิโลเมตร รวมถึงเปิดทางน้ำไปแล้วกว่า 2,000 กิโลเมตร เพื่อที่จะผลักดันน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ออกให้ได้โดยเร็ว ทั้งนี้พื้นที่กรุงเทพมหานคร มีอุโมงค์ระบายน้ำ เพียง 19 กิโลเมตร ถึงแม้ อุโมงค์จะใหญ่แต่ก็ไม่ได้ครอบคลุมการระบายน้ำทั้งหมด ซึ่งต้องมีการบริหารจัดการในหลายส่วนเข้าด้วยกัน
อ่านต่อ >9
#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
ล่าสุด องค์การอวกาศยุโรป หรือ ESA วางแผนกลับไปยังดาวเคราะห์น้อยนี้อีกครั้ง ผ่านภารกิจที่ชื่อว่า “เฮรา” เพื่อมุ่งสำรวจผลกระทบที่เกิดขึ้น หลังการพุ่งชนดาวไดมอร์ฟอสของยานอวกาศ DART อย่างละเอียด และอาจทำให้พวกเขาค้นพบเทคนิคใหม่ ๆ ที่จะป้องกันให้โลก ไม่สูญสลาย เพราะถูกดาวเคราะห์น้อยพุ่งชน ---ESA ปล่อยยาน “เฮรา” สานต่อภารกิจ DART--- ยานอวกาศ “เฮรา” ออกเดินทางไปพร้อมกับจรวด Space X Falcon 9 เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม เวลา 10.52 น. ตามเวลาสหรัฐฯ เพื่อตรวจสอบผลของการทดสอบเปลี่ยนวงโคจรของดาวเคราะห์ไดมอร์ฟอส และยังเป็นภารกิจสำรวจระบบดาวเคราะห์คู่ครั้งแรกของโลก ทั้งนี้ ดาวไดมอร์ฟอส เป็นบริวารของดาวเคราะห์น้อยชื่อว่า “ดีดิมอส” ซึ่งก่อนที่ยานอวกาศ DART จะพุ่งชน ไดมอร์ฟอสโคจรรอบดาวดวงนี้เป็นเวลาราว 11 ชั่วโมง 55 นาทีต่อหนึ่งรอบ แต่เมื่อเกิดการชนแล้ว ระยะการโคจรของไดมอร์ฟอสที่มีต่อดีดิมอสสั้นลงเป็นเวลารวม 32 นาที โดยภารกิจ “เฮรา” จะรวบรวมรายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ ของโครงสร้างภายใน และคุณสมบัติพื้นผิวของดาวเคราะห์ไดมอร์ฟอส หลังการพุ่งชน ด้วยการใช้อุปกรณ์ขั้นสูง เช่น เรดาร์, กล้องถ่ายภาพความร้อน และเทคโนโลยีภาพถ่ายมัลติสเปกตรัมเป็นครั้งแรก พร้อมด้วยดาวเทียม CubeSat จำนวน 2 ลำ และคาดว่าจะเดินทางถึงดาวเคราะห์น้อยดีดิมอส และดาวไดมอร์ฟอส ภายในเดือนตุลาคม ปี 2026“สิ่งนี้เป็นข้อมูลพื้นฐานที่จะช่วยเสริมข้อมูลที่ได้จากยานอวกาศ DART เพื่อให้สามารถใช้เทคนิคนี้กับดาวเคราะห์น้อยดวงอื่นในอนาคตได้” เอียน คาร์เนลลี ผู้จัดการโครงการ “เฮรา” แห่ง ESA กล่าว ---ภารกิจปกป้องภัยอันตรายนอกโลก--- ท่ามกลางดวงดาวหลายล้านล้านดวง ดาวเคราะห์น้อยที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 100 เมตรขึ้นไป เป็นสิ่งที่นักดาราศาสตร์ต้องกังวล เพราะมีดาวเคราะห์น้อยขนาด 100-300 เมตร ประมาณ 30,000 ดวง อยู่ใกล้โลก และในจำนวนนั้น 82% ยังไม่ถูกค้นพบ แต่ก็มีความเสี่ยงพุ่งชนโลกทุก ๆ 10,000 ปี ซึ่งหากพุ่งชนโลกจะส่งพลังงานเทียบเท่าระเบิด TNT ขนาด 50 เมกะตัน ภารกิจ “เฮรา” ซึ่งตั้งชื่อตามเทพีแห่งการแต่งงาน ตามตำนานเทพนิยายกรีก จึงเป็นโครงการของ ESA ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่างประเทศกับนาซา ในการพยายามปกป้องโลก จากดาวเคราะห์น้อย ที่อาจสร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินในระดับมหาศาล ข้อมูลต่าง ๆ ที่ภารกิจ “เฮรา” จะได้มา บรรดาผู้เชี่ยวชาญห
อ่านต่อ >12
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันนี้ (10 ต.ค. 67) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2567 โดยมี นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขตดุสิต กทม.นายอนุทิน ได้กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือในห้วงที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลได้บูรณาการระดมทุกองคาพยพลงไปจัดการกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งได้รับทราบว่ามีการพัฒนาเป็นไปในทางที่ดีตามลำดับ แต่ก็ไม่ประมาทยังต้องเฝ้าระวังเนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงท้ายฤดูฝน และการดำเนินการที่สำคัญที่ต้องทำต่อไปในพื้นที่จังหวัดเชียงราย คือการกำจัดดินโคลนที่ค้างอยู่ในบ้านเรือนของพี่น้องประชาชน โดยจากการที่ตนและคณะได้ไปลงพื้นที่เห็นว่าเป็นเรื่องที่หนักอยู่"ขอขอบคุณ ปภ. ที่ได้เร่งหารือกับกรมบัญชีกลาง ในกรณีการรับเงินชดเชยเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการขนย้ายดินโคลนออกจากบ้านเรือนที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปให้การช่วยเหลือได้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประกาศเขตให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน โดยใช้เงินทดรองราชการจ่ายเป็นค่าช่วยล้างดินโคลน ในที่อยู่อาศัยประชาชนซึ่งประสบอุทกภัยในอัตรา 10,000 บาทต่อหลัง ซึ่งหลังจากนี้ก็ขอให้ ปภ. ร่วมกันจังหวัด เร่งสำรวจและจ่ายเงินช่วยเหลือให้ผู้ประสบอุทกภัยโดยเร็วที่สุด" นายอนุทิน กล่าวนายอนุทิน กล่าวว่า ในส่วนการเยียวยาฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้หลักการไว้ว่าให้ผู้เดือนร้อนได้รับการช่วยเหลือในเกณฑ์สูงสุด เช่นเงินช่วยเหลือที่ปรับเป็นอัตราเดียว 9,000 บาทต่อครัวเรือน คณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ได้เห็นชอบแล้ว หลังจากนี้ก็ขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในฐานะตัวแทนของรัฐบาลที่ได้ทำงานอย่างเข้มแข็งในพื้นที่ อำนวยความสะดวกและให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ซึ่งจากการที่ตนได้ลงพื้นที่ให้เห็นถึงความตั้งใจของทุกหน่วยงาน เป็นที่น่าประทับใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ความยากลำบากยากเย็นของประชาชนมีรอยยิ้มมีกำลังใจ การแสดงผลักดันให้กับเจ้าหน้าที่ของเราทุกคน"ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ได้ช่วยกันดูแลประชาชน เพราะแม้ทุกท่
อ่านต่อ >4