
#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
เปิดเบื้องหลังโครงสร้างธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่แฝงทุนจีน ผ่านระบบนอมินี เสนอรัฐยกระดับกฎหมาย–กำกับวิศวกร–ตรวจสอบต่างด้าว หลังเหตุการณ์ตึกถล่ม สตง.ยอดภูเขาน้ำแข็งชื่อไชน่าเรลเวย์: เบื้องหลังทุนจีนกับบริษัท ‘ไทย’ ที่ไม่ใช่ไทยเมื่อรัฐจดแต่ไม่จำ: นอมินีทุนจีน–วิศวกรผี–กฎหมายที่เปิดช่อง ? เหตุการณ์ตึกถล่ม กับคำถามที่ใหญ่กว่าความเสียหายทางกายภาพเหตุการณ์อาคารสำนักงานของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่มเมื่อไม่นานนี้ ได้กลายเป็นจุดตั้งต้นของการตั้งคำถามครั้งใหญ่ต่อระบบที่อยู่เบื้องหลังการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับทุนต่างชาติและการจดทะเบียนบริษัทผ่านโครงสร้างที่เรียกกันว่า “นอมินี” หรือผู้ถือหุ้นตัวแทนแม้ยังไม่มีข้อสรุปว่าปัจจัยใดเป็นสาเหตุโดยตรงของการถล่มในครั้งนี้ แต่ข้อมูลที่เปิดเผยในสภาผู้แทนราษฎรโดยกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจ ได้ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มเชิงโครงสร้างที่ควรได้รับการตรวจสอบและกำกับดูแลอย่างจริงจัง “ไชน่าเรลเวย์” และภาพกว้างของบริษัทถือหุ้นลักษณะพิเศษนายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล ประธานกรรมาธิการฯ ระบุว่า บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 ซึ่งมีชื่อปรากฏในโครงการก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับตึก สตง. ไม่ได้เป็นกรณีโดดเดี่ยว หากแต่สะท้อนแนวโน้มที่กว้างกว่านั้นข้อมูลจากฐานทะเบียนธุรกิจชี้ว่า ตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีการร่วมทุนกับบริษัทจากจีนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยในช่วงปีล่าสุด มีมากกว่า 300 บริษัท ขณะที่ในอดีตเฉลี่ยอยู่ที่ 40–50 บริษัทต่อปี รวมแล้วกว่า 500–600 บริษัทในช่วงเวลา 5 ปี โดยทั้งหมดมีรูปแบบผู้ถือหุ้นที่คล้ายกัน คือ คนไทยถือหุ้นในสัดส่วนที่มากกว่า แต่ไม่สามารถระบุบทบาทการบริหารจัดการได้ชัดเจน ขณะที่อีกส่วนหนึ่งถือครองโดยนิติบุคคลต่างชาติระบบจดทะเบียนกับคำถามเรื่องการกำกับตรวจสอบประเด็นที่กรรมาธิการฯ ตั้งข้อสังเกตคือ การที่หน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะกรมพัฒนาธุรกิจการค้า อาจยังไม่มีเครื่องมือหรือมาตรการเพียงพอในการตรวจสอบโครงสร้างผู้ถือหุ้นและบทบาทที่แท้จริงของผู้เกี่ยวข้องกับบริษัทต่างๆ เหล่านี้กระบวนการจดทะเบียนอาจเป็นไปตามกฎหมายที่มีอยู่ แต่คำถามที่สังคมกำลังตั้งคือ ในกรณีที่พบรูปแบบการถือหุ้นลักษณะเดิมซ้ำๆ หลายร้อยบริษัท จะสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อพิจารณาแนวโน้มความผิดปกต
อ่านต่อ >6

#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
ช็อก “ปุยฝ้าย ดาวติ๊กต็อก” ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต“ปุยฝ้าย” อินฟลูเอนเซอร์สายกิน เจ้าของช่อง TikTok "sawasmr" ที่มีผู้ติดตามกว่า 1.2 ล้านคน และ YouTube "SawTube" ที่มีผู้ติดตามกว่า 215,000 คน ประสบอุบัติเหตุจักรยานยนต์เสียชีวิต บริเวณถนนศรีนครินทร์ ก่อนลงอุโมงค์ศรีอุดม มุ่งหน้าซีคอนสแควร์ ภาพจาก TikTok : sawasmrจากการสอบถามพยานในที่เกิดเหตุ ระบุว่า ปุยฝ้ายขี่รถจักรยานยนต์ Honda Click สีดำ และ ได้เหยียบถังพลาสติกที่ตกอยู่กลางถนน ทำให้รถเสียหลักล้ม ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าช่วยเหลือและปั๊มหัวใจ (CPR) อย่างเร่งด่วนภาพจาก TikTok : sawasmr อย่างไรก็ตาม เวลาประมาณ 20.30 น. โรงพยาบาลได้ยืนยันการเสียชีวิตของเธออย่างเป็นทางการ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเสียใจแก่ครอบครัว แฟนคลับ และผู้ติดตามในโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก เพื่อนร่วมวงการ สงสัยอาจเป็นอุบัติเหตุเฉี่ยวชนขณะที่ kinnkann65 เพื่อนร่วมวงการอินฟลูฯ สายรีวิวอาหาร ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ฝากทุกคน ช่วยแชร์หน่อยนะ ตอนนี้ หาคู่กรณี ที่ทำถังหล่น แล้ว รถที่ตามมา ที่มีกล้อง ในวันที่เกิดเหตุ 20 เมษา ผู้เสียชีวิตเสียชีวิตที่ รพ ตอน 20.30อยากเรียกร้องสิทธิให้พี่ฝ้ายเป็นครั้งสุดท้าย จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาจจะไม่ได้ล้มเอง เนื่องจากผลชันสูตรออกมาแล้วขัดแย้งกับเหตุที่เกิดขึ้น อาจจะมีการเฉี่ยวชนเกิดขึ้น จึงอยากขอความเห็นใจ ขอความอนุเคราะห์ จากผู้ที่ผ่านเส้นทางนี้ ถนนศรีนครินทร์ ทางลงอุโมงค์ทางลอด มุ่งหน้าไปซีคอนสแควร์ ช่วงเวลา 18:10-18:30ตามหาผู้เห็นเหตุการณ์ ขอความกรุณา หากใครพบเห็นเหตุ หรือหากมีกล้องหน้ารถ อยากจะขอรบกวนด้วยค่ะ มันสำคัญต่อรูปคดีมากๆเลย ทางญาติกำลัง รวบร่วมเก็บข้อมูล และกล้องจากที่อื่นๆอยู่ค่ะ เพื่อความชัดเจน ในด้านอื่นๆ อยากขอความเห็นใจจากทุกท่านด้วยค่ะ
อ่านต่อ >60

#ข่าวเศรษฐกิจ #TNN ช่อง16
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WEO) โดยคาดว่า เศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัว 2.8% และ 3.0% ในปี 2568 และ 2569 ตามลำดับ จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือน ม.ค.ที่ระดับ 3.3% สำหรับปี 2568 และ 2569 โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของสหรัฐ ตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจที่ระดับ 2.8% และ 3.0% ในปี 2568 และ 2569 ถือว่าต่ำกว่าอย่างมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยรอบ 20 ปีระหว่างปี 2543-2562 ที่ระดับ 3.7% นอกจากนี้ IMF เตือนว่าความไม่แน่นอนของมาตรการเรียกเก็บภาษีดังกล่าวจะส่งผลกระทบทางลบต่อแนวโน้มและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ IMF คาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัว 1.8% ในปี 2568 จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 2.7% ขณะที่ IMF ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของยูโรโซนสู่ระดับ 0.8% ในปีนี้ จากเดิมที่ระดับ 1.0%ขณะเดียวกัน IMF คาดว่าเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วจะมีการขยายตัว 1.4% ในปี 2568 ขณะที่เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเกิดใหม่และกำลังพัฒนาจะชะลอตัวสู่ระดับ 3.7%
อ่านต่อ >12

#ข่าวเศรษฐกิจ #TNN ช่อง16
กบน. เคาะลดเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมัน 0.40 บาทต่อลิตร ตรึงราคาน้ำมัน - ช่วยลดภาระค่าครองชีพวันนี้ ( 24 เม.ย. 68 )นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติเห็นชอบให้ ลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ลง 0.40 บาทต่อลิตร สำหรับน้ำมันแก๊สโซฮอล 91, แก๊สโซฮอล 95, E20, น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา, B20 และดีเซลพรีเมียม เพื่อ รักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันในประเทศ และบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชน การลดเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงครั้งนี้ จะทำให้รายรับจากกลุ่มน้ำมันของกองทุนลดลงประมาณ 40.49 ล้านบาทต่อวัน จากเดิมวันละ 366.57 ล้านบาท เหลือประมาณ 326.08 ล้านบาทต่อวัน โดยปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 20 เม.ย. 2568) ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงติดลบรวม 52,513 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมันติดลบ 7,020 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 45,493 ล้านบาทนายพรชัยกล่าวว่า การตัดสินใจครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ ลดผลกระทบด้านราคาน้ำมันต่อประชาชนในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว และเป็นหนึ่งในมาตรการหลักในการดูแลความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ
อ่านต่อ >13

#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
เปิดเบื้องหลังโครงสร้างธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่แฝงทุนจีน ผ่านระบบนอมินี เสนอรัฐยกระดับกฎหมาย–กำกับวิศวกร–ตรวจสอบต่างด้าว หลังเหตุการณ์ตึกถล่ม สตง.ยอดภูเขาน้ำแข็งชื่อไชน่าเรลเวย์: เบื้องหลังทุนจีนกับบริษัท ‘ไทย’ ที่ไม่ใช่ไทยเมื่อรัฐจดแต่ไม่จำ: นอมินีทุนจีน–วิศวกรผี–กฎหมายที่เปิดช่อง ? เหตุการณ์ตึกถล่ม กับคำถามที่ใหญ่กว่าความเสียหายทางกายภาพเหตุการณ์อาคารสำนักงานของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่มเมื่อไม่นานนี้ ได้กลายเป็นจุดตั้งต้นของการตั้งคำถามครั้งใหญ่ต่อระบบที่อยู่เบื้องหลังการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับทุนต่างชาติและการจดทะเบียนบริษัทผ่านโครงสร้างที่เรียกกันว่า “นอมินี” หรือผู้ถือหุ้นตัวแทนแม้ยังไม่มีข้อสรุปว่าปัจจัยใดเป็นสาเหตุโดยตรงของการถล่มในครั้งนี้ แต่ข้อมูลที่เปิดเผยในสภาผู้แทนราษฎรโดยกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจ ได้ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มเชิงโครงสร้างที่ควรได้รับการตรวจสอบและกำกับดูแลอย่างจริงจัง “ไชน่าเรลเวย์” และภาพกว้างของบริษัทถือหุ้นลักษณะพิเศษนายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล ประธานกรรมาธิการฯ ระบุว่า บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 ซึ่งมีชื่อปรากฏในโครงการก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับตึก สตง. ไม่ได้เป็นกรณีโดดเดี่ยว หากแต่สะท้อนแนวโน้มที่กว้างกว่านั้นข้อมูลจากฐานทะเบียนธุรกิจชี้ว่า ตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีการร่วมทุนกับบริษัทจากจีนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยในช่วงปีล่าสุด มีมากกว่า 300 บริษัท ขณะที่ในอดีตเฉลี่ยอยู่ที่ 40–50 บริษัทต่อปี รวมแล้วกว่า 500–600 บริษัทในช่วงเวลา 5 ปี โดยทั้งหมดมีรูปแบบผู้ถือหุ้นที่คล้ายกัน คือ คนไทยถือหุ้นในสัดส่วนที่มากกว่า แต่ไม่สามารถระบุบทบาทการบริหารจัดการได้ชัดเจน ขณะที่อีกส่วนหนึ่งถือครองโดยนิติบุคคลต่างชาติระบบจดทะเบียนกับคำถามเรื่องการกำกับตรวจสอบประเด็นที่กรรมาธิการฯ ตั้งข้อสังเกตคือ การที่หน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะกรมพัฒนาธุรกิจการค้า อาจยังไม่มีเครื่องมือหรือมาตรการเพียงพอในการตรวจสอบโครงสร้างผู้ถือหุ้นและบทบาทที่แท้จริงของผู้เกี่ยวข้องกับบริษัทต่างๆ เหล่านี้กระบวนการจดทะเบียนอาจเป็นไปตามกฎหมายที่มีอยู่ แต่คำถามที่สังคมกำลังตั้งคือ ในกรณีที่พบรูปแบบการถือหุ้นลักษณะเดิมซ้ำๆ หลายร้อยบริษัท จะสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อพิจารณาแนวโน้มความผิดปกต
อ่านต่อ >6

#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
ช็อก “ปุยฝ้าย ดาวติ๊กต็อก” ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต“ปุยฝ้าย” อินฟลูเอนเซอร์สายกิน เจ้าของช่อง TikTok "sawasmr" ที่มีผู้ติดตามกว่า 1.2 ล้านคน และ YouTube "SawTube" ที่มีผู้ติดตามกว่า 215,000 คน ประสบอุบัติเหตุจักรยานยนต์เสียชีวิต บริเวณถนนศรีนครินทร์ ก่อนลงอุโมงค์ศรีอุดม มุ่งหน้าซีคอนสแควร์ ภาพจาก TikTok : sawasmrจากการสอบถามพยานในที่เกิดเหตุ ระบุว่า ปุยฝ้ายขี่รถจักรยานยนต์ Honda Click สีดำ และ ได้เหยียบถังพลาสติกที่ตกอยู่กลางถนน ทำให้รถเสียหลักล้ม ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าช่วยเหลือและปั๊มหัวใจ (CPR) อย่างเร่งด่วนภาพจาก TikTok : sawasmr อย่างไรก็ตาม เวลาประมาณ 20.30 น. โรงพยาบาลได้ยืนยันการเสียชีวิตของเธออย่างเป็นทางการ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเสียใจแก่ครอบครัว แฟนคลับ และผู้ติดตามในโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก เพื่อนร่วมวงการ สงสัยอาจเป็นอุบัติเหตุเฉี่ยวชนขณะที่ kinnkann65 เพื่อนร่วมวงการอินฟลูฯ สายรีวิวอาหาร ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ฝากทุกคน ช่วยแชร์หน่อยนะ ตอนนี้ หาคู่กรณี ที่ทำถังหล่น แล้ว รถที่ตามมา ที่มีกล้อง ในวันที่เกิดเหตุ 20 เมษา ผู้เสียชีวิตเสียชีวิตที่ รพ ตอน 20.30อยากเรียกร้องสิทธิให้พี่ฝ้ายเป็นครั้งสุดท้าย จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาจจะไม่ได้ล้มเอง เนื่องจากผลชันสูตรออกมาแล้วขัดแย้งกับเหตุที่เกิดขึ้น อาจจะมีการเฉี่ยวชนเกิดขึ้น จึงอยากขอความเห็นใจ ขอความอนุเคราะห์ จากผู้ที่ผ่านเส้นทางนี้ ถนนศรีนครินทร์ ทางลงอุโมงค์ทางลอด มุ่งหน้าไปซีคอนสแควร์ ช่วงเวลา 18:10-18:30ตามหาผู้เห็นเหตุการณ์ ขอความกรุณา หากใครพบเห็นเหตุ หรือหากมีกล้องหน้ารถ อยากจะขอรบกวนด้วยค่ะ มันสำคัญต่อรูปคดีมากๆเลย ทางญาติกำลัง รวบร่วมเก็บข้อมูล และกล้องจากที่อื่นๆอยู่ค่ะ เพื่อความชัดเจน ในด้านอื่นๆ อยากขอความเห็นใจจากทุกท่านด้วยค่ะ
อ่านต่อ >60

#ข่าวเศรษฐกิจ #TNN ช่อง16
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WEO) โดยคาดว่า เศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัว 2.8% และ 3.0% ในปี 2568 และ 2569 ตามลำดับ จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือน ม.ค.ที่ระดับ 3.3% สำหรับปี 2568 และ 2569 โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของสหรัฐ ตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจที่ระดับ 2.8% และ 3.0% ในปี 2568 และ 2569 ถือว่าต่ำกว่าอย่างมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยรอบ 20 ปีระหว่างปี 2543-2562 ที่ระดับ 3.7% นอกจากนี้ IMF เตือนว่าความไม่แน่นอนของมาตรการเรียกเก็บภาษีดังกล่าวจะส่งผลกระทบทางลบต่อแนวโน้มและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ IMF คาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัว 1.8% ในปี 2568 จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 2.7% ขณะที่ IMF ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของยูโรโซนสู่ระดับ 0.8% ในปีนี้ จากเดิมที่ระดับ 1.0%ขณะเดียวกัน IMF คาดว่าเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วจะมีการขยายตัว 1.4% ในปี 2568 ขณะที่เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเกิดใหม่และกำลังพัฒนาจะชะลอตัวสู่ระดับ 3.7%
อ่านต่อ >12

#ข่าวเศรษฐกิจ #TNN ช่อง16
กบน. เคาะลดเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมัน 0.40 บาทต่อลิตร ตรึงราคาน้ำมัน - ช่วยลดภาระค่าครองชีพวันนี้ ( 24 เม.ย. 68 )นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติเห็นชอบให้ ลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ลง 0.40 บาทต่อลิตร สำหรับน้ำมันแก๊สโซฮอล 91, แก๊สโซฮอล 95, E20, น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา, B20 และดีเซลพรีเมียม เพื่อ รักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันในประเทศ และบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชน การลดเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงครั้งนี้ จะทำให้รายรับจากกลุ่มน้ำมันของกองทุนลดลงประมาณ 40.49 ล้านบาทต่อวัน จากเดิมวันละ 366.57 ล้านบาท เหลือประมาณ 326.08 ล้านบาทต่อวัน โดยปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 20 เม.ย. 2568) ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงติดลบรวม 52,513 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมันติดลบ 7,020 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 45,493 ล้านบาทนายพรชัยกล่าวว่า การตัดสินใจครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ ลดผลกระทบด้านราคาน้ำมันต่อประชาชนในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว และเป็นหนึ่งในมาตรการหลักในการดูแลความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ
อ่านต่อ >13

#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
เปิดเบื้องหลังโครงสร้างธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่แฝงทุนจีน ผ่านระบบนอมินี เสนอรัฐยกระดับกฎหมาย–กำกับวิศวกร–ตรวจสอบต่างด้าว หลังเหตุการณ์ตึกถล่ม สตง.ยอดภูเขาน้ำแข็งชื่อไชน่าเรลเวย์: เบื้องหลังทุนจีนกับบริษัท ‘ไทย’ ที่ไม่ใช่ไทยเมื่อรัฐจดแต่ไม่จำ: นอมินีทุนจีน–วิศวกรผี–กฎหมายที่เปิดช่อง ? เหตุการณ์ตึกถล่ม กับคำถามที่ใหญ่กว่าความเสียหายทางกายภาพเหตุการณ์อาคารสำนักงานของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่มเมื่อไม่นานนี้ ได้กลายเป็นจุดตั้งต้นของการตั้งคำถามครั้งใหญ่ต่อระบบที่อยู่เบื้องหลังการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับทุนต่างชาติและการจดทะเบียนบริษัทผ่านโครงสร้างที่เรียกกันว่า “นอมินี” หรือผู้ถือหุ้นตัวแทนแม้ยังไม่มีข้อสรุปว่าปัจจัยใดเป็นสาเหตุโดยตรงของการถล่มในครั้งนี้ แต่ข้อมูลที่เปิดเผยในสภาผู้แทนราษฎรโดยกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจ ได้ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มเชิงโครงสร้างที่ควรได้รับการตรวจสอบและกำกับดูแลอย่างจริงจัง “ไชน่าเรลเวย์” และภาพกว้างของบริษัทถือหุ้นลักษณะพิเศษนายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล ประธานกรรมาธิการฯ ระบุว่า บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 ซึ่งมีชื่อปรากฏในโครงการก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับตึก สตง. ไม่ได้เป็นกรณีโดดเดี่ยว หากแต่สะท้อนแนวโน้มที่กว้างกว่านั้นข้อมูลจากฐานทะเบียนธุรกิจชี้ว่า ตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีการร่วมทุนกับบริษัทจากจีนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยในช่วงปีล่าสุด มีมากกว่า 300 บริษัท ขณะที่ในอดีตเฉลี่ยอยู่ที่ 40–50 บริษัทต่อปี รวมแล้วกว่า 500–600 บริษัทในช่วงเวลา 5 ปี โดยทั้งหมดมีรูปแบบผู้ถือหุ้นที่คล้ายกัน คือ คนไทยถือหุ้นในสัดส่วนที่มากกว่า แต่ไม่สามารถระบุบทบาทการบริหารจัดการได้ชัดเจน ขณะที่อีกส่วนหนึ่งถือครองโดยนิติบุคคลต่างชาติระบบจดทะเบียนกับคำถามเรื่องการกำกับตรวจสอบประเด็นที่กรรมาธิการฯ ตั้งข้อสังเกตคือ การที่หน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะกรมพัฒนาธุรกิจการค้า อาจยังไม่มีเครื่องมือหรือมาตรการเพียงพอในการตรวจสอบโครงสร้างผู้ถือหุ้นและบทบาทที่แท้จริงของผู้เกี่ยวข้องกับบริษัทต่างๆ เหล่านี้กระบวนการจดทะเบียนอาจเป็นไปตามกฎหมายที่มีอยู่ แต่คำถามที่สังคมกำลังตั้งคือ ในกรณีที่พบรูปแบบการถือหุ้นลักษณะเดิมซ้ำๆ หลายร้อยบริษัท จะสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อพิจารณาแนวโน้มความผิดปกต
อ่านต่อ >6