
#ข่าวการเงิน การลงทุน #ทันหุ้น
#ทันหุ้น-PTT Station ปรับราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดลดลง 0.30 บาทต่อลิตร เว้นพรีเมี่ยม GSH95 และกลุ่มดีเซลทุกชนิดคงเดิม มีผล 3 ต.ค. 2566 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป โดยราคาขายปลีกจะเป็นดังนี้
ULG = 46.94, GSH95 = 39.15, E20 = 36.84, GSH91 = 38.88, E85 = 36.49, พรีเมี่ยม GSH95 = 44.94, HSD-B7 = 29.94, HSD-B10 = 29.94, พรีเมี่ยมดีเซล B7 = 40.24 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร
ด้านบางจากฯ ลดราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดลง 30 สตางค์ ยกเว้น Hi Premium 97 (GSH95++) และกลุ่มดีเซลราคาคงเดิม
BCP Retail Price : GSH95S EVO 39.15/ GSH91S EVO 38.88/ GSH E20S EVO 36.84 / GSH E85S EVO 36.49 / Hi Premium 97 (GSH95++) 49.34 / Hi Diesel B20S 29.94/ Hi Diesel S 29.94 / Hi Diesel S B7 29.94 / Hi Premium Diesel S B7 42.34 (ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องที่กทม.)
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
อ่านต่อ >13

#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
เกิดเหตุด่วน! ยิงสนั่นกลางห้างดัง ย่านปทุมวัน ปชช.แตกตื่นวิ่งหนีอลหม่าน ล่าสุดจับผู้ก่อเหตุได้แล้ว มีคนเจ็บ-เสียชีวิตเกิดเหตุแตกตื่นกลางห้างสรรพสินค้าชื่อดังกลางเมืองกรุง หลังมีเสียงดังคล้ายปืนหลายนัด บริเวณชั้น M ทำให้ผู้คนภายในห้างต่างวิ่งหนีออกจากห้างกันอลหม่านเจ้าหน้าที่ สน.ปทุมวัน เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเบื้องต้นว่ามีเหตุยิงกันในห้างเมื่อเวลาประมาณ 16.20 น. จึงได้ส่งกำลังส่วนหนึ่งเข้าไประงับเหตุ ขณะนี้รอรับรายงานอยู่ขณะที่ พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 กล่าวว่า เหตุการณ์ยิงในห้างย่านปทุมวัน เป็นเรื่องจริง ตำรวจ สน.ปทุมวัน อยู่ระหว่างการอพยพประชาชนที่อยู่ภายในที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงออกจากห้างฯ และ ร้านค้าภายในศูนย์การค้าได้ทยอยปิดให้บริการแล้ว ส่วนจุดที่เกิดเหตุอยู่ระหว่างการตรวจสอบให้แน่ชัด แต่เบื้องต้นผู้ก่อเหตุยังคงอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ฝากเตือนประชาชนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงและที่จะผ่านไปแถวนั้นขอให้ระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย เพราะผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืน โดยเจ้าหน้าที่กำลังเร่งคลี่คลายสถานการณ์ให้เร็วที่สุดล่าสุดมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวคนร้ายได้แล้ว พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ อยู่ระหว่างนำตัวไปสอบปากคำ เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บ และ เสียชีวิตภาพจาก TNN ช่อง 16
อ่านต่อ >91

#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
“เป็นสัญญาณดี สัปดาห์ที่ผ่านมามีฝนตกหนัก ไปเติมน้ำต้นทุนในเขื่อนหลักหลายแห่งถึง 80% แต่ยังต้องลุ้น จะมีฝนและมีพายุเข้าไทย ก่อนลมหนาวจะแผ่ลงมาปลาย ต.ค.นี้ หรือไม่”กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ประเทศไทยจะหมดฤดูฝน และเข้าฤดูหนาวอย่างเป็นทางการประมาณปลายเดือนตุลาคมนี้ ทำให้ปริมาณฝนในพื้นที่ตอนบนของประเทศนลดลง และมวลอากาศเย็นจากจีนจะแผ่ลงมาแทน แต่ในพื้นที่ตอนล่างของประเทศบริเวณภาคใต้ จะยังมีฝนตก ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นฤดูฝนของภาคใต้ โดยจะมีฝนตกชุกตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน – เดือนธันวาคม และคาดการณ์ว่าในช่วงดังกล่าว จะมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนตัวเข้าใกล้ หรือ เคลื่อนผ่านอ่าวไทยและภาคใต้โดยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตอนบนของประเทศมีฝนตกต่อเนื่องและตกหนักบางแห่ง ทั้งในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และคาดการณ์จะมีฝนต่อเนื่องตลอดสัปดาห์นี้ จากข้อมูลของ นายฐนโรจน์ วรรัฐประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการน้ำแห่งชาติ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช. ) เปิดเผยในรายการ TNN ข่าวเที่ยง ระบุว่าช่วงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ จากอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำและร่องมรสุมที่พาดผ่าน รวมถึงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งส่งผลดีและเป็นสัญญาณดีไปเติมน้ำในเขื่อนหลักได้มากถึง 80 %จากฝนที่ตกหนัก ทำให้เกิดฝนสะสมและมีน้ำหลาก ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้รับผลกระทบในลุ่มน้ำชี ลุ่มน้ำมูล ไล่ตั้งแต่เขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งมีปริมาณน้ำเกินความจุ 104% ทำให้ต้องมีการระบายน้ำออก ส่งผลกระทบในพื้นที่ท้ายเขื่อนโดยเฉพาะจุดบรรจบกับแม่น้ำชี ที่น้ำเอ่อล้นตลิ่งท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ ในพื้นที่ จังหวัดกาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร และอุบลราชธานีและพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักสุด คือ จังหวัดอุบลราชธานี เนื่องจากเป็นพื้นที่ปลายน้ำ ที่ต้องรับน้ำ ทั้งจากแม่น้ำชี และ แม่น้ำมูล ที่ไหลมารวมกันที่อำเภอวารินชำราบ ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัว แต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังฝนที่จะตกเพิ่มในสัปดาห์นี้ส่วนพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง ต้องเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งจากแม่น้ำยม แม่น้ำวัง และลุ่มน้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่วันที่ 3 – 7 ตุลาคม 2566 โดยผลกระทบที่เกิดขึ้นจะเป็นลักษณะน้ำหลาก เนื่องจากฝนตกหนักและตกสะสม ทำให้น้ำล้นตลิ่งท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ โดย 6 จังหวัดภาคเหนือ ที่จะได้รับผลกระทบตลอดสัปดาห์นี้ ได้แก่ -เชียงให
อ่านต่อ >22

#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
เรียกว่าเข้าหน้าฝนสิ่งที่หลายคนนึกถึงคงเป็นพายุที่จะพัดเข้ามา ซึ่งในแต่ละครั้งพายุที่เข้ามาในเขตประเทศไทยนั้นก็จะมีมวลความรุนแรงที่ต่างกันออกไป ไม่เพียงเท่านั้นยังมีชื่อเรียกที่ไม่ธรรมดาอีกด้วย วันนี้ทาง TNN ONLINE ไม่พลาดที่จะขอรวบรวมเอาชื่อพายุสุดแปลก แต่มีจริงตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปีปัจจุบันมาให้ได้ติดตามกัน จะแปลกขนาดไหน และมีที่มาที่ไปยังไร ต้องติดตามภาพประกอบจาก : Freepik"พายุโซนร้อนพระพิรุณ" (Prapiroon) ปี 2561 โดยชื่อมาจากเทพเจ้าแห่งฝนของประเทศไทย พายุลูกนี้ขึ้นฝั่งญี่ปุ่น ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศญี่ปุ่น โดยจะอยู่ในบริเวณทางตอนเหนือในเกาะฮอกไกโด ความเร็วลมอยู่ที่ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง "พายุไต้ฝุ่นมังคุด" (Mangkhut) ปี 2561 โดยพายุซูเปอร์ไต้ฝุ่นมังคุดเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 15 กันยายน มีความเร็วลม 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 900 กิโลเมตร ถือว่าในปีนั้นเป็นพายุที่มีความรุนแรงมากที่สุดของปี ความเร็วลมของพายุลูกนี้ขึ้นถล่มจังหวัดคากายัน บนเกาะลูซอนทางภาคเหนือของฟิลิปปินส์"พายุปาบึก" (Pabuk) ปี 2562 พายุโซนร้อนนอกฤดูกาลที่พัดเข้าในช่วงวันที่ 3 มกราคม พัดขึ้นฝั่งทางตะวันออกของทะเลไทย โดยครั้งนั้นมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางขณะนี้ 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นความรุนแรงที่ไม่ธรรมดา ส่งผลให้ในช่วงเวลานั้น มีประกาศให้ 6 อำเภอติดชายทะเล ประกอบด้วย อำเภอเมือง ท่าศาลา สิชล ขนอม ปากพนัง และ หัวไทร ต้องย้ายยังศูนย์พักพิงชั่วคราวของแต่ละอำเภอเพื่อความปลอดภัย "พายุไต้ฝุ่นฟ้าใส" (Faxai) ปี 2562 พายุลูกนี้มีความแรงลมสูงถึง 216 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พัดถล่มประเทศญี่ปุ่นทำให้การเดินทางในประเทศต้องหยุด ทางรัฐบาลญี่ปุ่นสั่งตัดไฟในบางพื้นที่ของกรุงโตเกียวเพื่อความปลอดภัย พายุไต้ฝุ่นลูกนี้สร้างความเสียหาย พร้อมทั้งยังทำให้มีประชาชนชาวญี่ปุ่นยาดเจ็บกว่า 40 คน "พายุไต้ฝุ่นไมสัก" (Maysak) ปี 2563 เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 4 กันยายน 63 พัดถล่มพื้นที่ชายฝั่งตอนใต้และตะวันออกของเกาหลีใต้ ส่งผลให้เกิดกระแสลมแรง ทำให้บ้านเรือนของประชาชนเกาหลีได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยพายุลูกนี้ทำให้เมืองปูซานและเกาะเชจูไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้กว่า 270,000 หลังคาเรือน เรียกว่าความรุนแรงของ "พายุไต้ฝุ่นไมสัก" ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ในครั้งนั้น นอกจากนั้นยังต้องงดเที่ยวบินเพื่อความปลอดภัยอีกด้ว
อ่านต่อ >51

#ข่าวการเงิน การลงทุน #ทันหุ้น
#ทันหุ้น-PTT Station ปรับราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดลดลง 0.30 บาทต่อลิตร เว้นพรีเมี่ยม GSH95 และกลุ่มดีเซลทุกชนิดคงเดิม มีผล 3 ต.ค. 2566 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป โดยราคาขายปลีกจะเป็นดังนี้
ULG = 46.94, GSH95 = 39.15, E20 = 36.84, GSH91 = 38.88, E85 = 36.49, พรีเมี่ยม GSH95 = 44.94, HSD-B7 = 29.94, HSD-B10 = 29.94, พรีเมี่ยมดีเซล B7 = 40.24 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร
ด้านบางจากฯ ลดราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดลง 30 สตางค์ ยกเว้น Hi Premium 97 (GSH95++) และกลุ่มดีเซลราคาคงเดิม
BCP Retail Price : GSH95S EVO 39.15/ GSH91S EVO 38.88/ GSH E20S EVO 36.84 / GSH E85S EVO 36.49 / Hi Premium 97 (GSH95++) 49.34 / Hi Diesel B20S 29.94/ Hi Diesel S 29.94 / Hi Diesel S B7 29.94 / Hi Premium Diesel S B7 42.34 (ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องที่กทม.)
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
อ่านต่อ >13

#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
เกิดเหตุด่วน! ยิงสนั่นกลางห้างดัง ย่านปทุมวัน ปชช.แตกตื่นวิ่งหนีอลหม่าน ล่าสุดจับผู้ก่อเหตุได้แล้ว มีคนเจ็บ-เสียชีวิตเกิดเหตุแตกตื่นกลางห้างสรรพสินค้าชื่อดังกลางเมืองกรุง หลังมีเสียงดังคล้ายปืนหลายนัด บริเวณชั้น M ทำให้ผู้คนภายในห้างต่างวิ่งหนีออกจากห้างกันอลหม่านเจ้าหน้าที่ สน.ปทุมวัน เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเบื้องต้นว่ามีเหตุยิงกันในห้างเมื่อเวลาประมาณ 16.20 น. จึงได้ส่งกำลังส่วนหนึ่งเข้าไประงับเหตุ ขณะนี้รอรับรายงานอยู่ขณะที่ พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 กล่าวว่า เหตุการณ์ยิงในห้างย่านปทุมวัน เป็นเรื่องจริง ตำรวจ สน.ปทุมวัน อยู่ระหว่างการอพยพประชาชนที่อยู่ภายในที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงออกจากห้างฯ และ ร้านค้าภายในศูนย์การค้าได้ทยอยปิดให้บริการแล้ว ส่วนจุดที่เกิดเหตุอยู่ระหว่างการตรวจสอบให้แน่ชัด แต่เบื้องต้นผู้ก่อเหตุยังคงอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ฝากเตือนประชาชนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงและที่จะผ่านไปแถวนั้นขอให้ระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย เพราะผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืน โดยเจ้าหน้าที่กำลังเร่งคลี่คลายสถานการณ์ให้เร็วที่สุดล่าสุดมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวคนร้ายได้แล้ว พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ อยู่ระหว่างนำตัวไปสอบปากคำ เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บ และ เสียชีวิตภาพจาก TNN ช่อง 16
อ่านต่อ >91

#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
“เป็นสัญญาณดี สัปดาห์ที่ผ่านมามีฝนตกหนัก ไปเติมน้ำต้นทุนในเขื่อนหลักหลายแห่งถึง 80% แต่ยังต้องลุ้น จะมีฝนและมีพายุเข้าไทย ก่อนลมหนาวจะแผ่ลงมาปลาย ต.ค.นี้ หรือไม่”กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ประเทศไทยจะหมดฤดูฝน และเข้าฤดูหนาวอย่างเป็นทางการประมาณปลายเดือนตุลาคมนี้ ทำให้ปริมาณฝนในพื้นที่ตอนบนของประเทศนลดลง และมวลอากาศเย็นจากจีนจะแผ่ลงมาแทน แต่ในพื้นที่ตอนล่างของประเทศบริเวณภาคใต้ จะยังมีฝนตก ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นฤดูฝนของภาคใต้ โดยจะมีฝนตกชุกตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน – เดือนธันวาคม และคาดการณ์ว่าในช่วงดังกล่าว จะมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนตัวเข้าใกล้ หรือ เคลื่อนผ่านอ่าวไทยและภาคใต้โดยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตอนบนของประเทศมีฝนตกต่อเนื่องและตกหนักบางแห่ง ทั้งในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และคาดการณ์จะมีฝนต่อเนื่องตลอดสัปดาห์นี้ จากข้อมูลของ นายฐนโรจน์ วรรัฐประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการน้ำแห่งชาติ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช. ) เปิดเผยในรายการ TNN ข่าวเที่ยง ระบุว่าช่วงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ จากอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำและร่องมรสุมที่พาดผ่าน รวมถึงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งส่งผลดีและเป็นสัญญาณดีไปเติมน้ำในเขื่อนหลักได้มากถึง 80 %จากฝนที่ตกหนัก ทำให้เกิดฝนสะสมและมีน้ำหลาก ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้รับผลกระทบในลุ่มน้ำชี ลุ่มน้ำมูล ไล่ตั้งแต่เขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งมีปริมาณน้ำเกินความจุ 104% ทำให้ต้องมีการระบายน้ำออก ส่งผลกระทบในพื้นที่ท้ายเขื่อนโดยเฉพาะจุดบรรจบกับแม่น้ำชี ที่น้ำเอ่อล้นตลิ่งท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ ในพื้นที่ จังหวัดกาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร และอุบลราชธานีและพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักสุด คือ จังหวัดอุบลราชธานี เนื่องจากเป็นพื้นที่ปลายน้ำ ที่ต้องรับน้ำ ทั้งจากแม่น้ำชี และ แม่น้ำมูล ที่ไหลมารวมกันที่อำเภอวารินชำราบ ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัว แต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังฝนที่จะตกเพิ่มในสัปดาห์นี้ส่วนพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง ต้องเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งจากแม่น้ำยม แม่น้ำวัง และลุ่มน้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่วันที่ 3 – 7 ตุลาคม 2566 โดยผลกระทบที่เกิดขึ้นจะเป็นลักษณะน้ำหลาก เนื่องจากฝนตกหนักและตกสะสม ทำให้น้ำล้นตลิ่งท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ โดย 6 จังหวัดภาคเหนือ ที่จะได้รับผลกระทบตลอดสัปดาห์นี้ ได้แก่ -เชียงให
อ่านต่อ >22

#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
เรียกว่าเข้าหน้าฝนสิ่งที่หลายคนนึกถึงคงเป็นพายุที่จะพัดเข้ามา ซึ่งในแต่ละครั้งพายุที่เข้ามาในเขตประเทศไทยนั้นก็จะมีมวลความรุนแรงที่ต่างกันออกไป ไม่เพียงเท่านั้นยังมีชื่อเรียกที่ไม่ธรรมดาอีกด้วย วันนี้ทาง TNN ONLINE ไม่พลาดที่จะขอรวบรวมเอาชื่อพายุสุดแปลก แต่มีจริงตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปีปัจจุบันมาให้ได้ติดตามกัน จะแปลกขนาดไหน และมีที่มาที่ไปยังไร ต้องติดตามภาพประกอบจาก : Freepik"พายุโซนร้อนพระพิรุณ" (Prapiroon) ปี 2561 โดยชื่อมาจากเทพเจ้าแห่งฝนของประเทศไทย พายุลูกนี้ขึ้นฝั่งญี่ปุ่น ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศญี่ปุ่น โดยจะอยู่ในบริเวณทางตอนเหนือในเกาะฮอกไกโด ความเร็วลมอยู่ที่ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง "พายุไต้ฝุ่นมังคุด" (Mangkhut) ปี 2561 โดยพายุซูเปอร์ไต้ฝุ่นมังคุดเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 15 กันยายน มีความเร็วลม 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 900 กิโลเมตร ถือว่าในปีนั้นเป็นพายุที่มีความรุนแรงมากที่สุดของปี ความเร็วลมของพายุลูกนี้ขึ้นถล่มจังหวัดคากายัน บนเกาะลูซอนทางภาคเหนือของฟิลิปปินส์"พายุปาบึก" (Pabuk) ปี 2562 พายุโซนร้อนนอกฤดูกาลที่พัดเข้าในช่วงวันที่ 3 มกราคม พัดขึ้นฝั่งทางตะวันออกของทะเลไทย โดยครั้งนั้นมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางขณะนี้ 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นความรุนแรงที่ไม่ธรรมดา ส่งผลให้ในช่วงเวลานั้น มีประกาศให้ 6 อำเภอติดชายทะเล ประกอบด้วย อำเภอเมือง ท่าศาลา สิชล ขนอม ปากพนัง และ หัวไทร ต้องย้ายยังศูนย์พักพิงชั่วคราวของแต่ละอำเภอเพื่อความปลอดภัย "พายุไต้ฝุ่นฟ้าใส" (Faxai) ปี 2562 พายุลูกนี้มีความแรงลมสูงถึง 216 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พัดถล่มประเทศญี่ปุ่นทำให้การเดินทางในประเทศต้องหยุด ทางรัฐบาลญี่ปุ่นสั่งตัดไฟในบางพื้นที่ของกรุงโตเกียวเพื่อความปลอดภัย พายุไต้ฝุ่นลูกนี้สร้างความเสียหาย พร้อมทั้งยังทำให้มีประชาชนชาวญี่ปุ่นยาดเจ็บกว่า 40 คน "พายุไต้ฝุ่นไมสัก" (Maysak) ปี 2563 เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 4 กันยายน 63 พัดถล่มพื้นที่ชายฝั่งตอนใต้และตะวันออกของเกาหลีใต้ ส่งผลให้เกิดกระแสลมแรง ทำให้บ้านเรือนของประชาชนเกาหลีได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยพายุลูกนี้ทำให้เมืองปูซานและเกาะเชจูไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้กว่า 270,000 หลังคาเรือน เรียกว่าความรุนแรงของ "พายุไต้ฝุ่นไมสัก" ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ในครั้งนั้น นอกจากนั้นยังต้องงดเที่ยวบินเพื่อความปลอดภัยอีกด้ว
อ่านต่อ >51

#ข่าวการเงิน การลงทุน #ทันหุ้น
#ทันหุ้น-PTT Station ปรับราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดลดลง 0.30 บาทต่อลิตร เว้นพรีเมี่ยม GSH95 และกลุ่มดีเซลทุกชนิดคงเดิม มีผล 3 ต.ค. 2566 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป โดยราคาขายปลีกจะเป็นดังนี้
ULG = 46.94, GSH95 = 39.15, E20 = 36.84, GSH91 = 38.88, E85 = 36.49, พรีเมี่ยม GSH95 = 44.94, HSD-B7 = 29.94, HSD-B10 = 29.94, พรีเมี่ยมดีเซล B7 = 40.24 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร
ด้านบางจากฯ ลดราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดลง 30 สตางค์ ยกเว้น Hi Premium 97 (GSH95++) และกลุ่มดีเซลราคาคงเดิม
BCP Retail Price : GSH95S EVO 39.15/ GSH91S EVO 38.88/ GSH E20S EVO 36.84 / GSH E85S EVO 36.49 / Hi Premium 97 (GSH95++) 49.34 / Hi Diesel B20S 29.94/ Hi Diesel S 29.94 / Hi Diesel S B7 29.94 / Hi Premium Diesel S B7 42.34 (ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องที่กทม.)
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
อ่านต่อ >13