
#ข่าววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เมื่อพูดถึง "คนละครึ่ง" เรามักนึกถึงโครงการช่วยจ่ายค่าสินค้าและบริการ แต่รู้หรือไม่ว่ารัฐบาลไทยภายใต้การดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้มีโครงการพิเศษที่เรียกว่า "เน็ตคนละครึ่ง" ด้วยเช่นกัน ซึ่งมีเป้าหมายที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง นั่นคือการช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อยให้สามารถเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตคุณภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้จริง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลในสังคม
ความเป็นมาและประโยชน์ของโครงการนี้
โครงการ "เน็ตคนละครึ่ง" เกิดขึ้นจากความตั้งใจที่จะมอบสิทธิพิเศษด้านการสื่อสารให้กับกลุ่มเปราะบางในสังคม โดยมีงบประมาณสนับสนุนมาจาก กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง โทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กองทุน กทปส.)
ประโยชน์ที่ได้รับเต็ม ๆ:
ประหยัดค่าใช้จ่าย: ผู้เข้าร่วมโครงการจ่ายค่าบริการในราคาที่ถูกกว่าแพ็กเกจปกติในตลาดมาก ทำให้เหลือเงินไปใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ ของชีวิตประจำวัน
เพิ่มโอกาสเข้าถึงข้อมูล: การได้ใช้เน็ตความเร็วสูงในปริมาณที่เพียงพอ (40 GB ต่อเดือน) ช่วยให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร, การศึกษา, การติดต่อสื่อสาร, และบริการภาครัฐผ่านระบบออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ตกยุค
ยกระดับคุณภาพชีวิต: การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่ดีคือรากฐานสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตในยุคดิจิทัล เช่น การเรียนรู้ออนไลน์ หรือการใช้แอปพลิเคชันที่จำเป็น
ใครมีสิทธิเข้าร่วม และเงื่อนไขเป็นอย่างไรบ้าง?
โครงการ "เน็ตคนละครึ่ง" ถูกออกแบบมาอย่างเฉพาะเจาะจงเพื่อช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายหลัก ทำให้มีเงื่อนไขที่ชัดเจนและแตกต่างจากโครงการ "คนละครึ่ง" ทั่วไป ดังนี้:
ใครมีสิทธิรับเน็ตคนละครึ่ง?
กลุ่มเป้าหมายหลัก: ผู้ที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการนี้คือ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) เท่านั้น โดยมีจำนวนรวมกว่า 14 ล้านรายทั่วประเทศ
แพ็กเกจสุดคุ้มและเงื่อนไขการรับสิทธิ
อัตราค่าบริการ: ผู้เข้าร่วมโครงการจ่ายเพียง 160 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) ต่อเดือน
สิ่งที่ได้รับ: ผู้ใช้จะได้รับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (ดาต้า) จำนวน 40 GB ต่อเดือน ซึ่งถือเป็นแพ็กเกจที่คุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับราคา
ระยะเวลาการใช้สิทธิ์: ผู้ได้รับสิทธิ์จะสามารถใช้แพ็กเกจพิเศษนี้ได้เป็นระยะเวลานาน 3 รอบบิล (3 เดือน)
ข
อ่านต่อ >62

#ข่าวเศรษฐกิจ #TNN ช่อง16
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม และออกแบบโครงการ "คนละครึ่ง พลัส" เฟส 2 เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนมากที่สุด โดยหลักการสำคัญ คือ ต้องการเก็บตกประชาชนกลุ่มที่อยากเข้าร่วมโครงการในเฟสแรก แต่เข้าร่วมไม่ได้ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง และกลุ่มที่อยู่ตามชายขอบ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับการเก็บตกในกลุ่มนี้ก่อนส่วนงบประมาณที่จะใช้ดำเนินโครงการ "คนละครึ่ง พลัส" เฟส 2 นั้น ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ต้องรอดูความชัดเจนจากรัฐบาลในการจัดสรรงบประมาณเพื่อมารองรับการดำเนินการในส่วนนี้ ดังนั้นรายละเอียดทั้งหมด โดยเฉพาะวงเงินสิทธิที่ประชาชนจะได้รับว่าจะเป็นเท่าไรนั้น ต้องรอความชัดเจนเรื่องงบประมาณจากภาครัฐก่อน ทั้งนี้ ยืนยันในเบื้องต้นได้ว่า ผู้ที่เข้าร่วมโครงการ "คนละครึ่ง พลัส" เฟสแรก ยังสามารถเข้าร่วมโครงการในเฟสที่ 2 ได้อย่างแน่นอน"สำหรับคนที่ไม่ได้ใช้จ่ายตามระยะเวลาที่กำหนดในโครงการคนละครึ่ง พลัส เฟสแรกนั้น ก็จะถูกตัดสิทธิ ซึ่งประกาศออกมาแล้วมี 2.39 แสนคน ซึ่งกลุ่มนี้ยังสามารถเข้าร่วมในเฟส 2 ได้ แต่สิทธิประโยชน์ที่จะได้ ก็จะเหมือนกับคนที่เคยเข้าร่วมโครงการในเฟสแรกมาแล้ว เพราะถือว่ามีการเข้าร่วมโครงการเรียบร้อย แค่ไม่ได้ใช้สิทธิตามเงื่อนไข" ปลัดกระทรวงการคลัง ระบุ นายลวรณ ย้ำว่า โครงการ "คนละครึ่ง พลัส" ไม่ใช่แค่โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องของการสร้างองค์ความรู้ การเสริมทักษะ up-skill/re-skill ดังนั้นจึงพูดได้ว่าเป็นโครงการที่มีประโยชน์ ไม่ใช่เพียงแค่การกระตุ้นเศรษฐกิจเท่านั้น ซึ่งทั้งหมดเป็นไปตามนโยบาย Quick-Big-Win ของรัฐบาล
อ่านต่อ >41

#ข่าวการเมือง #TNN ช่อง16
วันนี้ ( 12 พ.ย. 68 )นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้นำคณะลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อำเภอผักไห่ ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำและประสบปัญหาน้ำท่วมยาวนานกว่าทุกปีนายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีและผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย อาทิ นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ, นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการ พม., นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รมช. มท. รวมถึงปลัดกระทรวงฯ และอธิบดีที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปยังวัดท่าดินแดง อ.ผักไห่ เพื่อมอบถุงยังชีพจำนวน 1,000 ชุด ให้กับผู้ประสบภัย ในโอกาสนี้ นายอนุทินได้ลงเรือเพื่อพบปะและให้กำลังใจประชาชนที่ประสบภัย ซึ่งบางส่วนได้พายเรือออกมาให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีกลับด้วย โดยนายอนุทินกล่าวด้วยความซาบซึ้งใจและยอมรับว่ารู้สึกเจ็บปวดแทนพี่น้องประชาชน“ตนเข้าใจหัวจิตหัวใจถึงความยากลำบากของพ่อแม่พี่น้อง” นายอนุทินกล่าว “ตนเสียใจที่ทำให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นทำให้ทุกท่านเจ็บปวดและตนรู้สึกเจ็บปวดเป็นหลายเท่าและอาย...สิ่งที่ตนได้ฟังเต็มสองหูก็คือ ‘สู้สู้นะนายก อย่ายอมแพ้นะ’ ตนแทบจะไม่รู้พูดยังไงนอกจากขอบคุณในหัวจิตหัวใจของทุกท่านอย่างสุดซึ้ง”สั่งการเร่งด่วนช่วยเหลือ-เยียวยาหลังจากนั้น นายกฯ ได้เข้าประชุมติดตามการบริหารจัดการน้ำ ณ สำนักงานเทศบาลเมืองผักไห่ พร้อมเน้นย้ำถึง "ความรวดเร็วและความสำคัญสูงสุด" ในการช่วยเหลือประชาชน โดยมีข้อสั่งการสำคัญดังนี้:1. จัดชุดช่วยเหลือฉุกเฉิน ให้จัดยานพาหนะทางบกและทางน้ำ เพื่อเข้าถึงพื้นที่ถูกตัดขาดโดยเร็วที่สุด โดยเน้นการช่วยเหลือ ผู้ป่วยและผู้สูงอายุ ที่ตกค้างในพื้นที่น้ำท่วม2. เยียวยาเบื้องต้น 9,000 บาท ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการประสานงานกับ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ให้ขึ้นทะเบียนผู้ได้รับผลกระทบอย่างรวดเร็ว เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติเงินเยียวยา โดยเบื้องต้นกำหนดไว้ที่ ครัวเรือนละ 9,000 บาท และจะพิจารณาให้เหมาะสมกับความเสียหายที่ประชาชนต้องทนมาหลายเดือน3. ให้อำนาจผู้ว่าฯ ตัดสินใจ เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้มีอำนาจสูงสุดในจังหวัด กล้าตัดสินใจ ในการอนุมัติงบประมาณและแนวทางช่วยเหลือประชาชนร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้ความเดือดร้อนหมดสิ้นไปโดยเร็วที่สุด พร
อ่านต่อ >20

#ข่าววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
จากงาน Thailand Mobile Expo 2025 ที่ผ่านมา ก็จะมีสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจหลายรุ่นเปิดตัวในประเทศไทยในงานด้วยครับ โดยมีทั้งรุ่นเรือธงสเปคกล้องเทพจัดเต็ม ไปจนถึงรุ่นราคาประหยัดสบายกระเป๋า วันนี้เรามาดูกันครับว่า มือถือที่เปิดตัวใหม่ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ว่ามีรุ่นไหนน่าสนใจกันบ้าง ดังนี้เลย
OPPO Find X9 Series
ในส่วนของ OPPO Find X9 Series ที่เปิดตัวในประเทศไทย จะมีทั้งหมด 2 รุ่น คือ OPPO Find X9 และ OPPO Find X9 Pro โดยแต่ละรุ่นจะมีจุดเด่นและรายละเอียดที่แตกต่างกันดังนี้
OPPO Find X9 Pro : นิยามใหม่ของกล้องมือถือ 200MP ที่ผสานพลัง Hasselblad
OPPO ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมด้วยการเปิดตัว OPPO Find X9 Pro สมาร์ทโฟนเรือธงที่มาพร้อมกับการยกระดับประสบการณ์การถ่ายภาพและวิดีโอไปสู่จุดสูงสุด! สิ่งที่ทำให้ Find X9 Pro โดดเด่นเหนือคู่แข่งคือระบบกล้อง Hasselblad Master ที่จัดเต็มด้วยกล้อง Telephoto ความละเอียดสูงถึง 200MP พร้อมเซนเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.56 นิ้ว ที่มีรูรับแสงกว้าง f/2.1 และระบบป้องกันภาพสั่นแบบออปติคอล (OIS) ทำให้สามารถซูมและถ่ายภาพระยะไกลได้อย่างคมชัด เก็บทุกรายละเอียดได้อย่างแม่นยำแม้ในสภาวะแสงน้อย นอกจากนี้ กล้องหลักความละเอียด 50MP Ultra-Level ก็ไม่น้อยหน้า ด้วยเซนเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.28 นิ้ว ที่พัฒนาร่วมกับ Sony พร้อมรูรับแสง f/1.5 ซึ่งสามารถรับแสงได้มากกว่ารุ่นก่อนถึง 30% ทำให้ภาพถ่ายในทุกสภาพแสงมีความสว่างและคมชัดในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน และสำหรับสายวิดีโอ Find X9 Pro ก็ตอบโจทย์ด้วยการรองรับการถ่าย 4K 120fps Dolby Vision และมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 7500mAh ให้คุณสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างต่อเนื่องตลอดวัน
นอกจากขุมพลังด้านการถ่ายภาพแล้ว OPPO Find X9 Pro ยังมาพร้อมดีไซน์และการใช้งานที่มอบประสบการณ์ระดับพรีเมียมอย่างแท้จริง ตัวเครื่องมาพร้อมหน้าจอ 120Hz ProXDR ขนาด 6.78 นิ้ว ที่ให้ความสว่างสูงสุดถึง 3600 nits พร้อมเทคโนโลยีถนอมสายตา และมีขอบจอบางเฉียบเพียง 1.15 มม. ซึ่งถือว่าบางที่สุดในอุตสาหกรรม มอบมุมมองที่ไร้รอยต่ออย่างแท้จริง ด้านความทนทานก็จัดเต็มด้วยกระจก Corning® Gorilla® Glass Victus®2 พร้อมโครงสร้างอะลูมิเนียมเกรดอากาศยาน และมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับท็อป IP66, IP68 และ IP69 ที่พร้อมลุยทุกสถานการณ์ Find X9 Pro ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตทรงพลัง Trinity
อ่านต่อ >193

#ข่าววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เมื่อพูดถึง "คนละครึ่ง" เรามักนึกถึงโครงการช่วยจ่ายค่าสินค้าและบริการ แต่รู้หรือไม่ว่ารัฐบาลไทยภายใต้การดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้มีโครงการพิเศษที่เรียกว่า "เน็ตคนละครึ่ง" ด้วยเช่นกัน ซึ่งมีเป้าหมายที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง นั่นคือการช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อยให้สามารถเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตคุณภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้จริง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลในสังคม
ความเป็นมาและประโยชน์ของโครงการนี้
โครงการ "เน็ตคนละครึ่ง" เกิดขึ้นจากความตั้งใจที่จะมอบสิทธิพิเศษด้านการสื่อสารให้กับกลุ่มเปราะบางในสังคม โดยมีงบประมาณสนับสนุนมาจาก กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง โทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กองทุน กทปส.)
ประโยชน์ที่ได้รับเต็ม ๆ:
ประหยัดค่าใช้จ่าย: ผู้เข้าร่วมโครงการจ่ายค่าบริการในราคาที่ถูกกว่าแพ็กเกจปกติในตลาดมาก ทำให้เหลือเงินไปใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ ของชีวิตประจำวัน
เพิ่มโอกาสเข้าถึงข้อมูล: การได้ใช้เน็ตความเร็วสูงในปริมาณที่เพียงพอ (40 GB ต่อเดือน) ช่วยให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร, การศึกษา, การติดต่อสื่อสาร, และบริการภาครัฐผ่านระบบออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ตกยุค
ยกระดับคุณภาพชีวิต: การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่ดีคือรากฐานสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตในยุคดิจิทัล เช่น การเรียนรู้ออนไลน์ หรือการใช้แอปพลิเคชันที่จำเป็น
ใครมีสิทธิเข้าร่วม และเงื่อนไขเป็นอย่างไรบ้าง?
โครงการ "เน็ตคนละครึ่ง" ถูกออกแบบมาอย่างเฉพาะเจาะจงเพื่อช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายหลัก ทำให้มีเงื่อนไขที่ชัดเจนและแตกต่างจากโครงการ "คนละครึ่ง" ทั่วไป ดังนี้:
ใครมีสิทธิรับเน็ตคนละครึ่ง?
กลุ่มเป้าหมายหลัก: ผู้ที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการนี้คือ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) เท่านั้น โดยมีจำนวนรวมกว่า 14 ล้านรายทั่วประเทศ
แพ็กเกจสุดคุ้มและเงื่อนไขการรับสิทธิ
อัตราค่าบริการ: ผู้เข้าร่วมโครงการจ่ายเพียง 160 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) ต่อเดือน
สิ่งที่ได้รับ: ผู้ใช้จะได้รับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (ดาต้า) จำนวน 40 GB ต่อเดือน ซึ่งถือเป็นแพ็กเกจที่คุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับราคา
ระยะเวลาการใช้สิทธิ์: ผู้ได้รับสิทธิ์จะสามารถใช้แพ็กเกจพิเศษนี้ได้เป็นระยะเวลานาน 3 รอบบิล (3 เดือน)
ข
อ่านต่อ >62

#ข่าวเศรษฐกิจ #TNN ช่อง16
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม และออกแบบโครงการ "คนละครึ่ง พลัส" เฟส 2 เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนมากที่สุด โดยหลักการสำคัญ คือ ต้องการเก็บตกประชาชนกลุ่มที่อยากเข้าร่วมโครงการในเฟสแรก แต่เข้าร่วมไม่ได้ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง และกลุ่มที่อยู่ตามชายขอบ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับการเก็บตกในกลุ่มนี้ก่อนส่วนงบประมาณที่จะใช้ดำเนินโครงการ "คนละครึ่ง พลัส" เฟส 2 นั้น ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ต้องรอดูความชัดเจนจากรัฐบาลในการจัดสรรงบประมาณเพื่อมารองรับการดำเนินการในส่วนนี้ ดังนั้นรายละเอียดทั้งหมด โดยเฉพาะวงเงินสิทธิที่ประชาชนจะได้รับว่าจะเป็นเท่าไรนั้น ต้องรอความชัดเจนเรื่องงบประมาณจากภาครัฐก่อน ทั้งนี้ ยืนยันในเบื้องต้นได้ว่า ผู้ที่เข้าร่วมโครงการ "คนละครึ่ง พลัส" เฟสแรก ยังสามารถเข้าร่วมโครงการในเฟสที่ 2 ได้อย่างแน่นอน"สำหรับคนที่ไม่ได้ใช้จ่ายตามระยะเวลาที่กำหนดในโครงการคนละครึ่ง พลัส เฟสแรกนั้น ก็จะถูกตัดสิทธิ ซึ่งประกาศออกมาแล้วมี 2.39 แสนคน ซึ่งกลุ่มนี้ยังสามารถเข้าร่วมในเฟส 2 ได้ แต่สิทธิประโยชน์ที่จะได้ ก็จะเหมือนกับคนที่เคยเข้าร่วมโครงการในเฟสแรกมาแล้ว เพราะถือว่ามีการเข้าร่วมโครงการเรียบร้อย แค่ไม่ได้ใช้สิทธิตามเงื่อนไข" ปลัดกระทรวงการคลัง ระบุ นายลวรณ ย้ำว่า โครงการ "คนละครึ่ง พลัส" ไม่ใช่แค่โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องของการสร้างองค์ความรู้ การเสริมทักษะ up-skill/re-skill ดังนั้นจึงพูดได้ว่าเป็นโครงการที่มีประโยชน์ ไม่ใช่เพียงแค่การกระตุ้นเศรษฐกิจเท่านั้น ซึ่งทั้งหมดเป็นไปตามนโยบาย Quick-Big-Win ของรัฐบาล
อ่านต่อ >41

#ข่าวการเมือง #TNN ช่อง16
วันนี้ ( 12 พ.ย. 68 )นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้นำคณะลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อำเภอผักไห่ ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำและประสบปัญหาน้ำท่วมยาวนานกว่าทุกปีนายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีและผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย อาทิ นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ, นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการ พม., นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รมช. มท. รวมถึงปลัดกระทรวงฯ และอธิบดีที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปยังวัดท่าดินแดง อ.ผักไห่ เพื่อมอบถุงยังชีพจำนวน 1,000 ชุด ให้กับผู้ประสบภัย ในโอกาสนี้ นายอนุทินได้ลงเรือเพื่อพบปะและให้กำลังใจประชาชนที่ประสบภัย ซึ่งบางส่วนได้พายเรือออกมาให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีกลับด้วย โดยนายอนุทินกล่าวด้วยความซาบซึ้งใจและยอมรับว่ารู้สึกเจ็บปวดแทนพี่น้องประชาชน“ตนเข้าใจหัวจิตหัวใจถึงความยากลำบากของพ่อแม่พี่น้อง” นายอนุทินกล่าว “ตนเสียใจที่ทำให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นทำให้ทุกท่านเจ็บปวดและตนรู้สึกเจ็บปวดเป็นหลายเท่าและอาย...สิ่งที่ตนได้ฟังเต็มสองหูก็คือ ‘สู้สู้นะนายก อย่ายอมแพ้นะ’ ตนแทบจะไม่รู้พูดยังไงนอกจากขอบคุณในหัวจิตหัวใจของทุกท่านอย่างสุดซึ้ง”สั่งการเร่งด่วนช่วยเหลือ-เยียวยาหลังจากนั้น นายกฯ ได้เข้าประชุมติดตามการบริหารจัดการน้ำ ณ สำนักงานเทศบาลเมืองผักไห่ พร้อมเน้นย้ำถึง "ความรวดเร็วและความสำคัญสูงสุด" ในการช่วยเหลือประชาชน โดยมีข้อสั่งการสำคัญดังนี้:1. จัดชุดช่วยเหลือฉุกเฉิน ให้จัดยานพาหนะทางบกและทางน้ำ เพื่อเข้าถึงพื้นที่ถูกตัดขาดโดยเร็วที่สุด โดยเน้นการช่วยเหลือ ผู้ป่วยและผู้สูงอายุ ที่ตกค้างในพื้นที่น้ำท่วม2. เยียวยาเบื้องต้น 9,000 บาท ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการประสานงานกับ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ให้ขึ้นทะเบียนผู้ได้รับผลกระทบอย่างรวดเร็ว เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติเงินเยียวยา โดยเบื้องต้นกำหนดไว้ที่ ครัวเรือนละ 9,000 บาท และจะพิจารณาให้เหมาะสมกับความเสียหายที่ประชาชนต้องทนมาหลายเดือน3. ให้อำนาจผู้ว่าฯ ตัดสินใจ เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้มีอำนาจสูงสุดในจังหวัด กล้าตัดสินใจ ในการอนุมัติงบประมาณและแนวทางช่วยเหลือประชาชนร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้ความเดือดร้อนหมดสิ้นไปโดยเร็วที่สุด พร
อ่านต่อ >20

#ข่าววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
จากงาน Thailand Mobile Expo 2025 ที่ผ่านมา ก็จะมีสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจหลายรุ่นเปิดตัวในประเทศไทยในงานด้วยครับ โดยมีทั้งรุ่นเรือธงสเปคกล้องเทพจัดเต็ม ไปจนถึงรุ่นราคาประหยัดสบายกระเป๋า วันนี้เรามาดูกันครับว่า มือถือที่เปิดตัวใหม่ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ว่ามีรุ่นไหนน่าสนใจกันบ้าง ดังนี้เลย
OPPO Find X9 Series
ในส่วนของ OPPO Find X9 Series ที่เปิดตัวในประเทศไทย จะมีทั้งหมด 2 รุ่น คือ OPPO Find X9 และ OPPO Find X9 Pro โดยแต่ละรุ่นจะมีจุดเด่นและรายละเอียดที่แตกต่างกันดังนี้
OPPO Find X9 Pro : นิยามใหม่ของกล้องมือถือ 200MP ที่ผสานพลัง Hasselblad
OPPO ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมด้วยการเปิดตัว OPPO Find X9 Pro สมาร์ทโฟนเรือธงที่มาพร้อมกับการยกระดับประสบการณ์การถ่ายภาพและวิดีโอไปสู่จุดสูงสุด! สิ่งที่ทำให้ Find X9 Pro โดดเด่นเหนือคู่แข่งคือระบบกล้อง Hasselblad Master ที่จัดเต็มด้วยกล้อง Telephoto ความละเอียดสูงถึง 200MP พร้อมเซนเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.56 นิ้ว ที่มีรูรับแสงกว้าง f/2.1 และระบบป้องกันภาพสั่นแบบออปติคอล (OIS) ทำให้สามารถซูมและถ่ายภาพระยะไกลได้อย่างคมชัด เก็บทุกรายละเอียดได้อย่างแม่นยำแม้ในสภาวะแสงน้อย นอกจากนี้ กล้องหลักความละเอียด 50MP Ultra-Level ก็ไม่น้อยหน้า ด้วยเซนเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.28 นิ้ว ที่พัฒนาร่วมกับ Sony พร้อมรูรับแสง f/1.5 ซึ่งสามารถรับแสงได้มากกว่ารุ่นก่อนถึง 30% ทำให้ภาพถ่ายในทุกสภาพแสงมีความสว่างและคมชัดในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน และสำหรับสายวิดีโอ Find X9 Pro ก็ตอบโจทย์ด้วยการรองรับการถ่าย 4K 120fps Dolby Vision และมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 7500mAh ให้คุณสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างต่อเนื่องตลอดวัน
นอกจากขุมพลังด้านการถ่ายภาพแล้ว OPPO Find X9 Pro ยังมาพร้อมดีไซน์และการใช้งานที่มอบประสบการณ์ระดับพรีเมียมอย่างแท้จริง ตัวเครื่องมาพร้อมหน้าจอ 120Hz ProXDR ขนาด 6.78 นิ้ว ที่ให้ความสว่างสูงสุดถึง 3600 nits พร้อมเทคโนโลยีถนอมสายตา และมีขอบจอบางเฉียบเพียง 1.15 มม. ซึ่งถือว่าบางที่สุดในอุตสาหกรรม มอบมุมมองที่ไร้รอยต่ออย่างแท้จริง ด้านความทนทานก็จัดเต็มด้วยกระจก Corning® Gorilla® Glass Victus®2 พร้อมโครงสร้างอะลูมิเนียมเกรดอากาศยาน และมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับท็อป IP66, IP68 และ IP69 ที่พร้อมลุยทุกสถานการณ์ Find X9 Pro ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตทรงพลัง Trinity
อ่านต่อ >193

#ข่าววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เมื่อพูดถึง "คนละครึ่ง" เรามักนึกถึงโครงการช่วยจ่ายค่าสินค้าและบริการ แต่รู้หรือไม่ว่ารัฐบาลไทยภายใต้การดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้มีโครงการพิเศษที่เรียกว่า "เน็ตคนละครึ่ง" ด้วยเช่นกัน ซึ่งมีเป้าหมายที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง นั่นคือการช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อยให้สามารถเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตคุณภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้จริง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลในสังคม
ความเป็นมาและประโยชน์ของโครงการนี้
โครงการ "เน็ตคนละครึ่ง" เกิดขึ้นจากความตั้งใจที่จะมอบสิทธิพิเศษด้านการสื่อสารให้กับกลุ่มเปราะบางในสังคม โดยมีงบประมาณสนับสนุนมาจาก กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง โทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กองทุน กทปส.)
ประโยชน์ที่ได้รับเต็ม ๆ:
ประหยัดค่าใช้จ่าย: ผู้เข้าร่วมโครงการจ่ายค่าบริการในราคาที่ถูกกว่าแพ็กเกจปกติในตลาดมาก ทำให้เหลือเงินไปใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ ของชีวิตประจำวัน
เพิ่มโอกาสเข้าถึงข้อมูล: การได้ใช้เน็ตความเร็วสูงในปริมาณที่เพียงพอ (40 GB ต่อเดือน) ช่วยให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร, การศึกษา, การติดต่อสื่อสาร, และบริการภาครัฐผ่านระบบออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ตกยุค
ยกระดับคุณภาพชีวิต: การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่ดีคือรากฐานสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตในยุคดิจิทัล เช่น การเรียนรู้ออนไลน์ หรือการใช้แอปพลิเคชันที่จำเป็น
ใครมีสิทธิเข้าร่วม และเงื่อนไขเป็นอย่างไรบ้าง?
โครงการ "เน็ตคนละครึ่ง" ถูกออกแบบมาอย่างเฉพาะเจาะจงเพื่อช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายหลัก ทำให้มีเงื่อนไขที่ชัดเจนและแตกต่างจากโครงการ "คนละครึ่ง" ทั่วไป ดังนี้:
ใครมีสิทธิรับเน็ตคนละครึ่ง?
กลุ่มเป้าหมายหลัก: ผู้ที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการนี้คือ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) เท่านั้น โดยมีจำนวนรวมกว่า 14 ล้านรายทั่วประเทศ
แพ็กเกจสุดคุ้มและเงื่อนไขการรับสิทธิ
อัตราค่าบริการ: ผู้เข้าร่วมโครงการจ่ายเพียง 160 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) ต่อเดือน
สิ่งที่ได้รับ: ผู้ใช้จะได้รับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (ดาต้า) จำนวน 40 GB ต่อเดือน ซึ่งถือเป็นแพ็กเกจที่คุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับราคา
ระยะเวลาการใช้สิทธิ์: ผู้ได้รับสิทธิ์จะสามารถใช้แพ็กเกจพิเศษนี้ได้เป็นระยะเวลานาน 3 รอบบิล (3 เดือน)
ข
อ่านต่อ >62