สิ่งควรระวังเมื่อซื้อรถยนต์มือสอง ควรตรอจสอบอะไรบ้าง

การซื้อรถยนต์มือสอง เป็นการลงทุนที่ต้องใช้ความรอบคอบสูงครับ เพราะคุณจะได้รถในราคาที่คุ้มค่ากว่ามือหนึ่งก็จริง แต่ก็มีความเสี่ยงแฝงอยู่มาก ทั้งจากสภาพรถที่อาจถูกย้อมแมว หรือเอกสารที่ไม่ถูกต้อง การตรวจสอบอย่างละเอียดรอบด้านจะช่วยให้คุณได้รถที่ดีและคุ้มค่าที่สุดครับ ดังนั้นพวกเราทีมงาน TrueID ขอรวบรวมสิ่งที่ควรระวังและตรวจสอบอย่างละเอียดเมื่อตัดสินใจซื้อรถยนต์มือสอง
1. สภาพภายนอกรถยนต์ (ตัวถัง, สี, รอยบุบ/ชน)
เริ่มต้นที่ภายนอกรถที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า สภาพภายนอกสามารถบอกเล่าเรื่องราวของรถได้เยอะ:
- ร่องรอยการชน/ทำสี:
- สีรถ: ลองมองสีรถจากหลายๆ มุม สังเกตความสม่ำเสมอของสีรถทั้งคัน ถ้าสีบางส่วนดูเงาผิดปกติ หรือมีเฉดสีที่ต่างออกไป อาจบ่งบอกถึงการทำสีใหม่จากการชน
- ช่องว่างรอยต่อ: ตรวจสอบช่องว่างระหว่างชิ้นส่วนต่างๆ ของตัวถัง เช่น ฝากระโปรงกับบังโคลน, ประตูกับตัวถัง, ฝากระโปรงท้ายกับบังโคลนท้าย ถ้าช่องว่างไม่เท่ากัน หรือเบี้ยวไปจากปกติ อาจเคยมีการถอดประกอบหรือเปลี่ยนชิ้นส่วน
- น็อตยึดชิ้นส่วน: เปิดฝากระโปรงหน้า, ฝากระโปรงท้าย, และประตูทั้ง 4 บาน สังเกตหัวน็อตยึด เช่น น็อตฝากระโปรง, น็อตยึดบานพับประตู ถ้ามีร่องรอยการขัน หรือสีถลอก อาจเคยมีการถอดเปลี่ยนหรือซ่อมแซมชิ้นส่วนนั้นๆ
- รอยเชื่อม/คาน: ตรวจสอบคานหน้า คานหลัง และรอยเชื่อมต่างๆ ของตัวถัง ถ้าเห็นรอยเชื่อมที่ไม่เป็นระเบียบ หรือมีรอยสนิมในจุดที่ไม่ควรมี อาจเป็นรถที่เคยเกิดอุบัติเหตุชนหนัก
- กระจกและไฟส่องสว่าง: ตรวจสอบรอยร้าว รอยแตกของกระจกทุกบาน และความสมบูรณ์ของชุดไฟหน้า ไฟท้าย และไฟเลี้ยว
- ยางรถยนต์และล้อแม็ก:
- ดอกยาง: ดอกยางควรมีความลึกสม่ำเสมอทั้ง 4 เส้น (ไม่ควรสึกหรอไม่เท่ากัน) และไม่ควรมีรอยฉีกขาดหรือบวม
- ปีที่ผลิตยาง: ตรวจสอบตัวเลข 4 หลักบนแก้มยาง (สัปดาห์ที่ผลิต/ปีที่ผลิต) เช่น 2024 หมายถึง สัปดาห์ที่ 20 ปี 2024 ถ้าผลิตนานเกิน 2-3 ปี หรือต่างกันมากในแต่ละเส้น อาจถึงเวลาต้องเปลี่ยน
- ล้อแม็ก: ตรวจสอบรอยคด รอยแตก หรือรอยเบียดขอบถนน
2. ห้องเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง
ส่วนนี้คือหัวใจของรถยนต์ การตรวจสอบอย่างละเอียดสำคัญมาก:
- คราบน้ำมัน/น้ำหล่อเย็น: มองหารอยรั่วซึมของน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ หรือน้ำหล่อเย็น บริเวณรอบๆ เครื่องยนต์ ท่อน้ำ และใต้ท้องรถ
- ระดับของเหลว: ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก น้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ และน้ำในหม้อน้ำว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสมหรือไม่ สีของของเหลวควรอยู่ในสภาพดี ไม่ขุ่นดำผิดปกติ
- สายพาน/ท่อยาง: ตรวจสอบสภาพของสายพานต่างๆ ว่ามีการแตกลายงา หรือเสียงดังผิดปกติหรือไม่ รวมถึงท่อยางต่างๆ ว่าแข็งกระด้างหรือมีรอยร้าว
- แบตเตอรี่: ตรวจสอบขั้วแบตเตอรี่ว่ามีคราบขี้เกลือเกาะหรือไม่ และสภาพแบตเตอรี่โดยรวม
- ร่องรอยการซ่อม: สังเกตว่าเครื่องยนต์เคยถูกถอดหรือซ่อมแซมใหญ่ๆ หรือไม่ เช่น น็อตฝาสูบมีรอยขัน หรือปะเก็นมีรอยรั่วซึม
- เสียงเครื่องยนต์: สตาร์ทเครื่องยนต์ฟังเสียง ควรเดินเรียบ ไม่สั่น หรือมีเสียงแปลกๆ เช่น เสียงดังแก๊กๆ, เสียงหอบ, เสียงดังอีดๆ (เสียงสายพาน)
- ระบบเกียร์:
- เกียร์ออโต้: ลองเข้าเกียร์ D, R และ N สลับไปมา ควรเข้าได้นุ่มนวล ไม่กระตุกหรือมีเสียงดัง
- เกียร์ธรรมดา: ลองเข้าเกียร์แต่ละตำแหน่ง ควรเข้าได้ง่าย ไม่ติดขัด และลองปล่อยคลัตช์เบาๆ เพื่อดูว่ารถมีการออกตัวที่ดีหรือไม่
3. ภายในห้องโดยสาร
ภายในรถสามารถบอกถึงการดูแลรักษาและลักษณะการใช้งานของเจ้าของเดิมได้
- สภาพเบาะ: ตรวจสอบรอยฉีกขาด รอยเปื้อน หรือการยุบตัวของเบาะ โดยเฉพาะเบาะคนขับ
- อุปกรณ์ไฟฟ้า: ลองเปิด-ปิดระบบไฟฟ้าทั้งหมด เช่น ไฟส่องสว่างภายในรถ, แอร์ (ความเย็นและพัดลม), เครื่องเสียง, กระจกไฟฟ้าทุกบาน, ที่ปัดน้ำฝน, แตร, ระบบล็อกประตู, ปุ่มควบคุมต่างๆ ว่าใช้งานได้ปกติหรือไม่
- ไมล์สะสม (เลขไมล์): ตรวจสอบว่าไมล์สะสมสมเหตุสมผลกับสภาพรถและปีที่ผลิตหรือไม่ และควรระวังการกรอไมล์ (อาจดูได้จากร่องรอยการถอดประกอบแผงหน้าปัด หรือบันทึกการเข้ารับบริการครั้งล่าสุด)
- กลิ่นภายในรถ: สังเกตกลิ่นอับชื้น กลิ่นบุหรี่ หรือกลิ่นไหม้ ซึ่งอาจบ่งบอกถึงปัญหาภายใน เช่น รถเคยจมน้ำ หรือมีปัญหาระบบไฟฟ้า
- พวงมาลัย/แป้นเหยียบ: สังเกตความสึกหรอของพวงมาลัย หัวเกียร์ และแป้นเหยียบ (คันเร่ง เบรก คลัตช์) ว่าสมเหตุสมผลกับเลขไมล์หรือไม่
- แผงหน้าปัด: ลองสตาร์ทรถและสังเกตไฟเตือนต่างๆ บนแผงหน้าปัด ว่ามีไฟโชว์ผิดปกติหรือไม่ (เช่น ไฟ Check Engine)
4. เอกสารและประวัติรถ
เอกสารที่ถูกต้องและครบถ้วนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะเกี่ยวข้องกับความเป็นเจ้าของและความถูกต้องตามกฎหมาย
- เล่มทะเบียนรถ (สมุดคู่มือจดทะเบียน):
- ชื่อผู้ครอบครอง: ตรวจสอบว่าชื่อผู้ครอบครองตรงกับผู้ขายหรือไม่
- ข้อมูลรถ: ตรวจสอบเลขเครื่องยนต์, เลขตัวถัง ว่าตรงกับรถจริง และตรงกับที่ระบุในเล่มทะเบียน
- ประวัติการโอน: ดูประวัติการโอนกรรมสิทธิ์ว่ามีการเปลี่ยนมือบ่อยเกินไปหรือไม่
- วันจดทะเบียน: ดูปีที่จดทะเบียนรถ
- ประวัติการชำระภาษี: ดูว่าภาษีขาดต่อหรือไม่
- การแจ้งเปลี่ยนเครื่องยนต์/สี: ถ้ามีการดัดแปลง ต้องมีการแจ้งลงในเล่มทะเบียน
- เอกสารการโอนกรรมสิทธิ์: เตรียมเอกสารการโอนให้พร้อม ตรวจสอบความถูกต้องของลายเซ็น และเอกสารบัตรประชาชนของผู้ขาย
- ประวัติการซ่อมบำรุง: หากผู้ขายมีสมุดคู่มือการซ่อมบำรุง หรือใบเสร็จจากการเข้าศูนย์บริการ จะเป็นข้อมูลที่ดีมากในการตรวจสอบประวัติรถ
5. การทดลองขับ (Test Drive)
นี่คือขั้นตอนสำคัญที่สุดที่จะทำให้คุณสัมผัสถึงปัญหาของรถได้จริง
- สตาร์ทเครื่อง: ฟังเสียงเครื่องยนต์ตอนสตาร์ท ต้องติดง่าย ไม่ใช้เวลานาน
- เกียร์: ลองขับทั้งในความเร็วต่ำและสูง สลับเกียร์ขึ้นลง (สำหรับเกียร์ธรรมดา) และลองเข้าเกียร์ D, R (สำหรับเกียร์ออโต้) สังเกตการเปลี่ยนเกียร์ว่าลื่นไหล ไม่กระตุกหรือมีเสียงดังผิดปกติ
- ช่วงล่าง: ลองขับผ่านลูกระนาด ทางขรุขระ ฟังเสียงช่วงล่างว่ามีเสียงดังผิดปกติหรือไม่ (เช่น เสียงกุกกัก เสียงโครมคราม)
- เบรก: ลองเหยียบเบรกดูว่าผ้าเบรกจับตัวดี ไม่มีการสั่นที่พวงมาลัยหรือแป้นเบรก และรถไม่กินซ้ายกินขวาเมื่อเบรก
- พวงมาลัย: ลองเลี้ยวซ้าย-ขวา สุดๆ ดูว่ามีเสียงดังหรือติดขัดหรือไม่ พวงมาลัยควรจะควบคุมง่ายและไม่หลวมคลอน
- ความเร็วสูง: ถ้าเป็นไปได้ ลองขับที่ความเร็วสูงขึ้น เพื่อดูว่ารถมีการทรงตัวดีหรือไม่ และมีเสียงลม เสียงยางผิดปกติหรือไม่
6. พาผู้เชี่ยวชาญ/ช่างไปช่วยดู
หากคุณไม่มีความรู้เรื่องรถยนต์มากพอ หรืออาจยังไม่มั่นใจ การพาช่างยนต์ที่ไว้ใจได้ หรือผู้เชี่ยวชาญไปช่วยตรวจสอบรถ จะช่วยลดความเสี่ยงได้มาก ช่างจะสามารถตรวจสอบจุดต่างๆ ที่คนทั่วไปมองข้ามได้ และประเมินสภาพเครื่องยนต์และช่วงล่างได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้นครับ
คำแนะนำเพิ่มเติม:
- ระวังรถที่ราคาถูกเกินจริง: ถ้าสเปกรถดี แต่ราคาถูกกว่าตลาดมาก อาจมีอะไรผิดปกติ ควรระวังเป็นพิเศษ
- พยายามซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ: เช่น เต็นท์รถมือสองที่มีชื่อเสียงและมีการรับประกัน หรือเจ้าของรถโดยตรงที่คุณสามารถสอบถามประวัติรถได้อย่างละเอียด
- ขอเอกสารการซื้อขายให้ครบถ้วน: เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต
การซื้อรถมือสองไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องใช้เวลาและความละเอียดรอบคอบในการตรวจสอบครับ ถ้าทำตามขั้นตอนเหล่านี้ เพื่อนๆ ก็จะได้รถที่ถูกใจและคุ้มค่าอย่างแน่นอน !
Photo Credit : AI Generated