"เกาหลีใต้" ปิดดีลสำเร็จ "สหรัฐฯ" หั่นภาษีนำเข้ารถยนต์เหลือ 15%

"สหรัฐฯ-เกาหลีใต้" บรรลุข้อตกลงทางการค้า หั่นภาษีนำเข้ารถยนต์เหลือ 15%

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และประธานาธิบดีอี แจ-มยอง ของเกาหลีใต้ บรรลุข้อตกลงทางการค้าอย่างเป็นทางการแล้วในวันที่ 29 ตุลาคม 2568  ปิดฉากการเจรจายาวนานหลายเดือน เพื่อสรุปรายละเอียดภายใต้กรอบความร่วมมือที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา

ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว เกาหลีใต้จะลงทุน 150,000 ล้านดอลลาร์ ในอุตสาหกรรมต่อเรือ และจัดสรรงบเพิ่มเติมอีก 200,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับแผนการลงทุนเพิ่มเติมที่มีลักษณะใกล้เคียงกับข้อตกลงที่ทำไว้กับญี่ปุ่น

คิม ยงบอม หัวหน้าฝ่ายนโยบายของเกาหลีใต้กล่าวว่า การลงทุนดังกล่าวจะอยู่ในรูปแบบของเงินทุน เงินกู้ และการค้ำประกันเงินกู้ ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขผ่อนปรนสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกัน

นอกจากนี้ เกาหลีใต้ตกลงที่จะสั่งซื้อน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากสหรัฐฯ ในปริมาณมหาศาล พร้อมคาดว่ามูลค่าการลงทุนของภาคเอกชนเกาหลีใต้ในสหรัฐฯ จะสูงกว่า 600,000 ล้านดอลลาร์

ขณะที่สหรัฐฯ จะปรับลดอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์จากเกาหลีใต้จาก 25% เหลือ 15% ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของค่ายรถยนต์เกาหลี หลังญี่ปุ่นได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีดังกล่าวแล้ว นอกจากนี้ เกาหลีใต้ยังจะได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีสำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์ยา ให้สอดคล้องกับอัตราภาษีต่ำสุดที่สหรัฐฯ มอบให้ประเทศคู่ค้ารายอื่น

ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า ได้อนุมัติให้เกาหลีใต้สร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ แทนเรือดีเซลรุ่นเก่าที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยจะดำเนินการก่อสร้างที่อู่ต่อเรือในเมืองฟิลาเดลเฟีย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมต่อเรือของสหรัฐฯ ให้เติบโตมากขึ้น

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีอีได้ผลักดันให้สหรัฐฯ อนุญาตให้เกาหลีใต้สามารถนำเชื้อเพลิงนิวเคลียร์กลับมาใช้ในโครงการเรือดำน้ำ เพื่อแทนที่เรือดีเซลที่ใช้ในกองเรือปัจจุบันของประเทศ

ทั้งนี้ก่อนหน้าจะมีการเจรจากันระหว่าง 2 ชาติในวันพุธ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้รับการต้อนรับจากเกาหลีใต้ด้วยกองเกียรติยศและของขวัญ ซึ่งรวมถึง “มงกุฎทองคำ” ซึ่งเขากล่าวติดตลกถึงมงกุฎดังกล่าวว่า อยากจะสวมมันตอนนี้เลย นอกจากนี้ เขายังได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ “มูกึงฮวา” (Grand Order of Mugunghwa) ซึ่งนับเป็นเกียรติสูงสุดของเกาหลีใต้

โดยทรัมป์ได้กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกที่ได้รับรางวัลนี้  ซึ่งทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ระบุว่า เป็น “การยกย่องในผลงานของเขาที่มีต่อสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี” ผู้นำทั้งสองได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันอย่างเป็นทางการ ก่อนที่จะมีการประชุมส่วนตัวในช่วงบ่าย การเดินทางมายังเกาหลีใต้ของทรัมป์เกิดขึ้นไม่นาน หลังจากเกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธนำวิถีแบบยิงจากพื้นสู่อากาศ

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์แสดงความสนใจที่จะพบกับคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ แต่ก็กล่าวเมื่อวันพุธว่า ทีมงานของเขาไม่สามารถจัดให้มีการพบปะได้ในระหว่างการเดินทางครั้งนี้