รีเซต

วิกฤติสุเอซกระทบอาเซียน!! สินค้า 160,000 ตู้ดีเลย์

วิกฤติสุเอซกระทบอาเซียน!! สินค้า 160,000 ตู้ดีเลย์
TNN Wealth
2 เมษายน 2564 ( 13:54 )
282

 

เวลา 4.30 น ของวันจันทร์ที่ 29 มีนาคม 2564 เรือ Ever Given หลุดจากหล่มทราย และกลับมาลอยลำได้ อีกครั้ง เปิดทางให้เรือสินค้ารายอื่นผ่านเดินเรือได้ รวมเวลาที่ปิดกั้นคลอง Suez ไปรวมทั้งสิ้น 5 วัน กับอีก 14 ชั่วโมง เสียหายอย่างหนัก ทำการการขนส่งสินค้าล่าช้า จำนวนมากทั่วโลก 


เว็บไซต์ ด้านการเดินเรือสากล Ocean insights รายงานว่า จากตัวเลขเรือที่เข้าไปลงทะเบียนแจ้งรอเดินทางที่คลองซุเอซ จากวันที่ 23 มีค. จนถึงวันที่ 29 มีค. รวมทั้งสิ้น  77 ลำ 

 

  • มีสินค้าที่ติดค้างอยู่บนเรือทั้งหมด 875,917 ตู่คอนเทนเนอร์
  • มีจุดหมายปลายทาง ยังท่าเรือหลักของโลกรวม 26 ท่าเรือ
  • มีช่วงเวลาที่ต้องเดินทางถึงท่าเรือปลายทาง ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม – 8 เมษายน
  • เป็นเรือสินค้าที่มีปลายทางในอาเซียน รวม 14 ลำ
  • จำนวนบรรทุกรวม  162,000 ตู้คอนเทนเนอร์
  • ปลายทางท่าเรือสิงคโปร์ 8 ลำ จำนวนบรรทุก 91,000 ตู้คอนเทนเนอร์
  • ปลายทางท่าเรือตันจุงปาลาปัส มาเลเซีย 3 ลำ  จำนวนบรรทุก 48,700 ตู้คอนเทนเนอร์
  • ปลายทางพอร์ตกลาง มาเลเซีย 3 ลำ จำนวนบรรทุก 22,500 ตู้คอนเทนเนอร์

 


โดยมีช่วงเวลาเดินทางมาถึงเป้าหมาย 3 ท่าเรือของอาเซียน ตั้งแต่ช่วงเวลา 3-8 เมษายน หมายความว่า บริษัทในอาเซียน ที่สั่งซื้อสินต้า ในรอบช่วงเวลานี้ จาก ยุโรป และอเมริกา ผ่านคลองสุเอซ มาปลายทางอาเซียน จะได้รับสินค้าล่าช้า อย่างน้อย 10 วัน 

 


ปกติประเทศในอาเซียน เมื่อสั่งสินค้าเข้ามาจากกลุ่มยุโรป และอเมริกา เรือสินค้าหลัก หรือเรือแม่ จะวิ่งเข้ามาจอดที่ท่าเรือหลักของอาเซียน ซึ่งมีอยู่แค่ 3 แห่ง คือ สิงคโปร์ ตันจุงปาลาปัส และพอร์ตกลาง ของมาเลเซีย จากนั้นจะมีเรือ feeder หรือเรือขนส่งขนาดเล็ก วิ่งไปรับตู้คอนเทนเนอร์แล้ว ส่งไปยังท่าเรือทั่วอาเซียน เช่น

 

  • ท่าเรือกรุงเทพ
  • ท่าเรือแหลมฉบัง
  • ท่าเรือสีหนุวิลล์
  • ท่าเรือก๋ายเมบ ทิวาย

 


สำหรับการกล่าวถึง ขนาดของเรือ Ever Given ขนาด ความยาว 400 เมตร ขนสินค้าได้มากถึง 20,000 ตู้คอนเทนเนอร์นั้น  ปกติสายเดินเรือขนาดใหญ่ ได้พัฒนาเรือใหญ่หรือ ULCV มาเป็นเวลานานแล้ว เพราะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายต่อเที่ยว ต่อตู้ได้มากกว่าใช้เรือขนาดเล็กกว่า 

 


โดย เรือในคลาส ULCV มีเรือขนาดใหญ่ ที่ยาว 400 เมตร และขนสินค้าได้มากกว่า 20,000 ตู้ มากกว่า 77 ลำ ลอยลำอยู่ทั่วโลก โดยตระกูล EVER นี้มีอยู่ทั้งหมด 11 ลำด้วยกัน เรือคลาสนี้ ผ่านคลองสุเอซได้ไม่มีปัญหา 
ทางด้าน เว็บไซต์ globaltimes รายงานว่า สถานการณ์ คลองสุเอซในครั้งนี้  ทำให้กองเรือพาณิชย์จีน ต้องพิจารณา ถึงความอ่อนไหวในห่วงโซอุปทานระบบขนส่งทางทะเลของจีน ทั้งนี้เรือ EVER GIVEN เป็นเรื่อแม่ที่ขนส่งสินค้าข้ามทวีป แวะเข้าไปรับสินค้าจีนที่ท่าเรือ Yantain ในกวางตุ้งจากนั้นแวะรับตู้เพิ่มที่ท่าเรือตันจุงปาลาปัส ในมาเลเซีย และมีปลายทางที่ ท่าเรือร็อตเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์   

 


เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เกิดผลกระทบหลายด้าน ซึ่งจีนจะต้องวางแผนจัดการ เช่น

 

  • สินค้า ส่งถึงปลายทางล่าช้าอย่างน้อย 10 วัน
  • ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น
  • ขาดแคลนวัตถุดิบ ทำให้การผลิตชะงักงัน
  • ธุรกิจบางชนิดต้อง ยุติลงชั่วคราว ในช่วงรอสินค้า
  • การเดินเรือต้องเผื่อแผน อ้อมแหลมกู้ดโฮป ซึ่งใช้เวลานานกว่าเดิม 10-15 วัน
  • ทางเลือก ขนส่งกรณีฉุกเฉินไปเส้นทางรถไฟ จีน-ยุโรป 

 


จากนี้ไปการเลือกเส้นทางขนส่งสินค้า จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้ผลิตจากตะวันออก อย่างจีน และอาเซียน ต้องระมัดระวังและ จำต้องมีแผนสองสำหรับการเปลี่ยนเส้นทาง หากเกิดกรณีฉุกเฉินขึ้นซ้ำอีก

 

 

ข่าวเกี่ยวข้อง : 

 

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง