รีเซต

ป้าแต๋น เมียลุงพล เจอ 2 ข้อหาหนักฐานร่วมกระทำผิด 'คดีน้องชมพู่'

ป้าแต๋น เมียลุงพล เจอ 2 ข้อหาหนักฐานร่วมกระทำผิด 'คดีน้องชมพู่'
TeaC
2 กันยายน 2564 ( 15:53 )
430
ป้าแต๋น เมียลุงพล เจอ 2 ข้อหาหนักฐานร่วมกระทำผิด 'คดีน้องชมพู่'

ข่าววันนี้ เว็บไซต์ fm91 รายงานคดีน้องชมพู่ว่า อัยการมีการพิจารณาคดีเห็นว่า พยานหลักฐานและพฤติการณ์ทั้งหลายในสำนวนการสอบสวนมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า นางสาวสมพร หลาบโพธิ์หรือป้าแต๋น ภรรยานายไชย์พล วิภา ได้ร่วมกระทำผิด โดยร่วมกันกระทำการใด ๆ แก่ศพของเด็กหญิงชมพู่ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป ตาม ป.วิอาญา ม.150 ทวิและ ป.อาญา ม.83 ให้ส่งเอกสารหลักฐานภายในวันที่ 7 ก.ย. 2564

 

ป้าแต๋น เปิดใจพร้อมสู้-ไม่กังวล

 

ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังลุงพล และป้าแต๋น เปิดเผยเพียงสั้นๆ ว่า ยังไม่ทราบเรื่องว่าป้าแต๋นถูกแจ้งข้อกล่าวหา ตลอดเวลาที่ผ่านมาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่มาโดยตลอด ระหว่างที่ผู้สื่อข่าวพูดคุยอยู่นั้น ลุงพลได้แจ้งว่า ตำรวจมาหาหน้าบ้านจึงขอตัวไป ก่อนบอกว่าจะติดต่อกลับมาใหม่ ส่วนตัวยังคงสู้และไม่กังวลใจอะไร

 

ตร.ตามหาป้าแต๋น คาดส่งหมายเรียกแจ้งข้อหาร่วมกระทำความผิด คดีน้องชมพู่ แต่พบไม่อยู่บ้าน

 

เมื่อเวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรกกตูมได้เดินทางไปที่บ้านนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล บ้านกกกอก ตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร และได้ถามหานางสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น ภรรยาลุงพล และยังมีศักดิ์เป็นป้าของ ด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือน้องชมพู่ ที่เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำบนภูเหล็กไฟ บ้านกกกอก

 

โดยได้นำเอกสารซึ่งคาดว่าจะเป็นหมายเรียกให้ป้าแต๋น ไปพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรกกตูม สืบเนื่องจาก ปรากฏพยานหลักฐานและพฤติการณ์ในสำนวนการสอบสวนมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าป้าแต๋น ได้ร่วมกระทำผิดกับผู้ต้องหา โดยร่วมกันกระทำการใด ๆ แก่ศพของน้องชมพู่ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไปตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 150 ว่า

 

“ผู้ใด กระทำการใดๆ แก่ศพ หรือ สภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่ น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพ หรือ ผลทางคดี เปลี่ยนแปลงไป เว้นแต่จำเป็น ต้องกระทำ เพื่อป้องกันอันตรายแก่อนามัยของประชาชน หรือ เพื่อประโยชน์สาธารณะอย่างอื่น ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 2 ปี หรือ ปรับตั้งแต่ 10,000 – 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง เป็นการกระทำ โดยทุจริต หรือเพื่ออำพรางคดี ผู้กระทำต้องระวางโทษเป็น 2 เท่า ของโทษที่กำหนดไว้ สำหรับความผิดนั้น”

 

และยังเป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาตามมาตรา 83 ซึ่ง บัญญัติว่า “ในกรณีความผิดใดเกิดขึ้นโดยการกระทำของบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป ผู้ที่ได้ร่วมกระทำความผิดด้วยกันนั้นเป็นตัวการ ต้องระวางโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น”

 

แต่เจ้าหน้าที่ พบเพียงลุงพลอยู่ภายในบ้าน แจ้งว่าป้าแต๋นไปนาไม่อยู่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางกลับออกไป โดยไม่ได้ส่งหมายเรียกให้กับคนในบ้าน

 

ข้อมูล : ข่าวสด

 

ข่าวเกี่ยวข้อง :

 

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง