“กอช”จัดงานวันออม หนุนผู้ประกอบอาชีพอิสระมีเงินใช้หลังเกษียณ

#ทันหุ้น กอช.มุ่งส่งเสริมการออมให้ผู้ประกอบอาชีพอิสระมีเงินใช้หลังเกษียณมอบรางวัลส่งเสริมการออมยอดเยี่ยม ประจำปี 2568 แก่หน่วยงานเครือข่าย เนื่องในวันออมแห่งชาติ”
กองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. จัดงานมอบรางวัลส่งเสริมการออมยอดเยี่ยม กับ กอช. ประจำปี2568 เนื่องในวันออมแห่งชาติ โดยนายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการคลัง ให้เกียรติเป็นประธานมอบรางวัล เพื่อขอบคุณเครือข่ายความร่วมมือส่งเสริมการออม พร้อมเดินหน้าส่งเสริมให้ประชาชนแรงงานนอกระบบเข้าถึงการออมได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ พร้อมบูรณาการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่าย ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ให้มีเงินบำนาญกับ กอช. ใช้ในยามเกษียณหลังอายุ60 ปี
นายเบญจรงค์ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญ การออม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ ในการพัฒนาระบบการออมให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเตรียมความพร้อมสู่สังคมสูงวัยอย่างมีคุณภาพ สอดคล้องกับนโยบายด้านเศรษฐกิจที่รัฐบาล ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา ภายใต้นโยบายเร่งด่วน “Quick Big Win” ด้วยแนวคิด “กระตุ้นสั้น ได้ยาว กระจายตัว” ซึ่งท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้นำนโยบายดังกล่าวมากำหนดเป็นแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินงาน 5 เสาหลัก และ 1 ฐานราก เพื่อเร่งรัดการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม
นอกจากนี้ รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการออมเพื่อการเกษียณ ซึ่งเป็นไปตามแผนนโยบายยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ยุทธศาสตร์ที่ 4 ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม รวมทั้งแผนปฎิรูปประเทศด้านสังคม ประเด็นปฎิรูปที่ 1 กำหนดการปฏิรูปการออม สวัสดิการสังคม และการลงทุนเพื่อสังคม โดยหนึ่งในกิจกรรมที่จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อประชาชน คือ ระบบการออมเพื่อสร้างหลักประกันรายได้หลังวัยเกษียณที่เพียงพอและครอบคลุม ในกลุ่มแรงงานทั้งในและนอกระบบ ซึ่งตรงตามภารกิจหลักของ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.)
“กอช. เป็นองค์กรหลักในการส่งเสริมและขับเคลื่อนการออมภาคสมัครใจสำหรับแรงงานนอกระบบทั่วประเทศ ครอบคลุมกลุ่มผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ค้าขาย และผู้ประกอบอาชีพอิสระ ตลอดจนนักเรียน นักศึกษา ที่กำลังก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงาน เพื่อให้สามารถสร้างหลักประกันทางรายได้ในวัยเกษียณ ผ่านเงินออมของตนเอง ซึ่งการออมเงินกับ กอช. เริ่มต้นออมเพียง 50 บาทต่อครั้ง สูงสุดไม่เกิน30,000 บาทต่อปี จะได้รับเงินสมทบจากรัฐ ตามช่วงอายุในเดือนถัดไป สูงสุด 100% แต่ไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี ยังมีผลตอบแทนจากการบริหารกองทุนอีกด้วย นับว่าเป็นแรงจูงใจสำคัญในการสร้างเสถียรภาพทางการเงินและยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงานนอกระบบ เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุได้เป็นอย่างดี
ขณะเดียวกัน กอช. ยังได้ริเริ่มโครงการ “สลากออมทรัพย์เพื่อการดำรงชีพในยามชราภาพ” หรือ “สลากกอช.” ซึ่งเป็นนวัตกรรมการออมรูปแบบใหม่ ที่นำเอาวิถีชีวิตของคนไทยมาสร้างแรงจูงใจให้เกิดการออมเงิน ผ่านสลาก กอช. ซื้อแล้วเงินไม่หาย กลายเป็นเงินออมทุกบาท เพื่อส่งเสริมให้คนไทยรู้จักเก็บออมและมีหลักประกันทางรายได้ในอนาคต มั่นใจว่า โครงการนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนลดภาระด้านสวัสดิการสังคม และการคลังของภาครัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ” ดร.เบญจรงค์กล่าว
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการกอช.กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2541 กำหนดให้วันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี เป็น“วันออมแห่งชาติ” เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนคนไทยมีวินัยรักการออม การวางแผนทางการเงิน รวมทั้งเพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของการออมเงิน และปัจจุบัน ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ และ ในปี 2574 จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด เพื่อการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่เข้มแข็ง โดยเริ่มวางแผนการเงินให้ตนเอง ด้วยการบริหารจัดการเงินให้งอกเงยและมั่นคง เริ่มการออมที่มีวินัยจะทำให้ถึงเป้าหมายในอนาคตได้ องค์ประกอบที่สำคัญของการออมเพื่อความมั่นคง โดยต้องมีระยะเวลาที่ยาวพอ จำนวนเงินออม และผลประโยชน์ตอบแทนจากการออม กอช. จึงเป็นทางเลือกการออมยืดหยุ่นที่เหมาะสำหรับคนไทยที่ไม่มีสวัสดิการบำนาญ เช่น ผู้ประกอบอาชีพอิสระ พ่อค้าแม่ค้า แรงงานนอกระบบ นักเรียน นักศึกษาที่มีอายุระหว่าง 15 – 60 ปี เริ่มออมได้ตั้งแต่ 50 บาท สูงสุด 30,000 บาทต่อปี พร้อมรับเงินสมทบจากรัฐสูงสุดถึง 100% ตามช่วงอายุ ดังนี้
อายุ 15 - 30 ปี รัฐสมทบให้ 50% ของเงินออม แต่ไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี
อายุ >30 – 50 ปี รัฐสมทบให้ 80% ของเงินออม แต่ไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี
อายุ >50 – 60 ปี รัฐสมทบให้ 100% ของเงินออม แต่ไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี
นอกจากนี้ สมาชิกได้รับผลประโยชน์ตอบแทนของเงินออมสะสม เงินสมทบที่นำไปลงทุน ทั้งนี้ รัฐบาลค้ำประกันผลตอบแทนจากการลงทุนสำหรับสมาชิกที่ออมกับ กอช. ถึงอายุ 60 ปีบริบูรณ์ และเงินออมสะสมของสมาชิกสามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปี
ในปัจจุบัน กอช. มีจำนวนสมาชิกกว่า 2,817,745 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2568) โดยสมาชิกส่วนใหญ่ ร้อยละ 43.27 เป็นผู้ประกอบอาชีพเกษตรกร รองลงมาเป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระ ร้อยละ28.94 และนักเรียน นักศึกษา ร้อยละ 10.61 ตามลำดับ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
