รีเซต

TFM คาดรายได้ปี 2568 เติบโต 7-9% อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับสูง

TFM คาดรายได้ปี 2568 เติบโต 7-9% อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับสูง
ทันหุ้น
31 ตุลาคม 2568 ( 15:13 )
19

#TFM #ทันหุ้น-บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFM ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำและอาหารสัตว์เศรษฐกิจของไทย คาดรายได้ปี 2568 เติบโต 7-9% หลังจากที่ไตรมาส 3/68 อยู่ที่ 1,694 ล้านบาทสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าอยู่ในระดับสูง และควบคุมค่าใช้จ่ายในการขาย

นายพีระศักดิ์ บุญมีโชติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำหรับเป้าหมายปี 2568 คาดว่ารายได้ของบริษัทฯ จะเติบโต 7–9 เปอร์เซ็นต์ จากโมเมนตัมที่แข็งแกร่งของธุรกิจอาหารกุ้งและอาหารปลาในประเทศไทย รวมถึงการฟื้นตัวของความต้องการในอินโดนีเซียหลังการระบาดของโรค คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับสูงจากการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต พอร์ตโฟลิโอที่มีคุณภาพ และการบริหารต้นทุนวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่จะควบคุมสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายให้อยู่ในระดับ 8–10 เปอร์เซ็นต์

สำหรับผลดำเนินงานไตรมาส 3/68 ประสบความสำเร็จอย่างสูงด้วยยอดขายและกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากความแข็งแกร่งของหลายกลุ่มธุรกิจ โดยมียอดขาย 1,694 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.9 เปอร์เซ็นต์ จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แรงหนุนหลักมาจากผลิตภัณฑ์อาหารกุ้งซึ่งเพิ่มขึ้นจากความต้องการในประเทศที่แข็งแกร่งของลูกค้ารายสำคัญ รวมถึงยอดส่งออกจากไทย ส่วนผลิตภัณฑ์อาหารปลา มียอดขายเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนจากแรงหนุนของปริมาณขายอาหารปลากะพงที่เพิ่มขึ้น สะท้อนการขยายส่วนแบ่งตลาดและความเป็นผู้นำของ TFM ในตลาดอาหารปลากะพงอย่างต่อเนื่อง

ด้านกำไรขั้นต้นของบริษัทฯ ทำได้ 370 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.7 เปอร์เซ็นต์ จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น 21.8 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้น 2.6 เปอร์เซ็นต์ จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากยอดขายที่สูงขึ้น การปรับโครงสร้างผลิตภัณฑ์ไปสู่กลุ่มที่มีมาร์จิ้นสูง และต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง โดยสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายลดลงเหลือ 7.1 เปอร์เซ็นต์ จาก 7.9 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนประสิทธิภาพการควบคุมต้นทุน อีกทั้งอัตราภาษีที่แท้จริงลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า หลังจากเริ่มรับรู้สิทธิประโยชน์ BOI สำหรับการผลิตอาหารกุ้งที่โรงงานสงขลา และอาหารปลาที่โรงงานสมุทรสาคร ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 223 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.8 เปอร์เซ็นต์ จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีอัตรากำไรสุทธิที่ 13.2 เปอร์เซ็นต์ สะท้อนประสิทธิภาพการดำเนินงานที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังคงอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเพียง 0.46 เท่า

**งบ 9 เดือนแรกปี 68

ขณะที่ผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทฯ มียอดขายรวม 4,401 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.8 เปอร์เซ็นต์ จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 549 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.8 เปอร์เซ็นต์ จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตอกย้ำการเติบโตที่มั่นคง นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2568 เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2568 มีมติอนุมัติการขายเงินลงทุนทั้งหมดใน AMG–Thai Union Feedmill (Private) Limited (AGM-TFM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในปากีสถานที่ TFM ถือหุ้น 51 เปอร์เซ็นต์ เพื่อปรับโครงสร้างเชิงกลยุทธ์ของกลุ่มไทยยูเนี่ยน และเพิ่มประสิทธิภาพรวมถึงเสริมความสามารถการแข่งขันในธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินหรือผลการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญ และแม้ AMG-TFM จะไม่เป็นบริษัทย่อยอีกต่อไป แต่ TFM ยังคงความร่วมมือในรูปแบบการสนับสนุนด้านเทคนิค โดยจะให้ความช่วยเหลือด้านความรู้และเทคโนโลยีการเลี้ยงกุ้งแก่ AMG-TFM ต่อไป

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง