"เคทีบีเอสที" ส่องผลกระทบบจ.ไทย กรณีเมียนมาร์สั่งหยุดคืนหนี้ให้เจ้าหนี้ตปท.
#ทันหุ้น-บล.เคทีบีเอสที ระบุว่ากรณีที่ธนาคารกลางเมียนมาร์ออกคำสั่งให้บริษัท และผู้กู้ยืมเงินรายย่อยระงับการชำระคืนหนี้เงินกู้ต่างประเทศ ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยไว้ก่อน เพื่อรักษาปริมาณทุนสำรองเงินตราต่างประเทศที่ลดลงนั้น ฝ่ายวิจัยมีมมองเป็นกลางจากประเด็นดังกล่าว เพราะบริษัทไทยส่วนใหญ่ที่ประกอบธุรกิจในเมียนมาร์ไม่มีหนี้เป็นสกุลเงินต่างประเทศ จึงส่งผลกระทบจำกัด
และฝ่ายวิจัยได้สอบถามไปยังบริษัทต่างๆ ที่ประกอบธุรกิจในเมียนมาร์ มองว่าประเด็นข้างต้นไม่ส่งผบกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผลประกอบการของบริษัท จึงมองว่าราคาหุ้นที่ปรับลงเมื่อวานนี้ จึงเป็นจังหวะให้เข้าสะสมหุ้น โดยชอบหุ้น MEGA แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 67 บาทต่อหุ้น จากแแนวโน้มกำไรที่จะทำสถิติสูงสุดใหม่ตั้งแต่ไตรมาส 2/65 เป็นต้นไป ได้อานิสงส์ค่าเงินบาทอ่อนตัวและผู้บริโภคห่วงใยสุขภาพมากขึ้น
**บริษัทที่มีสัดส่วนรายได้จากเมียนมาร์อย่างมีนัยสำคัญ เรียงตามลำดับสัดส่วนรายได้ในเมียนมาร์ จากมากไปน้อยดังนี้
- MEGA (ซื้อ/ เป้ า 67.00 บาท) มีสัดส่วนรายได้จากเมียนมาร์อยู่ที่ 37% ของรายได้รวม โดย 65%ของรายได้ ในเมียนมาร์เป็น pharmaceutical products ซึ่งเป็นสินค้าจำเป็ น ด้ าน consumer products จะมีสัดส่วนรายได้เพียง 35% เท่านั้น ทั้งนี้หากรายได้ส่วนนี้กว่าฝ่ายวิจัยคาด 10% จะกระทบกำไรสุทธิปี 2565 เพียง 0.8% เท่านั้น ด้านเงินจ๊าดที่อ่อนค่าส่งผลกระทบจำกัด โดย MEGA มีรายรับในเมียนมาร์เป็นเงินจ๊าด แต่ตั้งราคาขายในสัญญาซื้อขายเป็นสกุลดอลลาร์ การอ่อนค่าของเงินจ๊าดส่งผลให้ราคาขายปรับตัวเพิ่มขึ้น สำหรับเงินกู้ต่างประเทศ ทางบริษัทฯไม่มีเงินกู้ต่างประเทศ
- OSP (ถือ/ เป้า 37.00 บาท) มีสัดส่วนรายได้จากเมียนมาร์อยู่ที่ 10% ของรายได้รวม โดยมีโรงงานผลิตเครื่องดื่มในเมียนมาร์ ทั้งนี้ OSP มีรายรับและรายจ่ายเป็นจ๊าด สำหรับเงินกู้ในสกุลเงินต่างประเทศ OSP มีเงินกู้อยู่ที่ USD 27.8 mn บริษัทฯยืนยันที่จะทำตามนโยบายแบงก์ชาติเมียนมาร์
-CBG (ถือ/ เป้ า 107.00 บาท) มีสัดส่วนรายได้จากเมียนมาร์อยู่ที่ 10% ของรายได้รวม โดยการซื้อขายเป็นเงินบาท การส่งออกสินค้าไปเมียนมาร์ยังดำเนินการได้ตามปกติ มองว่า CBG ได้รับผลกระทบจำกัด สำหรับธุรกิจในเมียนมาร์ไม่มีเงินกู้เป็นสกุลเงินต่างประเทศ
--สำหรับบริษัทที่มีผลการดำเนินงานในเมียนมาร์ แต่สัดส่วนรายได้ไม่มีนัยส าคัญ ได้แก่
- AEONTS (ซื้อ/ เป้า 200.00 บาท) บริษัทเริ่มกลับมาปล่อยสินเชื่อในเมียนมาร์แบบจ ากัด โดยอาศัยการรับจ่ายเงินในประเทศเท่านั้น และไม่สามารถนำเงินออกจากเมียนมาร์ได้ทั้งนี้มีสินเชื่อเมียนมาร์ต่ำมากประมาณ 0.3% ของสินเชื่อรวม
- AMATA (ซื้อ/ เป้ า 23.50 บาท) บริษัทมีเงินฝากคงเหลือประมาณ 80 ล้านบาท (เป็นเงินทุนที่ยังไม่ได้ลงทุนในนิคมเมียนมาร์ที่ถูกพักการดำเนินงานตั้งแต่รัฐประหาร) ที่ฝากในรูปสกุลดอลลาร์ในเมียนมาร์
- CPF (ซื้อ/ เป้ า 30.00 บาท) มีรายได้จากประเทศเมียนมาร์แต่ไม่มีนัย
- SAPPE (NR) มีสัดส่วนรายได้จากเมียนมาร์อยู่ที่ 1% ของรายได้รวม โดยรับรู้เป็นสกุลเงินบาท
- TVO (ถือ/ เป้า 33.50 บาท) มีรายได้จากประเทศเมียนมาร์แต่ไม่มีนัย
- PTTEP (ซื้อ/ เป้า 190.00 บาท) มีรายได้จากประเทศเมียนมาร์แต่รับรู้ เป็นสกุลเงินดอลลาร์ และไม่มีเงินกู้ในสกุลเงินจ๊าด
- SCC (ซื้อ/เป้า 440.00 บาท) มีรายได้จากเมียนมาร์แต่ไม่มีนัยยะ และไม่มีเงินกู้สกุลเงินจ๊าด