รีเซต

ธปท.ประกาศร่วมทุนธนาคาร-AMC มุมมองโบรกฯ ต่อหุ้น Bank-Finance

ธปท.ประกาศร่วมทุนธนาคาร-AMC  มุมมองโบรกฯ ต่อหุ้น Bank-Finance
ทันหุ้น
27 มกราคม 2565 ( 10:40 )
133

#แบงก์ชาติ #ทันหุ้น - บล.เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) มองกรณี ธปท. ออกเกณฑ์การร่วมทุนธนาคาร และ AMC วานนี้ โดยธปท. ได้ประกาศ “หลักเกณฑ์การดำเนินงานในกิจการร่วมทุนเพื่อแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพอันเนื่องมาจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2562” เพื่อเป็นเครื่องมือการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพในระบบเศรษฐกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีประเด็นสำคัญ คือ 1) ตั้งมีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่างธนาคาร และ AMC รวมทั้งขอใบอนุญาต AMC ให้แล้วเสร็จภายใน 31 ธ.ค. 2567 2) JV สามารถรับซื้อ หรือรับโอนเฉพาะสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของลูกหนี้ที่เป็นบุคคลธรรมดาที่มีภูมิลาเนาในประเทศไทย หรือนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย และอสังหาริมทรัพย์รอการขายที่ได้มาจากการชาระหนี้ โดยต้องรับซื้อในมูลค่ายุติธรรม 3) JV จะมีอายุการดาเนินงานไม่เกิน 15 ปี นับแต่วันที่เริ่มดาเนินงาน 4) ธนาคารสามารถถือหุ้นใน JV มากกว่า 10% ได้ 5) ธนาคารสามารถให้สินเชื่อ มากกว่า 25% ได้ 

 

ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกต่อกลุ่ม Finance และกลุ่มธนาคาร จากการจัดตั้งการร่วมทุน (JV) ของสถาบันการเงิน และบริษัทบริหารสินทรัพย์ 

 

Finance: มองเป็นบวกต่อประเด็นดังกล่าว โดยประเมินว่าการจัดตั้ง JV จะส่งผลบวกต่อการดำเนินงานของบริษัท AMC ดังนี้ 1) AMC มีทรัพย์ภายใต้การบริหารที่เพิ่มขึ้น 2) บริษัทไม่มีความจำป็นที่จะต้องลงทุนใน JV ที่สูง เนื่องจาก JV สามารถระดมทุนผ่านการกู้ยืมเงินได้ 3) รับรู้รายได้จากการรับจ้าง JV ในการบริหารจัดการหนี้เสีย โดยประเมินว่ารายได้จะอิงจากมูลหนี้รับจ้าง และผลสำเร็จจากการติดตามหนี้ รวมทั้งรับรู้รายได้ส่วนแบ่งจาก JV เพิ่มขึ้น 4) เพิ่มประสิทธิภาพในการติดตามหนี้ โดยคาดว่าธนาคารจะยินยอมให้ข้อมูลลูกหนี้กับ JV ทำให้ลดระยะเวลาในการติดตามลูกหนี้

 

ทั้งนี้ ประเมินว่าการจัดตั้ง JV ข้างต้นจะเป็นการปลดล็อคการจัดตั้ง JV เพื่อบริหารจัดการหนี้เสีย secured loan และคาดว่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนของการจัดตั้ง และผลดำเนินงานของ JV ใน 2H65 อิงระยะเวลาในการจัดตั้ง และแต่งตั้งคณะกรรมการจำนวน 3-4 เดือน และระยะเวลาของใบอนุญาต AMC จำนวน 1 เดือน โดยการจัดตั้ง JV ข้างต้นจะส่งบวกต่อผู้ประกอบการ AMC เรียงจากมากไปน้อย ได้แก่ BAM, JMT และ CHAYO อิงขนาดพอร์ตหนี้เสีย, ความสามารถและเชี่ยวชาญในการบริหารหนี้เสีย Secured loan, และฐานเงินทุนในการเข้าลงทุน JV โดยยังคงในน้ำหนักการลงทุนในกลุ่ม Finance ที่ “เท่ากับตลาด” และ Top pick เป็น JMT (ซื้อ/เป้า 80.00 บาท) และจากประเด็นดังกล่าวจะเห็นการเก็งกำไรของ BAM (ถือ/เป้า 20.50 บาท) เพราะได้ประโยชน์สูงสุด สำหรับ BAM มีโอกาสที่จะปรับประมาณการกำไร และราคาเป้าหมายขึ้น จากการปลดล็อค JV ที่จะช่วยหนุนผลการดำเนินงานในระยะยาวของบริษัท 

 

Bank: ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกต่อประเด็นดังกล่าว จะทำให้กลุ่มธนาคารมีการทำ JV กับบริษัทในกลุ่ม AMC ได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้กลุ่มธนาคารมี NPL ที่ลดลงได้ในระยะยาว และช่วยให้มีกำไรจากการขายได้ดีขึ้นแต่เป็น upside ต่อกำไรของแต่ละธนาคารไม่มาก ทั้งนี้คาดว่าธนาคารที่ได้ประโยชน์เรียงตามสัดส่วนสินเชื่อรายใหญ่+SME+สินเชื่อบัตรเครดิตและส่วนบุคคล+สินเชื่อบ้านจากมาก-น้อยคือ KBANK, SCB, KTB, TTB, BBL, KKP, TISCO โดยยังคงให้น้ำหนักการลงทุนในกลุ่มธนาคารเป็น “มากกว่าตลาด” เลือก SCB (ซื้อ/เป้า 150.00 บาท) และ TTB (ซื้อ/เป้า 1.80 บาท) เป็น Top pick และจากประเด็นดังกล่าวจะเห็นการเก็งกาไรของ KBANK (ซื้อ/เป้า 172.00 บาท) มากขึ้นได้เพราะได้ประโยชน์สูงสุด

 

Bank peer comparison

AMC peer comparison

ข่าวที่เกี่ยวข้อง