ชูเป้าใหม่LEOที่20บาท ค่าระวางพุ่งทำนิวไฮ

บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ประเมินทิศทาง บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO ว่า คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 20.00 บาท (จาก 17.00 บาท) อิง 2565 PER 30x (Average Peer 28x) มีมุมมองเป็นบวกต่อ Outlook ของบริษัททั้งระยะสั้นและยาวจาก 1. ค่าระวางทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 5,046 จุด จากปริมาณการขนส่งยังเติบโตตามการฟื้นตัวของ Global Demand

** ดีลควบรวม ม.ค.นี้

2. Port Congestion มีแนวโน้มที่แย่ลง ท่าเรือแต่ละท่าของสหรัฐ ในเดือนธันวาคม มีเรือกว่า 100 ลำรอเทียบท่า และการระบาดของ Omicron อาจกระทบต่อ Supply Chain ทั่วโลก 3. ดีล M&A ที่จะประกาศในช่วงกลางเดือนมกราคมนี้ และยังมองหา Opportunity อื่นๆ ในอินโดนีเซีย และเวียดนาม

ฝ่ายวิจัยปรับกำไรปี 2565 ขึ้นมา +15% ที่ 213 ล้านบาท (+25% YoY) และประเมินกำไรปี 2566 ที่ 231 ล้านบาท (+8% YoY) ให้ Assumption ค่าระวางในปี 2565 ยังคงอยู่ในระดับสูง แต่เฉลี่ยอาจลดลงจากปี 2564 ราว -10% YoY ทั้งนี้ คาดปริมาณการขนส่งที่สูงขึ้นจะมาชดเชยค่าระวางได้บางส่วน

นอกจากนี้ จะรับรู้รายได้จากการจับมือกับ China post เต็มปี โดยจะทำให้ปริมาณการขนส่งทางอากาศเพิ่มขึ้น +10% YoY และเบื้องต้นประเมินรายได้ขนส่งทางรางร่วมกับ China post ราว 100 ล้านบาท

** แนะ “ซื้อ” เข้าพอร์ต

อีกทั้งยังมี Upside จากการร่วมมือกับ Thailand Post Distribution และดีล M&A ที่คาดจะประกาศเร็วๆ นี้ (กลางเดือนม.ค. 65) คาดว่าอาจเพิ่มรายได้อีกอย่างน้อยราว +5-10% ราคาหุ้น Outperform +20%/+36% ใน 1 และ 6 เดือนที่ผ่านมา จากกำไรที่เติบโตดีตั้งแต่ไตรมาส 2/2564

อย่างไรก็ตาม คงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยมี Key Catalysts คือค่าระวางที่ยังคงทำ New High และการประกาศดีลใหม่ต้นเดือน มกราคม 2565 ด้าน Valuation ราคาปัจจุบันยังน่าสนใจ โดยเทรดที่ 2565 PER ที่ 22.1x ถือว่ายังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม และเทียบกับกำไรปี 2564-66 เติบโตด้วย CAGR ที่ +17%

ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายเกตติวิทย์  สิทธิสุนทรวงศ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2564 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง และมีโอกาสที่จะทำสถิติสูงสุดใหม่ติดต่อกัน 4 ไตรมาส โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากปริมาณการขนส่ง และค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์ที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง

** รายได้-กำไรโตต่อ

นอกจากนี้ในไตรมาส 4/2564 เป็นช่วงไฮซีซันของการขนส่งสินค้า e-Commerce เนื่องจากมีเทศกาล Sale ของ e-Commerce  Platform ทั่วโลก ในเทศกาล 10/10,11/11 และ Black Friday รวมถึงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ซึ่งจะทำให้มีปริมาณการขนส่งสินค้า e-Commerce แบบ Cross Border ของบริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้-กำไร เติบโตอย่างมีนัยสำคัญต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 2565