รีเซต

LEO โชว์ฐานะการเงินแกร่ง! จ่ายคืนหนี้หุ้นกู้ 255 ลบ. ก่อนครบดีลปี 67

LEO โชว์ฐานะการเงินแกร่ง! จ่ายคืนหนี้หุ้นกู้ 255 ลบ. ก่อนครบดีลปี 67
ทันหุ้น
18 ตุลาคม 2566 ( 12:13 )
36
LEO โชว์ฐานะการเงินแกร่ง! จ่ายคืนหนี้หุ้นกู้ 255 ลบ. ก่อนครบดีลปี 67

#ทันหุ้น - LEO โชว์ศักยภาพฐานะการเงินแข็งแกร่ง แจ้งใช้สิทธิชำระหนี้หุ้นกู้แปลงสภาพ LEO244A วงเงิน 255 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย หุ้นกู้งวดที่ 6 (เป็นงวดสุดท้าย) ในวันที่ 20 พ.ย.66 นี้ ก่อนครบกำหนดไถ่ถอนปี 67 ฟากซีอีโอ “เกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์” ประกาศพร้อมเดินหน้ารุกขยายธุรกิจผ่านรูปแบบ JV หรือ M&A ตามแผน มั่นใจช่วยผลักดันผลงานเติบโตก้าวกระโดด

 

นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทฯได้มีการออกหุ้นกู้แปลงสภาพ (LEO244A) มูลค่า 255 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 5.75% ต่อปี ซึ่งจะครบกําหนดไถ่ถอนในปี พ.ศ.2567นั้น บริษัทฯได้แจ้งใช้สิทธิชำระหนี้หุ้นกู้แปลงสภาพก่อนครบกำหนดภายในวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ.2566 พร้อมกับจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้งวดที่ 6 (เป็นงวดสุดท้าย) กำหนดปิดสมุดทะเบียนหุ้นกู้ในวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ.2566

 

ทั้งนี้ บริษัทฯได้ออกหุ้นกู้แปลงสภาพ (LEO244A) ไปตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ.2565 มูลค่าที่ออกหุ้นกู้และคงเหลือ 255 ล้านบาท จำนวน 255,000 หน่วยหุ้นกู้ (จาก Par 1,000 บาท ต่อหนึ่งหน่วยหุ้นกู้)

 

“การที่เรามีความพร้อมในการชำระคืนหนี้หุ้นกู้แปลงสภาพได้ก่อนครบกำหนดในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่าฐานะทางการเงินมีความแข็งแกร่ง เห็นได้จากอัตราส่วนสภาพคล่อง ณ 6 เดือนแรกของปีนี้สูงกว่า 6.3 เท่า ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับต่ำเพียง 0.8 เท่า อีกทั้งยังช่วยทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจในบริษัทฯ มากขึ้น ว่าจะสามารถคืนเงินได้ครบตามกำหนด ถึงแม้จะมีสถานการณ์ที่มีหลายบริษัทในตลาดฯ ไม่สามารถคืนหุ้นกู้ได้  การชำระคืนหนี้หุ้นกู้แปลงสภาพได้ก่อนครบกำหนดของ LEO ในครั้งนี้ จึงเป็นการช่วยลดความกังวลของนักลงทุนได้ดี  ที่สำคัญที่สุดคือการคืนหุ้นกู้ก่อนกำหนดในครั้งนี้ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการบริหารสภาพคล่องของบริษัท และสามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยของบริษัทฯภายในหลายเดือนข้างหน้าได้อีกหลายล้านบาทอีกด้วย สำหรับในส่วนของการดำเนินงานตามแผนงานของบริษัทฯ LEO ยังพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของการ JV หรือ M&A ทั้งในประเทศและต่างประเทศ  เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นต่อไป” นายเกตติวิทย์ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง