รีเซต

"ไถมือถือจนสมองเน่า" ภัยร้ายโซเซียล ที่ไม่ได้ไปต่อในปี 2569

"ไถมือถือจนสมองเน่า" ภัยร้ายโซเซียล ที่ไม่ได้ไปต่อในปี 2569
TNN ช่อง16
29 ธันวาคม 2568 ( 17:11 )
13

ถ้าเราเริ่มรู้สึกว่าชีวิตประจำวันผูกติกับคอนเทนต์บนโลกโซเซียลมากเกินไป จนเกิดความรู้สึกเหนื่อนล้า สมองไม่แล่น ไม่มีสามาธิ นี่อาจจะเป็นสัญญาณว่า กำลังเข้าใกล้ภาวะสมองเน่า หรือ Brain Rot 

ปี 2026 ที่ใกล้เข้ามานี่ คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen Z หลายคนบอกว่า พอแล้วกับพฤติกรรมทำร้ายสมองจากการไถมือถือไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมาย ปีใหม่นี้พวกเขาจะต้องจริงจังกับปกป้องสมอง ด้วยการลดระยะเวลาบนโลกโซเซียลมากขึ้น


ย้อนไปเมื่อปีก่อน Brain rot  หรือ สมองเน่า กลายเป็นคำศัพท์แห่งปี ของ Oxford Dictionary :7j'สะท้อนวัฒนธรรมเสพติดสื่อโซเซียลของคนรุ่นใหม่ได้อย่างดี แม้คำศัพท์คำนี้จะไม่ใช่ ศัพท์ทางการแพทย์และนิยมใช้เป็นคำแสลงมากกว่า แต่ก็ถูกใช้มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อบอกว่าคนใช้โซเชียลมีเดียมากเกินไป จนส่งผลให้ความสามารถในการคิดเชิงวิพากษ์และความสนใจที่มีต่อคนรอบข้างลดลง

สาเหตุหลักๆ ก็มาจากการเสพคอนเทนต์ตลกแต่คุณภาพต่ำ พวกคลิปสั้นมาไวไปไว คลิปรวมชอตตลกๆ มีมสัตว์ทีดูง่าย รวมถึงคลิปเต้นไวรัสของวัยรุ่น ความสนุกช่วงสั้นๆ นี่แลกมากับความพึงพอใจในระยะสั้น ทำให้สมองถูกกระตุ้นด้วยโดพามีน แบบเร็วและถี่ รู้สึกสนุกและตื่นเต้น กลไกนี่ไม่ต่างจากอาการเสพติด ทำให้เราอยากเลื่อนดูคลิปต่อไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีเวลาก็ล่วงเลยผ่านไปนานหลายชั่วโมง 

ผลที่ตามมาจากการเสพคอนเทนต์สั้นๆ อย่างต่อเนื่อง คือ สมองเหนื่อยล้า สมาธิสั้น โฟกัสเรื่องต่างๆ ได้นอน ระยะยาวอาจเกิดผลที่รุนแรงขึ้นกับุขภาพจิตได้ 

สิ่งเหล่านี้ ทำให้คนรุ่นใหม่มองการใช้เวลากับคอนเทนต์บนโซเซียลมีเดียเปลี่ยนไป หลายคนเริ่มขึ้นว่าการลดเวลาสนุกกับหน้าจอ มาให้ความสำคัญกับเรื่องต่างรอบข้าง ดีต่อสุขภาพมากกว่า 

การปกป้องสมอง ไม่ให้เกิด "ภาวะสมองเน่า" ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ไม่ได้หมายความต้องหักดิบ เลิกเล่นโซเซียลมีเดียไปเลย เพราะเราก็ยังต้องติดตามข่าวสารจากโซเซียลบ้าง ดังนั้น ทางออกที่ดีที่สุดคือการจำกัดเวลาเล่น เช่น ห้ามเกินวันละ 20-30 นาที โดยใช้การตั้งปลุกบนมือถือ หมดเวลาแล้วให้เลิกทันที 

นอกจากนี้ ยังควรเลือกเสพคอนเทนต์ที่ให้ความรู้ แรงบันดาลใจ หรือกระตุ้นการใช้ความคิด ไม่ใช่คอนเทนต์ที่แค่สนุกไปเฉยๆ ที่สำคัญคือ ควรเลือกทำ social detox ในวันหยุดบ้าง เพื่อให้เวลากับการทำกิจกรรมอื่นๆ เช่น การอ่านหนังสือ หรือใช้เวลากับคนรอบข้าง เพื่อรีเซตสมองให้กลับมาคุ้นกับการใช้สมาธิมากขึ้น 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง