โลกร้อนขึ้น 7 °C ในปี 2100 โลกเสี่ยงอพยพครั้งใหญ่

สองปีหลังจากที่รัฐสภาสหรัฐอเมริกาผ่านกฎหมายสำคัญด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้เกิดความหวังว่าประเทศจะเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อมโลก แต่การตัดสินใจถอนสหรัฐออกจากข้อตกลงปารีสและสนับสนุนเชื้อเพลิงฟอสซิลของรัฐบาลชุดปัจจุบันกลับทำให้ความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านสภาพภูมิอากาศแทบหยุดชะงัก การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความย้อนแย้งระหว่างความสำคัญของปัญหาสภาพภูมิอากาศกับนโยบายของรัฐบาล
กฎหมาย Inflation Reduction Act ที่ผ่านในปี 2022 ถือเป็นกฎหมายด้านสภาพภูมิอากาศที่สำคัญที่สุดของสหรัฐฯ โดยมีแรงจูงใจด้านพลังงานสะอาดตั้งแต่โซลาร์รูฟท็อปไปจนถึงยานยนต์ไฟฟ้า แต่กฎหมายนี้ถูกยกเลิกบางส่วนในปี 2025 ทำให้โอกาสในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและลงทุนในพลังงานหมุนเวียนลดลงไปอย่างมาก ขณะที่พลังงานจากถ่านหินและแก๊สธรรมชาติก็ยังคงเป็นที่สนับสนุน เนื่องจากรัฐบาลมองว่าเป็นแหล่งพลังงานที่มีเพียงพอและช่วยตอบสนองความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นจากเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น ดาต้าเซ็นเตอร์และปัญญาประดิษฐ์
ข้อมูลทางวิชาการชี้ให้เห็นว่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกเพิ่มขึ้น 67% ในช่วง 34 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าบางประเทศ เช่น จีน จะมีปริมาณการปล่อยรวมสูงกว่าสหรัฐฯ แต่สหรัฐฯ ยังคงเป็นผู้นำด้านการปล่อยต่อหัว อย่างไรก็ตาม อุณหภูมิเฉลี่ยโลกปีที่ผ่านมาอยู่สูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวถึง 2.9 องศาเซลเซียส และหากแนวโน้มยังดำเนินต่อไป โลกอาจร้อนขึ้นเฉลี่ย 7 องศาเซลเซียสภายในปี 2100 ผลกระทบเหล่านี้มีค่าใช้จ่ายต่อประชาชนอเมริกันประมาณ 460 ดอลลาร์ต่อปี จากภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น พายุเฮอร์ริเคน ไฟป่า ค่าประกันภัย และราคาสินค้าอุปโภคบริโภค การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศคาดว่าจะทำให้เกิดการอพยพครั้งใหญ่ทั้งในและระหว่างประเทศในอนาคต ภูมิภาค Great Lakes ของสหรัฐฯ มีศักยภาพที่จะกลายเป็นจุดหมายสำหรับผู้ลี้ภัยด้านสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากมีภูมิอากาศที่ค่อนข้างเย็น น้ำจืดเพียงพอ และค่าครองชีพไม่สูงมาก
บทบาทของสหรัฐอเมริกาในประเด็นสภาพภูมิอากาศโลกมีความสำคัญอย่างยิ่ง แต่การเปลี่ยนนโยบายสนับสนุนเชื้อเพลิงฟอสซิลและยกเลิกแรงจูงใจด้านพลังงานสะอาด ทำให้ความร่วมมือระหว่างประเทศอ่อนแรง ปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและความร้อนของโลกยังคงทวีความรุนแรง ส่งผลต่อเศรษฐกิจ สังคม และการอพยพของผู้คนในอนาคต การฟื้นฟูบทบาทการเป็นผู้นำด้านสภาพภูมิอากาศจึงจำเป็นต่อความมั่นคงและความยั่งยืนของโลก
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
