โลกร้อนทำทะเลอุ่น ปูขนในจีนลดฮวบ

องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ระบุว่า อุณหภูมิทะเลเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 0.13°C ต่อทศวรรษ นับตั้งแต่ปี 1970 สถิติจาก IPCC หรือ คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศพบว่า มากกว่า 90% ของความร้อนส่วนเกินจากโลกร้อนถูกเก็บไว้ในมหาสมุทร ส่งผลให้สัตว์น้ำหลายชนิดมีการแพร่กระจายไปยังน้ำเย็นขึ้น หรือบางชนิดเผชิญกับการสูญพันธุ์ หากอุณหภูมิยังคงเพิ่มขึ้นตามแนวโน้มปัจจุบัน นอกจากนี้ ออกซิเจนใต้น้ำยังลดลงประมาณ 2% ทุกทศวรรษ ทำให้สัตว์น้ำต้องแข่งขันเพื่อความอยู่รอดมากขึ้น

อย่างเช่นที่จีน สิ่งมีชีวิตใต้ทะเลอย่าง “ปูขน” ก็ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโลกร้อนเช่นกัน สำหรับ “ปูขน” ในจีนถือเป็นหนึ่งในอาหารขึ้นชื่อและสินค้าส่งออกราคาสูงของจีน โดยเฉพาะปูจากทะเลสาบหยางเฉิง จังหวัดเจียงซู แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา ชาวประมงในพื้นที่ต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างหนักจากสภาพอากาศที่ร้อนและผิดปกติ ส่งผลต่อวงจรการเจริญเติบโตและผลผลิตของปูครอบครัวที่เลี้ยงปูขนในทะเลสาบหยางเฉิงมากว่าสิบปี แต่ตั้งแต่ปี 2022 บอกว่าพวกเขาต้องรับมือกับอุณหภูมิสูงเป็นเวลาหลายวันและฤดูร้อนที่ยาวนานกว่าปกติ ทำให้ปูโตช้าและลอกคราบช้า

ปูขนมีความต้องการการดูแลสูง ตั้งแต่การเลี้ยงตัวอ่อนในบ่อประมาณหนึ่งปี ก่อนนำไปปล่อยในฟาร์มกั้นรอบทะเลสาบเพื่อให้โตเต็มที่ ปูต้องลอกคราบห้าครั้งระหว่างเดือนมีนาคมถึงปลายเดือนกันยายน ซึ่งอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการลอกคราบครั้งสุดท้ายควรต่ำกว่า 40 องศาเซลเซียส แต่ความร้อนสูงติดต่อกันหลายวันสามารถฆ่าปูขณะลอกคราบได้ ทำให้ชาวประมงต้องหาวิธีแก้ เช่น การทิ้งก้อนน้ำแข็งลงในบ่อน้ำเพื่อช่วยลดอุณหภูมิ

นักวิจัยชี้ว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่เพียงแต่ทำให้ปูโตช้า แต่ยังลดปริมาณออกซิเจนในน้ำและเร่งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ซึ่งเป็นภัยหลายด้านสำหรับปูขน  ปูยังเสี่ยงต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นบ่อยขึ้นจากภาวะโลกร้อน