"โรคเครียดสะสม" คืออะไร แนะสังเกตตัวเอง "คุณ" มีอาการต่อไปนี้หรือไม่?
"โรคเครียดสะสม" คืออะไร? ทำไมถึงเป็นภัยเงียบอันดับต้นๆ ในสังคมไทย แนะสังเกตตัวเองตอนนี้ "คุณ" กำลังเผชิญโรคนี้อยู่หรือไม่?
ในเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ Thai Health Watch The Series 2022 สร้างภูมิคุ้มใจให้แข็งแรง เรียนรู้ วิธีจัดการกับกลุ่มอาการสุขภาพจิต ไม่ว่าจะเกิดกับตัวเองหรือคนที่คุณรัก หัวข้อ “เรื่องใจเรื่องใหญ่ ชวนเสริมภูมิคุ้มใจในภาวะเศรษฐกิจถดถอย” เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดพื้นที่เพื่อพูดคุย แลกเปลี่ยน เกี่ยวกับ "โรคเครียดสะสม"
เครียดสะสม คืออะไร? ทำไมถึงเป็นภัยเงียบอันดับต้นๆ ในสังคมไทย
นายชาติวุฒิ วังวล ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ สสส. ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ความเครียดสะสม ทำไมถึงเป็นภัยเงียบอันดับต้นๆ ในสังคมไทย เพราะหากมีความเครียดสะสม ไม่รู้ทางออก ไม่สามารถสื่อสาร หรือยกภูเขาออกจากอกไม่ได้ ไม่มีความหวัง ซึ่งสิ่งนี้จะกลายเป็นโรคทางใจ ซึ่งคนส่วนใหญ่ในสังคมกำลังอยู่ในภาวะเครียด
ความเครียดสะสม เป็นภาวะที่ส่งผลให้คนเสี่ยงฆ่าตัวตายสูง ผลการทำสำรวจปี 2561 พบว่า ค่าครองชีพและเศรษฐกิจเป็นปัญหาที่เข้ามากระทบกับสุขภาพใจคนไทยมากที่สุด และคนกรุงเทพฯ ที่เผชิญปัญหาด้านสภาพแวดล้อมและค่าครองชีพที่สูงกว่าต่างจังหวัด มีความสุขน้อยต่ำกว่าปกติถึง 2 เท่า หากเทียบกับผลสำรวจความสุขทั้งประเทศ
กรมสุขภาพจิต ได้เผยว่า ภาวะโควิด-19 ที่ผ่านมาที่เกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ มิติ ทำให้คนไทยเครียดสะสม นำพาไปสู่การเป็นโรคซึมเศร้าและอาการอื่นๆ ที่นำไปสู่ความเสี่ยงที่จะฆ่าตัวตายสูงขึ้นจากปกติถึง 10 เท่า
ทั้งนี้ หากรู้สึกเครียดเรื้อรัง ไม่ควรละเลย เพราะอาจพัฒนาเป็นปัญหาสุขภาพจิต ต้องดูแลใจตัวเอง เข้ารับคำปรึกษาอย่างถูกวิธี
ขณะที่กูรูสุขภาพใจ ผศ.ดร.ณัฐสุดา เต้พันธ์ คณบดีคณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้ก่อตั้งเพจ Here to heal ได้เปิดเผยข้อมูลในเรื่องนี้ไว้ว่า ความเครียดหากอยู่กับเรานานๆ ไม่หาย เกิดขึ้นซ้ำๆ ส่งผลต่อการใช้ชีวิต ส่งผลกับอารมณ์เป็นระยะๆ จะกลายเป็น "ความเครียดสะสม"
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าเราเป็น "โรคเครียดสะสม" โดยให้สังเกตว่ามีอาการต่อไปนี้หรือไม่
- หายใจเร็ว หัวใจเต้นเร็วขึ้น ความดันโลหิตสูง
- ประสิทธิภาพในการทำงานและการใช้ชีวิตลดลง
- ไม่อยากเข้าสังคม วิตกกังวลความสัมพันธ์กับคนใกล้ตัว
- กลัว เครียด กังวล อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย
- เบื่อ เฉยชา รู้สึกไม่กระปรี้กระเปร่า
- พฤติกรรมการกินผิดปกติ
- ดื่มแอลกอฮอล์หนักขึ้น หรือ สูบบุหรี่
- สมาธิจดจ่อไม่ดี หลงๆ ลืมๆ
- ท้อแท้หมดหวัง รู้สึกไร้ค่า ไม่อยากมีชีวิตอยู่
ภาพจาก Youtube ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะสสส.
3 จุดสังเกต ชวนเช็กง่ายๆ ดูว่าเรากำลังเผชิญปัญหาสุขภาพจิตอยู่หรือเปล่า?
1. ความคิด
เกิดความคิดเชิงลบในชีวิตประจำวัน หรือ ความคิดว่าเราไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือเปล่า จากปกติที่ไม่เคยคิดมาก่อน หรืออยู่ดีๆ เกิดความกลัวสายตาคนอื่น หรือ ความคิดของคนอื่นขึ้นมาว่าเขาอาจทำร้ายเรา
2. พฤติกรรม
พฤติกรรมนับรวมหมด ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการใช้ชีวิต พฤติกรรมการทำงาน หรือแม้กระทั่งการนอน ดูว่าเรามีพฤติกรรมบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงกะทันหันหรือไม่ หรือ เกิดปัญหาอะไรขึ้นบ้างจากพฤติกรรมปกติ เช่น นอนไม่หลับไม่ทราบสาเหตุ หรือ จากที่เคยมีนิสัยคิดถี่ถ้วนก่อนใช้เงิน กลายเป็นฟุ่มเฟือยขึ้นมากะทันหัน และไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมที่แปลกไปของตัวเองได้
3. อารมณ์และความรู้สึก
อารมณ์แปรปรวนง่ายๆ ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันหรือ มีความแตกต่างจากไปจากเดิมโดยไม่ทราบสาเหตุไม่สามารถควบคุมความเศร้าที่มากเกินไป หรือความโกรธที่มากเกินไปของตัวเองได้
ภาพจาก Youtube ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะสสส.
เรายังสามารถรู้ทันความเครียดได้ ด้วยการทำแบบประเมินสุขภาพจิตจากเว็บไซต์ Mental Health Check-in จากความร่วมมือของกรมสุขภาพจิต และเครือข่าย โดยจะมีอยู่เกณฑ์อยู่ 4 ระดับ เขียว เหลือง ส้ม แดง
แล้วรู้ได้อย่างไร? อาการเครียดสะสม หรือ เริ่มมีภาวะทางสุขภาพจิต
4 ระดับของความเครียด/ซึมเศร้า
สีเขียว เครียด แต่ "เอาอยู่"
ผลข้างเคียง : แม้ทุกคนมีความเครียดแต่ยังพอรับมือได้ด้วยตัวเอง
การช่วยเหลือ : แก้ปัญหาเชิงบวกเช่น ออกกำลังกาย ใช้เวลากับคบที่ตัวเองรัก
สีเหลือง เครียดจัดยังพอ "ประคองไปได้"
ผลข้างเคียง : อยู่ระหว่างป่วยกับปกติเครียดสูง แต่ยังประคองตัวได้เป็นฟางเส้นสุดท้าย
การช่วยเหลือ : ปรับวิธีแก้ปัญหาหาคนรอบข้างรับฟังอย่างเข้าใจ
สีส้ม ซึมเศร้า กระทบกับงาน และการใช้ชีวิต
ผลข้างเคียง : ประสิทธิภาพการทำงานลดลง มีปัญหาปฏิสัมพันธ์ กับผู้อื่น
การช่วยเหลือ : พบแพทย์ หาคนรอบข้างที่รับฟังอย่างเข้าใจ
สีแดง ซึมเศร้า ทำร้ายตัวเอง ฆ่าตัวตาย
ผลข้างเคียง : เสี่ยงทำร้ายตัวเอง ผู้อื่น สิ่งของ และฆ่าตัวตาย
การช่วยเหลือ : ไม่ควรให้ผู้ป่วยอยู่คนเดียว คนรอบข้าง ต้องเปิดใจรับฟัง
ภาพจาก Youtube ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะสสส.
รู้สึกไม่ไหว ปรึกษาใครดี?
ปรึกษาทางโทรศัพท์
สายด่วนสุขภาพจิต
1323 ตลอด 24 ชม.
Depress We Care
โรงพยาบาลตำรวจ
081-932-0000
ตลอด 24 ชม.
สายด่วนสุขภาพจิต
1323
08.00-16.00 น.
สมาคมสะมาริตันส์แห่งประเทศไทย
02-713-6793
12.00-22.00 น.
ปรึกษาช่องทางออนไลน์
CHATBOT 1323
น้องสายด่วนสุขภาพจิต
แชทบอทประเมินความเครียด
ประเมินความเครียด
ประเมินความเครียดในเบื้องต้น
ให้คำแนะนำ
ให้คำแนะนำในการจัดการ ความเครียดในเบื้องต้น
ติดตาม ส่งต่อ
ให้ข้อมูลและส่งต่อสถานพยาบาลด้านสุขภาพจิตที่เกี่ยวข้อง
LINE ID @147nzgad
ภาพจาก Youtube ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะสสส.
ด้านครูมะขวัญ วิภาดา แหวนเพชร ผู้สอนวิชาแห่งความสุข สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KMITL) ได้แชร์เคล็ดลับการสร้างพลังใจด้วยการสร้างกิจวัตรประจำวัน โดยระบุว่า
สร้างพลังใจด้วยการสร้างกิจวัตรประจำวัน
1. ออกกำลังกาย วันละ 15 นาที ทำทุกวัน / impact สูง
2. พูดขอบคุณในสิ่งดีๆ ของผู้อื่น พูดต่อหน้า ส่งโปสการ์ด ส่งข้อความ
3. เขียนขอบคุณอะไรก็ได้ 3 สิ่งก่อนนอน ทำทุกวัน / ห้ามเขียนซ้ำกัน
4. คิดถึงสิ่งที่มีความสุข วันละ 3 สิ่ง ทำทุกวัน / ห้ามเขียนซ้ำกัน
5. ทำสมาธิวันละ 2 นาที ด้วยวิธีการดูลมหายใจเข้าออกตามธรรมชาติ
ภาพจาก Youtube ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะสสส.
ข้อมูลจาก เวทีเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ Thai Health Watch The Series 2022
ภาพจาก Youtube ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะสสส. / AFP