เศรษฐกิจไทยปี 2568 เสี่ยงโตต่ำเพียง 2% ท่องเที่ยวแผ่ว–หนี้สูง

เศรษฐกิจไทยชะลอตัวครึ่งปีแรก

เศรษฐกิจไทยไตรมาสสองปี 2568 ขยายตัว 2.8% ลดลงจาก 3.2% ในไตรมาสแรก ทำให้ครึ่งปีแรกเติบโตเฉลี่ยเพียง 3.0% ปัจจัยหลักที่หนุนเศรษฐกิจยังมาจากการส่งออกที่โตแรงถึง 15% โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ อย่างไรก็ตาม การบริโภคภายในประเทศเริ่มชะลอ ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงกว่า 12% ส่งผลให้รายได้จากการท่องเที่ยวขยายตัวในอัตราที่ช้าลง

จุดแข็งที่ยังประคองเศรษฐกิจ

แม้ภาพรวมจะชะลอตัว แต่ยังมีปัจจัยบวกที่ช่วยประคองเศรษฐกิจ ได้แก่ การลงทุนภาครัฐที่ขยายตัวกว่า 10% การลงทุนภาคเอกชนที่กลับมาฟื้นตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ไตรมาส โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องจักรและยานยนต์ รวมทั้งเสถียรภาพทางเศรษฐกิจที่ยังแข็งแรง อัตราว่างงานต่ำเพียง 0.91% เงินทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูงกว่า 2.6 แสนล้านดอลลาร์

ความเสี่ยงที่ต้องจับตา

สิ่งที่น่ากังวลคือ มาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่จะเริ่มมีผลชัดเจนในครึ่งปีหลัง ซึ่งกระทบโดยตรงต่อสินค้าหลักของไทย เช่น อิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ อีกทั้งปัญหาหนี้ครัวเรือนและธุรกิจที่อยู่ในระดับสูงยังคงจำกัดกำลังซื้อ ขณะเดียวกัน ภาคท่องเที่ยวเริ่มแผ่วลง นักท่องเที่ยวต่างชาติและไทยเที่ยวไทยโตน้อยลง ทำให้ภาคบริการชะลอตามไปด้วย ส่วนภาคเกษตรยังเผชิญราคาผลผลิตตกต่ำ รายได้เกษตรกรหดตัวกว่า 6%

แนวโน้มทั้งปี 2568

สภาพัฒน์ฯ ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะโตเพียง 1.8 – 2.3% ต่ำกว่าปีก่อนที่ขยายตัว 2.5% การขยายตัวหลักจะมาจากการลงทุนภาครัฐและการลงทุนเอกชนที่เริ่มฟื้นตัวเล็กน้อย ขณะที่การส่งออกคาดว่าจะโตเพียง 5.5% ลดลงจากครึ่งปีแรก และการบริโภคเอกชนโตเพียง 2.1% ซึ่งต่ำกว่าปีก่อนมาก

ทิศทางนโยบายที่ต้องเร่ง

เพื่อรับมือแรงกดดัน รัฐบาลควรเร่งกระจายตลาดส่งออกใหม่ ลดการพึ่งพาสหรัฐฯ และเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันควรดึงดูดการลงทุนต่างชาติในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น ดิจิทัล ยานยนต์ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ อีกด้านหนึ่งคือการกระตุ้นการท่องเที่ยวคุณภาพสูง สร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัย และจัดกิจกรรมดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง พร้อมทั้งแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน–ธุรกิจ ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้และสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ

สรุปภาพรวม

เศรษฐกิจไทยปี 2568 กำลังเผชิญแรงกดดันจากทั้งภายนอกและภายในประเทศ การส่งออกและท่องเที่ยวที่เคยเป็นแรงขับเริ่มอ่อนแรง ในขณะที่กำลังซื้อครัวเรือนถูกจำกัดด้วยภาระหนี้สูง อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลสามารถเร่งลงทุน กระจายตลาดการค้า และแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนได้ทันเวลา เศรษฐกิจไทยยังมีโอกาสเติบโตใกล้ระดับ 2% และวางรากฐานสู่การฟื้นตัวที่มั่นคงขึ้นในอนาคต