“Chatbot AI” ผู้ช่วย หรือ ภัยร้ายเงียบ เมื่อโลกเสมือนทำคนจริงเสียชีวิต

Chatbot AI ผู้ช่วย หรือ ภัยร้ายเงียบ ที่ไร้การควบคุม เมื่อชายไทยเสียชีวิต เพราะ Chatbot AI ล่อลวงให้ไปพบ 

2-3 วันนี้ เราอาจเห็นข่าว กรณีชายไทย วัยเกษียณ ซึ่งอาศัยอยู่สหรัฐฯ นานหลายปี และมีปัญหาทางสมอง เสียชีวิตระหว่างพยายามเดินทางไปหา “บิลลี่” Chatbot AI ของ Meta ที่ร่วมมือกับ “เคนดัล เจนเนอร์” นางแบบชื่อดัง หลัง Chatbot ดังกล่าว ให้ที่อยู่ปลอมแก่เขา พร้อมเรียกร้องให้เขาเดินทางไปหา 

ที่น่าตกใจคือ หลังการเสียชีวิตของเขา ครอบครัวกลับพบว่า บทสนทนาระหว่างเขาและบิลลี่ กลับเป็นไปในทางเชิงโรแมนติก Chatbot AI พยายามจีบพ่อของพวกเขา แม้ว่า เขาจะถามถึงตัวตนการมีอยู่จริง ๆ ของบิลลี่ และทุกครั้ง บิลลี่ก็จะยืนยันว่า เธอเป็นคนจริง ๆ 

เหตุการณ์นี้ นำไปสู่การตั้งคำถามต่อ Meta ว่า ทำไมถึงปล่อยให้แชตบอตจีบผู้ใช้งานได้ และบอกผู้ใช้งานว่า เป็นคนจริง ๆ แทนที่จะยืนยันว่า เป็น Chatbot 

จากการตรวจสอบเอกสารนโยบายภายในของ Meta โดยสำนักข่าว Reuters ชี้ให้เห็นว่า นโยบายบริษัทกำหนดให้การพูดคุยเชิงชู้สาว เป็นส่วนหนึ่งของคุณสมบัติ Chatbot AI ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้งานอายุ 13 ปีขึ้นไป สามารถใช้งานได้ 

เรื่องนี้ทำให้ Meta ถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักมาก ที่อนุญาตให้ Chatbot สนทนาเชิงชู้สาวกับเด็กได้ นอกจากนี้ ยังให้คำแนะนำด้านสุขภาพแบบผิด ๆ, สนับสนุนการเหยียดเชื้อชาติอีกด้วย ซึ่งขณะนี้ วุฒิสภาสหรัฐฯ กำลังดำเนินการสอบสวนเรื่องดังกล่าว ว่า AI ของ Meta เป็นภัยคุกคามต่อเด็ก หรือ สร้างความเข้าใจผิดต่อประชาชนหรือไม่

อย่างไรก็ตาม Meta ออกมายืนยันว่า เอกสารภายในเป็นของจริง และได้ลบส่วนที่อนุญาตให้สนทนาโรแมนติก หรือเร้าอารมณ์กับกลุ่มเด็กออกไป แต่มันยังสามารถโกหก หรือ จีบ ผู้ใช้งานที่เป็นผู้ใหญ่ได้อยู่

Chatbot AI สร้างความกังวลแก่สังคมขึ้นเรื่อย ๆ ถึงเรื่องความปลอดภัย และการกำกับดูแลการใช้งาน โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีปัญหาทางสุขภาพ เนื่องจากก่อนหน้านี้ มีแม่เด็กชาย วัย 14 ปี ยื่นฟ้องร้องบริษัท Character.AI โดยอ้างว่า Chatbot ของบริษัทดังกล่าว มีส่วนล่อลวงให้ลูกชายของเธอฆ่าตัวตายสำเร็จ 

แหล่งข้อมูลอ้างอิง:

https://www.theguardian.com/technology/2025/aug/15/meta-ai-chat-children

https://www.reuters.com/investigates/special-report/meta-ai-chatbot-death/