[รีวิว] PENTAX K3-III Monochrome กล้อง DSLR เอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ถ่ายได้เฉพาะขาวดำ!
ในยุคที่เหล่าค่ายกล้องต่างหันไปพัฒนากล้องมิเรอร์เลสกันเกือบหมด ก็ยังมีอีกค่ายที่ยังยึดมั่นในอุดมการณ์กระจกอย่างแรงกล้า เอ่ยชื่อมาจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ‘PENTAX’ กับประวัติศาสตร์การทำกล้อง, เลนส์มาอย่างยาวนานมากกว่า 85 ปี…
ในปี 2023 ใครจะไปคาดคิดว่า Ricoh จะเข็นเอากล้อง PENTAX DSLR ที่ถ่ายได้เฉพาะภาพขาวดำตัวแรกในโลกออกมาสู่ตลาด กับ ‘PENTAX K3-III Monochrome’ ตอกย้ำความอินดี้ของทางแบรนด์ได้อย่างชัดเจน และไม่มีใครเหมือน สำหรับคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพขาวดำ และประสบการณ์ของกล้องสไตล์ SLR ที่มิเรอร์เลสไม่สามารถให้ได้
ต้องบอกก่อนว่านี่ยังเป็นการจับกล้อง DSLR และกล้อง PENTAX อย่างจริงจังครั้งแรกของผู้เขียนอีกด้วย เปิดมาก็เจอเจ้า K3-III Monochrome เลย แล้วมันมีอะไรดีเราถึงหยิบยกมารีวิวในครั้งนี้ ก่อนอื่นเราไปดูสเปกพื้นฐานคร่าว ๆ กันก่อนครับ
สเปก PENTAX K3-III Monochrome
- เซนเซอร์ขาวดำ APS-C CMOS 25.73 ล้านพิกเซล
- กันสั่น 5 แกน SRII: Shake Reduction 5.5 สต็อป
- ISO 200-1600000
- ระบบโฟกัส SAFOX 13 101 จุด (Cross type 25 จุด)
- โฟกัสในที่มืด -4EV
- ชัตเตอร์สปีดสูงสุด 1/8000 (มี Electronic shutter)
- ถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 12fps
- วิดีโอ 4K30p, Full HD 60p
- ช่องมองภาพ OVF 100% กำลังขยาย 1.05x
- จอ LCD 3.2 นิ้ว ปรับมุมมองไม่ได้ ระบบสัมผัส 1.62 ล้านจุด
- มีซีลกันละอองน้ำละอองฝุ่น
- ทนอุณหภูมิระดับ -10 องศา
- แบตเตอรี่ D-LI90 ถ่ายได้ประมาณ 800 ภาพ
- SD Card x2 (USH-II เฉพาะช่องแรก)
- USB-C (3.2 Gen 1), Micro HDMI, X-sync แฟลช, ไมค์, หูฟัง
- Wi-Fi, Bluetooth 4.2
- ขนาด 134.5mm (W) x103.5mm (H) x 73.5mm (D)
- น้ำหนัก 820 กรัม (รวมแบต และเมมโมรีการ์ด)
- เมาท์เลนส์ KAF2 bayonet
กล้อง DSLR คือ?
สำหรับคนที่ไม่เคยสัมผัส DSLR หรือ Digital Single-lens Reflex เป็นกล้องดิจิทัลชนิดหนึ่งที่เคยได้รับความนิยมมาก ๆ ก่อนจะเปลี่ยนผ่านเข้าสู้ยุคมิเรอร์เลส ไม่ว่าค่ายไหนก็ทำ DSLR กันทั้งนั้นครับ โดยมีพื้นฐานมาจากกล้อง SLR ในยุคฟิล์ม (เติม D เข้าไปก็เป็นดิจิทัล) จุดสำคัญเลยคือมีกระจกสะท้อนภาพจากเลนส์เข้าสู่ช่องมองภาพโดยตรง ทำให้ภาพที่เราเห็นก็คือภาพจริง ๆ จากเลนส์ ไม่ใช่ช่องมองภาพแบบ Electronic viewfinder แบบมิเรอร์เลสที่ผ่านการประมวลผล และปรุงแต่งมาแล้ว
หลายคนก็ยังชอบ DSLR อยู่ ด้วยบอดี้ที่ดูโปรกว่า แข็งแรง บึกบึน จับได้ถนัดมือ และมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้อย่างยาวนานกว่า (ขยายความตรงนี้เพราะช่องมองภาพ OVF ทำให้เราเห็นภาพจริงผ่านเลนส์ เวลากล้องทำงานก็จะกินแบตแค่ตอนที่กดชัตเตอร์หรือเปิดโหมด Live view เท่านั้น ไม่เหมือนมิเรอร์เลสที่ประมวลผลภาพตลอดเวลา) รวมถึงเสียงดีดกระจกของที่มิเรอร์เลสไม่สามารถทดแทนเอกลักษณ์พวกนี้ได้
พลังของเซนเซอร์ขาวดำที่กล้องทั่วไปให้ไม่ได้!
สิ่งที่ทำให้ PENTAX K3-III Monochrome พิเศษกว่ากล้องเซนเซอร์สีทั่ว ๆ ไปก็คือ เซนเซอร์ขาวดำนี่ล่ะครับ กับเซนเซอร์ APS-C 25.7 ล้านพิกเซลแบบขาวดำล้วน ไร้ฟิลเตอร์สี ทำให้ภาพที่ได้จะมีการไล่โทนของเฉดขาวดำได้ละเอียดกว่าเอากล้องสีมาถ่ายแล้วแต่งเป็นขาวดำ ดูได้จากภาพตัวอย่างข้างล่างนี้เลยครับ
ความแตกต่างของเซนเซอร์ที่มีฟิลเตอร์สีทั่ว ๆ ไปหรือ Bayer array คือแต่ละพิกเซลจะถูกครอบด้วยฟิลเตอร์ R, G, B สลับเรียงกันเป็น Pattern ครับ ไม่ได้มีทั้ง 3 สีอยู่ในพิกเซลเดียว ในการถ่ายภาพให้ได้ภาพที่มีการไล่โทน, สีสันเหมือนที่ตาเห็นตัวกล้องจึงมีการคำนวนสีจากพิกเซลข้าง ๆ มาประมวลผลแทน ต่างจากเซนเซอร์ขาวดำที่แต่ละพิกเซลสามารถเก็บข้อมูลค่าแสงได้ครบถ้วน ไม่ต้องประมวลผลข้อมูลใด ๆ ซึ่งกล้องที่มีเซนเซอร์ขาวดำอย่างไลก้าพวกรุ่น Monochrom ที่ราคาแสนดุเดือดก็มีเอกลักษณ์แบบเดียวนี้เช่นกัน
เอาล่ะเราเกริ่นกันไปเยอะแล้ว เรามาพูดถึงเรื่องรูปร่างหน้าตาของ K-3 III Monochrome กันเลยดีกว่า
บอดี้สไตล์ DSLR คุมโทนแบบฉบับขาวดำ
ด้วยความที่เป็น DSLR รูปทรงก็จะดูบึกบึนประมาณหนึ่งครับ กระโหลกกล้องสลักโลโก้แบรนด์ PENTAX ดูแล้วมีสเน่ห์เหลือเกิน ในบอดี้คุมโทนขาวดำที่เห็นครั้งแรกก็ตกหลุมรักเลย อะไรที่ K-3 III ตัวปกติเป็นสี ตัวนี้จะถูกแทนที่ด้วยตัวอักษรสีขาวทั้งหมดครับ รวมถึงเมนู และไฟในส่วน Top LCD ด้วย
ข้อดีของ DSLR คือมีเนื้อที่ใส่ปุ่มบนตัวบอดี้มาได้อย่างครบถ้วนเนี้ยล่ะครับไม่ต้องซอยเมนูเข้าไปตั้ง อย่างปุ่มปรับกันสั่น, RAW, AF Mode, AF/MF ก็อยู่บนบอดี้หมดแล้ว ที่ชอบเลยคือแป้นปรับโหมดที่สามารถตั้งให้เวลาใช้ต้องกดปุ่มปลดล็อกก่อนถึงจะหมุนได้ หรือปลดล็อกไปเลยจะได้ใช้ง่านได้ไว ๆ หรือ Joy stick ไว้เลื่อนจุดโฟกัสก็มีมาให้ครบ
ตัวช่องมองภาพ OVF ก็สมกับเป็นกล้องระดับเรือธงครับ ให้มาถึง 100% และเป็นปริซึมแท้ ๆ ความสว่างสูง มองแล้วสบายตา ติดตรงที่จอ LCD ด้านหลังแม้จะเป็นระบบสัมผัสแต่ก็ไม่สามารถกางออกมาปรับองศาได้ครับ ถ้าให้พูดตามตรงปี 2023 แล้วแต่จอปรับองศาไม่ได้มันก็ค่อนข้างใช้งานลำบากอยู่ ถ่ายมุมกดหรือมุมงัดได้ยาก เรียกว่าเป็นข้อสังเกตหลัก ๆ ของรุ่นนี้เลยครับ
แน่นอนว่า DSLR ย่อมมีน้ำหนักอยู่แล้ว รุ่นนี้เฉพาะบอดี้อยู่ที่ 820 กรัม แต่พอได้กริปที่จับถนัดแบบนี้ก็ไม่ได้รู้สึกปวดมือแต่อย่างใด โดยเฉพาะคนมือใหญ่หน่อยก็ถือได้ไม่มีปัญหา
ช่องเสียบการ์ดรองรับการ์ดคู่เพื่อความอุ่นใจไว้ถ่าย Backup ในงานสำคัญ ๆ โดยช่อง 1 รองรับการ์ดความเร็วสูง UHS-II เพียงช่องเดียวเท่านั้นครับ ส่วนพอร์ต USB เป็นแบบ Type-C แล้ว รองรับการชาร์จผ่านตัวกล้องโดยตรง พร้อมพอร์ตอื่น ๆ อย่าง Micro HDMI, ช่องเสียบไมค์ และหูฟัง
ระบบโฟกัสระดับกล้อง APS-C เรือธง และกันสั่น 5 แกนในบอดี้ DSLR ที่หาได้ยากในค่ายอื่น
ถ้าพูดถึงเรื่องการโฟกัส DSLR จะไม่ได้เก่งกาจสู้มิเรอร์เลสสมัยนี้อยู่แล้วครับถ้าโฟกัสผ่านช่องมองภาพ แต่ข้อดีของระบบโฟกัส SAFOX 13 ใน K3-III Monochrome คือโฟกัสได้ไว และแม่นยำมากแม้ในที่แสงน้อยอย่างการถ่ายภาพตอนกลางคืน (เคลมว่าถ่ายได้ถึง -4EV) ถ่ายแมวดำตอนกลางวันว่าโฟกัสยากแล้วนี่เล่นถ่ายตอนกลางคืนก็ยังโฟกัสได้สบาย ๆ
แต่ถ้าเปลี่ยนจากโฟกัสผ่านช่องมองภาพเป็น Live view เมื่อไรอันนี้จะเหมือนหนังคนละม้วนเลยครับ ระบบโฟกัสจะตัดไปเหลือแค่ Contrast Detection เท่านั้น มี Face detection ให้ใช้ก็จริงแต่โฟกัสได้ช้ากว่ามาก ใครที่คิดจะเล่นรุ่นนี้ก็ต้องทำใจในจุดนี้ครับ มองผ่านช่องมองจะดีซะกว่า
แต่จุดเด่นที่ทำให้ PENTAX โดดเด่นกว่า DSLR ทุกค่ายก็ต้องระบบกันสั่น 5 แกนในบอดี้ SRII: Shake Reduction ที่สามารถชดเชยชัตเตอร์สปีดได้ถึง 5.5 สต็อป แถมกันสั่นในบอดี้ DSLR แบบนี้ไม่ใช่ว่าเพิ่งมีนะครับแต่ PENTAX เขามีมานานแล้ว (อีกค่ายที่มีระบบแบบนี้ก็มีแต่ Sony สมัยยุค DSLT A-mount)
ภาพนี้ถือถ่ายด้วยเลนส์ ‘HD PENTAX-DA 55-300mmF4.5-6.3ED PLM WR RE’ ที่ระยะ 300mm (เทียบเท่าระยะ 450mm บนกล้องฟูลเฟรม) ชัตเตอร์สปีด 1/50 F6.3 ISO 25600 ก็ยังสามารถโฟกัสได้เข้าเป้าเป๊ะ โดยที่ไม่มีอาการสั่นไหวของภาพเลย กันสั่นเขาดีจริง ๆ
ครอปให้ดูกันชัด ๆ ISO สูงขนาดนี้ภาพที่ได้ก็คือว่าโอเคเลยทีเดียว ดูเหมือนเกรนในกล้องฟิล์มมากกว่าสัญญาาณรบกวน นี่ล่ะคือข้อดีของกล้องขาวดำ!
ซึ่ง K3-III Monochrome ยังดัน ISO ได้เป็นล้าน ที่ 1,600,000 แต่ถ้าถามว่าใช้จริงได้แค่ไหนแค่ 25600 ก็เก่งมากแล้วครับ ลองดูที่ ISO 819,200 ก็พอว่าภาพที่ได้เป็นยังไง
โหมด Custom Image เฉพาะรุ่น Monochrome
ไม่เหมือนกล้องสีทั่ว ๆ ไป กล้องขาวดำไม่จำเป็นต้องใช้การ White Balance ครับ แต่จะมี Custom Image เฉพาะรุ่น Monochrome มาแทน โดยจะมี 3 พรีเซตหลัก ๆ คือ Standard, Hard, Soft ที่ยังสามารถจูน พวกโทนสี Warm, Cool, Contrast และ Sharpness ให้ปรับได้ตามใจชอบ
ฟีเจอร์พิเศษ AA Filter Simulator, ASTROTRACER, Auto Horizon Correction
เซนเซอร์ ASP-C K3-III Monochrome ยังมีความพิเศษซ่อนอยู่คือไม่มี ‘AA Filter‘ มากั้น ทำให้สามารถเก็บดีเทลความคมชัดได้ดีกว่ากล้องที่ติดตั้งฟิลเตอร์ตัวนี้ไว้ครับ แต่ข้อสังเกตคือเวลาเราถ่ายอะไรที่เป็น Pattern ซ้ำ ๆ กันอย่างเช่นลายตารางของเนื้อผ้าก็อาจจะเกิดปัญหาที่เรียกว่า Moiré ขึ้นได้ PENTAX ก็เลยมีตัวช่วยที่เรียกว่า AA Filter Simulator ใส่เข้ามาให้ครับ โดยจะเป็นการใช้ซอฟต์แวร์นี้แหละเข้ามาช่วย ปรับได้ทั้ง Low, High หรือถ่ายมันทั้งสองแบบเป็น Bracketing ก็ได้
PENTAX เขายังใส่ใจถึงผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายดาว ด้วยฟีเจอร์ ASTROTRACER ที่จะช่วยขยับชุดเซนเซอร์ด้วยระบบกันสั่นให้ติดตามการเคลื่อนที่ของดาวได้ด้วย ป้องกันการเกิดภาพดาวเป็นเส้นเมื่อใช้ชัตเตอร์สปีดนานไปนั้นเองครับ
นอกจากนี้ก็ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยรักษาระดับน้ำให้เฟรมภาพของเราตรงอยู่ตลอดเวลาด้วย Auto Horizon Correction ใครที่ถ่ายพวกสถาปัตกรรมบ่อย ๆ หรืออยากให้เฟรมภาพตรงที่สุดคือช่วยได้เยอะ ส่วนหลักการก็คือการขยับชุดกันสั่นเพื่อชดเชยในองศาที่เอียงนั้นเอง
//ที่เสียดายคือโหมด Pixel Shift Resolution ถ่ายภาพความละเอียดสูงของ K-3 III รุ่นปกติที่ดูเหมือนจะไม่ได้ใส่มาให้ในรุ่น Monochrome ครับ หรืออาจจะมาในเฟิร์มแวร์ตัวต่อ ๆ ไปอันนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกัน…
เล่ามาเยอะแล้ว ถึงเวลาชมภาพจาก PENTAX K3-III Monochrome…
โดยเราจะประกบเจ้า PENTAX K3-III Monochrome ด้วยเซต 3 เลนส์ ครอบคลุมระยะตั้งแต่ 16mm-300mm!!
- HD PENTAX-DA 16-85mmF3.5-5.6ED DC WR
- HD PENTAX-DA 20-40mmF2.8-4ED Limited DC WR
- HD PENTAX-DA 55-300mmF4.5-6.3ED PLM WR RE
@40mm 1/100s F4 ISO 640
@29mm 1/100s F3.5 ISO 640
@29mm 1/100s F3.5 ISO 640
@300mm 1/125s F6.3 ISO 2,000
@300mm 1/200s F6.3 ISO 640
@20mm 1/50s F2.8 ISO 800
@20mm 1/800s F8 ISO 200
@20mm 1/125s F8 ISO 200
@210mm 1/80s F5.6 ISO 200
@55mm 1/400s F4.55 ISO 200
@300mm 1/1,600s F6.3 ISO 200
@230mm 1/500s F10 ISO 200
@16mm 1/320s F4.5 ISO 200
@16mm 1/400s F7.1 ISO 200
@16mm 1/800s F7.1 ISO 200
@85mm 1/80s F5.6 ISO 3,200
@39mm 1/80s F5.6 ISO 3,200
แถมท้ายด้วยวิดีโอ…
แน่นอนว่าเป็นกล้องขาวดำ วิดีโอก็ต้องเป็นขาวดำไปด้วยครับ เนื้อไฟล์ 4K 30p ค่อนข้างสวยทีเดียว ติดตรงระบบโฟกัสเวลาใช้ Live view นี่ล่ะที่ไม่ค่อยเหมาะกับงานวิดีโอเท่าไร อาจจะต้อง Manual focus เองจะสมูทกว่า
สรุปประสบการณ์ใช้งาน
ถ้านับที่ความเป็น DSLR เจ้า PENTAX K3-III Monochrome ก็ถือว่าเป็นกล้องที่ถ่ายสนุกตัวหนึ่งเลยล่ะครับ เสียงดีดกระจกนุ่มน่าฟัง จะติดก็จอ LCD ที่พับปรับองศาไม่ได้ทำให้รู้สึกใช้ยากในบางมุมถึงอาจต้องลงไปนอนถ่ายกับพื้น กับระบบโฟกัสใน Live view ส่วนเนื้อไฟล์ไม่มีอะไรจะติ สามารถเก็บโทนขาวดำได้อย่างดีเยี่ยม แม้ว่าเลนส์ที่ผู้เขียนได้มาจะค่อนข้างมีอายุแล้วสักหน่อย พอเจอกล้องละเอียด ๆ แบบนี้ก็อาจไม่ได้คมเป๊ะซักเท่าไรนัก แต่ก็ได้อารมณ์ย้อนยุคไปอีกแบบอยู่เหมือนกัน //มีคนบอกว่าเขาไม่ได้เรียกฟุ้ง เขาเรียก Glow แบบไลก้า 🤣
ส่วนแบตเตอรี่ 1 ก้อน ความจุ 1860mAh ถ้าใช้ช่องมองภาพกด ๆ ไปเถอะครับ เป็น 1,000 รูปก็ไหว แต่ถ้าสลับไปใช้ Live view เมื่อไรก็จะลดเร็วขึ้นอย่างชัดเจนตามสไตล์กล้อง DSLR เขาล่ะ
โดยรวมแล้ว K3-III Monochrome เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการถ่ายขาวดำแบบเข้าเส้น และคนที่ชื่นชอบสัมผัสของกล้องแบบ DSLR ล่ะครับ ส่วนราคาก็ต้องบอกว่าสูงไปเสียหน่อย ค่าตัวเฉพาะบอดี้ที่ 92,800 บาท (แต่ก็เข้าใจได้ด้วยความเป็นรุ่นพิเศษอะเนอะ) ซึ่งเปิดให้ Pre-order กันได้แล้วตั้งแต่วันนี้ – 29 ธันวาคม 2023
แม้ราคาจะดูสูงแต่เชื่อไหมครับว่าที่ญี่ปุ่นนั้นจองเต็มไปกันไปแล้วหลายรอบ เรียกว่ากระแสแรงทีเดียว ใครที่สนใจก็ไปจัดกันได้
สุดท้ายต้องขอบคุณทาง East Enterprises Co.,Ltd. ที่ส่งเจ้า PENTAX K3-III Monochrome มาให้ทางเราได้รีวิวสมใจอยากด้วยครับ 🙏