รีเซต

รีวิว KEF Mu7 หูฟังครอบศีรษะไร้สายรุ่นแรกจากแบรนด์อังกฤษ

รีวิว KEF Mu7 หูฟังครอบศีรษะไร้สายรุ่นแรกจากแบรนด์อังกฤษ
แบไต๋
18 มิถุนายน 2566 ( 23:21 )
59
รีวิว KEF Mu7 หูฟังครอบศีรษะไร้สายรุ่นแรกจากแบรนด์อังกฤษ

ถ้าพูดถึง KEF สิ่งแรกที่เรานึกถึงคือลำโพงนะครับ เพราะแบรนด์เก่าแก่จากอังกฤษนี้ทำลำโพงมานานกว่า 60 ปีแล้ว มีเทคโนโลยีเจ๋ง ๆ เกี่ยวกับลำโพงมากมาย อย่าง Uni-Q หรือ Uni-Core ซึ่งเมื่อ KEF กระโดดมาสู่ตลาดหูฟังไร้สายบ้างจึงเป็นเรื่องน่าสนใจ โดยผลิตภัณฑ์ชุดแรกคือ KEF Mu3 หูฟังไร้สายขนาดเล็กแบบ TWS และ KEF Mu7 หูฟังครอบศีรษะรุ่นแรกที่เราจะรีวิวเจาะลึกกันครับ

ดีไซน์ของ KEF Mu7

ด้านนอกของ KEF Mu7 ที่มีสติกเกอร์ติดอยู่เพื่ออธิบายการสั่งงานที่หูข้างขวา

หูฟังรุ่นนี้ออกแบบโดย Ross Lovegrove นักออกแบบอุตสาหกรรมชื่อดังชาวอังกฤษ ซึ่งเคยร่วมงานกับ KEF ในการออกแบบลำโพงพกพารุ่น MUO และลำโพงชุดใหญ่ระดับ Audiophile อย่าง KEF MUON มาแล้ว ซึ่งอัตลักษณ์ในงานออกแบบของ Lovegrove คือเส้นสายโค้งเว้า ให้ความรู้สึกนุ่มลื่นไหล ดูออร์แกนิค ซึ่งใน KEF Mu7 ก็ได้เอกลักษณ์เหล่านี้มาเช่นกัน โดยเฉพาะความ “บุ๋ม” ของพื้นผิวบริเวณแป้นครอบหูทั้ง 2 ข้าง รวมถึงเคสแข็งที่มาในชุดก็มีลักษณะการออกแบบที่ “บุ๋ม” ลงไปตรงจุดกลางเช่นกัน ทำให้เกิดเส้นสายที่อ่อนไหว เป็นหูฟังดูมน ๆ แปลกตา

วัสดุหลักของหูฟังรุ่นนี้เป็นพลาสติกนะครับ มีตัวก้านด้านในตรงที่คาดศีรษะที่เป็นโลหะเพื่อให้ยืดหยุ่นเกาะหัวได้ ส่วนแป้นหูฟังนั้นทำจาก Memory Form หุ้มด้วยหนัง ซึ่งไม่มีข้อมูลระบุว่าเป็นหนังชนิดใด ก็คาดว่าจะเป็นหนังสังเคราะห์ (ซึ่งในหน้าเว็บของ KEF ก็มีอะไหล่แป้นหูฟังตัวนี้ขายด้วยครับ) นอกจากนี้บริเวณก้านคาดด้านบนก็เป็นหนังแบบเดียวกันครับ

แป้นหูฟังที่ลึกของ KEF Mu7

ส่วนเคสแข็งของ KEF Mu7 ที่มาพร้อมกันนั้นก็ให้ความรู้สึกแข็งแรงใช้ได้เลย เชื่อได้ว่าใส่ในกระเป๋าแน่นก็ยังช่วยปกป้องหูฟังของเราได้ ภายในเคสก็จะมีช่องเก็บของที่อยู่ด้านหลังลายเซ็นของ Lovegrove ซึ่งประกอบไปด้วย

  • สายชาร์จแบบ USB-A ไป USB-C
  • สาย AUX 3.5 mm สำหรับการใช้งานแบบมีสาย
  • อแดปเดอร์ 3.5 mm 2 ขั้วสำหรับใช้งานบนเครื่องบิน
อุปกรณ์ที่มาภายในเคสของ KEF Mu7

โดย KEF Mu7 มี 2 สีให้เลือกคือ Silver Grey ที่เรารีวิวเป็นหลักในครั้งนี้ กับสีที่เข้มขึ้นอย่าง Charcoal Grey

การสวมใส่

KEF Mu7 ออกแบบเรื่องการสวมใส่ได้ดีครับ แป้นหูฟังกว้างใหญ่ครอบทั้งใบหูโดยไม่มีส่วนใดกดทับใบหู น้ำหนักในการกดทับใบหูก็กำลังดี ไม่รู้สึกอึดอัด น้ำหนักของตัวหูฟังก็ไม่มาก ตามสเปกคือ 309 กรัม ทำให้สวมใส่ได้นานโดยไม่ร้อนหูเท่าใดนัก (คือหูฟังแบบ Closed Back แบบนี้เวลาใส่จะร้อนหูอยู่บ้างเป็นเรื่องปกติครับ เพราะเป็นหูฟังแบบปิด)

โดยหูฟังรุ่นนี้สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาว 40 ชั่วโมง ซึ่งเราก็ใช้งานต่อเนื่องหลายวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จแต่อย่างใด แล้วสามารถชาร์จด่วน 15 นาทีก็ใช้งานได้ 8 ชั่วโมง

การเชื่อมต่อและการควบคุม

พอร์ตเชื่อมต่อทั้งหมด และการควบคุมทุกอย่างของ KEF Mu7 จะอยู่ที่หูฟังด้านขวา เราสามารถเสียบสาย USB-C ชาร์จได้ แต่ระหว่างชาร์จจะไม่สามารถใช้หูฟังได้ แล้วก็เสียบสาย AUX 3.5 mm เพื่อใช้งานแบบมีสายได้ ใช้ได้ต่อเนื่องได้แม้ว่าแบตเตอรี่ของหูฟังจะหมด แต่สาย 3.5 mm นั้นเป็นแบบที่ใช้ฟังอย่างเดียวครับ ไม่มีการส่งสัญญาณไมโครโฟนกลับไปยังอุปกรณ์นะครับ แล้วเมื่อเสียบสาย 3.5 mm เข้าหูฟังตอนที่เปิดหูฟังอยู่ จะไม่สามารถกดปิดหูฟังได้นะครับ แต่สามารถกด ANC เพื่อเปลี่ยนโหมดการตัดเสียงได้ แล้วเมื่อถอดสาย หูฟังก็จะปิดเอง

พอร์ตชาร์จแบบ USB-C และช่องเสียบสาย 3.5 mm

ส่วนการควบคุมจะเริ่มตั้งแต่แป้นสัมผัสตรงบริเวณที่บุ๋ม ๆ ของหูฟังด้านขวา

ระหว่างฟังเพลงระหว่างคุยสาย
แตะ 1 ครั้งเล่นเพลง/หยุดเพลงรับสาย/จบสาย
ปัดขึ้น/ปัดขึ้นแล้วแตะค้างเร่งเสียงเร่งเสียง
ปัดลง/ปัดลงแล้วแตะค้างลดเสียงลดเสียง
ปัดไปข้างหน้าเปลี่ยนเพลงปฏิเสธสาย
ปัดไปข้างหลังเล่นเพลงเดิมปฏิเสธสาย
แตะค้างเรียกผู้ช่วยอัจฉริยะจากสมาร์ตโฟนปิดเสียง/เปิดเสียง

นอกจากนั้นยังมีปุ่มให้กดอีก 3 ปุ่มดังนี้

  • ปุ่ม Power กดค้างเพื่อเปิด-ปิดหูฟัง
  • ปุ่ม Bluetooth กดค้างจนไฟ LED ขึ้นเป็นสีน้ำเงินกระพริบเพื่อเชื่อมอุปกรณ์ โดยสามารถเชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน
  • ปุ่ม ANC กดเพื่อเปลี่ยนโหมดตัดเสียงรบกวนภายนอก โดยเลือกได้ 3 โหมดคือ
    • ANC On เปิดใช้การตัดเสียงรบกวนเต็มที่
    • Smart ANC โหมดตัดเสียงรบกวนจะปรับระดับการทำงานให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมอัตโนมัติ
    • ANC Off ปิดการใช้โหมดตัดเสียง

KEF Mu7 นั้นไม่มีความสามารถในการหยุดเพลง-เล่นเพลงอัตโนมัติเมื่อถอดหรือใส่หูฟังกลับมาที่หูนะครับ นอกจากนี้ KEF Mu7 ยังไม่มีแอปมาสนับสนุนการทำงาน ทำให้การควบคุมทั้งหมดต้องทำผ่านหูฟัง ไม่สามารถกดจากในสมาร์ตโฟนได้ ปรับ EQ ไม่ได้ ปรับลักษณะเสียงตามตำแหน่งการใช้งานไม่ได้ และเท่าที่รู้ตอนนี้คือยังไม่มีการอัปเดต Firmware หูฟังด้วยตัวเองครับ

แต่สิ่งที่ชอบคือหูฟังตัวนี้มีการรายงานสถานะการทำงานด้วยเสียงที่ชัดเจน และเป็นเสียงที่น่าฟังด้วย เช่นเมื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์แรกหูฟังจะพูดว่า “Device 1 is connected” หรือเปลี่ยนโหมด ANC จะพูดว่า ANC, Smart ANC, ANC Off หรือเวลาแบตอ่อนจะพูดว่า “Power low, please charge” ทั้งหมดนี้เป็นเสียงผู้หญิงสำเนียงอังกฤษที่ฟังแล้วรู้สึกไฮคลาสครับ

เสียงของ KEF Mu7

เคสแข็งของ KEF Mu7

สเปกด้านเสียงของ KEF Mu7 นั้นน่าสนใจครับ ตัวหูฟังแต่ละข้างนั้นมีไดร์เวอร์ขนาด 40 mm ตอบสนองความถี่ 20-20,000 Hz รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.1 พร้อมรองรับ Codec เสียง SBC, AAC, aptX, aptX HD แต่สังเกตว่ายังไม่รองรับ aptX Adaptive รูปแบบการส่งสัญญาณเสียงตัวล่าสุดของค่าย Qualcomm นะครับ ซึ่งเวลาเชื่อมต่อกับอุปกรณ์แอปเปิ้ลก็จะใช้ได้สูงสุดที่ AAC ส่วนถ้าต่อกับ Android ก็จะใช้ได้สูงสุดเป็น aptX HD ครับ

แล้วเสียงของ KEF Mu7 เป็นยังไง ก็ไม่เสียชื่อชั้นของผู้ผลิตเครื่องเสียงไฮเอนด์มายาวนานครับ

  • เสียงเบส: หนักแน่น มีรายละเอียด ไม่หนาเกินไป ไม่บวมจนล้น เป็นเบสที่ผู้ฟังจะรักได้ไม่ยาก
  • เสียงกลาง-สูง: ให้เสียงร้องได้ใสเคลียร์ เสียงแหลมมีประกาย ให้อิมเมจชัดเจน แต่ไม่ได้แหลมจนเสียดหู
  • เวทีเสียง: มิติเสียงกว้างขวาง ฟังยาว ๆ แล้วเพลิน ไม่อึดอัด

เราอาจจำกัดความเสียงของ KEF Mu7 ที่แตกต่างจากหูฟังทั่วไปคือเป็นเสียงแบบอุ่น ๆ ให้เสียงหวานแบบเครื่องเสียงแอนะล็อก ทั้งที่หูฟังทั้งระบบเป็นดิจิทัลครับ ก็ถ้าใครชอบเสียงลักษณะนี้ก็คุ้มค่าที่จะลงทุนแล้ว

การตัดเสียงรบกวน

KEF Mu7 Charcoal Grey

KEF Mu7 สามารถตัดเสียงรบกวนภายนอกได้ดีเลย ถือว่าตัดเสียงรบกวนได้เงียบกว่า AirPods Max และ Sennheiser MOMENTUM 4 อยู่นิดหน่อย โดยเฉพาะเสียงหึ่มจากมอเตอร์ที่ลดลงได้เยอะกว่าเพื่อน เพียงแต่ว่า Mu7 เป็นรุ่นเดียวที่ไม่สามารถเปิดเสียงภายนอกเข้ามาได้ หรือไม่มีโหมด Transparency ซึ่งเราอาจใช้โหมด ANC Off เพื่อให้ได้ยินเสียงภายนอกเพิ่มได้ แต่ก็ไม่เยอะครับ ถ้าต้องการฟังเสียงภายนอกชัด ๆ ก็ควรถอดหูฟังออกจากหูเลย

คุณภาพไมโครโฟน

เราเชื่อมต่อหูฟัง 3 ตัวคือ KEF Mu7, Sennheiser MOMENTUM 4 และ Apple AirPods Max เข้ากับไอโฟนเครื่องเดียวกัน และเปิดเสียงรบกวนคลิปเดียวกันจาก Youtube เป็นเสียงพื้นหลัง และบันทึกเสียงผ่านแอป Voice Memo มาให้ฟังกันครับ

KEF Mu7
Apple AirPods Max
Sennheiser MOMENTUM 4

ซึ่งลองฟังด้วยหูตัวเองได้ครับ ว่าไมค์จากหูฟังแต่ละรุ่นนั้นให้เสียงต่างกันอย่างไรบ้าง

เทียบกับหูฟังรุ่นอื่น ๆ

KEF Mu7 vs Sennheiser MOMENTUM 4

KEF Mu7 vs. Sennheiser MOMENTUM 4

ต้องเข้าใจว่า Mu7 เป็นหูฟังไร้สายรุ่นแรกของ KEF ที่โฟกัสพัฒนาด้านคุณภาพเสียงก่อน เพราะฉะนั้นเรื่องความฉลาดของหูฟังจึงเทียบกับ MOMENTUM 4 ได้ยาก คือถ้าเทียบกับฝั่ง Sennheiser แล้ว KEF จะด้อยกว่าในเรื่องแอป ทำให้ไม่สามารถจูนเสียงหรือปรับ EQ ให้เหมาะกับผู้ใช้แต่ละคนได้ ไม่สามารถปรับเสียงตามตำแหน่งการใช้งานได้ รวมถึงยังไม่สามารถเปิดเสียงภายนอกเข้ามาในหูฟังได้ และไม่รองรับ aptX Adaptive นอกจากนี้ MOMENTUM 4 ยังรองรับการเชื่อมอุปกรณ์พร้อมกัน 2 ตัวแบบที่ Mu7 ทำได้เช่นกันครับ

ส่วนเรื่องเสียง เนื่องจากเป็นหูฟังไร้สายตัวท็อปทั้งคู่ จึงให้คุณภาพเสียงที่ดีทั้งคู่ แต่เป็นเสียงคนละสไตล์ครับ หลัก ๆ คือ KEF Mu7 ให้เสียงที่อบอุ่น ฟังสบายหู เบสกำลังสวย เข้ากันได้กับเพลงทุกแนว ส่วน MOMENTUM 4 ในค่ามาตรฐาน เสียง Flat จะให้เสียงเบสที่เยอะกว่า ทำให้เสียงหนากว่า บางเพลงก็ทำให้ได้ยินไลน์เบสชัดเจน ฟังสนุก แต่บางเพลงก็ทำให้อึดอัดนิดหน่อย ซึ่งถ้าไม่ชอบ Sennheiser ก็มีระบบปรับแต่งเสียงที่จูนให้ถูกใจได้ในแอปครับ

ซึ่งราคาของ Sennheiser MOMENTUM 4 อยู่ที่ 12,990 บาทครับ (อ่านรีวิวละเอียดที่นี่)

KEF Mu7 vs Apple AirPods Max

KEF Mu7 vs. AirPods Max

เราคงไม่ต้องพูดถึงการควบคุมของ AirPods Max ที่เวลาใช้ร่วมกับระบบของแอปเปิ้ลจะเหมือนโกงคนอื่น เพราะสามารถสลับอุปกรณ์ไปมาได้เอง ตามอุปกรณ์ที่ผู้ใช้ใช้อยู่ (แต่ตรงนี้ Mu7 ก็สามารถเชื่อมอุปกรณ์ได้พร้อมกัน 2 ตัว ทำให้การสลับใช้ไม่ลำบากนะ) แถมปรับระบบการตัดเสียงหรือดึงเสียงภายนอกได้จากระบบโดยไม่ต้องลงแอปเสริม และยังสามารถให้เสียงรอบทิศทางเหมือนเวลาดูหนังโรงได้ด้วย ซึ่งเป็นหูฟังไม่กี่รุ่นที่มีความสามารถแบบนี้

ส่วนเสียงของ AirPods Max นั้นเป็นเสียงที่ Flat ยิ่งกว่า MOMENTUM 4 ไปอีกครับ เป็นเสียงเรียบ ๆ แบน ๆ ความโปร่งของเสียงจึงสู้ Mu7 ไม่ได้ พูดอีกแบบคือ KEF Mu7 ให้เสียงที่มีไดนามิกและน่าจะทำให้ผู้ฟังเพลิดเพลินกว่า ซึ่งแน่นอนว่าเสียงของหูฟังทั้ง 2 ตัวนี้ดีทั้งคู่ ขึ้นอยู่กับความชอบของผู้ฟังแล้ว

ซี่งราคาของ Apple AirPods Max อยู่ที่ 19,900 บาท

สรุปและราคาของ KEF Mu7

KEF Mu7 นั้นเปิดตัวในไทยด้วยราคา 17,900 บาท ก็เป็นราคาของหูฟังไร้สายในกลุ่มพรีเมี่ยมเลย แล้วราคานี้คุ้มไหม ก็อาจพูดได้ 2 แง่ คือถ้าคุณเป็นคนรักเสียงเพลง แล้วชอบแนวเสียงของ KEF Mu7 ที่เป็นเอกลักษณ์ มันก็คุ้มครับ ซื้อมาฟังเพลงให้มีความสุข เงินซื้อความสุขได้ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ใช้หูฟังแบบอเนกประสงค์ ต้องการใส่หูฟังเดินทางในเมือง ซึ่งการดึงเสียงภายนอกเป็นเรื่องสำคัญ หรือต้องการหูฟังที่ปรับแต่งเสียงได้ อาจจะต้องลองตัวจริงอีกทีว่าโอเคกับข้อจำกัดเหล่านี้หรือไม่ครับ

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง