แท็บเล็ต จอเล็กน่าใช้ เน้นพกพาสะดวก 2025
ถึงช่วงปลายปี 2025 แบบนี้ นอกจากจะมีสมาร์ทโฟนสเปกดีๆ ที่น่าใช้เปิดตัวหลายรุ่นแล้ว ยังมีแท็บเล็ตเปิดตัวด้วยเช่นกันหลายรุ่น โดยเฉพาะรุ่นที่มีขนาดหน้าจอเล็กกว่า 10 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดใกล้เคียงกับหนังสือ ทำให้สามารถถือใช้งานได้ง่าย เหมาะสำหรับพกพาไปใช้งาน อ่านข่าว เล่นโซเชียล เล่นเกม รวมถึงใช้ดูคลิปดูซีรีส์ ดังนั้นวันนี้ True ID เรามาดูแท็บเล็ตจอเล็กที่น่าสนใจในช่วงนี้กันครับ
Xiaomi Pad Mini
Xiaomi Pad Mini ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นแท็บเล็ตขนาดกะทัดรัดที่อัดแน่นด้วยประสิทธิภาพระดับเรือธง โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ขนาดหน้าจอ 8.8 นิ้ว ซึ่งสะดวกต่อการพกพาและสามารถจับถือด้วยมือเดียวได้ง่าย แต่หัวใจหลักคือชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9400+ ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรม 3 นาโนเมตรอันล้ำสมัย พร้อมหน่วยความจำชนิด LPDDR5X และพื้นที่จัดเก็บข้อมูล UFS 4.1 ทำให้การันตีถึงความรวดเร็วและลื่นไหลในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดแอปพลิเคชันหนัก ๆ การทำงานแบบมัลติทาสก์ หรือการเล่นเกมที่ต้องการกราฟิกสูง โดยมีตัวเลือก RAM/ROM ให้เลือกตั้งแต่ 8GB+256GB ไปจนถึงรุ่นสูงสุด 12GB+512GB
จุดเด่นสำคัญอีกประการคือหน้าจอความละเอียดสูงถึง 3K (403 PPI) ขนาด 8.8 นิ้ว ที่ให้ภาพคมชัดและรายละเอียดสมบูรณ์แบบ ทั้งยังรองรับอัตรารีเฟรชสูงสุด 165Hz เพื่อประสบการณ์การรับชมที่ราบรื่นยิ่งกว่า นอกจากนี้ Pad Mini ยังให้ความสำคัญกับการใช้งานยาวนานด้วยแบตเตอรี่ความจุ 7500mAh และระบบชาร์จเร็ว 67W HyperCharge ที่ช่วยให้ชาร์จไฟได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการแท็บเล็ตขนาดเล็กแต่มีขุมพลังมหาศาล ซึ่ง ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 12,990 บาท สำหรับรุ่น 8GB + 256GB
REDMI Pad SE 8.7 4G
REDMI Pad SE 8.7 4G ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นแท็บเล็ตขนาดเล็กราคาประหยัดที่เน้นการพกพาและความบันเทิง โดยมีจุดเด่นหลักคือหน้าจอขนาด 8.7 นิ้ว ซึ่งไม่เล็กจนเกินไปสำหรับการรับชมสื่อ และยังคงสะดวกต่อการพกพา ตัวเครื่องขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Helio G85 พร้อม RAM 4GB หรือ 6GB และหน่วยความจำ 64GB หรือ 128GB ซึ่งรองรับการเพิ่ม Micro SD ได้ ทำให้มีพื้นที่จัดเก็บเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป ดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกมที่ไม่หนักมาก และจุดที่ทำให้รุ่นนี้โดดเด่นคือความสามารถในการเชื่อมต่อ 4G LTE ซึ่งช่วยให้สามารถโทรศัพท์และใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ทุกที่โดยไม่ต้องพึ่ง Wi-Fi
นอกจากประสิทธิภาพที่คุ้มค่าตัวแล้ว ด้านความบันเทิงก็ไม่เป็นรองใครด้วยหน้าจอความละเอียดระดับ HD+ และอัตรารีเฟรช 90Hz ที่มอบประสบการณ์การเลื่อนที่ราบรื่นกว่าแท็บเล็ตในระดับเดียวกัน พร้อมทั้งมีลำโพงคู่เพื่อเสียงที่ชัดเจน ในส่วนของแบตเตอรี่มาพร้อมความจุ 6650 mAh ที่ให้พลังงานเพียงพอสำหรับการใช้งานตลอดวัน แม้จะรองรับการชาร์จเพียง 10W ก็ตาม โดย REDMI Pad SE 8.7 4G มีราคาเปิดตัวเริ่มต้น 3,299 บาท สำหรับรุ่นความจุ 4GB + 64GB ซึ่งถือเป็นแท็บเล็ตที่คุ้มค่าอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการอุปกรณ์สำหรับความบันเทิงและการพกพาในราคาที่เข้าถึงง่าย
HONOR Pad X7
HONOR Pad X7 4G ถูกวางตำแหน่งให้เป็นแท็บเล็ตขนาดเล็กราคาเข้าถึงได้ แต่มีความโดดเด่นในการใช้งานที่ยืดหยุ่น โดยมาพร้อมหน้าจอแสดงผล IPS-LCD ขนาด 8.7 นิ้ว ความละเอียด 1340x800 พิกเซล ที่รองรับอัตรารีเฟรช 90Hz เพื่อความลื่นไหลในการใช้งานทั่วไป และได้รับการรับรองด้านการลดแสงสีฟ้าเพื่อการถนอมสายตา ตัวเครื่องใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 680 (6 นาโนเมตร) เป็นขุมพลังหลัก พร้อมตัวเลือก RAM 4GB และ ROM 128GB ซึ่งสามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุดถึง 1TB ทำให้มีพื้นที่จัดเก็บเพียงพอต่อการใช้งานและดาวน์โหลดสื่อความบันเทิงต่าง ๆ
จุดเด่นสำคัญของรุ่นนี้คือการรองรับเครือข่าย 4G LTE เต็มรูปแบบ ที่ทำให้สามารถใส่ซิมเพื่อโทรออกและเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลา ทำให้มีลักษณะกึ่งแท็บเล็ตกึ่งสมาร์ทโฟนที่มีจอขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังให้ความจุแบตเตอรี่ที่น่าพอใจถึง 7,020mAh ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานตลอดวัน และรองรับการชาร์จไว 10W พร้อมฟีเจอร์เด่นด้านซอฟต์แวร์ เช่น Google Gemini และ Circle to Search ซึ่งช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่เหนือระดับ โดย HONOR Pad X7 4G มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 4,299 บาท ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการแท็บเล็ตที่พกพาง่ายและเชื่อมต่อ 4G ได้
Samsung Galaxy Tab A11 LTE
Samsung Galaxy Tab A11 LTE ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นแท็บเล็ตเพื่อความบันเทิงและการใช้งานในชีวิตประจำวันในราคาที่เข้าถึงได้ โดยมีจุดเด่นที่หน้าจอขนาดใหญ่ 8.7 นิ้ว แบบ TFT LCD พร้อมความละเอียดระดับ 1340 x 800 ที่มอบประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์และสื่อต่าง ๆ ได้อย่างเต็มตา ตัวเครื่องขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 695 ซึ่งให้ประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้สำหรับการใช้งานทั่วไป การท่องเว็บ และการเล่นเกมเบา ๆ โดยมาพร้อมกับ RAM ขนาด 4GB และพื้นที่จัดเก็บ 128GB ซึ่งสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้สูงสุดถึง 1TB ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นที่จัดเก็บข้อมูล
นอกจากหน้าจอที่กว้างและประสิทธิภาพที่เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว Galaxy Tab A11 ยังโดดเด่นด้วยการรองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE ทำให้สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่ต้องพึ่ง Wi-Fi และมาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 5100 mAh ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานยาวนานตลอดวัน นอกจากนี้ยังมีการออกแบบที่บางเบา มีกล้องหลัก 8MP และกล้องหน้า 5MP สำหรับวิดีโอคอลล์ ซึ่งมีราคาอยู่ที่ 6,490 บาท สำหรับรุ่น 4GB + 128GB LTE ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการแท็บเล็ตจอใหญ่พร้อมฟังก์ชันครบครันในราคาที่คุ้มค่า
Lenovo Legion Tab Gen 3
Lenovo Legion Tab Gen 3 เป็นแท็บเล็ตเกมมิ่งขนาดเล็กที่อัดแน่นด้วยสเปกระดับเรือธง เพื่อตอบโจทย์คอเกมที่ต้องการความแรงสูงสุดในขนาดที่พกพาสะดวก โดยมีหัวใจหลักคือชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 ที่มอบประสิทธิภาพการประมวลผลที่ทรงพลังที่สุดในปัจจุบัน ผสานกับ RAM ขนาด 12GB (LPDDR5x) และหน่วยความจำภายใน 256GB (UFS 4.0) ทำให้สามารถเล่นเกมที่มีกราฟิกหนักหน่วงและรันแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นเฉพาะตัวสำหรับเกมเมอร์ เช่น ระบบระบายความร้อนขั้นสูง Legion Coldfront และมอเตอร์สั่นคู่ (Dual X-axis motor) ที่ช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกม
ด้านความบันเทิงและการแสดงผล Legion Tab Gen 3 มาพร้อมหน้าจอ PureSight ขนาด 8.8 นิ้ว ความละเอียด 2.5K (2560x1600) ที่มีอัตรารีเฟรชสูงถึง 165Hz และความสว่างสูงสุด 900 นิต ทำให้ภาพคมชัด สดใส และลื่นไหลเป็นพิเศษ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการความได้เปรียบด้านความเร็วในการตอบสนอง และเสริมประสบการณ์ด้วยลำโพงคู่ Superliner พร้อมระบบ Dolby Atmos เพื่อเสียงที่สมจริง ขณะที่แบตเตอรี่มีความจุ 6,550mAh และรองรับการชาร์จเร็ว 45W (หรือ 68W ตามข้อมูลบางแหล่ง) พร้อมฟีเจอร์ Bypass Charging ที่เป็นมิตรกับผู้เล่นเกม โดยมีราคาเปิดตัวในไทยเริ่มต้นที่ 20,990 บาท
REDMAGIC Astra
REDMAGIC Astra เป็นแท็บเล็ตเกมมิ่งระดับเรือธงที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกมบนมือถือ โดยมีหัวใจสำคัญอยู่ที่ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8 Elite (รุ่นที่ปรับปรุงจาก Snapdragon 8 Gen 3) ซึ่งเป็นขุมพลังที่แรงที่สุดในตลาดปัจจุบัน ผสานกับ RAM LPDDR5X ขนาด 16GB และพื้นที่เก็บข้อมูล UFS 4.0 ขนาด 512GB ทำให้แท็บเล็ตรุ่นนี้สามารถประมวลผลเกมที่มีความต้องการสูงได้อย่างไม่มีสะดุด และมีระบบระบายความร้อนที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องจะยังคงทำงานได้ดีภายใต้ภาระหนักอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เด่นด้านเกมมิ่ง เช่น ปุ่มทริกเกอร์ไหล่คู่ (Shoulder Triggers) ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำและการควบคุมในเกม FPS และเกมต่อสู้
ด้านการแสดงผล REDMAGIC Astra มาพร้อมหน้าจอ Mini LED ขนาด 12.1 นิ้ว ความละเอียด 3K (2560x1600) ที่มีความสว่างสูงสุดถึง 1,200 นิต และอัตรารีเฟรชสูงสุด 165Hz มอบภาพที่คมชัด สีสันสดใส และการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลเป็นพิเศษ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเล่นเกมและรับชมสื่อความบันเทิง นอกจากนี้ยังติดตั้งลำโพงสเตอริโอ 4 ตัวพร้อมระบบ DTS:X Ultra สำหรับเสียงที่สมจริง ขณะที่แบตเตอรี่มีความจุขนาดใหญ่ถึง 10,000 mAh และรองรับระบบชาร์จเร็ว 80W เพื่อให้เกมเมอร์กลับเข้าสู่สนามรบได้อย่างรวดเร็ว โดยราคาเปิดตัวในไทยอยู่ที่ 29,999 บาท นับเป็นแท็บเล็ตที่ครบเครื่องสำหรับสายเกมเมอร์ตัวจริง
Apple iPad Mini 7 (2024)
และปิดท้ายสำหรับใครที่มองหาแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ iOS ตอนนี้ก็ต้องเป็น Apple iPad Mini 7 (2024) ที่แม้จะเป็นรุ่นปีที่แล้ว แต่สเปกก็ยังถือว่าเหลือๆ ใช้งานได้อีกหลายปี โดย Apple iPad Mini 7 (2024) ยังคงโดดเด่นในฐานะแท็บเล็ตขนาดกะทัดรัดที่อัดแน่นด้วยประสิทธิภาพระดับสูง โดยมาพร้อมกับการอัปเกรดที่สำคัญที่สุดคือขุมพลังจากชิปเซ็ต Apple A17 Pro (Hexa Core) ที่เร็วสุดแรง ทำให้สามารถรองรับการทำงานหนัก การสร้างสรรค์คอนเทนต์ และการเล่นเกมที่ใช้กราฟิกสูงได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ ยังมีหน่วยความจำ RAM 8GB และตัวเลือกพื้นที่จัดเก็บข้อมูลสูงสุด 512GB แท็บเล็ตรุ่นนี้ยังเป็นอุปกรณ์ที่เพียบพร้อมสำหรับความคิดสร้างสรรค์ด้วยการรองรับ Apple Pencil Pro และ Apple Pencil (USB-C) อย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่มาพร้อมกับ iPadOS 18 และการรองรับ Apple Intelligence
สำหรับสเปกอื่น ๆ ยังคงยอดเยี่ยมด้วยหน้าจอ Liquid Retina ขนาด 8.3 นิ้ว ความละเอียด 1488 x 2266 พิกเซล ที่ให้ภาพคมชัดและสีสันสมจริงด้วยขอบเขตสีกว้างแบบ P3 และเทคโนโลยี True Tone พร้อมทั้งมีกล้องหลัง Wide 12MP ที่รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K และกล้องหน้า 12MP พร้อมคุณสมบัติ Center Stage ที่ช่วยให้การวิดีโอคอลมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น นอกจากนี้รุ่น Wi-Fi + Cellular ยังรองรับการเชื่อมต่อ 5G ที่เร็วสุดขั้ว โดย ราคาเปิดตัวเริ่มต้นในไทยอยู่ที่ 17,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi ความจุ 128GB