เปิดโผหุ้นเด่น รับอานิสงส์กระจายวัคซีน กลุ่ม Domestic play และ Reopening
ข่าววันนี้ ความคาดหวังต่อโรดแมปการเร่งฉีดวัคซีนของรัฐบาล ผ่านทั้งวัคซีนหลัก และวัคซีนทางเลือกที่ล่าสุดมีชิโนฟาร์มเพิ่มเติมเข้ามาอีกหนึ่งตัวเลือก ทำให้นักลงทุนเริ่มมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยมากขึ้น โดยเฉพาะหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการกระจายวัคซีนในหลายๆ กลุ่ม รวมถึงหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากการเปิดเมือง ที่น่าจะเป็นหุ้นเป้าหมายของการลงทุนในระยะสั้นหลังจากนี้ รายการ TNN ชั่วโมงทำเงิน รวบรวมความเห็นจาก บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ และ หลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป เกี่ยวกับหุ้นในกลุ่ม Domestic play และ Reopening
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ ของบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ กล่าวว่ากำหนดแนวทางการลงทุนไว้ 2 แนวทาง กลุ่มแรก คือการถือครองหุ้นในกลุ่ม Global play เป็น Core portfolio ต่อไป โดยเฉพาะทางฝั่งของหุ้นกลุ่มส่งออกและ Logistics ที่ยังคงได้แรงหนุนจากภาคการส่งออกซึ่งยังฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง
แนวทางที่ 2 แนะนำ "เก็งกำไร" หุ้นในกลุ่ม Domestic play และ Reopening ที่ก่อนหน้านี้ ราคาหุ้นทั้งกลุ่มย่อตัวลงมาค่อนข้างแรง โดยคำแนะนำของทรีนีตี้ ได้กำหนดระยะเวลาการลงทุนหุ้นในกลุ่มนี้ จำกัดไว้ที่ 1 เดือนเท่านั้นเพราะประเมินว่าในเดือนมิถุนายน หุ้นกลุ่ม Domestic play และ Reopening จะยังไม่ใช้หุ้นเป้าหมายที่บรรดานักวิเคราะห์จะรีวิวหรือทำการทบทวนผลประกอบการไตรมาสที่ 2 เนื่องจากแนวโน้มยังอ่อนแออยู่ จากการระบาดและจำนวนผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในระดับสูง นอกจากนั้น ยังคาดว่าหุ้นกลุ่มนี้จะได้ Sentiment เชิงบวกจากพัฒนาการของการทยอยแจกจ่ายวัคซีน ที่กำลังเข้ามาในระบบมากขึ้น หลังจากภาครัฐเปิดช่องทางลงทะเบียนรับวัคซีนหลากหลายช่องทาง บวกกับการลงทะเบียนรับวัคซีนก็ได้รับการตอบรับมากขึ้น
แต่หลังจากนั้น หรือในช่วงเดือนกรกฎาคม หุ้นกลุ่มนี้ จะเริ่มเข้าสู่ช่วงของการ Preview งบไตรมาส 2 ซึ่งแน่นอนว่าสัญญาณของผลการดำเนินงานที่อ่อนแอจากการระบาดระลอก 3 อาจเป็นข่าวร้ายกดดันราคาหุ้นได้ ดังนั้น ทรีนีตี้จึงกำหนดหนดระยะเวลาการเก็งกำไรสำหรับหุ้นกลุ่มนี้เพียงแค่ 1 เดือน หรือไม่แนะนำให้ถือครองหุ้น Domestic play และ Reopening เมื่อเข้าสู่ช่วงเดือนกรกฎาคมนั่นเอง
จากการคัดกรองของทรีนีตี้ ไปยังหุ้นที่ปรับตัว Underperform ตลาดมากที่สุด นับตั้งแต่ต้นไตรมาส 2 ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดเริ่มให้น้ำหนักกับการระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 จนนำมาสู่การขายสุทธิของนักลงทุนสถาบันในประเทศราว 16,000 ล้านบาท จะพบว่าหุ้นในดัชนี SET100 ที่มีผลตอบแทนติดลบมากที่สุดหากแยกเป็นรายกลุ่ม จะประกอบไปด้วย
1. กลุ่มสื่อนอกบ้าน ได้แก่ PLANB, VGI
2. กลุ่มธนาคาร แน่นอนว่าหุ้น KBANK รวมถึง KTB เป็นหุ้นที่ Underperform มากที่สุด
3. กลุ่มห้างสรรพสินค้าและโรงหนัง ได้แก่ CPN, CRC, MAJOR, MBK
4. กลุ่มค้าปลีก ได้แก่ CPALL, JMART, BJC
5. กลุ่มไฟแนนซ์ ได้แก่ MTC, BAM, SAWAD, THANI
6. กลุ่มสื่อสาร ได้แก่ TRUE
7. กลุ่มท่องเที่ยว ได้แก่ CENTEL, AOT
8. กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ได้แก่ WHA
รายชื่อหุ้นเหล่านี้ คือหุ้นที่ปรับตัว Underperform ตลาดมากที่สุดนับตั้งแต่ต้นไตรมาส 2 ซึ่งการที่ราคาหุ้นปรับฐานจากแรงเทขายออกมาอย่างมาก จึงอาจมี Downside risk ที่เริ่มจำกัดแล้วในระยะสั้น นอกจากนั้น หากนำหุ้นเหล่านี้มาคัดกรองเพิ่มเติมอีกเพื่อความปลอดภัย โดยคัดเฉพาะหุ้นที่ยังคงซื้อขายด้วยค่า Forward PE ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีอยู่ จะได้รายชื่อหุ้นที่ผ่านเกณฑ์น่าสนใจสำหรับการเก็งกำไรในช่วง 1 เดือนข้างหน้า ได้แก่ KBANK, CPN, CRC, MTC, BJC ซึ่งเรียงตามลำดับความ Laggard ในช่วงที่ผ่านมา
ฝ่ายวิจัยของหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป ชี้ว่ากลุ่ม Domestic Play เป็นหุ้นเป้าหมายของนักลงทุนในระยะนี้ ตามความคาดหวังต่อความคืบหน้าของวัคซีนที่จะเริ่มกระจายการฉีดตั้งแต่ 7 มิ.ย. เป็นต้นไป บวกกับตลาดเริ่มให้น้ำหนักในประเด็นนี้ มากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อแล้ว ซึ่งสะท้อนจากเม็ดเงินลงทุนที่เริ่มมีสัญญาณไหลเข้าในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยยังมีปัจจัยบวกจากการที่จำนวนผู้ลงทะเบียนรับการฉีดวัคซีนในพื้นที่ กทม. ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงสูง มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจำนวนผู้ลงทะเบียนที่ล่าสุดเกิน 1 ล้านคนแล้ว ก็คิดเป็นสัดส่วนถึง 18% ของประชากรในพื้นที่ กทม. ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ค่อนข้างเป็นบวก
กลยุทธ์การลงทุน คันทรี่ กรุ๊ป แนะนำ คือ สามารถถือหุ้น Domestic Play ต่อไปได้สำหรับคนที่สะสมมาก่อนหน้านี้ เพราะนักวิเคราะห์ยังเชื่อว่าราคาหุ้นจะค่อยๆ ปรับตัวฟื้นกลับขึ้นได้ แต่หากยังไม่ได้สะสม ก็มองว่าราคาหุ้นปัจจุบัน ยังมี Upside สามารถเข้าสะสมได้เช่นกัน เพราะมองว่าหุ้นกลุ่มนี้ จะเป็นเป้าหมายของเม็ดเงินที่มีโอกาสหมุนกลับเข้ามาเก็งกำไรหุ้นในกลุ่ม Domestic Play เช่นกัน โดยหุ้นเด่นที่คันทรี่ กรุ๊ปแนะนำ คือ BEM BTS CPALL CPN CRC HMPRO MAJOR TACC
ข่าวเกี่ยวข้อง :
- เตรียมต้อนรับหุ้น IPO น้องใหม่ 'ดอนเมืองโทลเวย์'
- ย้อนรอย 'เงินติดล้อ' จากอดีต-ปัจจุบัน หลังกระแสขาย หุ้น IPO กระหึ่ม
- ใครได้หุ้น 'เงินติดล้อ' บ้าง เช็คชื่อหรือยัง ?
- “WINMED” เคาะราคาขาย IPO 3.10 บาท มั่นใจนักลงทุนให้การตอบรับดี
- PROS เร่งรับงานรัฐ เปิดเหนือจองหุ้น IPO 100%
- PROS เปิดซื้อขาย หุ้น IPO วันแรก ราคาพุ่ง 100% ย้ำพื้นฐานแข็งแกร่งฝ่าพิษเศรษฐกิจ
- สายลงทุนเช็ค! หุ้น IPO ฮอต จ่อคิวเตรียมเทรดเพียบ
- ทำความรู้จักกับ หุ้น IPO ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้
- 7 เรื่องควรรู้ก่อนลงทุนหุ้น IPO "ทางยกระดับดอนเมือง"
- "NSL" หุ้น IPO น้องใหม่ พร้อมเสิร์ฟ Sandwich ร้อน ๆ ที่เหมาะทั้งการบริโภค-ลงทุน
- DMT เปิดเทรดวันแรกที่ 17.60 บาท เหนือราคา หุ้น IPO 10%
- TIDLOR ร้อนแรง เปิดเทรดวันแรกที่ 53.50 บาท สูงกว่าราคาขาย หุ้น IPO 46.58
- ส่องราคาเป้าหมายหุ้น TIDLOR หุ้น IPO ร้อนแรง!
- หุ้น WINMED เปิดเทรดวันแรกที่ 7.30 บาท สูงกว่าราคาขาย IPO 135.48%
- บลจ.บัวหลวง หุ้น IPO กองทุน “BP5/21 (AI)”
- เปิดข้อมูล ADD หุ้น IPO น้องใหม่ สายคอนเทนต์
- 7 หุ้น IPO เตรียมเข้าเทรด MAI มีหุ้นเด่นอะไรบ้าง?
- ADD เปิดเทรดวันแรก 17.30 บาท สูงกว่าราคา IPO ที่ 57.27%
--------------------
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก