รีเซต

NERจับตางบ11พ.ค. ราคายางดันผลงาน

NERจับตางบ11พ.ค. ราคายางดันผลงาน
ทันหุ้น
9 พฤษภาคม 2565 ( 06:28 )
226
NERจับตางบ11พ.ค. ราคายางดันผลงาน

#NER #ทันหุ้น -NER เตรียมแจ้งงบ 11 พ.ค.นี้ โบรกส่องกำไรปกติ Q1 ที่ 459 ล้านบาท ยังเพิ่มขึ้น 9.8% ด้านผู้บริหารแย้มผลงาน Q2 สดใส ไม่ห่วงโควิดจีน ออเดอร์ยังส่งมอบตามแผน ราคายางยังทรงตัวระดับสูง คาดแตะระดับ 70 บาทต่อกิโลกรัม เจรจาลูกค้าใหม่ต่อเนื่อง ปีนี้ออเดอร์อินเดียดัน คงเป้ารายได้ที่ 2.8 หมื่นล้านบาท โบรกมั่นปีนี้นิวไฮเคาะเป้า 11.80 บาท

 

นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER เปิดเผยว่า เปิดเผยว่า บริษัทจะมีการรายงานผลประกอบประจำไตรมาส 1/2565 ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2565 โดยแนวโน้มผลประกอบการยังอยู่ในระดับที่ดี และคาดว่าไตรมาส 2/2565 ผลประกอบการจะเติบโตต่อเนื่อง การทยอยส่งมอบยางเป็นไปตามแผน ทั้งปียังมั่นใจว่าจะสามารถทำยอดขายยางพาราอยู่ที่ 5 แสนตัน จากกำลังการผลิตทั้งหมด 5.1 แสนตัน ขณะที่ราคายางพาราปีนี้ จะทรงตัวในระดับสูง โดยยังเชื่อว่าราคายางแผ่นรมควันปีนี้มีโอกาสที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงระดับ 70 บาท ต่อกิโลกรัม

 

@อินเดียส่งออเดอร์

 

ส่วนลูกค้าใหม่ๆ ก็มีการเจรจาต่อเนื่อง แต่ในขณะนี้อาจจะติดปัญหาด้านการเดินทาง อย่างลูกค้าหลักในจีน ยังมีข้อจำกัดในการเดินทาง แม้ประเทศไทยจะมีการเปิดประเทศมากขึ้น แต่ประเทศจีนก็ยังมีการเข้มงวดในเรื่องการกักตัว ทำให้การติดต่อกับลูกค้าอาจจะมีผลบ้าง แต่ปีนี้บริษัทก็มีออเดอร์จากลูกค้าอินเดียเข้ามาประมาณ 10% แต่ปีหน้าลูกค้าอินเดียจะสั่งซื้อมากขึ้น

 

“ปีนี้ยังมั่นใจว่าผลประกอบการจะเป็นไปตามเป้าหมายมากขึ้น แต่ปัจจุบันก็อาจจะติดปัญหาเรื่องของโควิด การเดินทาง ทำให้การพบลูกค้าอาจจะยังจำกัดอยู่ โดยเฉพาะลูกค้าจีน ที่ค่อนข้างเข้มงวดในเรื่องของการเดินทาง แต่บริษัทก็มีการเพิ่มลูกค้าส่วนอื่นมากขึ้น อย่างอินเดียที่คาดว่าจะมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยขณะนี้บริษัทก็พยายามบริหารจัดการหลายๆ ส่วน ทั้งในเรื่องของต้นทุน รวมไปถึงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนด้วย เพื่อให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด และเน้นการจำหน่ายในประเทศมากขึ้น” นายชูวิทย์ กล่าว

 

สำหรับปีนี้บริษัทคงเป้ารายได้ที่ 28,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 24,456 ล้านบาท และคาดว่าอัตรากำไรสุทธิจะอยู่ที่ราว 6-11% จากปีก่อน 7.57% ส่วนการผลักดันการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้านั้น บริษัทได้รับประโยชน์อยู่แล้ว เพราะยางรถยนต์ก็เป็นส่วนประกอบสำคัญทั้งรถสันดาป และรถยนต์ไฟฟ้า

 

@กำไรปกติ Q1 โต9.8%

 

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง NER ว่า คาดปริมาณขายไตรมาส 1/2565 ชะลอลง 14% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้น 2.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นราว 9.2 หมื่นตัน ส่วนหนึ่งเป็นผลของปัจจัยฤดูกาลมีวันหยุดยาวในจีน และยังคงมีปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์กลับมาในช่วงปลายไตรมาสหลัง หลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นแรงจากความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน ทำให้ส่งมอบสินค้าได้น้อยกว่าความต้องการ ทั้งนี้คาดรายได้ที่ 5,307 ล้านบาท (ลดลง 11.9% จากไตรมาสก่อนหน้า, เติบโต 6.9% จากปีก่อน) ราคาขายที่เพิ่มขึ้นช่วยลดผลกระทบจากปริมาณขายที่ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า ทำให้คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะยังทรงตัวได้ที่ 14.4% คาดกำไรปกติ 1/2565 ที่ 459 ล้านบาท (ลดลง 16.3% จากไตรมาสก่อนหน้า, เติบโต 9.8% จากปีก่อน)

 

ส่วนปริมาณขายในไตรมาส 2/2565 จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า และทรงตัวถึงลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่ราคาขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้นมากจากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนไตรมาส 3/2565 คาดปริมาณขายจะกลับมาเติบโตจากไตรมาสก่อนหน้า และทรงตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่ 1.3 แสนตัน ด้วยราคาขายที่เพิ่มขึ้น และ GPM ที่สูงขึ้น รวมถึงเริ่มมีรายได้จากธุรกิจแผ่นรองนอนสัตว์ (Cow Mat) ทำให้มีโอกาสที่กำไรจะกลับทำ New High และอาจต่อเนื่องถึงไตรมาส 4/2565 เพราะคาดว่าจะเป็นไตรมาสที่มีการส่งมอบสินค้ามากที่สุดของปี 2565 คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 11.80 บาท

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง