รีเซต

NERจับมือกยท.ลงMOU บริหารยางพารา2แสนตัน

NERจับมือกยท.ลงMOU บริหารยางพารา2แสนตัน
ทันหุ้น
3 ตุลาคม 2568 ( 16:29 )
4

#NER #ทันหุ้น - NER ร่วมกับ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ข้อตกลงร่วมมือด้านการบริหารจัดการผลผลิตยางพารา เพื่อสร้างความสมดุลในการจัดการผลผลิตยางพารา ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ต่อยอดสู่การสร้างเสถียรภาพราคายางและรองรับผลผลิตอย่างเหมาะสม เพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจและรายได้ที่มั่นคงให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง โดยมีเป้าหมายรวบรวมผลผลิตยางพาราจำนวน 200,000 ตันต่อปี สัญญามีผลบังคับใช้ 5 ปี และพิจารณาระยะเวลาต่อได้         

นายชูวิทย์  จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่าย ยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง ยางผสม และสินค้าปลายน้ำแผ่นยางพาราปูพื้นคุณภาพสูง เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ กลุ่มผู้ค้าคนกลาง ทั้งในประเทศและต่างประเทศกล่าวว่า บริษัทได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เพื่อความร่วมมือด้านการบริหารจัดการผลผลิตยางพารา

โดยมี นายเพิก  เลิศวังพง รักษาการแทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ร่วมลงนาม เพื่อร่วมกันสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและรายได้ที่มั่นคงให้เกษตรกรไทยในระยะยาว พร้อมสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราอย่างยั่งยืน ณ การยางแห่งประเทศไทย (สำนักงานใหญ่) กรุงเทพมหานคร

ร่วมบริหารยางพารา

สำหรับวัตถุประสงค์ของความร่วมมือครั้งนี้ คือ การบริหารจัดการผลผลิตยางพาราให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด พร้อมส่งเสริมการรวมตัวของเกษตรกร สถาบันเกษตรกร การยางแห่งประเทศไทย และผู้ประกอบการ เพื่อใช้เป็นกลไกในการบริหารจัดการผลผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ความร่วมมือต้องอยู่บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ดี โดยมุ่งสร้างเครือข่ายเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทั้ง 2 ฝ่าย

รวมไปถึงเกษตรกรชาวสวนยางผู้มีส่วนได้เสียในอุตสาหกรรมยางสังคมและประเทศชาติ โดยการดำเนินงานทั้งหมดอยู่ภายใต้กรอบของพระราชบัญญัติ กฎ ระเบียบ และนโยบายที่เกี่ยวข้อง โดยทั้ง 2 ฝ่ายมีเจตนาร่วมกันในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรค เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามข้อตกลงอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

สนับสนุนเกษตรกร

ทั้งนี้ ในส่วนของความรับผิดชอบต่อความร่วมมือในครั้งนี้ของบริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER เช่น ส่งเสริมและรวบรวมผลผลิตยางพารา ที่จัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ สนับสนุนให้เกษตรกรชาวสวนยางและสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางและผู้ประกอบกิจการยางมีแหล่งรองรับผลผลิตยางพารา ที่เป็นธรรม ตรวจสอบคุณภาพตามมาตรฐานที่เป็นธรรม และได้รับการยอมรับ รวมถึงปฏิบัติตามกฎระเบียบของการยางแห่งประเทศไทย

ขณะที่ในส่วนการยางแห่งประเทศไทยเอง จะมีหน้าที่และรับผิดชอบคือ ต้องรวบรวมผลผลิตยางพาราอย่างน้อย จำนวน 200,000 ตันต่อปี จากตลาดกลางยางพาราจังหวัด และตลาดเครือข่ายของตลาดกลางยางพาราจังหวัดของการยางแห่งประเทศไทย ตรวจสอบแหล่งผลิต ประเมินความเสี่ยง ตามมาตรการ EUDR (ถ้ามี)

ต่อยอดระยะยาว

และออกเอกสารข้อมูลการซื้อขายยาง ให้แก่ผู้ซื้ออย่างครบถ้วน หรือมาตรฐานอื่น มีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับคุณสมบัติยาง ผู้อำนวยการสำนักงานตลาดกลางยางพาราจังหวัด จะเป็นผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท หากเกิดกรณีพิพาท การลงนามทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในครั้งนี้ เพื่อความร่วมมือทางด้านการบริหารจัดการผลผลิตยางพาราจะมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 5 ปี นับถัดจากวันที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้ลงนามร่วมกัน เมื่อครบกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว ทั้ง 2 ฝ่ายอาจตกลงกันเพื่อขยายระยะเวลาต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง