รีเซต

TUโชว์ไตรมาสแรกนิวไฮ ยอดขายทะลุ3.6หมื่นล.

TUโชว์ไตรมาสแรกนิวไฮ ยอดขายทะลุ3.6หมื่นล.
ทันหุ้น
10 พฤษภาคม 2565 ( 07:08 )
389
TUโชว์ไตรมาสแรกนิวไฮ ยอดขายทะลุ3.6หมื่นล.

#TU #ทันหุ้น – TU ปลื้มยอดขายไตรมาส 1/2565 ทำนิวไฮ 3.6 หมื่นล้านบาท พร้อมอัพเป้ายอดขายปีนี้ใหม่โต 7-8% หลังความต้องการสินค้าทั่วโลกเพิ่มขึ้น ขณะที่กำไรสุทธิลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 1.74 พันล้านบาท เหตุมีผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน และบันทึกผลขาดทุน Red Lobster เพิ่มขึ้น

 

นายธีรพงศ์  จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/2565 มียอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (นิวไฮ) 36,272 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากปัจจัยต่างๆ ได้แก่ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ความต้องการสินค้าทั่วโลกที่สูงขึ้นเนื่องจากหลายประเทศได้กลับสู่สภาวะปกติ และผ่อนคลายมาตรการป้องการการแพร่ระบาดต่างๆ และมีกำไรสุทธิไตรมาส 1/2565 ที่ 1.75 พันล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.8 พันล้านบาท

 

แม้ว่าบริษัทจะต้องเผชิญกับความท้าทายทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง แต่บริษัทยังสามารถทำผลงานได้ดี รวมถึงยอดขายจากหน่วยธุรกิจหลักทั้ง 3 ส่วน โดยที่ยังคงให้ความสำคัญกับสุขภาพ ความเป็นอยู่ และความปลอดภัยของพนักงาน ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 บริษัทได้มีมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19อย่างเคร่งครัด ทำให้บริษัทสามารถจัดการฐานการผลิตทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถผลิตสินค้าคุณภาพให้กับผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง

 

*ยอดขายเพิ่มขึ้น

 

ด้านความต้องการสินค้าทั่วโลกส่งผลดีต่อยอดขายของบริษัท ซึ่งธุรกิจหลักทั้ง 3 ส่วนของบริษัทมียอดขายที่เพิ่มขึ้น โดยธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปบรรจุกระป๋องมียอดขายเพิ่มขึ้น 14.3% อยู่ที่ 1.55 หมื่นล้านบาท ในไตรมาส 1/2565 มีปัจจัยบวกจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ส่งผลบวกต่อธุรกิจ และราคาขายของสินค้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

 

ธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งและแช่เย็นมียอดขายเพิ่มขึ้น 14.2% อยู่ที่ 1.37 หมื่นล้านบาท จากความต้องการที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปเอเชีย ที่มีความต้องการสินค้าประเภทกุ้งสูงขึ้น อีกทั้งธุรกิจร้านอาหารและโรงแรมในสหรัฐอเมริกาและยุโรปเริ่มทยอยฟื้นตัว และเช่นเดียวกัน อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศได้ส่งผลบวกต่อยอดขาย นอกจากนี้บริษัทยังได้นำระบบเครื่องจักรอัตโนมัติเข้ามาใช้ในโรงงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและบริหารจัดการต้นทุนต่อหน่วย

 

ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและสินค้าเพิ่มมูลค่า ยังคงมีส่วนสำคัญในการเติบโตทางธุรกิจของ TU อย่างต่อเนื่องในไตรมาสแรกของปี ด้วยยอดขายที่พุ่งสูงขึ้น 27.2% อยู่ที่ 6.95 พันล้านบาท จากการที่ผู้คนใช้เวลาอยู่กับสัตว์เลี้ยงมากขึ้นและบริษัทมีการออกผลิตภัณฑ์นวัตกรรมต่างๆ นอกจากนี้ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ยังมียอดขายที่สูงขึ้นด้วย

 

*ร่วมทุนเสริมแกร่ง

 

สำหรับในไตรมาส 1/2565 บริษัทยังได้ขยายธุรกิจไปยังตลาดอื่นๆ และมีการตั้งบริษัทร่วมทุน ร่วมกับ บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF และบริษัท Srinivasa Cystine Private Limited ซึ่งเป็นบริษัทในเครืออะแวนติ กรุ๊ป โดยใช้ชื่อ บริษัท อาร์บีเอฟ-ทียู ฟู้ด อินกรีเดียนท์ ไพรเวท จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายส่วนผสมในอาหารคุณภาพสูงในประเทศอินเดีย

 

อีกทั้งบริษัทยังเดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการห่วงโซ่อุปทาน โดยจัดตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่นี้กับ บริษัทแปซิฟิค ห้องเย็น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ (JWD) ในนาม บริษัท แปซิฟิค ทียูเอ็ม โคลด์ สโตเรจ จำกัด บริษัทร่วมทุนใหม่นี้จะดำเนินการก่อสร้างคลังสินค้าห้องเย็นในจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อรองรับการจัดเก็บวัตถุดิบและสินค้าที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น

 

*ปรับเป้ารายได้เพิ่ม

 

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ปรับเป้าหมายปี 2565 ใหม่ โดยวางเป้ายอดขายเติบโต 7-8% จากเดิมวางเป้าเติบโต 4-5% อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 17-18% ลดลงจากเดิมที่ 18-18.5% วางงบลงทุนที่ 6 พันล้านบาท จากปัจจัยความท้าทายในห่วงโซ่อุปทานยังคงอยู่ โดยราคาวัตถุดิบต้นทุนบรรจุภัณฑ์ ส่วนผสมอาหาร น้ำและก๊าซ และอุปกรณ์อื่นๆ ปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก

 

โดยบริษัทวางแนวทางบริหารจัดการ โดยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารสินค้าคงคลัง การต่อรองราคาทั้งในธุรกิจรับจ้างผลิตและธุรกิจแบรนด์เพื่อแบ่งเบาภาระต้นทุนที่สูงขึ้น ปรับระดับการทำการตลาด และลดต้นทุนการผลิต ปรับสัดส่วนการขายสินค้าเพื่อเพิ่มความสามารถการทำกำไร

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง