ACEหุ้นกู้ดอกเบี้ยจูงใจ จ่ายทุกไตรมาสลุยขยาย

#ACE #ทันหุ้น – ACE ออกหุ้นกู้ 2 ชุด อายุ 1-2 ปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ดอกเบี้ยชุดแรกอายุ 1 ปี ผลตอบแทน 4.10% - 4.30% ต่อปี ชุด 2 อายุ 2 ปี ผลตอบแทน 4.40% - 4.70% ต่อปี เสนอขายผู้ลงทุนสถาบัน-รายใหญ่ 6 - 8 สิงหาคมนี้ เตรียมนำเงินลุยธุรกิจ ย้ำรายได้ไตรมาส 2 ปรับตัวเพิ่ม ปลายปีพอร์ตเพิ่มโซลาร์ฟาร์มเข้า 5 โครงการ
นายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE ผู้นำธุรกิจพลังงานสะอาดของไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้นกู้ให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน (ไม่รวมบุคคลธรรมดาที่เป็นผู้ลงทุนสถาบัน) และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยหุ้นกู้ที่จะออกเสนอขายในครั้งนี้ เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้
โดยบริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือขององค์กรที่ระดับ “BBB+” แนวโน้ม “Stable” ซึ่งเป็นการจัดอันดับความน่าเชื่อถือโดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2566
@ จ่ายดอกทุก 3 เดือน
สำหรับหุ้นกู้ที่จะเสนอขายมีจำนวน 2 ชุด กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ ประกอบด้วย หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 1 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.10 – 4.30% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.40 – 4.70% ต่อปี โดยมีธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ มีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นนายทะเบียน และมีบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ คาดเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 6 - 8 สิงหาคม 2567
ทั้งนี้ วัตถุประสงค์สำคัญของการออกหุ้นกู้ครั้งนี้เพื่อจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ไปลงทุนขยายธุรกิจ และชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมสถาบันการเงินของบริษัท และ/หรือ บริษัทย่อย รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัท
@ กำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่ม
ทั้งนี้คาดรายได้ในช่วงไตรมาส 2/2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทเนื่องจากบริษัทมีโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดคลองขลุง (SPP คลองขลุง) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนโดยใช้เชื้อเพลิงชีวมวลร่วมกับพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา จังหวัดกำแพงเพชร ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 20 เมกะวัตต์ ที่เปิดจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ปัจจุบันกลุ่มบริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้ารวม 88 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 602.29 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว 23 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 277.57 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 65 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 324.72 เมกะวัตต์
ส่วนปลายปีนี้บริษัทจะมีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) อีกจำนวน 5 โครงการ กำลังผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟ (PPA) 35 เมกะวัตต์ แต่บริษัทสามารถติดตั้งได้ 70 เมกะวัตต์นั้น จะ COD ช่วงปลายปีนี้ ส่วนปีหน้าจะมีโครงการโซลาร์ฟาร์มจำนวน 10 โครงการที่จะCOD เพิ่ม ซึ่งเป็นโครงการโซลาร์ฟาร์มที่บริษัทได้รับสัญญา PPA จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เมื่อเดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา
สำหรับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2567-2580 (PDP 2024) ออกมาให้ความสำคัญกับพลังงานหมุนเวียนถึง 34,851 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโรงพลังงานแสงอาทิตย์ 24,412 เมกะวัตต์ พลังงานลม 5,345 เมกะวัตต์ ชีวมวล 1,046 เมกะวัตต์ ก๊าซชีวภาพ 936 เมกะวัตต์ แสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำ 2,681 เมกะวัตต์ ขยะอุตสาหกรรม 12 เมกะวัตต์ ขยะชุมชน 300 เมกะวัตต์ พลังน้ำขนาดเล็ก 99 เมกะวัตต์ พลังงานความร้อนใต้พิภพ 21 เมกะวัตต์
ทั้งนี้เป็นโอกาสที่บริษัทจะเข้าไปประมูลทั้งในส่วนของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้าพลังงานลม โรงไฟฟ้าชีวมวล และโรงไฟฟ้าขยะ ซึ่งในส่วนของโรงไฟฟ้าชีวมวล และโรงไฟฟ้านั้นบริษัทมีความเชี่ยวชาญดังกล่าวมีโอกาสที่จะสามารถชนะประมูลได้