รีเซต

[บทความ] แนะนำเกมน่าเล่น Sea of Stars (เดโม) ยำรวมตำนาน RPG ในเกมเดียว

[บทความ] แนะนำเกมน่าเล่น Sea of Stars (เดโม) ยำรวมตำนาน RPG ในเกมเดียว
แบไต๋
12 กุมภาพันธ์ 2566 ( 23:50 )
81
[บทความ] แนะนำเกมน่าเล่น Sea of Stars (เดโม) ยำรวมตำนาน RPG ในเกมเดียว

เชื่อว่าแฟนเกมยุคเก่าต้องเคยผ่านหูผ่านตา Chrono Trigger หนึ่งในตำนานเกม RPG แห่งยุค 90S ที่มีเสียงเรียกร้องให้สร้างภาครีเมกหรือภาคใหม่มาตลอด แต่ Square Enix ยังไม่ประกาศออกมาเสียที แต่ในตอนนี้เกมแนวย้อนยุคมาแรงมาก ทำให้มีค่ายอินดี้พยายามสร้างเกมแนวเดียวกันออกมาเองโดยไม่ต้องง้อค่ายต้นสังกัด

และหนึ่งในความพยายามนั้นคือ Sea of Stars เกมอินดี้จากผู้สร้าง The Messenger เกมแนวนินจาย้อนยุคที่ประสบความสำเร็จมาก่อน ซึ่งผู้สร้างบอกไว้ก่อนเลยว่าใน Sea of Stars จะเป็นการเอาตำนาน RPG ยุค 16Bit อย่าง Chrono Trigger, Breath of Fire มาเป็นต้นแบบ และบอกตรง ๆ ไม่อ้อมค้อมว่ามันคือเกมที่พยายามจะสร้างความคลาสสิกกลับมาอีกครั้ง

นอกจากนี้ผู้สร้างยังได้คุยว่าจะได้ทีมงานที่สร้างต้นฉบับอย่าง ยาสุโนริ มิตสุดะ (Yasunori Mitsuda) อดีตนักแต่งเพลงของค่าย Square Enix ที่เคยร่วมงานแต่งเพลงใน Chrono Cross และ Chrono Trigger ยิ่งทำให้มันน่าสนใจมาก ล่าสุดมีการปล่อยเดโมให้เล่นบน Nintendo Switch แล้วทำให้ไม่พลาดที่หามาลองและอยากแนะนำให้เล่น

กราฟิกดูดีงามแบบ 16Bit

สิ่งแรกที่ประทับใจคือภาพใน Sea of Stars จะมาแบบ 2 มิติมุมมองด้านบน แบบเดียวกับคลาสสิกในอดีต เพราะใช้แบบพิกเซลเหมือนกัน แต่ที่แตกต่างกันคือการเคลื่อนไหวของตัวละครและศัตรูรวมทั้งบอสสามารถขยับได้ลื่นไหลกว่าเกมในอดีต แต่โดยรวมก็ไม่ได้ดูเป็นยุคใหม่ยังอยู่ในกรอบของแนวย้อนยุคที่ส่วนตัวแล้วชอบมาก แต่มีข้อเสียที่ตัวละครหลักทั้ง 3 ดูไม่มีจุดเด่นเท่าที่ควร

ส่วนเพลงประกอบที่ผู้สร้างคุยตั้งแต่ต้นว่าได้หนึ่งในทีมงานแต่งเพลง Chrono Trigger มาร่วมงาน ซึ่งมันก็มีกลิ่นอายอยู่บ้าง แน่นอนว่ามันยังสู้ต้นฉบับไม่ได้เพราะเท่าที่เล่นในตัวเดโมยังไม่มีเพลงธีมติดหูเท่า แถมมีการใส่เสียงของเกมยุคใหม่เข้าไปมากจนเกินความเป็น 16 Bit ทำให้คนที่ชอบความคลาสสิกอาจจะไม่ค่อยอินในจุดนี้นัก แต่โดยรวมก็ถือว่าไม่เลวฟังได้เพลิน ๆ

เกมเพลย์แนว RPG เทิร์นเบส

รูปแบบการเล่นก็ใช้แบบ Chrono Trigger ที่เป็น RPG แนวเทิร์นเบส ใส่คำสั่งเพื่อโจมตีและไม่ได้ใช้แบบเรียลไทม์ต้องรอ ฟังดูเชยแต่ความโดดเด่นยังคงมีเพราะเราจะเจอศัตรูตัวเป็น ๆ ในฉากหลักแบบไม่ต้องตัดเข้าฉากต่อสู้เลย ทำให้เกมเพลย์มีความรวดเร็วมาก และผู้เล่นต้องกดเลือกคำสั่งเพื่อให้ตัวละครโจมตี หรือใช้ท่าไม้ตายพิเศษหรือใช้ยาเติมพลังเหมือนเกมแนว RPG ทั่วไป

ส่วนเกมเพลย์หลัก ๆ จะเหมือนเกม RPG ทั่วไปที่จะมีฉากดันเจี้ยน, ฉากหมู่บ้านหรือเมืองใหญ่, แน่นอนว่าต้องมีฉากบนแผนที่ แบบไม่ได้ใส่อะไรใหม่เข้า แต่เนื่องจากยังคงเป็นตัวเดโมทำให้หลายส่วนของฉากในเมืองยังไม่สามารถเดินสำรวจได้ครบ และยังไม่มีระบบแผนที่ซึ่งควรจะมีใส่เข้ามาในตัวเต็มด้วยไม่งั้นแฟนเกมรุ่นใหม่อาจจะมองว่ามันเชยไป

ผสมแอ็กชันแบบ Mario RPG เข้าไป

นอกจากนี้เกมยังใส่แอ็กชันเอาไปผสมในส่วนของฉากต่อสู้ด้วย เพราะผู้เล่นจะได้กดปุ่มตามจังหวะตอนโจมตีและใช้ท่าไม้ตาย ที่มีทั้งการกดให้ตรงจังหวะและกดปุ่มค้างไว้ ซึ่งหากเรากดถูกจะสามารถโจมตีได้รุนแรงขึ้น รูปแบบนี้คล้ายกับเกม Super Mario RPG ถือว่าทำออกมาได้ดีและทำให้การเล่นแนวเทิร์นเบสไม่น่าเบื่อแม้ไม่ได้สดใหม่แล้วแต่ยังคงทำหน้าที่ของมันได้ดีอยู่

อีกจุดที่ทำให้เกมดูดีขึ้นคือฉากในดันเจี้ยนที่มีการใส่รูปแบบการแก้ปริศนาที่ต้องเดินทางไปทั่ว แล้วต้องค้นหาไอเทมหรือสวิตช์กดเพื่อเปิดทางไปต่อ แม้ในเดโมจะมีให้เล่นเพียงแต่ฉากเดียวแต่ก็ทำได้ดี มีการใส่ฉากแอ็กชันเข้าไปเช่นการกระโดดหรือปีนป่ายได้ แถมยังมีการใส่ระบบทำอาหารเพื่อเอามากินเพิ่มค่าพลัง และมีการตกปลาเพื่อหาวัตถุดิบทำอาหารด้วย ส่วนบอสท้ายฉากก็ยังดูธรรมดาไปเพราะยังไม่มีอะไรโดดเด่นดูเรียบ ๆ ก็ต้องไปลุ้นกันตอนตัวเต็มออกวางขาย

เท่าที่สัมผัสเดโมเกม Sea of Stars ทำออกมาได้ดีแม้ว่าจะยังไม่สุด แต่เกมเพลย์สามารถทำออกมาได้ใกล้เคียงกับต้นฉบับ เพราะยังมีจุดที่ยังควรปรับปรุงอยู่หลายส่วนทั้งตัวละครที่ยังดูธรรมดาไม่มีจุดเด่น และความเร็วในการเดินบนแผนที่ถือว่าช้าเกินไปรวมทั้งระบบแผนที่ก็ไม่มี คาดว่าทั้งหมดน่าจะได้รับการแก้ไขในตัวเต็ม ๆ ที่จะวางขายในวันที่ 29 สิงหาคม 2023 บน Nintendo Switch, PS4, PS5 และ PC

ข่าวที่เกี่ยวข้อง