รีเซต

เจาะลึกพฤติกรรมผู้บริโภคใหม่ ได้ใจยุคดิจิทัล โดย ดร.ดั่งใจถวิล อนันตชัย จากงาน Thailand Marketing Webinar 2023

เจาะลึกพฤติกรรมผู้บริโภคใหม่ ได้ใจยุคดิจิทัล โดย ดร.ดั่งใจถวิล อนันตชัย จากงาน Thailand Marketing Webinar 2023
แบไต๋
23 สิงหาคม 2566 ( 18:23 )
133

ต้องบอกว่าปัจจุบันอินเทอร์เน็ตได้เข้าถึงประชาชนมากขึ้นส่งผลให้พฤติกรรมมีการปรับเปลี่ยนไป เช่นการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ที่สูงขึ้น มีการชำระสินค้าด้วยเงินดิจิทัล การเกาะกระแสสังคมที่มีความรวดเร็วเป็นอย่างมาก ซึ่งเราก็เห็น ๆ กันอยู่ในปัจจุบัน ดร.ดั่งใจถวิล อนันตชัย ได้เผยพฤติกรรมผู้บริโภคใหม่ยุคดิจิทัล จากการสำรวจชาวเอเชียใน 6 ประเทศเพื่อนบ้าน จากงาน Thailand Marketing Webinar 2023 งานสัมมนาการตลาดในรูปแบบออนไลน์ครั้งยิ่งใหญ่ 4-5 สิงหาคม ที่ผ่านมา จะมีอะไรน่าสนใจบ้างติดตามได้ในบทความนี้

เจาะลึกพฤติกรรมผู้บริโภคใหม่ในยุคดิจิทัลจากการสำรวจชาวเอเชียในเพื่อนบ้าน 6 ประเทศ ได้แก่ จีน อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น ไทย และเวียดนาม จาก 3,000 ตัวอย่าง ในระยะเวลา 12 เดือน เพื่อให้เห็นถึงแนวโน้มการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภค โดย 5 Mega Trends นี้ถือเป็นเทรนด์ที่น่าจับตามอง เพราะสามารถสร้างโอกาสแก่ธุรกิจในยุคดิจิทัลไม่มาก็น้อย

  1. เทรนด์ Aging Better ในระยะ 10 ปีที่ผ่านมาอายุไขเฉลี่ยของคนทั่วโลกมากขึ้น รวมถึงมีเทคโนโลยีและบริการสุขภาพที่ตอบสนองผู้สูงอายุมากยิ่งขึ้นด้วย เพราะคนเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพ

Good Living จึงสำคัญกว่า Good Looking แต่เมื่อเกิดวิกฤตการณ์ แล้วทุกอย่างไม่แน่นอน ผู้บริโภคเลยอยากวางอนาคตของตัวเองให้แน่นอนหรือมั่นคงมากยิ่งขึ้น จึงถือเป็นโอกาสสำคัญให้แบรนด์กำหนดจุดขาย ออกแบบสินค้าหรือบริการให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่เกิดขึ้นนี้

  1. เทรนด์ Digital Twin พฤติกรรม FOMO Fear of Missing Out หรือโรคกลัวตกกระเเส ทำให้ผู้บริโภคพยายามฝัง digital footprint พร้อมกับสร้างมนุษย์สัมพันธ์ในชีวิตจริง เพราะ Social Media กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของพวกเขาโดยส่วนมากใช้เพื่อหาข้อมูลและคลายเหงา อย่างไทยเองก็มีการใช้ Facebook Youtube Line TikTok และ Google ตามลำดับ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่มีพฤติกรรมการใช้สื่อแบบ “online-only” มากขึ้น ดังนั้น FOMO Life เกิดจากการรวมกันระหว่าง Functional หาข้อมูล ซื้อสินค้าและบริการ Emotional ลดความเครียด และ Social ตามกระแส ตามผู้คน ซึ่งเทรนด์นี้สะท้อนให้เห็นว่าแบรนด์ต่าง ๆ ต้องเริ่มคิดทบทวนงบประมาณหรือความเหมาะสมที่จะทำให้แบรนด์เข้าถึงผู้บริโภคได้มากที่สุด
  1. เทรนด์ Segment of one คือการที่ผู้บริโภคต้องการให้แบรนด์รู้ใจมากกว่าที่ผู้บริโภครู้ใจตัวเอง การทำ Experiential Marketing Strategy หรือการสร้าง Experience จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่าชื่อแบรนด์ เพราะจะเป็นส่วนที่ทำให้ผู้บริโภคประทับใจจนพร้อมบอกลาแบรนด์ที่ใช้มาก่อนหน้าได้ทันที ยุคนี้จึงเป็นยุคของ Prosumer(Producer +Consume) อย่างแท้จริง ที่ผู้บริโภคมีความกระตือรือร้น มั่นใจ มีข้อมูลหลายด้าน รู้ว่าใคร ทำอะไร อย่างไร ทำให้เขาเชื่อในข้อมูลที่ตัวเองมีหรือรู้มากกว่าสิ่งที่เเบรนด์นำเสนอและพร้อมตัดสินใจได้ทุกเมื่อ มากไปกว่านั้นผู้บริโภคในยุคนี้ยังเลือกแบรนด์ที่มี “ความเท่าเทียม” จึงถือเป็นโอกาสที่แบรนด์จะสามารถสร้างจุดยืนร่วมกับผู้บริโภคและเป็นกลายเป็น Top of Mind ในอนาคตได้
  1. เทรนด์ Generation Redefined, Segmentation Redesigned นอกจากที่แบรนด์ต้องเข้าใจ Pain point แล้วยังต้องหยั่งลึกเข้าไปถึง Passion points ของกลุ่มผู้บริโภคด้วย โดยไม่ปิดกั้นและจำกัดขอบเขตของคุณค่าของสินค้าหรือบริการตามอายุอีกต่อไป เพราะ Cross-generation เป็นความสัมพันธ์รูปแบบใหม่ที่กำลังมาเเรงและมีอิทธิพล รวมถึง New Media เช่น TikTok ก็ไม่ได้เข้าถึงแค่คนรุ่นใหม่ แต่เเทบจะไปเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของคนทุกช่วงวัยอย่างน่าสนใจผ่านความสนใจเดียวกัน
  1. เทรนด์ ECO2 the New Value Equation เทรนด์ที่กำลังมาแรงและมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะ ผู้บริโภคปัจจุบันคำนึงถึงถึงความยั่งยืนไปพร้อมกับความสะดวกสบาย Eco และ Economic เลยต้องมาคู่กัน กล่าวคือคนรอด แบรนด์รอด และโลกก็รอดด้วย ซึ่งสมการของ Eco square คือการควบคุมให้ Income สมดุลกับ Impact โดยผู้บริโภคจะมองหาคุณค่าของความสมดุลทั้งเรื่องสุขภาพ จิตใจ สิ่งแวดล้อม และการลงทุน ซึ่งสะท้อนผ่านเทรนด์พฤติกรรมของผู้บริโภคในเอเชียไม่ว่าจะเป็น บริโภคเนื้อสัตว์น้อยลง, กินอาหารออร์แกนิคมากยิ่งขึ้น, ทำสวนผักหรือเกษตรขึ้นเอง, และการจัดทรัพยากรและขยะอย่างมีประสิทธิภาพ มากไปกว่านั้นคนรุ่นใหม่เชื่อและสนับสนุนเรื่อง “The Perfectly Imperfect” และ “From Me to We” ภูมิใจที่จะสนับสนุนสินค้าท้องถิ่นหรือชุมชนที่เป้นส่วนหนึ่งในการลดปัญหาการจัดการทรัพยากรหรือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความยั่งยืน

Psychology & Technology must become friends จาก Mega Trends ทั้ง 5 ทำให้แบรนด์ต้องพร้อมที่จะปรับกับพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ผ่านการสร้างและนำเสนอคุณค่าภายใต้ METTA Marketing ซึ่งคือ

  • M = Mindful มีสติ ใส่ใจ นอกจากเรื่องยอดขายและกำไรแบรนด์สามารถมอบประโยชน์อะไรให้กับสังคมได้บ้าง
  • E = Empowwering people การใส่ใจและเข้าใจผู้บริโภคอย่างแท้จริง 
  • T = Transparenct &Truthful โปร่งใสและจริงใจ ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสิ่งที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ทางอ้อม เช่น การขนส่ง
  • T = Trust สร้างความเชื่อมั่นและเชื่อใจ ผู้บริโภคตั้งใจให้ข้อมูลเพราะคาดหวังคำตอบหรือการตอบรับที่ใส่ใจเช่นกัน
  • A = Authentic ตัวตน จุดยืนของแบรนด์ที่ชัดเจนและเเท้จริง ไม่เปลี่ยนไปตามกรเเส 

“People won’t remember what you do, They will remember how you made them feel” สินค้าหรือบริการที่ดีที่ผู้บริโภคจะเลือกใช้หรือใช้ต่อนั้นไม่ได้เกิดจากที่แบรนด์ทำอะไรไปบ้าง แต่จะเกิดจากสิ่งที่แบรนด์กำลังทำนั้นแบรนด์ทำเพื่อใคร และผู้บริโภคได้รับประสบการณ์หรือความรู้สึกอย่างไรมากกว่า

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง