นักวิทย์เตือน ! อาจมีภูเขาไฟระเบิดครั้งใหญ่ที่ทำให้โลกระส่ำได้ภายในศตวรรษนี้
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น (CNN) รายงานว่า ในศตวรรษนี้ มีโอกาสร้อยละ 16.67 ที่จะเกิดการระเบิดของภูเขาไฟ (Volcanic Eruption) ขนาดใหญ่ ที่อาจสร้างผลกระทบถึงขั้นสภาพอากาศแปรปรวน ภาวะขาดแคลนอาหาร และสงครามระหว่างมหาอำนาจได้ภายในศตวรรษที่ 21 หรือช่วงปี 2025 - 2100 นี้
ภูเขาไฟระเบิดครั้งใหญ่กับผลกระทบต่อโลกในอดีต
ย้อนกลับไปในปี 1815 ภูเขาไฟแทมโบรา (Mount Tambora) ในอินโดนีเซียเกิดการระเบิดซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ภูเขาไฟที่รุนแรงที่สุดในโลกเท่าที่เคยบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกลดลงไม่น้อยกว่า 1 องศาเซลเซียส จากการปล่อยคาร์บอนและซัลเฟอร์ปกคลุมชั้นบรรยากาศจำนวนมหาศาล
ทางด้านของ ลอยด์ส (Lloyd’s) บริษัทประกันชั้นนำของโลกจากอังกฤษ ประเมินว่าการระเบิดในครั้งนั้นสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจเฉพาะในปีที่เกิดการระเบิดสูงถึง 3.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 120 ล้านล้านบาท (ค่าเงินปัจจุบัน)
เตือนภูเขาไฟระเบิดครั้งใหญ่อาจเกิดขึ้นอีกครั้ง
แต่ผลกระทบที่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเกี่ยวข้องกันมากที่สุด คือการระเบิดของภูเขาไฟแทมโบรา ส่งผลให้ภูเขาไฟทั่วโลกเกิดการระเบิดเป็นลูกโซ่ แต่ผ่านมากว่า 200 ปี การระเบิดของภูเขาไฟแทมโบราก็ยังคงเป็นการระเบิดที่รุนแรงที่สุดในยุคใหม่
และคำถามที่ตามมาที่สำคัญที่สุดนั้นไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ แต่เกิดขึ้นเมื่อไหร่ เพราะมาร์คัส สตอฟ (Markus Stoffel) ศาสตราจารย์ด้านภูมิอากาศจากมหาวิทยาลัยเจนีวา (University of Geneva) ในสวิตเซอร์แลนด์ออกมาให้สัมภาษณ์กับ CNN ว่าในศตวรรษนี้นั้นมีโอกาสที่จะเกิดการระเบิดของภูเขาไฟที่รุนแรงระดับเดียวกันกับเหตุการณ์ในปี 1815 อีกครั้งนั้นอยู่ที่ประมาณ 1 ใน 6 หรือร้อยละ 16.67
โดยการวิจัยนั้นใช้กระบวนการจำลองทางธรณีวิทยาและธรณีฟิสิกส์ของโลกที่เกี่ยวข้อง เช่น การทดสอบแรงเค้น (Stress test) ของการแปรสัณฐานแผ่นธรณีภาค (Plate Tectonic) เพื่อดูว่าหากเกิดการระเบิดของภูเขาไฟจะส่งผลอย่างไรบ้าง
แม้ว่าจะไม่สามารถบอกวัน เวลา สถานที่ได้อย่างชัดเจน แต่ก็ยังสามารถทำให้เห็นภาพสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นเพื่อเตรียมแผนรับมืออพยพผู้คนทั่วโลกกว่า 800 ล้านคน ที่อยู่ในเขตภูเขาไฟที่มีพลัง (Active volcano) และจับตาในพื้นที่อินโดนีเซียเป็นพิเศษ เพราะเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีกิจกรรมทางธรณีมากที่สุดในโลก (เช่น แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ ภูเขาไฟระเบิด ฯลฯ)
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหากภูเขาไฟระเบิดครั้งใหญ่
นักวิจัยคาดว่า สภาวะภูมิอากาศแปรปรวน (Climate Change) ที่ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยโลกสูงขึ้นนั้นจะทำให้ฝุ่น (Aerosol) หรือเถ้าภูเขาไฟ (Volcanic ash) แพร่กระจายปกคลุมชั้นบรรยากาศทั่วโลกได้เร็วขึ้น หากเกิดการระเบิดของภูเขาไฟ
เมื่อชั้นบรรยากาศถูกบดบัง โลกอาจมีอุณหภูมิเฉลี่ยลดลง 1 - 1.5 องศา ที่มาพร้อมปัญหาสภาพอากาศแปรปรวนที่คาดเดาไม่ได้ เช่น มรสุมฤดูร้อนอาจไม่เกิดขึ้นหรือผิดปกติ เนื่องจากพื้นทวีปและมหาสมุทรมีอุณหภูมิไม่ต่างกันมากพอจนเกิดกระแสลม ซึ่งส่งผลต่อพื้นที่เกิดมรสุมอย่างทวีปเอเชียและแอฟริกา
Lloyd’s ยังคาดการณ์ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจทำให้เกิดปัญหาภาวะขาดแคลนอาหาร เนื่องจากสภาพอากาศที่เย็นลง แสงแดดและการเกิดฝนที่ลดลง ส่งผลให้พืชผลทางการเกษตรไม่สามารถเติบโตและผลิตได้ตามปกติ ซึ่งจะกระทบอย่างมีนัยสำคัญในพื้นที่ที่ทำการเกษตรขนาดใหญ่ หรือมีประชากรมาก อย่างเช่น สหรัฐอเมริกา จีน และรัสเซีย จนนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งในกรณีที่เลวร้ายที่สุด อาจนำไปสู่ความตึงเครียดทางการเมือง หรือแม้แต่สงครามได้
ด้านมาร์คัส สตอฟ (Markus Stoffel) กล่าวทิ้งท้ายกับ CNN ว่า “โลกยังไม่ได้มีแผนรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นเลย เราเพียงแค่เริ่มคิดได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเท่านั้น”
ข้อมูล CNN
ภาพ Pexels