ยอดเสียชีวิตน้ำท่วมอินโดนีเซียยังเพิ่มไม่หยุด ล่าสุดทะลุเกือบ 600 คนแล้ว

ความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมและดินถล่มที่จังหวัดสุมาตราเหนือของอินโดนีเซีย ล่าสุดเมื่อวานนี้ (1 ธันวาคม) มีผู้เสียชีวิต 593 คน และสูญหาย 470 คน หลังจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันและพายุโซนร้อนที่พบได้ยากพัดถล่มเกาะแห่งนี้ แม้ว่าขณะนี้ฝนได้หยุดตกและระดับน้ำลดลงแล้ว แต่ภัยพิบัติครั้งนี้ทิ้งร่องรอยแห่งความสูญเสียและความสะเทือนใจไว้กับผู้รอดชีวิตอย่างแสนสาหัส

เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นภัยพิบัติที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในอินโดนีเซีย นับตั้งแต่แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 2561 และสึนามิที่ตามมา ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนกว่า 2,000 คนในสุลาเวสี

ประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ได้เดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าวเมื่อวานนี้ และให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนผู้ประสบภัย รวมถึงช่วยซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหาย

แต่อย่างไรก็ดี เขายังไม่ได้ตอบรับข้อเรียกร้องให้ประกาศภาวะฉุกเฉินระดับชาติ หรือออกคำร้องขอความช่วยเหลือระหว่างประเทศเหมือนผู้นำของศรีลังกาที่ประสบอุทกภัยเช่นกัน

บางพื้นที่ของสุมาตรายังคงไม่สามารถเข้าถึงได้ และรัฐบาลได้ส่งเรือและเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเข้าไปช่วยเหลือ

ทั้ง ในหลายพื้นที่ของเอเชียกำลังเข้าสู่ฤดูมรสุมประจำปี ซึ่งฝนตกหนักและน้ำท่วมเป็นเรื่องปกติ แต่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้เกิดเหตุการณ์ฝนตกหนักผิดปกติบ่อยครั้งขึ้น เนื่องจากบรรยากาศที่อุ่นขึ้นสามารถกักเก็บความชื้นได้มากขึ้น

พายุโซนร้อนที่พบได้ยากยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง โดยมหาสมุทรที่อุ่นขึ้นจากภาวะโลกร้อนสามารถเพิ่มความรุนแรงของพายุได้

ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมและดินถล่มในหลายพื้นที่ของเอเชียเพิ่มขึ้นเกิน 1,100 คน เมื่อวานนี้ ขณะที่ศรีลังกาและอินโดนีเซีย ซึ่งได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด ได้ระดมกำลังทหารเพื่อช่วยผู้ประสบภัย

ระบบสภาพอากาศหลายชุดทำให้เกิดฝนตกหนักยาวนานทั่วทั้งเกาะศรีลังกา และพื้นที่ขนาดใหญ่ของเกาะสุมาตราในอินโดนีเซีย รวมถึงภาคใต้ของไทยและภาคเหนือของมาเลเซียตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ที่ศรีลังกา รัฐบาลได้ขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ และใช้เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเข้าช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างจากเหตุน้ำท่วมและดินถล่ม ซึ่งเกิดจากพายุไซโคลนดิตวะห์ (Ditwah) เจ้าหน้าที่ศรีลังการะบุเมื่อวานนี้ ว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 355 คน และยังสูญหายอีก 366 คน

ระดับน้ำท่วมในกรุงโคลัมโบ เมืองหลวงศรีลังกา ขึ้นสูงสุดในช่วงกลางคืน และเมื่อฝนหยุดตกแล้ว ก็มีความหวังว่าน้ำจะเริ่มลดลง ร้านค้าและสำนักงานบางแห่งเริ่มกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง

ส่วนภาคใต้ของไทย มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 176 คน เจ้าหน้าที่ระบุว่า นับเป็นหนึ่งในเหตุการณ์น้ำท่วมที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในรอบทศวรรษของประเทศ

รัฐบาลได้ดำเนินมาตรการบรรเทาภัยแล้ว แต่กระแสวิพากษ์วิจารณ์จากสาธารณชนต่อการรับมือเหตุการณ์น้ำท่วมก็เพิ่มขึ้น และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นสองรายถูกสั่งพักงานเนื่องจากถูกกล่าวหาว่าล้มเหลวในการปฏิบัติหน้าที่

ข้ามพรมแดนไปในมาเลเซีย ซึ่งฝนตกหนักทำให้พื้นที่ขนาดใหญ่ในรัฐปะลิสถูกน้ำท่วมเช่นกัน มีผู้เสียชีวิตสองราย