รีเซต

“อินโดนีเซีย” อพยพล้านคน! หลังเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ คร่าชีวิตทะลุ 600 ราย

“อินโดนีเซีย” อพยพล้านคน! หลังเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ คร่าชีวิตทะลุ 600 ราย
TNN ช่อง16
3 ธันวาคม 2568 ( 08:01 )

เหตุอุทกภัยและดินถล่มครั้งใหญ่บนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ทวีความรุนแรงต่อเนื่อง โดยล่าสุดสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติอินโดนีเซียรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 631 คน ขณะที่ประชาชนกว่าล้านคน ต้องอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงอันตราย


สัปดาห์นี้หลายประเทศในเอเชียเผชิญฝนมรสุมหนักและพายุโซนร้อน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวมมากกว่า 1,160 คน ในอินโดนีเซีย ศรีลังกา และภาคใต้ของไทย โครงสร้างพื้นฐานหลายส่วนได้รับความเสียหาย และเมืองหลายแห่งถูกน้ำท่วมจมมิด


เพียงแค่เฉพาะในอินโดนีเซียมีประชาชนได้รับผลกระทบมากถึง 3.2 ล้านคน บาดเจ็บ 2,600 คน และยังสูญหายอีก 472 คน ทีมกู้ภัยยังคงทำงานภายใต้ข้อจำกัดจากถนนที่ถูกตัดขาดและสะพานที่พังทลาย โดยหลายพื้นที่ทางตอนเหนือของสุมาตรายังคงไม่สามารถเข้าถึงได้ทางถนน

อย่างในจังหวัด “อาเจะห์” ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุด ตลาดต่าง ๆ เริ่มขาดแคลนข้าว ผัก และของจำเป็น ราคาสินค้าพุ่งขึ้น 3 เท่า องค์กร Islamic Relief เตือนว่าชุมชนในพื้นที่เสี่ยงภาวะขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรงหากเส้นทางลำเลียงสิ่งของยังไม่กลับมาใช้งานภายในหนึ่งสัปดาห์ หน่วยงานได้เร่งส่งอาหารฉุกเฉิน 12 ตันเข้าไปช่วยเหลือ


รัฐบาลอินโดนีเซียประกาศส่งข้าว 34,000 ตัน และน้ำมันพืช 6.8 ล้านลิตร ไปยังจังหวัดอาเจะห์ สุมาตราตอนเหนือ และสุมาตราตะวันตก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า


ด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่ากำลังจัดส่งทีมตอบสนองฉุกเฉินและอุปกรณ์การแพทย์ไปยังพื้นที่ พร้อมเสริมความเข้มงวดด้านการเฝ้าระวังโรค โดยผู้อำนวยการใหญ่ เทดรอส อัดฮาโนม เกเบรเยซุส ระบุว่า เหตุการณ์นี้เป็น “สัญญาณเตือนอีกครั้งว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังทำให้สภาพอากาศสุดขั้วเกิดขึ้นบ่อยและรุนแรงขึ้น”


ส่วนผู้รอดชีวิตจำนวนมากเล่าว่าน้ำที่ไหลเชี่ยวนั้นไหลมาอย่างกะทันหันทำให้ไม่มีเวลาเตรียมตัว “เราไม่คิดว่าจะรอด เพราะมันโกลาหลมาก ไม่มีสัญญาณเตือนใด ๆ ก่อนที่น้ำจะมาถึง” กาฮิตซา ซาฮิรา คายานี นักเรียนวัย 17 ปี จากโรงเรียนประจำอิสลาม ระบุ โดยเหตุการณ์ครั้งนี้มีนักเรียนหลายร้อยคนต้องหนีตายกลางดึก บางคนต้องปีนขึ้นต้นไม้หรือหลังคามัสยิดเพื่อเอาชีวิตรอด

ปีนี้ปริมาณฝนมรสุมที่มากผิดปกติยิ่งทวีความรุนแรงเมื่อเกิดพายุโซนร้อนในช่องแคบมะละกา ส่งผลเสียหายหนักต่อบางพื้นที่ของเกาะสุมาตราและภาคใต้ของไทย ซึ่งมีผู้เสียชีวิตรวม 176 คน


ขณะเดียวกัน ศรีลังกาก็ประสบอุทกภัยรุนแรงจากพายุไซโคลน “ดิตวะฮ์” ทำให้มีผู้เสียชีวิต 410 คน สูญหายอีก 336 คน ด้านประธานาธิบดีอนุระ กุมาระ ดิสสานายนาเก ประกาศภาวะฉุกเฉิน โดยระบุว่านี่คือ “ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ท้าทายที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ” และแม้ฝนจะเริ่มเบาลงในศรีลังกา แต่คำเตือนดินถล่มยังคงมีผลในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง