ปูตินย้ำรัสเซีย "ไม่ต้องการ" ทำสงครามกับมหาอำนาจยุโรป แต่หากยุโรปต้องการรัสเซียก็พร้อมสู้

ปูตินแถลงผ่านโทรทัศน์เมื่อวานนี้ (2 ธันวาคม) กล่าวหามหาอำนาจยุโรปว่า ขัดขวางความพยายามของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ในการยุติสงครามในยูเครน ด้วยการยื่นข้อเสนอที่พวกเขารู้ว่า “ยอมรับไม่ได้โดยสิ้นเชิง” ต่อรัสเซีย เพื่อที่จะได้กล่าวหารัสเซียว่าไม่ต้องการสันติภาพ

ผู้นำรัสเซีย บอกว่า เราไม่ได้วางแผนจะต่อสู้กับยุโรป เขาพูดเรื่องนี้มานับร้อยครั้งแล้ว แต่ถ้ายุโรปตัดสินใจทำสงครามกับเราและเป็นฝ่ายเริ่มก่อน เราก็พร้อมทันที ไม่มีข้อสงสัยใด ๆ ในเรื่องนี้ คำถามคือ ถ้ายุโรปเริ่มทำสงครามกับเรา เขาเชื่อว่าในเวลาไม่นาน พวกเขาจะพ่ายแพ้ทันที นี่ไม่ใช่ยูเครน สำหรับยูเครน เราดำเนินการแบบศัลยกรรม อย่างระมัดระวัง มันไม่ใช่สงครามเต็มรูปแบบในความรู้สึกสมัยใหม่ของโลก แต่ถ้ายุโรปเลือกจะเริ่มสงคราม สถานการณ์อาจไปถึงจุดที่ว่า จะไม่เหลือใครให้เรานั่งลงเจรจาด้วยอีกต่อไป

ปูตินกล่าวว่า มหาอำนาจยุโรปได้ทำให้ตัวเองหมดสิทธิ์เข้าร่วมการเจรจาสันติภาพยูเครน เนื่องจากพวกเขาตัดการติดต่อกับรัสเซีย ปูตินกล่าวถึงชาติมหาอำนาจยุโรปว่า “พวกเขาอยู่ฝ่ายของสงคราม” 

นอกจากนี้ ปูตินยังขู่ว่าจะตัดขาดการเข้าถึงทะเลของยูเครน เพื่อตอบโต้การโจมตีด้วยโดรนต่อเรือบรรทุกน้ำมันของ "กองเรือเงา" ของรัสเซียในทะเลดำ

ปูตินกล่าวว่า "ทางออกที่รุนแรงที่สุดคือการตัดยูเครนออกจากทะเล ดังนั้น ในทางหลักการแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะละเมิด" อีกทั้งรัสเซียจะเพิ่มการโจมตีสิ่งอำนวยความสะดวกและเรือของยูเครนให้เข้มข้นขึ้น และจะใช้มาตรการกับเรือบรรทุกน้ำมันของประเทศที่ให้ความช่วยเหลือยูเครนด้วย

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของยูเครนกล่าวว่า โดรนของกองทัพเรือยูเครนโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันที่ถูกคว่ำบาตรสองลำในทะเลดำ ขณะที่เรือกำลังมุ่งหน้าไปยังท่าเรือของรัสเซียเพื่อบรรทุกน้ำมันที่จะส่งไปยังตลาดต่างประเทศ และเมื่อวานนี้ (อังคาร) เรือบรรทุกน้ำมันติดธงรัสเซียบรรทุกน้ำมันดอกทานตะวัน รายงานว่า มีการโจมตีด้วยโดรนนอกชายฝั่งตุรกี แต่ลูกเรือ 13 คนไม่ได้รับอันตราย ซึ่งยูเครนบอกว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว

ยูเครนยังได้โจมตีท่าเรือโนโวรอสซิสค์ของรัสเซียในทะเลดำด้วยขีปนาวุธและโดรน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการขนส่งน้ำมัน

ปูตินไม่ได้อธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำขู่ที่จะตัดการเข้าถึงทางทะเลของยูเครน รัสเซียได้ยึดครองพื้นที่ทางตอนใต้และตะวันออกของยูเครนในสงครามที่เริ่มต้นขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 แต่ยูเครนยังคงควบคุมท่าเรือสำคัญ ๆ ไว้อย่างมั่นคง รวมถึงโอเดสซา

จากนั้น ปูตินได้พบหารือกับสตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และจาเร็ด คุชเนอร์ บุตรเขยทรัมป์ ที่ทำเนียบวังเครมลิน เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางที่เป็นไปได้ในการยุติความขัดแย้งในยุโรปที่นองเลือดที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง

ปูตินกล่าวกับวิตคอฟฟ์และคุชเนอร์ว่า “เขายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้พบหารือกับทั้งสองคน” 

“มันเป็นเมืองที่งดงามมาก” วิตคอฟฟ์กล่าวกับปูติน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เดินเล่นกับคุชเนอร์และคิริลล์ ดมิทรีเยฟ ทูตพิเศษของผู้นำรัสเซีย ที่จัตุรัสแดง ใกล้กับสุสานของวลาดิเมียร์ เลนิน ผู้ก่อตั้งสหภาพโซเวียต

ดมิทรีเยฟและยูริ อูชาคอฟ ผู้ช่วยของปูติน ก็เข้าร่วมการประชุมที่ทำเนียบเครมลิน พร้อมกับล่าม