รีเซต

เมื่อโลกร้อนขึ้น สัตว์ในอาร์กติกจะอยู่อย่างไร?

เมื่อโลกร้อนขึ้น สัตว์ในอาร์กติกจะอยู่อย่างไร?
TNN ช่อง16
22 กรกฎาคม 2568 ( 11:00 )
9

ภาวะโลกร้อนไม่ได้เป็นเพียงแค่ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่กำลังกลายเป็นภัยคุกคามต่อระบบนิเวศทั่วโลกอย่างแท้จริง ทั้งภัยแล้งที่บ่อยขึ้น พายุที่รุนแรงขึ้น คลื่นความร้อน การละลายของธารน้ำแข็ง มหาสมุทรที่อุ่นขึ้น และระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น ล้วนส่งผลกระทบโดยตรงต่อสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วน รวมถึงมนุษย์เอง

 

ภูมิภาคอาร์กติกกำลังเปลี่ยนแปลงเร็วกว่าที่ใดบนโลก โดยอุณหภูมิเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าของค่าเฉลี่ยโลก ผลกระทบไม่เพียงแค่ระดับท้องถิ่น แต่ส่งแรงสะเทือนไปทั่วโลก เช่น การละลายของน้ำแข็งกรีนแลนด์ที่จะทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นถึง 33 ซม. ภายในศตวรรษนี้ และการหายไปของน้ำแข็งทะเลที่เคยช่วยสะท้อนความร้อนออกจากโลก

นกอพยพและพื้นที่ชุ่มน้ำที่ต้องปกป้อง

ทุกฤดูร้อน นกนับล้านจะบินมาอาศัยในอาร์กติกเพื่อผสมพันธุ์ กินแมลง และใช้ชีวิตอย่างอิสระ แต่ตอนนี้สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไป ฤดูกาลเริ่มไม่แน่นอน อาหารลดลง ที่อยู่อาศัยแปรปรวน Tavvavouma คือพื้นที่ชุ่มน้ำกว่า 550 ตารางกิโลเมตรในสวีเดนตอนเหนือ เป็นถิ่นอาศัยหลักของนกนานาชนิด ที่นี่ถูกปั้นแต่งโดยน้ำแข็งถาวร (permafrost) ซึ่งกำลังละลายจากโลกร้อน ทำให้อนาคตของที่นี่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน โดยโครงการของ WWF ร่วมกับ BirdLife Sweden และชุมชนชนพื้นเมือง Sámi ได้ช่วยติดตามประชากรนกและเส้นทางอพยพ เพื่อให้เราสามารถปกป้องแหล่งพักพิงของพวกมันได้ในทุกฤดูกาล


กวางเรนเดียร์

กวางเรนเดียร์ (หรือคาริบูในอเมริกาเหนือ) อยู่ร่วมกับระบบนิเวศทุนดรามานานกว่า 600,000 ปี และยังเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมชาว Sámi ที่เลี้ยงกวางเป็นแหล่งอาหารและรายได้ ในเขตฟินแลนด์ตอนเหนือ (Sápmi) อุณหภูมิเพิ่มขึ้นถึง 2.3°C ส่งผลให้หิมะและน้ำแข็งเปลี่ยนสภาพ กวางเรนเดียร์ไม่สามารถขุดหาไลเคนใต้หิมะได้ เพราะหิมะเปียกกลายเป็นน้ำแข็งแข็งแน่น ทำให้อาหารถูกปิดตาย ในบางปี กวางเรนเดียร์หลายพันตัวต้องอดตาย ขณะที่บางชุมชนต้องหันไปให้อาหารเสริม ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงเกินกว่าจะทำได้ต่อเนื่อง WWF ได้คัดค้านโครงการพัฒนาที่คุกคามเส้นทางอพยพและแหล่งหากินของกวาง พร้อมทั้งสนับสนุนแนวทางที่ยั่งยืนร่วมกับชุมชน


หมีขั้วโลก

แม้จะเป็นนักล่าที่ใหญ่ที่สุดบนบก แต่ หมีขั้วโลก กลับกลายเป็นหนึ่งในสัตว์ที่เปราะบางที่สุดต่อภาวะโลกร้อน เพราะพวกมันพึ่งพาน้ำแข็งทะเลในการล่า หาอาหาร และผสมพันธุ์ ในหมู่เกาะ สวาลบาร์ด ของนอร์เวย์ หมีขั้วโลกประมาณ 300 ตัวยังคงอาศัยอยู่ แต่ต้องปรับตัวด้วยการหันไปล่าเหยื่อบนบกมากขึ้น เช่น นก ไข่ และแม้กระทั่งกวางเรนเดียร์ ขณะที่หมีอีกกลุ่มหนึ่งที่มาเยือนช่วงฤดูร้อน จะค่อย ๆ เคลื่อนไปทางเหนือตามการหายไปของน้ำแข็งทะเล ขณะที่ WWF เฝ้าติดตามประชากรหมีขั้วโลกอย่างใกล้ชิด พร้อมดำเนินโครงการอนุรักษ์ถิ่นที่อยู่อาศัย และลดความขัดแย้งระหว่างหมีและมนุษย์ เมื่อทะเลน้ำแข็งละลาย เปิดทางให้ภัยคุกคามใหม่

การละลายของน้ำแข็งทะเลไม่ได้แค่ทำลายถิ่นที่อยู่ของสัตว์ แต่ยังเปิดเส้นทางเดินเรือใหม่ในอาร์กติก ทำให้จำนวนเรือเพิ่มขึ้นกว่า 1 ใน 3 และระยะทางเดินเรือเพิ่มขึ้นเท่าตัวในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

ผลกระทบที่ตามมา ได้แก่


  • การชนกันระหว่างเรือกับวาฬ

  • มลภาวะทางเสียงใต้น้ำ ที่รบกวนวาฬชนิดต่าง ๆ โดยเฉพาะ นาร์วาฬ เบลูกา และวาฬหัวคันศร ที่พึ่งพาเสียงในการสื่อสารและหาอาหาร


WWF ได้จัดทำแผนที่เส้นทางอพยพของวาฬและเส้นทางเดินเรือ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ และเรียกร้องให้คุ้มครองพื้นที่ทะเลอาร์กติกให้ได้ 30% ภายในปี 2030 ผ่านโครงการ ArcNet ซึ่งระบุพื้นที่อนุรักษ์สำคัญ 83 จุด รวมครอบคลุมพื้นที่กว่า 5.9 ล้านตารางกิโลเมตร

 

การทำงานร่วมกับชนพื้นเมืองในอาร์กติก และการติดตามการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศอย่างใกล้ชิด คือกุญแจสำคัญในการช่วยสัตว์ป่าปรับตัวในโลกที่ร้อนขึ้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราทุกคนสามารถทำได้ คือ
 “ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เร็วและมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
 เพราะนั่นคือหนทางเดียวที่จะช่วยให้อาร์กติก และสิ่งมีชีวิตที่นี่มีโอกาสรอดในระยะยาว

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง