ฝนแช่กับน้ำท่วมหาดใหญ่ เมื่อฝนไม่หยุดตก และเมืองอยู่ในตำแหน่งรับน้ำเต็มๆ

ฝนแช่กับน้ำท่วมหาดใหญ่ เมื่อฝนไม่หยุดตก และเมืองอยู่ในตำแหน่งรับน้ำเต็มๆ
หาดใหญ่กำลังอยู่ท่ามกลางหนึ่งในวิกฤตอุทกภัยที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ เมืองเศรษฐกิจสำคัญของภาคใต้จมอยู่ใต้ระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่ฝนยังคงตกต่อเนื่องหลายวันแบบไม่ขาดช่วง ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้เกิดจากพายุลูกใหญ่หรือระบบดันฝนเฉียบพลัน แต่เป็นผลจาก “ฝนแช่” ที่กลุ่มเมฆคงตัวอยู่ในพื้นที่เดิมนานผิดปกติ พร้อมเทปริมาณน้ำมหาศาลลงมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เมืองตั้งอยู่ในแอ่งรับน้ำตามธรรมชาติ ทำให้หาดใหญ่รับผลกระทบเต็มๆ โดยหลีกเลี่ยงไม่ได้
ฝนตกยาวหลายวัน จนระบบระบายรับไม่ทัน
ข้อมูลจากหน่วยงานด้านน้ำระบุว่าช่วงวันที่ 19–22 พฤศจิกายน 2568 หาดใหญ่มีฝนสะสมรวม 595 มิลลิเมตร มากกว่าฝนสะสมสูงสุดของเหตุการณ์ใหญ่ปี 2543 และ 2553 ที่เคยอยู่ที่ 515 มิลลิเมตร นอกจากนั้นวันที่ 22 พฤศจิกายน บริเวณเขาคอหงส์มีฝนตกหนักถึง 365 มิลลิเมตร ภายในวันเดียว ตัวเลขทั้งหมดสะท้อนชัดว่าปริมาณฝนครั้งนี้อยู่ในระดับใกล้เคียงสถิติ “ฝน 300 ปี” ที่กรมชลประทานประเมินจากเหตุการณ์วันที่ 21 พฤศจิกายน ซึ่งวัดได้ 335 มิลลิเมตรใน 24 ชั่วโมง
ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อธิบายว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดจากการมารวมกันของ 3 ปัจจัยธรรมชาติ ได้แก่
ลานีญา ที่พาความชื้นเข้าสู่ภาคใต้มากกว่าค่าเฉลี่ย
ร่องมรสุม ที่พาดผ่านภาคใต้ตอนล่างอย่างต่อเนื่องโดยแทบไม่เคลื่อนตัว
โลกร้อน ที่ทำให้อากาศเก็บไอน้ำได้มากขึ้น ส่งผลให้เมฆมีปริมาณน้ำสูงกว่าปกติ
เมื่อทั้ง 3 ปัจจัยเกิดขึ้นพร้อมกัน ฝนจึงตกหนักและตกนานกว่าภูมิอากาศในอดีต จนกลายเป็นลักษณะฝนแช่ต่อเนื่องหลายวัน
ภูมิประเทศแอ่งรับน้ำที่ทำให้มวลน้ำพุ่งเข้าสู่เมือง
หาดใหญ่มีภูมิประเทศเป็นแอ่งต่ำที่ลาดลงสู่ทะเลสาบสงขลาโดยธรรมชาติ น้ำจากพื้นที่สูงทั้งด้านสะเดา คอหงส์ ควนลัง นาหม่อม และเทือกเขานครศรีธรรมราช จะไหลเข้าสู่เมืองทั้งหมดก่อนระบายออกสู่ทะเลสาบ ซึ่งหมายความว่าเมื่อฝนตกหนักพร้อมกัน น้ำจากรอบเมืองจะมุ่งเข้าสู่หาดใหญ่ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
คลองอู่ตะเภา ซึ่งเป็นทางระบายน้ำหลักยาว 116 กิโลเมตร สามารถรองรับปริมาณน้ำประมาณ 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนคลองภูมินาถดำริสามารถผันน้ำได้ 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่เมื่อฝนตกระดับ 120 มิลลิเมตรภายใน 3 ชั่วโมง ระบบทั้งสองสายจะเริ่มถึงจุดที่ไม่สามารถรองรับน้ำได้อย่างปลอดภัย และเมื่อประกอบกับฝนแช่ตลอดหลายวัน ปริมาณน้ำจึงเกินศักยภาพของคลองทันที
นอกจากนั้น การขยายตัวของเมืองในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้พื้นที่ดินดูดซับน้ำลดลงอย่างมาก ถนน พื้นปูน และบ้านจัดสรรทำให้น้ำไหลบ่าบนพื้นผิวเร็วขึ้น ส่งผลให้บางพื้นที่ท่วมก่อนที่น้ำในคลองจะเอ่อล้นด้วยซ้ำ
ระบบน้ำของเมืองถูกทดสอบพร้อมกันทุกจุด
เมื่อมวลน้ำจากทิศเหนือ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตกไหลเข้าหาดใหญ่ในกรอบเวลาใกล้เคียงกัน เมืองจึงรับน้ำในระดับที่เกินขีดความสามารถในทุกชั้น ตั้งแต่คูระบายน้ำในชุมชน คลองรอง ไปจนถึงคลองสายหลัก ขณะเดียวกันระดับน้ำทะเลสาบสงขลาที่สูงขึ้นในบางช่วงก็ทำให้การระบายน้ำออกช้ากว่าปกติ ส่งผลให้หลายพื้นที่ที่ไม่เคยท่วมมาก่อนเริ่มเผชิญน้ำขังสูงกว่าครั้งที่ผ่านมา
ทั้งหมดนี้อธิบายได้ว่าเหตุใดฝนแช่ที่คงตัวอยู่หลายวันจึงสามารถทำให้เมืองขนาดใหญ่อย่างหาดใหญ่เกิดน้ำท่วมอย่างรวดเร็วและรุนแรง แม้ไม่มีพายุโซนร้อนพาดผ่านโดยตรง เหตุการณ์ครั้งนี้จึงเป็นผลจากการผสานกันของสภาพอากาศสุดขั้ว ภูมิประเทศที่เป็นแอ่งรับน้ำ และการขยายตัวของเมืองที่ทำให้ธรรมชาติระบายไม่ทัน
หาดใหญ่กำลังเผชิญบททดสอบใหญ่ของทั้งภูมิอากาศและระบบโครงสร้างพื้นฐาน การเข้าใจฝนแช่และเส้นทางของน้ำทั้งหมดที่ไหลเข้าสู่เมืองคือจุดเริ่มต้นสำคัญของการวางแผนป้องกันในอนาคต ซึ่งอาจต้องปรับระดับครั้งใหญ่เพื่อรับมือกับภูมิอากาศที่แปรปรวนมากขึ้นทุกปี
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
