ลูกหลานต้องอ่าน! แนวทางการเตรียมตัวผู้สูงอายุฉีดวัคซีนโควิด-19 ฉีดที่ไหน ฉีดวัคซีนอะไร
หลังจากกรมการแพทย์เปิดให้ผู้สูงอายุเดินทางมาฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้เองที่ศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ เนื่องจากการจองผ่านระบบออนไลน์อาจเสี่ยงตกหล่นการฉีดวัคซีน ซึ่งผู้สูงอายุเป็นกลุ่มสำคัญที่ควรได้รับวัคซีนเป็นอันดับแรก เนื่องจากหากติดโควิดอาจส่งผลอันตรายขึ้นได้
วันนี้ TrueID ได้เตรียมคู่มือความพร้อมสำหรับผู้สูงอายุที่กำลังเตรียมตัวจะเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 มาฝากกัน
ผู้สูงอายุฉีดวัคซีนได้ที่ไหน
ที่มีอายุตั้งแต่ 75 ปีขึ้นไป เกิดก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2489 ให้ลูกหลานหรือคนใกล้ชิดสามารถนำผู้สูงอายุมารับบริการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 โดยระบบบริการแบบ On-site ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ ซี่งสามารถเข้ารับบริการได้ที่ประตู 1 และจะเริ่มให้บริการตั้งแต่พุธที่ 30 มิถุนายน-วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม 2564 ระหว่างเวลา 09.30-18.00 น ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ
สำหรับผู้สูงอายุที่อายุน้อยกว่า 75 ปี (คือ 60-74 ปี) ก็ขอให้จองเข้ารับบริการตามระบบปกติ ซึ่งช่องทางการจองสำหรับกลุ่มนี้จะประกาศรายละเอียดให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง
ผู้สูงอายุจะได้ฉีดวัคซีนอะไร
กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีและ 7 โรคเรื้อรัง ฉีดวัคซีนโควิด “แอสตร้าเซนเนก้า” เป็นหลัก ยกเว้นในช่วงที่ไม่มีวัคซีนชนิดนี้ คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อแห่งชาติอนุญาตให้ฉีดวัคซีนซิโนแวค ในคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปได้ เพื่อให้คนอายุ 60 ปีขึ้นไปเข้าถึงวัคซีนโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ไม่มีวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า
ทำไมผู้สูงอายุต้องฉีดวัคซีนโควิด
จากสถิติพบว่า ผู้สงอายุมีอาการหนักและเสียชีวิตหลังจากติดเชื้อโควิด-19 มากกว่าช่วงวัยอื่น ดังนั้นการฉีดวัคซีนจะช่วยป้องกันความเสี่ยงไม่ให้ป่วยหนักและช่วยป้องกันคนรอบข้างที่รักอีกด้วย หากผู้สูงอายุที่ฉีดวัคซีนโควิดแล้วต้องการออกจากบ้าน สามารถทำได้แต่ต้องสวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง รวมถึงล้างมือให้สะอาด ขณะเดียวกันคนในบ้านที่ฉีดวัคซีนแล้วยังสามารถแพร่เชื้อให้ผู้สูงอายุได้ จึงต้องระมัดระวังและป้องกันโควิด-19 เพิ่มด้วย
การฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับกลุ่มผู้สูงอายุนั้นสามารถช่วยลดอัตราการติดเชื้อ และเสียชีวิตจากโควิดได้ค่อนข้างมาก แต่ขึ้นอยู่กับโรคประจำตัวของแต่ละบุคคล แม้วัคซีนไม่สามารถป้องกันโรคได้ 100% แต่ก็ช่วยลดความรุนแรงในการต้องนอนโรงพยาบาลหรือห้องไอซียูได้ แต่สิ่งที่สำคัญคือผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุต้องระมัดระวังเป็นพิเศษคือป้องกันตนเองไม่ให้ติดเชื้อและนำเชื้อมาแพร่สู่ผู้สูงอายุ แม้ว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้ว
เมื่อผู้สูงอายุติดโควิดมีอาการอย่างไร
นอกจากมีอาการ ไข้ ไอ เจ็บคอ มีเสมหะ หอบเหนื่อย อ่อนเพลีย ปวดศีรษะหรือปวดเมื่อยตามตัว ผู้สูงอายุอาจมีอาการที่ไม่ตรงไปตรงมาเมื่อมีความเจ็บป่วย ข้อสังเกตคือ
1. อ่อนเพลีย
2. ซึมลง
3. สับสนเฉียบพลัน
4. เบื่ออาหาร หรือรับอาหารทางสายยางไม่ได้
5. ความสามารถในการช่วยเหลือตัวเองลดลงอย่างรวดเร็ว
เตรียมพร้อมก่อนเข้ารับวัคซีน
ในการเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด สำหรับผู้สูงอายุและผู้ป่วยกลุ่มโรคเรื้อรังควรเตรียมพร้อมร่างกาย และปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้
1.รักษาสุขภาพกายและใจให้แข็งแรง
2.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
3.วันที่รับวัคซีนต้องไม่มีไข้ หากมีไข้ ปวดหัว หรือมีอาการป่วย ควรเลื่อนการรับวัคซีนไปก่อน และรอให้อาการทุเลาลงอย่างน้อย 2 วัน
4.รับประทานอาหารให้เพียงพอครบ 5 หมู่ และไม่จำเป็นต้องงดอาหารหลัง 2 ทุ่ม
5.ดื่มน้ำให้เพียงพอประมาณ 500-1,000 ซีซี. เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
6.หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ เพราะอาจจะทำให้หลอดเลือดหดตัว
7.วัดอุณหภูมิร่างกายและวัดไข้ก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีน
8.กรณีที่ผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ อัมพฤกษ์ อัมพาต ไม่ควรหยุดรับประทานยาเอง ยกเว้นกรณีที่แพทย์แนะนำให้หยุดยาชั่วคราว เพื่อให้ผลลัพธ์ของวัคซีนมีความแม่นยำ
9.กรณีที่ผู้ป่วยมีโรคประจำตัว เป็นโรคเลือดออกได้ง่าย หรือได้รับยาที่ป้องกันการแข็งตัวของเลือด จำเป็นต้องแจ้งให้แพทย์ทราบ ก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีน
10.หลังฉีดเรียบร้อยแล้วภายใน 2 – 4 ชม. ไม่ควรทำกิจกรรมอะไร เพื่อให้วัคซีนได้ทำงานอย่างเต็มที่
11.ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ควรควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดี หรืออยู่ในระดับที่เหมาะสม (หากน้ำตาลในเลือดสูงก็จะทำให้ระบบในร่างกายเปลี่ยนแปลงไปมา หากน้ำตาลในเลือดต่ำขณะไปรับวัคซีน ก็จะทำให้ผู้ป่วยเป็นลมได้ง่าย)
12.ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ที่ไม่มีโรคแทรกซ้อนร่วมด้วย ก่อนฉีดวัคซีนโควิด-19 จะต้องควบคุมความดันให้ไม่เกิน 140 มม.ปรอท
การดูแลสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุในช่วงโควิดระบาด
1. หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในสถานที่ที่มีคนแออัด รักษาระยะห่าง (social distancing) จากผู้ที่ติดเชื้อ 2 เมตร หรือราว 2 ช่วงแขน
2. ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง
• รับประทานยาประจำตัวให้สม่ำเสมอ
• 4 อ. คือ อาหาร ออกกำลัง เอนกายพักผ่อน ออกห่างสังคมแออัด
3. ปิดปากปิดจมูกเวลาไอจาม
4. สวมหน้ากากอนามัย ในกรณี
• มีอาการไข้หวัด ไอจาม
• อยู่ในที่ที่มีคนแออัด
• ไปโรงพยาบาลหรือสถานที่เสี่ยงหรือใกล้ชิดผู้ที่เสี่ยง
5. ไม่เอามือสัมผัสหน้า จมูก ปาก
6. ทำความสะอาดมือบ่อย ๆ
• ล้างมือด้วยสบู่ อย่างน้อยฟอกให้ทั่วมือเป็นเวลา 20 วินาที โดยเฉพาะตามง่ามมือ ซอกเล็บและเส้นลายมือที่มักจะฟอกไม่สะอาด และทำให้มือแห้ง 10 วินาที
• อาจใช้แอลกอฮอล์เจล ที่มีแอลกอฮอล์ 70% โดยควรสังเกตวันหมดอายุ และหากเปิดทิ้งไว้นาน แอลกอฮอล์จะระเหยทำให้เปอร์เซ็นต์แอลกอฮอล์ลดลง
7. ทำความสะอาดอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านให้บ่อยขึ้น เนื่องจากเชื้อไวรัสอยู่บนพื้นผิวได้นานหลายวัน
8. ผ่อนคลายความเครียด
9. หากควบคุมโรคประจำตัวได้ดี อาจขออนุญาตแพทย์ที่ดูแล รับยาและเลื่อนนัดหมายให้นานกว่าปกติ ลดการไปโรงพยาบาล
10. การใช้สื่อและข้อมูลข่าวสาร
• รับข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้
• ไม่แชร์ โพสต์ ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง
• ลดการเสพข้อมูล
• ส่งความรู้สึกที่ดี ช่วยเหลือดูแลกันในสังคม มากกว่าการวิพากษ์วิจารณ์กล่าวโทษหาคนผิดในสังคมออนไลน์
11. ช่วงที่ป่วย
• รีบไปพบแพทย์ หรือโทรสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
• แยกตัวจากผู้อื่น
• หากมีไข้ที่เกิดจากโควิด 19 ไม่ควรใช้ยา ibuprofen (ไอบูโพรเฟ่น) ในการลดไข้ ให้ใช้พาราเซตามอล
• ระวังการหกล้ม สับสน กินได้น้อย
ข้อมูลจาก กรมการแพทย์ , กรมควบคุมโรค , สสส. , โรงพยาบาลศิครินทร์ , Hfocus , คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
--------------------
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดแนวทางการดูแลผู้สูงอายุช่วง "โควิด-19" ระบาด อย่างถูกวิธี
- อันตรายของ โรคความดันโลหิตสูง กับการติดเชื้อโควิด-19
- อันตรายจาก "โรคเบาหวาน" กับการติดเชื้อโควิด
- “เบาหวาน-ความดัน-โรคหัวใจ” กลุ่มโรค NCDs ที่ร้ายแรงกว่าโควิด-19
- สำรวจผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีน “ซิโนฟาร์ม” ที่ไม่ใช่ใครก็ได้ฉีด
- เช็ก! ประสิทธิภาพ “แอสตราเซเนกา” หลังลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด 19 แล้วพร้อมฉีดเลย
- เทียบให้ชัด! ผลข้างเคียงหลังฉีด "วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า" และ "วัคซีนซิโนแวค"