"ครัสเตเชียนยักษ์ทะเลลึก" ที่เชื่อกันว่าหายาก ผลวิจัยชี้ครองพื้นมหาสมุทรเกือบ 60%

การค้นพบล่าสุดที่ทำลายความเชื่อเดิม ๆ พบสัตว์ทะเลลึกในกลุ่มครัสเตเชียน (crustacean) สัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลังที่มีลักษณะเด่นเช่น มีเปลือกแข็งภายนอกที่ทำจากไคติน มีขาหลายคู่ มักอยู่เป็นปล้อง และหายใจด้วยเหงือก จำพวก แอมฟิพอด (amphipod) หรือสัตว์จำพวกครัสเตเชียนที่มีขนาดเล็ก สัตว์ทะเลลึกที่ครั้งหนึ่งเคยถูกจัดให้เป็นสิ่งมีชีวิตหายาก แต่ปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์พบว่ามันอาจมีอยู่แพร่หลายมากกว่าที่เคยคาดคิด ถึง 60% ของพื้นมหาสมุทรทั่วโลก
สัตว์ทะเลที่ค้นพบนี้ มีชื่อสายพันธุ์ว่า Alicella gigantea มีขนาดยาวได้ถึง 34 เซนติเมตร ทำให้มันเป็น สัตว์ทะเลจำพวก แอมฟิพอด (amphipod) ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยค้นพบ จากที่ปกติแล้วจะมีขนาดไม่เกินปลายนิ้วมือ จึงเรียกได้ว่าสัตว์ทะเลครัสเตเชียนเป็น "ครัสเตเชียนยักษ์" ได้เลย
ความเชื่อที่ถูกลบล้าง
ก่อนหน้านี้ เนื่องจากไม่ค่อยมีการพบเห็น "ครัสเตเชียนยักษ์" (Alicella gigantea) มากนัก จึงทำให้เกิดความเชื่อว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีประชากรน้อย แต่งานวิจัยล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ Royal Society Open Science ได้เผยถึงสาเหตุทำไมครัสเตเชียนยักษ์นี้ถึงพบเห็นได้ยาก โดยสาเหตุมาจากที่ครัสเตเชียนยักษ์นี้ อาศัยอยู่ในเขตทะเลลึก (Deep-Sea Zones) ที่เข้าถึงยาก เช่น เขตแอบบีแซล (Abyssal) และเขตเฮเดิล (Hadal) ซึ่งมีความลึกมากกว่า 3,000 เมตรขึ้นไปถึง 7,000 เมตร หรือมากกว่าใต้พื้นผิวมหาสมุทร ที่มีแรงดันสูง อุณหภูมิต่ำ และแสงแดดไม่สามารถส่องถึง
การรวบรวมข้อมูลการพบเห็นสำหรับงานวิจัย ทำให้เรารู้ว่า?
ทีมวิจัยของ เพจ มาโรนี (Paige Maroni) นักชีววิทยาระดับโมเลกุลทางทะเลจากมหาวิทยาลัยเวสเทิร์นออสเตรเลีย ได้รวบรวมบันทึกการพบเห็นครัสเตเชียนยักษ์ จำนวน 195 รายการ จาก 75 สถานที่ในมหาสมุทรแอตแลนติก แปซิฟิก และอินเดีย ในความลึกระหว่าง 3,890 ถึง 8,931 เมตร นอกจากนี้ พวกเขายังได้เก็บตัวอย่างเพื่อจัดลำดับจีโนม (Genome) หรือ ชุดข้อมูลพันธุกรรมทั้งหมด ซึ่งเผยให้เห็นความคล้ายคลึงกันทางพันธุกรรมระหว่างประชากรในมหาสมุทรต่าง ๆ ซึ่งบ่งชี้ว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้มีการเชื่อมโยงกันมากกว่าที่เคยคิด
จากข้อมูลจีโนมนี้นักวิจัยคาดการณ์ว่าครัสเตเชียนยักษ์สามารถเจริญเติบโตได้ดีบนพื้นทะเลลึกในระดับความลึกที่พวกมันอาศัยอยู่ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 59 เปอร์เซ็นต์ของพื้นมหาสมุทรทั้งหมดบนโลก และการที่ไม่มีเม็ดสี ซึ่งเป็นลักษณะที่ค่อนข้างแปลกสำหรับสัตว์จำพวกครัสเตเชียนที่มีขนาดเล็ก (Amphipod) ที่มักจะมีสีแดง อาจเป็นเพราะพวกมันไม่มีผู้ล่าหลัก ทำให้สามารถแพร่กระจายได้อย่างกว้างขวาง
เนื่องจากหลังจากมีการเก็บตัวอย่างเพิ่มขึ้นนั้นมีหลักฐานเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เพจ มาโรนี (Paige Maroni) เลยสามารถบอกได้ว่ามันมีแนวโน้มที่ครัสเตเชียนทะเลลึกที่ใหญ่ที่สุดในโลกนั้นมิได้หายากอย่างตามความเชื่อที่เชื่อกันมา
การค้นพบนี้ไม่เพียงแต่ขยายความเข้าใจของเราเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตในทะเลลึกเท่านั้น แต่ยังเน้นย้ำถึงบทบาทของเทคโนโลยีสำรวจใต้ทะเลที่ทันสมัย ซึ่งกำลังเปิดประตูสู่การไขปริศนาของโลกใต้สมุทรที่ยังคงเป็นดินแดนลึกลับส่วนใหญ่ของโลกเรา