รีเซต

133 ล้านงานทั่วโลกเสี่ยงหาย หากมหาสมุทรไม่ยั่งยืน

133 ล้านงานทั่วโลกเสี่ยงหาย หากมหาสมุทรไม่ยั่งยืน
TNN ช่อง16
11 กันยายน 2568 ( 11:00 )
10

มหาสมุทรถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพราะไม่เพียงเป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอนขนาดใหญ่ที่สุด หากยังผลิตออกซิเจนให้มนุษย์กว่าครึ่งหนึ่งที่หายใจอยู่ทุกวันนี้ อีกทั้งยังเป็นแหล่งงานที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก รายงานฉบับใหม่โดยคณะทำงานระดับสูงด้านเศรษฐกิจมหาสมุทรเพื่อความยั่งยืน (Ocean Panel) ชี้ว่าอนาคตของแรงงานในภาคส่วนนี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางอนาคตของมหาสมุทรด้วยเช่นกัน

 

จากข้อมูลปี 2019 มหาสมุทรสร้างงานแล้วไม่น้อยกว่า 133 ล้านตำแหน่งทั่วโลก โดยสาขาที่สร้างงานมากที่สุดคือ การท่องเที่ยวทางทะเลและชายฝั่ง รองลงมาคือ การประมงและเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ รวมถึง การขนส่งทางทะเล อย่างไรก็ตาม โอกาสการจ้างงานในอนาคตกลับอยู่ในภาวะไม่แน่นอน เพราะการเปลี่ยนผ่านทางพลังงานและเศรษฐกิจโลกกำลังส่งผลต่อโครงสร้างแรงงาน

 

Ocean Panel ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 โดยมีผู้นำประเทศหลายชาติร่วมผลักดันเศรษฐกิจมหาสมุทรที่ยั่งยืน รายงานชี้ว่า พลังงานหมุนเวียนทางทะเล มีศักยภาพสูงมาก และอาจสร้างงานได้ถึง 1.2 ล้านตำแหน่งภายในปี 2050 ในขณะที่อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซนอกชายฝั่งซึ่งมีงานน้อยอยู่แล้ว มีแนวโน้มลดลงอีกในอนาคต นั่นหมายความว่าจำเป็นต้องมีการปรับทักษะและพัฒนาแรงงานครั้งใหญ่ โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา

อีกด้านหนึ่ง การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและนวัตกรรมเทคโนโลยีจะสร้างอาชีพใหม่ ๆ แต่ก็อาจทำให้บางอาชีพหายไป ความเหลื่อมล้ำทางภูมิภาคในการปรับตัวก็อาจทำให้ช่องว่างทางเศรษฐกิจรุนแรงขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตาม หากโลกสามารถก้าวเข้าสู่ เศรษฐกิจมหาสมุทรที่ยั่งยืน ได้จริง จำนวนการจ้างงานอาจเติบโตถึง 184 ล้านตำแหน่งภายในกลางศตวรรษนี้

 

งานใหม่ในอนาคตครอบคลุมตั้งแต่ พลังงานหมุนเวียนทางทะเล การประมงอย่างยั่งยืน การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ งานวิจัยและอนุรักษ์ทางทะเล ไปจนถึงงานวิเคราะห์ข้อมูลและการเงินเพื่อสิ่งแวดล้อม อีกหนึ่งภาคส่วนที่ยังไม่ถูกใช้ศักยภาพเต็มที่คือ การดักจับและกักเก็บคาร์บอนในมหาสมุทร ไม่ว่าจะด้วยวิธีเพิ่มด่างในน้ำทะเล กระบวนการเคมีไฟฟ้า การเพาะเลี้ยงสาหร่ายขนาดใหญ่หรือขนาดเล็ก ล้วนเป็นกุญแจสำคัญสู่การบรรลุเป้าหมาย Net Zero หากไม่มีการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน รายงานเตือนว่า โลกอาจสูญเสียงานกว่า 40 ล้านตำแหน่งเมื่อเทียบกับปี 2019 ปัจจัยที่จะเป็นตัวชี้ชะตาคือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การลงทุน การยอมรับแนวทางยั่งยืน ความต้องการสินค้าและบริการทางทะเล พลังงาน และนวัตกรรมใหม่ ๆ ในระยะสั้น (ปี 2030) และระยะยาว (ปี 2050)

อย่างไรก็ดี อนาคตของแรงงานมหาสมุทรยังต้องเผชิญกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมโดยตรง งานวิจัยล่าสุดชี้ว่า การไหลเวียนของกระแสน้ำในมหาสมุทรแอตแลนติก (AMOC) อาจอ่อนแรงเร็วกว่าที่คาดไว้ ซึ่งจะส่งผลต่อภูมิอากาศในยุโรปและอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ประมงและการท่องเที่ยว สะท้อนให้เห็นว่าความสัมพันธ์ของมหาสมุทรและบรรยากาศนั้นเชื่อมโยงกันอย่างแยกไม่ออก


บทความนี้ชี้ให้เห็นว่า มหาสมุทรไม่เพียงเป็นทรัพยากรธรรมชาติสำคัญ แต่ยังเป็นฐานเศรษฐกิจและแหล่งจ้างงานขนาดใหญ่ ทว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและทิศทางเศรษฐกิจโลกทำให้เกิดความท้าทายครั้งสำคัญ หากมนุษยชาติเลือกเส้นทางเศรษฐกิจมหาสมุทรที่ยั่งยืน เราอาจสร้างงานใหม่และโอกาสทางเศรษฐกิจได้มหาศาล ขณะเดียวกันก็ช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วโลก แต่หากพลาดโอกาสนี้ มหาสมุทรอาจกลายเป็นพื้นที่แห่งการสูญเสียทั้งสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจไปพร้อมกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง