เหมืองแร่ใต้ทะเลลึก ทำสัตว์น้ำลดลง 37% ระบบนิเวศใต้ทะเลกำลังเปลี่ยนไป

ผลการศึกษาวิจัยได้รับการตีพิมพ์เมื่อวันศุกร์ที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา เผยให้เห็นผลกระทบเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเหมืองใต้ทะเลลึกส่งผลต่อความหลากหลายทางชีวภาพ โดยจำนวนของสัตว์ใต้ทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกลดลงไปถึงร้อยละ 37 ในช่วงระยะเวลา 5 ปี ระหว่างการศึกษา ซึ่งครั้งหนึ่งพื้นที่แห่งนี้แทบไม่มีการรบกวนจากกิจกรรมของมนุษย์
พื้นที่ใต้ทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกได้รับความสนใจจากภาคเอกชนในหลายประเทศ เนื่องจากใต้ทะเลลึกแห่งนี้เต็มไปด้วยแร่โลหะหายาก ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับการผลิตแบตเตอรี่ รถยนต์ไฟฟ้า และเทคโนโลยีมากมาย นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแห่งสหราชอาณาจักรและสวีเดน ระบุว่าสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังขนาดเล็ก เช่นหนอนทะเล หอย และสัตว์ทะเลชนิดอื่นๆ ลดจำนวนลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับพื้นที่ที่ไม่ถูกรบกวนจากการทำเหมืองใต้ทะเลลึก
แม้ว่าสัตว์ทะเลเหล่านี้จะมีขนาดเล็ก แต่พวกมันสำคัญต่อระบบนิเวศใต้ทะเลเป็นอย่างมาก นอกจากจะช่วยย่อยสลายอินทรีวัตถุ เพื่อสร้างสมดุลให้กับท้องทะเลแล้ว พวกมันยังเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อาหารอีกด้วย การลดลงของสัตว์ทะเลอาจสร้างผลกระทบต่อระบบนิเวศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ที่ผ่านมาแม้จะไม่มีการออกใบอนุญาตเชิงพาณิชย์ในน่านน้ำสากล แต่หลายประเทศมีความก้าวหน้าในการขุดสำรวจพื้นที่ใต้ทะเลของตนเอง เพื่อรองรับอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด แต่ขณะเดียวกันรายงานที่ถูกตีพิมพ์นี้แสดงให้เห็นว่าการทำเหมืองใต้ทะเลลึกไม่ใช่กิจกรรมที่ไร้ผลกระทบต่อระบบนิเวศ และจำเป็นต้องมีการกำหนดมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมของการทำเหมืองใต้ทะเลลึก ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้การกำกับขององค์การพื้นทะเลระหว่างประเทศ โดยเตรียมบังคับใช้สนธิสัญญาทางทะเลฉบับใหม่ขององค์การสหประชาชาติในเดือนม.ค. 2026 เพื่อมุ่งคุ้มครองมหาสมุทรโลกก่อนจะเสียหายจนไม่สามารถกลับคืนมาได้อีก
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
