ปลากระเบนแมนตาใช้ Google Map ในธรรมชาติด้วยการดำน้ำลึกกว่า 1,200 เมตร เพื่อนำทางในมหาสมุทร

การศึกษาทางชีววิทยาทางทะเลล่าสุดได้เผยให้เห็นความรู้ใหม่ที่น่าทึ่งเกี่ยวกับพฤติกรรมการดำน้ำของ ปลากระเบนแมนตาทะเล (Mobula birostris) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ปลากระเบนที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ปลากระเบนแมนตาเหล่านี้มีช่วงปีกกว้างโดยเฉลี่ย 13-15 ฟุต หรือ 4-4.5 เมตร
นักวิทยาศาสตร์พบว่าปลากระเบนแมนตาดำน้ำลึกเป็นกิจวัตรที่ระดับความลึกเกินกว่า 1,200 เมตร ซึ่งลึกกว่าที่เคยมีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้อย่างมาก บันทึกความลึกสูงสุดที่ตรวจพบคือ 1,250 เมตร หรือ 0.78 ไมล์ การดำน้ำสุดขั้วนี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อการหาอาหาร หรือเพื่อหลีกหนีผู้ล่าดังที่เคยเป็นความเชื่อเดิม แต่จากการวิเคราะห์ข้อมูล นักวิจัยสรุปว่าปลากระเบนเหล่านี้กำลังดำเนินการเพื่อ ปรับเทียบระบบนำทางของตนเอง เหมือนกับการเรียกใช้ Google Maps ของธรรมชาติ
การศึกษาและการค้นพบเชิงลึก
ทีมวิจัยนานาชาติจากประเทศเปรู อินโดนีเซีย และนิวซีแลนด์ ได้ทำการติดแท็กปลากระเบนแมนตาจำนวน 24 ตัว ในสามพื้นที่ โดยรวบรวมข้อมูลได้ถึง 2,705 แท็ก-วัน (หน่วยวัดที่ใช้ในการวิจัยทางชีววิทยา) ตลอดช่วงการศึกษา ดร. คาลวิน บีล (Dr.Calvin Beale) ผู้เขียนหลักของการวิจัยนี้ ระบุว่า การดำน้ำลึกที่เกิดขึ้นนี้มีความเชื่อมโยงกับการเดินทางในแนวนอนที่เพิ่มขึ้นในภายหลัง
ลักษณะการดำน้ำเพื่อนำทาง
- ความถี่และความลึก นักวิจัยตรวจพบการดำน้ำลึกสุดขั้วเกิน 500 เมตร ใน 79 วัน
- รูปแบบการดำ ปลากระเบนไม่ได้ดำดิ่งลงไปตรง ๆ เพื่อล่าเหยื่อ หรือหนีผู้ล่า แต่พวกมันจะลดระดับลงไปใน รูปแบบขั้นบันได (Stepped pattern) และใช้เวลาที่ความลึกสูงสุดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น การขึ้นสู่ผิวน้ำก็ใช้รูปแบบขั้นบันไดเช่นเดียวกัน
- ผลลัพธ์หลังการดำหลังจากที่พวกมันดำน้ำลึกแล้ว พวกมันจะเดินทางเป็นระยะทางไกลมากในวันต่อมา บางครั้งอาจมากถึง 200 กิโลเมตร หรือ 124 ไมล์
เนื่องจากปลากระเบนไม่มีถุงลมเหมือนปลาส่วนใหญ่ หรือปอดเหมือนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม การดำน้ำในระดับความลึกมากจึงเป็นสิ่งที่พวกมันสามารถทำได้
การปรับเทียบแผนที่นำทางในมหาสมุทรเปิด
นักวิจัยเชื่อว่าปลากระเบนใช้การดำน้ำเหล่านี้เพื่อรวบรวมข้อมูลและกำหนดทิศทางของตนเองเมื่อพวกมันออกไปนอกไหล่ทวีปสู่มหาสมุทรลึก พวกมันกำลังใช้สัญญาณทางธรรมชาติเพื่อการนำทาง เช่น
- การเปลี่ยนแปลงความเข้มของสนามแม่เหล็ก (Magnetic field strength)
- ความเข้มข้นของออกซิเจน
- อุณหภูมิ
- แสง
ดร. คาลวิน บีล (Dr.Calvin Beale) อธิบายว่า การดำน้ำลงไปและ ‘สุ่มตัวอย่าง’ สัญญาณเหล่านี้ช่วยให้พวกมันสร้างแผนที่ในใจเพื่อนำทางข้ามพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลที่ดูเหมือนไม่มีลักษณะเด่นของมหาสมุทรเปิดได้
ดร. มาร์ค เอิร์ดมันน์ (Dr.Mark Erdmann) ผู้ร่วมเขียนงานวิจัย อธิบายเพิ่มเติมว่า การดำน้ำลึกของปลากระเบนแมนตาในนิวซีแลนด์เกิดขึ้นทั้งหมดเมื่อพวกมันออกจากไหล่ทวีป และเริ่มการอพยพไปยังทิศเหนือ ซึ่งเป็นไปได้ว่าการดำน้ำเหล่านี้ทำขึ้นเพื่อรับทิศทางที่ดีขึ้นจากแนวเส้นแม่เหล็กที่พื้นมหาสมุทร
ความสำคัญของสภาพภูมิประเทศใต้น้ำ
สิ่งที่น่าสนใจ คือ การดำน้ำลึกสุดขั้วส่วนใหญ่นั้น เกิดขึ้นนอกชายฝั่งนิวซีแลนด์ นักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่า บริเวณนอกชายฝั่งนิวซีแลนด์แตกต่างจากเปรูหรืออินโดนีเซีย โดยน้ำตื้นจะเปลี่ยนเป็นมหาสมุทรลึกอย่างกะทันหันเมื่อถึงขอบไหล่ทวีป นักวิจัยเชื่อว่าสภาพภูมิประเทศใต้น้ำลักษณะนี้ทำให้สัตว์เหล่านี้จำเป็นต้องปรับเทียบแผนที่นำทางของตน
หลังจากการดำน้ำในน้ำเย็นจัด ปลากระเบนแมนตาจะใช้เวลาบนผิวน้ำเพื่อปรับอุณหภูมิร่างกาย ก่อนที่จะเริ่มเคลื่อนที่อย่างมีทิศทาง โดยอาจครอบคลุมระยะทางถึง 200 กิโลเมตรต่อวัน ติดต่อกันหลายวัน
บทสรุปและความสำคัญต่อการอนุรักษ์
ดร. คาลวิน บีล (Dr.Calvin Beale) สรุปว่า การทำความเข้าใจธรรมชาติและหน้าที่ของการดำน้ำลึกนี้ ช่วยอธิบายว่าสัตว์ต่าง ๆ ข้ามมหาสมุทรที่ดูเหมือนไร้จุดหมายได้อย่างไร และเชื่อมโยงระบบนิเวศที่อยู่ห่างกันหลายพันกิโลเมตร
นอกจากข้อมูลพฤติกรรมใหม่ที่น่าสนใจแล้ว การค้นพบนี้ยังเน้นย้ำว่า สายพันธุ์ที่อพยพ เช่น ปลากระเบนแมนตาทะเลที่ขณะนี้อยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์นั้นต้องพึ่งพาทั้งที่อยู่อาศัยบริเวณชายฝั่ง และนอกชายฝั่งเป็นอย่างมาก การศึกษานี้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ และเตือนให้เห็นว่ามหาสมุทรลึกซึ่งเป็นส่วนที่ควบคุมสภาพภูมิอากาศของโลก และเป็นพื้นฐานของการประมงทั่วโลก ยังคงเป็นส่วนที่เราเข้าใจน้อยมาก แต่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
การวิจัยนี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Frontiers in Marine Science เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
