รีเซต

มหันตภัยเงียบใต้ทะเล “สาหร่ายพิษ” ภัยร้าย ทำสัตว์น้ำตายกว่า 200 สายพันธุ์

มหันตภัยเงียบใต้ทะเล “สาหร่ายพิษ” ภัยร้าย ทำสัตว์น้ำตายกว่า 200 สายพันธุ์
TNN ช่อง16
14 พฤษภาคม 2568 ( 11:30 )
6

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา น่านน้ำชายฝั่งของรัฐเซาท์ออสเตรเลียต้องเผชิญกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่กลายเป็นฝันร้ายสำหรับระบบนิเวศทางทะเลอย่างแท้จริง นั่นก็คือ การระบาดของ สาหร่ายพิษ “Karenia mikimotoi” ซึ่งได้คร่าชีวิตสัตว์ทะเลไปแล้วมากกว่า 200 สายพันธุ์ รวมถึงสิ่งมีชีวิตหายากอย่างฉลามน้ำลึก มังกรทะเลใบไม้ หมึก และปูทะเลจำนวนมาก


สาหร่าย “Karenia mikimotoi” ถูกขนานนามโดยผู้เชี่ยวชาญว่าเป็น "ผ้าห่มพิษ" ที่แผ่ปกคลุมผืนน้ำอย่างเงียบงัน แต่รุนแรง โดยทำร้ายสัตว์ทะเลผ่านหลายกลไกพร้อมกัน ทั้งทำให้ปลาหายใจไม่ออกโดยการทำลายเซลล์เหงือก ทำลายเม็ดเลือดแดง ก่อให้เกิดภาวะเลือดออก และเป็นพิษต่อระบบประสาท ทำให้สัตว์แสดงพฤติกรรมแปลก ๆ


สิ่งที่น่ากลัวคือ ความรุนแรงของผลกระทบไม่ได้จำกัดเฉพาะสัตว์โตเต็มวัย แต่รวมถึงลูกปลาและแหล่งอาหารของพวกมันด้วย ซึ่งอาจส่งผลระยะยาวต่อความสามารถในการฟื้นตัวของระบบนิเวศ


ต้นตอสำคัญของการระบาดในครั้งนี้คือ คลื่นความร้อนทางทะเล (marine heatwave) ซึ่งทำให้อุณหภูมิน้ำทะเลสูงกว่าค่าเฉลี่ยถึง 2.5°C ร่วมกับสภาพอากาศนิ่ง ไม่มีลมแรงหรือคลื่นสูง จึงกลายเป็น “สวรรค์ของสาหร่ายพิษ” ที่ขยายตัวได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ออสเตรเลียต้องเผชิญกับเหตุการณ์เช่นนี้ ย้อนกลับไปในปี 2013 การระบาดของ Alexandrium catenella ปิดฉากอุตสาหกรรมอาหารทะเลของรัฐแทสเมเนียนานถึง 4 เดือน แต่สิ่งที่ทำให้ครั้งนี้น่ากังวลเป็นพิเศษ คือ มันเกิดขึ้นในพื้นที่ที่ไม่เคยมีเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อนอย่างเซาท์ออสเตรเลีย


เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อระบบนิเวศ แต่ยังทำลายเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างรุนแรง เช่นฟาร์มหอยนางรมหลายแห่งต้องหยุดดำเนินการชั่วคราว การเก็บหอยปิปี (pipi) ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักของชุมชนชายฝั่งต้องระงับ รวมถึงการสูญเสียสัตว์ทะเลที่มีบทบาทในห่วงโซ่อาหาร อาจส่งผลถึงอุตสาหกรรมประมงในระยะยาว


นักวิทยาศาสตร์ชี้ว่า สาหร่ายชนิดนี้เป็นสิ่งมีชีวิต “สองบทบาท” ขณะที่ในปริมาณน้อยมันเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อาหาร แต่เมื่อมันแพร่กระจายในระดับสูง กลับกลายเป็น “ศัตรูเงียบ” ที่ทำลายทุกชีวิตใต้ผืนน้ำ


นี่คือหนึ่งในสัญญาณเตือนว่า ภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไม่ได้ส่งผลเฉพาะบนผืนดินหรืออากาศ แต่ลุกลามลงไปถึงท้องทะเล และกำลังเปลี่ยนแปลงสมดุลทางชีวภาพอย่างที่เรายังไม่สามารถควบคุมได้

แม้เหตุการณ์นี้จะถูกจัดการผ่านการเฝ้าระวังขององค์กรต่าง ๆ เช่น OzFish และการสนับสนุนจากกรมสิ่งแวดล้อม แต่ในระยะยาว นักวิทยาศาสตร์เสนอให้มี ระบบเตือนภัยล่วงหน้า (Early Warning System) ที่สามารถตรวจจับการเติบโตของสาหร่ายพิษได้ตั้งแต่ระยะแรก


การรับมือกับปรากฏการณ์ธรรมชาติในยุคสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ไม่สามารถอาศัยเพียง “การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า” อีกต่อไป แต่ต้องเริ่มจากการวางระบบป้องกันที่แข็งแกร่ง และลดสาเหตุหลักอย่างการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อยับยั้งหายนะทางธรรมชาติไม่ให้กลายเป็นเรื่องปกติในอนาคต

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง