PLANBเงินสื่อ1.2แสนล. ถึงเวลาดีดเท่าก่อนโควิด
#PLANB #ทันหุ้น - PLANB คาดเม็ดเงินสื่อปี 2565 พุ่ง 1.2 แสนล้านบาท วางเป้ารายได้ปีนี้ยืนเหนือ 6-6.3 พันล้านบาท อัตราการใช้สื่อมีสิทธิกลับไปสู่ปกติที่ 70% เป้ามาร์จิ้นกลับไปเทียบเท่าปี 2562 ที่ 34.72% วางงบกว่า 1 พันล้านบาท รองรับการขยาย-ปรับปรุงจอสื่อ ฉายภาพผลงานม.ค.-ก.พ.2565 โตดีกว่าปีก่อน หลังเศรษฐกิจ-กำลังซื้อฟื้นตัวดีขึ้น
นายธนพร เตชวิวรรธน์ หัวหน้านักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมอุตสาหกรรมปี 2565 คาดว่าเม็ดเงินลงทุนในสื่อโฆษณารวมทั้งสื่อนอกที่พักอาศัย (Out of Home Media : OOH) สื่อทีวี และสื่อออนไลน์ จะปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10-12% แตะที่ระดับ 120,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่ระดับ 107,151 ล้านบาท ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและกำลังซื้อ
@รายได้ 6.3 พันล.มาร์จิ้นเท่าปี 62
แผนการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไว้ที่ตัวเลข 2 หลัก หรือแตะที่ระดับประมาณ 6,000-6,300 ล้านบาท ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวยังไม่นับรวมการรับรู้รายได้เพิ่มจากการเข้าลงทุนใน บริษัท อควา แอด จำกัด (มหาชน) หรือ AA และบริษัท บอร์ดเวย์มีเดีย จำกัด หรือ BWM ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA ที่คาดว่าจะสร้างรายได้เพิ่มในปีนี้ให้กับบริษัทได้ไม่น้อยกว่า 600 ล้านบาท
นอกจากนี้ มีเป้าหมายอัตราการใช้สื่อ (Utilization Rate) อยู่ที่เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าระดับ 60% และหากว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลายตัวลงและไม่กลับมามีความรุนแรงเหมือนในช่วงแรกๆ ก็คาดว่า Utilization Rate อาจกลับไปแตะที่ระดับเหนือ 70% ใกล้เคียงช่วงปกติก่อนเกิดโควิด-19 ได้ ขณะเดียวกันคาดว่าในปีนี้ความสามารถในการผลิตสื่อเฉพาะ PLANB จะทำได้มากกว่า 8,000 ล้านบาท ส่วนของ AQUA คาดทำได้ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท
โดยหากว่าสถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้นตามที่คาดการณ์ บริษัทคาดหวังว่าอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิในปี 2565 จะกลับไปแตะใกล้เคียงกับปี 2562 ที่ระดับ 34.72% และ 17.42% จากสิ้นปี 2564 ที่ 16.51% และ -0.23% ตามลำดับ สำหรับภาพรวมธุรกิจในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2565 มีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นดีกว่าเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน สะท้อนทิศทางผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2565 ที่ดีขึ้นด้วยเช่นกัน
@ผนึกความร่วมมือใหม่
ด้านแผนการลงทุนในปี 2565 บริษัทวางการใช้งบประมาณไว้ที่เฉลี่ย 700-1,000 ล้านบาท โดยหลักๆ จะใช้รองรับการปรับปรุงป้ายสื่อเดิม ทีวี ทีวีเนชั่นไวด์ ป้ายสื่อ Show DC เป็นต้น ส่วนเป้าเพิ่มพื้นที่สื่อจอ LED ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven อีก 1,000 สาขานั้น ในปีนี้อาจต้องชะลอการลงทุนไปก่อนและรอดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดอีกครั้ง อย่างไรก็ดี ปัจจุบันบริษัทมีจอ LED ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven อยู่ที่ 2,000 สาขาแล้ว
ขณะที่ธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วม (Engagement Marketing) ปัจจุบันในด้านกีฬา ประกอบด้วย International Broadcast เช่น การได้รับลิขสิทธิ์บริหารการตลาดโอลิมปิก รวมสื่อกีฬาเอเชียนเกมส์ในประเทศจีนที่คาดจะเริ่มในเดือนกันยายน 2565 และกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2565, Combat Sport เช่น จัดอีเวนต์มวย, Football, E-sports และ Running ที่วางแผนจัด 7-8 อีเวนต์ต่อปี มีแนวโน้มการขยายตัวที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลักจากที่สถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลายตัว
พร้อมกันนี้ บริษัทยังคงมีความสนใจและมองหาความร่วมมือใหม่ๆ เข้ามาสร้างความหลากหลายให้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะ E-sports สำหรับบริหารลิขสิทธิ์ให้กับ BNK48 ต้องยอมรับว่าเป็นธุรกิจที่อิงกับสถานการณ์ เพราะโรคระบาดที่เกิดขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาทำให้ไม่สามารถจัดกิจกรรมจับมือหรือจัดคอนเสิร์ตได้ ทำได้เพียงการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ โดยในปีนี้ก็คาดหวังว่าโอไมครอนจะเป็นจุดตัดของไวรัสโควิด-19 และทำให้กลับมามีการจัดกิจกรรมต่างๆ ได้มากขึ้น