รีเซต

PLANBกำไรทะยานเกินคาด สื่อนอกบ้านฟื้นต่อเนื่องQ2

PLANBกำไรทะยานเกินคาด สื่อนอกบ้านฟื้นต่อเนื่องQ2
ทันหุ้น
13 พฤษภาคม 2565 ( 07:06 )
101

#PLANB #ทันหุ้น – PLANB ประกาศกำไร 104 ล้านบาท พุ่ง 181.2% แม้โลว์ซีซัน อัตราการใช้สื่อขยายตัวโดดเด่นกลับมา เม็ดเงินโฆษณานอกบ้านพุ่ง 19% ดันรายได้บริษัทโดด 31.2% ชี้ประชาชนเดินทางเพิ่มขึ้น ชูการผ่อนคลายโควิดหนุน ไตรมาส 2 มีกรรมสิทธิ์ป้ายใหม่หนุน โบรกทึ่งเกินคาดมองโตต่อเนื่องทั้งปี 777% แนะซื้อเป้า 8.80 บาท

 

นายพินิจสรณ์ ลือชัยขจรพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB รายงานกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทในไตรมาส 1/2565 เท่ากับ 104 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67 ล้านบาท หรือคิดเป็น 181.2% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นของสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยที่มีการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด (V-Shaped) ทุกสื่อโฆษณา ทั้งนี้การเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของผลประกอบการในไตรมาส 1/2565 ซึ่งโดยปกติจะเป็นช่วง Low Season ของปีนั้น ถือเป็นสัญญาณบวกของการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาและมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2565 นอกจากนี้ จากกลยุทธ์การลงทุนที่หลากหลายและสมดุลทางธุรกิจ ส่งผลให้บริษัทสามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างมั่นคงต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 1/2565

 

สำหรับรายได้จากการดำเนินงานในไตรมาส 1/2565 เท่ากับ 1,209 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน รายได้สื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยในไตรมาส 1/2565 อยู่ที่ระดับ 1,001 ล้านบาท เติบโต 31.2% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1/2564 ตามสัญญาณการฟื้นตัวของรายได้สื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยอย่างแข็งแกร่ง โดยมูลค่าเม็ดเงินโฆษณาในไตรมาส 1/2565 อยู่ที่ 27,999 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% แต่มูลค่าเม็ดเงินโฆษณาในสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยที่มีการเติบโตกว่า 19%

 

และสื่อโฆษณาภายในโรงภาพยนตร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญกว่า 44% สวนทางกับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 เนื่องจาก มาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ในระลอกนี้ไม่เข้มงวดและไม่มีมาตรการล็อกดาวน์เหมือนกับการแพร่ระบาดในระลอกที่ผ่านมา

 

ขณะที่ธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วมในไตรมาส 1/2565 อยู่ที่ระดับ 208 ล้านบาท ลดลงที่ 20.5% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1/2564 เนื่องจากไม่มีการบันทึกรายได้การบริหารสิทธิทางการตลาดสำหรับการแข่งขันโอลิมปิกที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 1/2564

 

@ป้ายใหม่เข้ามาหนุน Q2

 

สำหรับแนวโน้มไตรมาส 2/2565 ธนาคารแห่งประเทศไทยคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้ปัจจัยหนุนจากการผ่อนคลายมาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการผ่อนคลายมาตรการการเข้าประเทศ โดยยกเลิกระบบ Test and Go ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยวอย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยต้องเผชิญกับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก ทั้งราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เศรษฐกิจโลก การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ ทั้งนี้บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจให้แข็งแกร่งและยั่งยืนผ่านกลยุทธ์ที่หลากหลาย ทั้งการบริหารสภาพคล่องทางการเงินเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน การมสร้างความแข็งแกร่ง โดยการมองหาโอกาสในการทำธุรกิจที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีและข้อมูลต่างๆ เพื่อเร่งการพัฒนาระบบดิจิทัล

 

ขณะที่การเข้าซื้อหุ้น บริษัท เอ็ม.ไอ.เอส มีเดีย  จำกัด และ บริษัท บอร์ดเวย์ มีเดีย จำกัด จากกลุ่ม AQUA  ราคาซื้อขายทั้งสิ้นประมาณ 2,882 ล้านบาท ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นในเดือนมีนาคม 2565 ซึ่งทำให้บริษัทได้รับกรรมสิทธิ์ในป้ายโฆษณาเข้ามามากขึ้น ซึ่งจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมและตรงตามเป้าหมายทางการเงินของบริษัทได้ต่อไป

 

@ งบเกินคาดเป้า 8.80 บาท

 

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุว่า PLANB มีกำไรไตรมาส 1/2565 ที่ 104 ล้านบาท (+181% YoY, -31% QoQ) สูงกว่าตลาดคาด 33% และสูงกว่าเราคาด 27% จากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าคาด โดยกำไรที่ขยายตัวมาจาก 1. รายได้รวมขยายตัว+18% YoY โดยรายได้สื่อ OOH ขยายตัว +31% YoY ช่วยชดเชยรายได้ Engagement Marketing ที่ปรับตัวลดลง -21% YoY 2. GPM ขยายตัว YoY จาก Utilization Rate ที่ดีขึ้นอยู่ที่ 52.1% จาก 40.5%ในไตรมาส 1 ด้านกำไรลดลง QoQ เป็นไปตามฤดูกาล

 

เราคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ที่ 561 ล้านบาท (+777% YoY) โดยเราคาดผลประกอบการจะขยายตัวต่อเนื่องในไตรมาส 2/2565 จากเม็ดเงินโฆษณาที่ขยายตัวและรับรู้ รายได้ AQUA ราคาหุ้น Underperform SET -4% ใน 1 เดือนที่ผ่านมา ปัจจุบัน PLANB เทรดอยู่ที่ PER ปี2566 ที่ 35.2เท่า มองว่าผลประกอบการ PLANB ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 2564 และกลับมาเติบโตโดด เด่นในปี 2565-2566 จากธุรกิจเดิมและ M&A ทั้งนี้ยังไม่ได้รวม Synergy จากดีล AQUA ในประมาณการ แนะนำ “ซื้อ” คงราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 8.80 บาท อิงพี/อี 41.8 เท่า

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง