รีเซต

PLANBชูโค้งแรกฉลุย ธุรกิจสื่อบูม-มาร์จิ้นหนุน

PLANBชูโค้งแรกฉลุย ธุรกิจสื่อบูม-มาร์จิ้นหนุน
ทันหุ้น
16 มีนาคม 2566 ( 11:13 )
53

#PLANB #ทันหุ้น-PLANB มองอุตสาหกรรมสื่อ OOH ปี 2566 คึกคักกว่าปีก่อนหลังเปิดประเทศเต็มรูปแบบหนุนเม็ดเงินไหลเข้า OOH ชูเดือนม.ค.-ก.พ. 66 Utilization rate แตะ 55-56% แม้เป็นโลว์ซีซันธุรกิจ วางเป้ารายได้ปี 2566 แตะ 7.2-7.5 พันล้านบาท คงความสามารถในการรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ที่ระดับเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 25-30% อัดฉีดงบปีนี้ 800-1,000 ล้านบาท

 

นายธนพร เตชวิวรรธน์ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB เปิดเผยภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 1/2566 คาดว่าจะมีการเติบโตที่ค่อนข้างดีกว่าเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการเดินทาง หลังจากที่มีการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ แต่อาจหดตัวลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากไตรมาสแรกของทุกปีจะเป็นโลว์ซีซันของธุรกิจ

 

เม็ดเงิน OOH คึกคัก

 

โดยในช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ 2566 ภาพรวมเม็ดเงินสื่อโฆษณาที่อ้างอิงจากเนลสัน ปรับตัวลดลง 8-9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน ซึ่งหลักๆ จะเป็นในส่วนของเม็ดเงินโฆษณาทางโทรทัศน์ ในขณะที่เม็ดเงิน สื่อโฆษณานอกที่พักอาศัย (OOH) กลับมาการเติบโตที่เพิ่มขึ้นมากว่า 20% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน ตามการออกมาใช้ชีวิตนอกที่พักอาศัยที่มากขึ้นของประชาชน โดยอัตราการใช้พื้นที่สื่อ (Utilization rate)ในช่วง 2 เดือนแรกของบริษัทอยู่ที่เฉลี่ยราว 55-56%

 

และจากการกลับมาเดินทางท่องเที่ยวของชาวต่างชาติที่เพิ่มมากขึ้น เม็ดเงินลงทุนในสื่อโฆษณาโดยเฉพาะ OOH ยังคงมีความคึกคัก ทำให้โมเมนตัมในช่วงเดือนมีนาคมมีแนวโน้มการขยายตัวที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทคาดว่าภาพรวมในไตรมาส 1/2566 อัตราการใช้ Utilization rate จะอยู่ที่เฉลี่ยประมาณ 60% ได้ จากเป้าหมายทั้งปี 2566 ที่จะรักษาระดับอัตราการใช้ Utilization rate ไว้ที่ระดับไม่ต่ำกว่า 60-65% จากปีก่อนที่ระดับเฉลี่ย 61.4% นอกจากนี้ ยังรับรู้รายได้จาก AQUA และ MACO เข้ามาได้เต็มปีเป็นปีแรก

 

ทั้งนี้ ในปี 2566 บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้จะแตะที่ระดับ 7,200-7,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่มีรายได้รายได้อยู่ที่ระดับ 6,590 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนออกเป็นกว่า 75% มาจากรายได้จากธุรกิจสื่อ OOH ประมาณ 5,500-5,800 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วม (Engagement marketing) ประกอบด้วยรายได้จากกีฬาฟุตบอล 200 ล้านบาท, กีฬามวย 400 ล้านบาท, สิทธิการถ่ายทอดสดกีฬาเอเชียนเกม หางโจว 250 ล้านบาท การโปรโมตกีฬาเอเชียนเกม หางโจว 400 ล้านบาท และอาร์ทติสเมเนจเมนท์ 450 ล้านบาท เป็นต้น

 

นอกจากนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายจะมีความสามารถในการผลิตสื่อโฆษณา (Media capacity) ทั้งปี 2566 อยู่ที่ระดับ 8950 ล้านบาท จากสิ้นปีก่อนที่ 8,600 ล้านบาท คงความสามารถในการรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิให้อยู่ที่ระดับเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 25-30% และ 10% ตามลำดับ สำหรับเงินลงทุนในปีนี้บริษัทวางงบไว้ที่ 800-1,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็นเพื่อรองรับการปรับปรุงประสิทธิภาพจอสื่อที่มีอายุการใช้งานครบกำหนด ประมาณ 500-700 ล้านบาท และเพื่อรองรับการเพิ่มความสามารถในการผลิตจากการเติบโตภายใน อีกราว 300-400 ล้านบาท

 

ราคาเหมาะสม 9.10 บ.

 

บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี จำกัด(มหาชน) ระบุว่าสื่อ OOH น่าสนใจ โดย PLANB จะได้อานิสงส์เต็มที่จากขาขึ้นของสื่อ OOH เพราะถือเป็นหุ้น Direct Play แต่ราคาหุ้นขยับขึ้นมาแล้วอย่างมีนัยสำคัญในรอบปีที่ผ่านมา และเหลือ Upside ถึงราคาเป้าหมายของเราอีกไม่มากแล้ว ซึ่งหมายความว่าราคาหุ้นสะท้อนแนวโน้มบวกในระยะยาวไปเรียบร้อยแล้ว

 

นอกจากนี้กำไรของ PLANB ยังมีแนวโน้มจะลดลง QoQ ในไตรมาส 1/2566 เนื่องจากปัจจัยฤดูกาลด้วย แต่ในอีกด้านหนึ่ง คาดว่าผลประกอบการของ VGI จะดีขึ้น (YoY) ในไตรมาส 4/2566 เพราะยอดโฆษณาที่เพิ่มขึ้นจาก Platform ของ BTS ประเมินราคาเหมาะสมที่ 9.10 บาท

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง